เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2075 : รับมือกับปรมาจารย์ชู
ตอนที่ 2075 : รับมือกับปรมาจารย์ชู
เมื่อเห็นรอยยิ้มจอมปลอมของเจี้ยนเฉิน องค์ชายห้าก็รู้สึกแย่ขึ้นมาทันที ใจของเขาหล่นวูบ เขาอดไม่ได้ที่จะคิดถึงไป่ฉี, ไป่เฮฺอและเฮยหยา ที่เขาส่งไปฆ่าเจี้ยนเฉินก่อนหน้านี้
เฮยหยามีความสามารถแปลก ๆ เขาสามารถหาคนที่เขาเคยเห็นได้ไม่ว่าจะอยู่ห่างกันไปแค่ไหนก็ตาม ผลก็คือแม้ว่าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนจะมีขนาดใหญ่ แต่ด้วยการที่มีเฮยหยา การหาตำแหน่งของพวกเจี้ยนเฉินก็เป็นเรื่องง่าย
แต่ตอนนี้เจี้ยนเฉินที่ควรจะตายไปแล้วกลับมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าในสภาพที่สมบูรณ์ ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่สามารรถติดต่อกับสองพี่น้องที่น่าจะฆ่าเจี้ยนเฉินได้
ทุกอย่างสรุปได้ว่าทั้งสามไม่อาจจะทำภารกิจในการฆ่าเจี้ยนเฉินให้สำเร็จลุล่วงไปได้
“เหตุผลว่าทำไมข้าถึงได้ตามหาเจ้าก็เพราะข้ามีเรื่องบางอย่างต้องการจะบอกกับเจ้า มันอาจจะเป็นข่าวร้ายสำหรับเจ้า” เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาและทำท่าใจเย็น มันราวกับว่าเขาไม่ได้สนใจสถานการณ์ตอนนี้เลยแม้แต่น้อย
“ข่าวอะไร ? ” องค์ชายห้าถามด้วยสีหน้าบิดเบี้ยว เขามองไปยังราชาเทพที่เจี้ยนเฉินเพิ่งจะฆ่าไปและยืนยันความคิดตัวเอง
“ไม่กี่วันก่อน ข้าได้เห็นการต่อสู้ที่โหดร้ายบนภูเขา สุดท้ายแล้วมีราชาเทพ 3 คนตายไป สองคนเป็นผู้ชายและอีกคนเป็นผู้หญิง แต่สำหรับข้าแล้วพวกนั้นดูเหมือนกับคนที่ติดตามเจ้ามา ข้าสงสัยว่าเจ้าจะรู้จักสามคนนั้นรึไม่” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมา
องค์ชายห้าตัดสินได้ว่าสามคนที่เจี้ยนเฉินพูดถึงนั้นคือสองพี่น้องและเฮยหยา หน้าของเขาซีดและรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาในใจ ความอาฆาตที่เขามีต่อเจี้ยนเฉินนั้นไม่อาจจะเพิ่มไปมากกว่านี้ได้
“ไม่แปลกใจเลยว่าไป่ฉีกับอีกสองคนถึงไม่กลับมา พวกนั้นตาย” องค์ชายห้ากัดฟันเมื่อคิดแบบนั้น เขาไม่เชื่อว่าทั้งสามคนจะตายไปเพราะคนอื่นจากความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินแสดงออกมาตะกี้ มันใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เจี้ยนเฉินจะฆ่าสองพี่น้องแม้ว่ามันจะยากเล็กน้อยก็ตาม
ราชาเทพจากครอบครัวหยุนต่างก็แปลกใจ มุมมองที่พวกเขามีต่อเจี้ยนเฉินนั้นเปลี่ยนไป
