เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2076 : รับมือกับวัตถุเทพ (1)
ตอนที่ 2076 : รับมือกับวัตถุเทพ (1)
“พี่ชาย ทะ ท่านช่วยเราไว้อีกแล้ว” ตอนนั้นเสียงของเสี่ยวม่านดังขึ้นจากด้านหลัง นางตื่นขึ้นมา ตอนนี้นางกัดฟันแน่นอดกลั้นความเจ็บปวดและค่อย ๆ ลุกขึ้นยืนจากพื้น มองไปรอบ ๆ ด้วยสายตากังวล
ตั้งแต่ที่พลังลึกลับปกป้องนางเอาไว้ แผลของนางก็ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วจนตอนนี้นางแทบจะหายดีแล้ว
“เสี่ยวม่าน เจ้าไม่เป็นไรแล้วรึ ? ” จื่อหยุนรีบมาอยู่ข้างเสี่ยวม่านด้วยความกังวล นางยื่นมือออกไปเพื่อประคอง เสี่ยวม่าน แต่นางก็ไม่อาจจะแตะต้องตัวเสี่ยวม่านได้ พลังที่มองไม่เห็นที่แม้แต่การรับรู้วิญญาณก็ยังหาไม่พบนั้นขวางทางนางไว้อยู่
เสี่ยวม่านไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาง นางมองไปยังเหล่าราชาเทพรอบ ๆ ที่มีกว่าร้อยคนและเริ่มรู้สึกสิ้นหวัง
“พี่จื่อหยุน เราจบสิ้นแล้วรึ ? ” เสี่ยวม่านถามขึ้นมา ใบหน้าของนางหม่นลง นางสลดอย่างมาก จากนั้นนางก็มองไปยังแผ่นหลังของเจี้ยนเฉินและพูดขึ้นว่า “พี่ชาย ไปเถอะ ไม่ต้องเป็นห่วงเรา”
“ไม่ต้องกังวลไป เสี่ยวม่าน เจ้าได้รับการปกป้องจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน นับจากนี้ไปไม่มีใครที่นี่ทำอะไรเจ้าได้ แม้ว่าข้าจะตายแต่เจ้าจะไม่ตกอยู่ในอันตรายเลยแม้แต่น้อย” จื่อหยุนพูดขึ้น สถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีนัก แม้ว่าจะมีเจี้ยนเฉินอยู่ด้วย แต่นางก็ไม่มั่นใจว่าจะรอดไปได้
“ไม่ ข้าไม่ต้องการให้ท่านตาย ท่านลำบากมามากก็เพราะข้า ข้าไม่มีทางยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับท่านได้ แม้ว่าข้าจะตายแต่ข้าก็จะไม่ยอมให้ท่านต้องพบเจอกับอันตราย” เสี่ยวม่าน พูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้มของนาง
ทั้งสองคนไม่ได้เกี่ยวพันกันทางสายเลือดแต่พวกเขาสนิทกันเกินกว่าระดับที่ผูกพันกันทางสายเลือดไปแล้ว นี่เพราะการเผชิญหน้ากับภัยที่ถึงแก่ความตายที่แม้แต่พี่น้องก็ยังตัดสายสัมพันธ์ที่มีต่อกันหรืออาจจะหักหลังเพื่อนเพื่อที่จะหนีเอาตัวรอด เสี่ยวม่านและจื่อหยุนไม่มีทางที่จะทำแบบนั้น
เจี้ยนเฉินมองไปยังจื่อหยุนและเสี่ยวม่านแล้วลังเลขึ้นมาเล็กน้อย สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจเอาหอคอยอนัตตาออกมา หอคอยอนัตตามีขนาดเท่ากับกำปั้นในมือเขาแต่เมื่อมันตกลงไปที่พื้น มันก็ขยายขนาดจนสูงกว่า 30 เมตร
“ใครกันที่บอกว่าเจ้าจะตายที่นี่ ? รีบเข้าไป ถ้าเจ้าไม่มัวเสียเวลา เจ้าอาจจะรอดไปได้ แต่หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เจ้าคงต้องตายจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินเรียกจื่อหยุนและเสี่ยวม่าน
“เจี้ยนเฉิน เจ้าควรจะยอมแพ้กับการพยายามเสียเปล่า เจ้าไม่เห็นสถานการณ์ตอนนี้หรือไง ? มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะเอาตัวนางไปในวันนี้” ปรมาจารย์ชูไม่ได้เร่งรีบที่จะสู้ เขายืนด้วยท่าทีสบายใจและบอกกับเจี้ยนเฉิน
“เจี้ยนเฉิน เราไม่ได้สนใจในตัวเด็กนั่น เราไม่ได้ต้องการมรดกของขั้นบรรพกาล ส่งสมบัติสวรรค์ที่เจ้าได้จากสวนสมุนไพรศักดิ์สิทธิ์มาให้เรา และเราจะจากไปทันที” ราชาเทพคนหนึ่งในหมู่ผู้คนพูดขึ้นมา
“ฮ่าฮ่า เด็กสาวนั่นมีความลับแต่ข้าไม่ได้รู้อะไรมากนัก ข้าไม่รู้ว่ามันเป็นความลับอะไร มันไม่ใช่สิ่งที่เราจะมีส่วนร่วมด้วยได้ ปล่อยให้พวกราชาเทพช่วงสูงสุดสู้แย่งชิงมันไปเถอะ ข้าสนใจแค่มรดกของขั้นบรรพกาล…”
“เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ใสซื่อเกินไปหน่อยรึไง ? เจ้าคิดว่าจะจากไปง่าย ๆ เพราะหอคอยที่เสียหายนั่นน่ะรึ…” ราชาเทพโดยรอบพากันเย้ยหยัน
ตอนนั้นเองก็มีอีกสองร่างพุ่งเข้ามา พวกเขาคือชายแก่และชายหนุ่ม
ตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลงเมื่อสองคนนั้นมาถึง ใช่ว่าเขาจะไม่คุ้นตากับสองคนนี้ คนหนึ่งคือโม่เฉิงที่อยู่อันดับหนึ่งของป้ายทำเนียบขั้นเหนือเทพ
โม่เฉิงยังคงเป็นขั้นเหนือเทพอยู่ ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่ได้สนใจอีกฝ่ายมากนัก แต่เขาไม่กล้าที่จะประมาทชายชราที่มาด้วย
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจจะยุ่งกับปรมาจารย์ชูต่อ เขามาอยู่ข้างจื่อหยุนและจับที่ไหล่ของนางแล้วโยนนางเข้าไปในหอคอยอนัตตา จากนั้นเขาก็ตะโกนบอกเสี่ยวม่าน “เลิกมองได้แล้ว รีบเข้าไป”
เมื่อเห็นว่าจื่อหยุนเข้าไปในหอคอยอนัตตาแล้ว เสี่ยวม่านก็ไม่