ตลอดหลายวันที่พวกเขาอยู่กับองค์ชายห้า พวกเขาต่างก็ได้ยินเรื่องความแข็งแกร่งของไป่ฉีและไป่เฮฺอ พวกเขาไม่คิดว่าสองพี่น้องนี่จะตาย มันทำให้พวกเขาแปลกใจอย่างมาก
“ข้าไม่คิดว่าความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินจะน่ากลัวถึงเพียงนี้ แม้แต่สองพี่น้องก็ต้องตายเพราะเขา มันทำให้ข้ากังวลจริง ๆ ” หยุนเหลียนชิงคิด เขารู้ว่าการตายของสองพี่น้องต้องเกี่ยวข้องกับเจี้ยนเฉิน
ตอนนั้นเอง ปรมาจารย์ชูที่ยืนอยู่ข้างองค์ชายห้าก็ได้ก้าวออกมาบอกกับเจี้ยนเฉินว่า “เจี้ยนเฉิน แม้ว่าเจ้าจะไม่ได้ปรากฏชื่อในป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ แต่มันก็มีข่าวลือว่าเจ้าเอาชนะโม่เฉิงที่อยู่อันดับหนึ่งได้ เจ้าปกปิดพรสวรรค์ของตนเอง เมื่อเจ้าขึ้นเป็นราชาเทพและมีฐานการบ่มเพาะเท่ากันกับข้า ข้าอยากจะเห็นความแข็งแกร่งของเจ้า ชี้แนะด้วย”
ปรมาจารย์ชูเป็นนักปราชญ์และเขามักจะพูดออกมาอย่างสุภาพและนุ่มนวล เสียงของเขาราวกับลมในฤดูใบไม้ผลิซึ่งต่างก็ทำให้ผู้คนชื่นชอบในตัวเขา
แต่สิ่งที่ปรมาจารย์ชูทำนี้ตรงกันข้ามกับลักษณะที่เขาแสดงออกมา ทันทีที่เขาพูดจบ เขาได้ระเบิดความเร็วอันน่ากลัวและปรากฏตัวตรงหน้าเจี้ยนเฉิน เขายกมือขึ้นเอื้อมเข้าหาเจี้ยนเฉิน ราวกับว่ามือของเขรามีพลังที่จะล้อคศัตรูเอาไว้ได้
ก่อนหน้านี้ ปรมาจารย์ชูยังดูไร้พิษสง แต่ต่อมาเขากลับกลายเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้ายซึ่งน่ากลัวอย่างมาก เขาดูโหดร้ายและไร้ปราณี
เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าร่างกายแข็งทื่อไปราวกับว่ามีพลังลึกลับแผ่ออกมาจากมือของปรมาจารย์ชู ล็อคเขาเอาไว้ เขารู้สึกราวกับตกอยู่ในทรายดูด
เจี้ยนเฉินเครียด เขายากจะหาคนที่แข็งแกร่งทัดเทียมปรมาจารย์ชูได้ ชายคนนี้อยู่คนละระดับกับไป่เฮฺอและไป่ฉี มันเป็นความกดดันที่มากที่สุดที่เขาพบตั้งแต่ที่ขึ้นเป็นราชาเทพ
แม้แต่ตอนที่เขาเจอราชาเทพ 10 คนรายล้อม เขาก็ไม่ได้กดดันเช่นนี้
เจี้ยนเฉินหรี่ตาลง ปรมาจารย์ชูเองก็เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วและเข้ามาถึงตัวเขาได้ ด้วยระยะห่างที่ใกล้เช่นนี้ เขาไม่อาจจะใช้กระบี่ได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นเขาจึงใช้มือซ้ายและโจมตีออกไปด้วยพลังบรรพกาล
เจี้ยนเฉินไม่ได้ยั้งมือในการโจมตีครั้งนี้ เขาโจมตีสุดกำลัง เขาฉีกมิติที่ล็อคเขาไว้และเข้าปะทะกับมือของ ปรมาจารย์ชู
ฝ่ามือของทั้งสองปะทะกันราวกับดวงดาวที่พุ่งเข้าชนกัน มันระเบิดแรงสะท้อนอันรุนแรงออกมา พลังอันน่ากลัวปะทุจากการปะทะครั้งนี้และทำหพื้นดินแตกออก ฝุ่นและทรายกระจายขึ้นในอากาศไม่อาจจะมองเห็นได้ชัด
การปะทะนี้รุนแรงอย่างมาก มันไม่ได้เหมือนการปะทะของราชาเทพช่วงต้นกับราชาเทพช่วงปลายแต่เหมือนกับการปะทะของราชาเทพช่วงสูงสุดมากกว่า
หลังจากโจมตีเสร็จ ปรมาจารย์ชูได้ถอยกลับไป เขายังคงแสดงสีหน้าใจเย็นไม่ได้เปลี่ยนสีหน้าไปเลยแม้แต่น้อยแต่สายตาของเขาที่มองไปยังเจี้ยนเฉินได้แสดงความตกตะลึงออกมา
ในอีกด้านร่างกายของเจี้ยนเฉินสั่นไหว เขาถอยกลับไปหลายก้าว พื้นดินที่เขาเหยียบแตกออกเผยรอยเท้าฝังลึกเอาไว้
ราชาเทพมารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทุกคนต่างก็พากันตกตะลึงเพราะพลังอันน่ากลัวที่เกิดจากการปะทะครั้งนี้
“เจี้ยนเฉิน ไป่ฉีกับคนอื่น ๆ อาจจะโดนเจ้าฆ่าเพราะเจ้ามีความแข็งแกร่งเช่นนี้” ปรมาจารย์ชู เอามือไขว้หลังและมองมายังเจี้ยนเฉิน เขามองมาที่เจี้ยนเฉินอย่างใจเย็นราวกับนักปราชญ์
“ถูกต้อง ข้าฆ่าพวกนั้น” เจี้ยนเฉินตอบกลับ เขาไม่ได้แสดงท่าทีกลัวออกมาเลยแม้แต่นน้อย เขากลับแสดงความต้องการที่จะสู้ออกมา พลังของเขานั้นน่าตกใจ เขาได้แผ่เจตจำนงกระบี่ที่แข็งแกร่งออกมา มันราวกับว่าเขาเป็นกระบี่ไม่ใช่มนุษย์
“เรามองข้ามการตายของพวกนั้นได้ เรามองข้ามสมบัติสวรรค์ที่เจ้าเอาไปได้ เราต้องการแค่ผู้หญิงที่อยู่ด้านหลังเจ้า ถ้าเจ้าทิ้งนางไว้ เราจะไม่ทำให้มันเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับเจ้า” ปรมาจารย์ชูพูดขึ้น เขามองไปที่เสี่ยวม่านที่กำลังฟื้นตัวอยู่ด้วยความสนใจ
ในเวลาเดียวกันเขาก็บอกกับองค์ชายห้าแบบลับ ๆ ด้วยน้ำเสียงเคร่งเคียดว่าเด็กสาวผู้นี้โดดเด่น มันสำคัญกว่าทุกอย่างที่นี่
ตาขององค์ชายห้าสั่นไหว เป็นธรรมดาที่เขาจะเห็นว่า เสี่ยวมัน นั้นโดดเด่น นางอยู่แค่ขอบเขตมนุษย์แต่นางกลับไม่บาดเจ็บจากคลื่นพลังจากการปะทะเมื่อตะกี้ มันผิดปกติ
เจี้ยนเฉินแค่นเสียงออกมา “เจ้ามองข้ามเรื่องไป่ฉีกับคนอื่นได้ แต่ข้าไม่อาจจะทำได้”
ปรมาจารย์ชูขมวดคิ้วพลางเอ่ยว่า “เจี้ยนเฉิน เจ้าแข็งแกร่งก็จริง มันมีคนไม่กี่คนในโลกเซียนที่จะทำแบบเจ้าได้ในฐานะราชาเทพช่วงต้น แต่เจ้าไม่ใช่คู่มือของข้า เจ้าน่าจะรู้ว่าข้ามีวัตถุเทพ”
“ข้าเองก็อยากเห็นพลังของวัตถุเทพอยู่พอดี” กระบี่ในมือของเจี้ยนเฉินสั่นไหวและเปล่งแสงออกมา มันเปล่งแสงราวกับจักรวาล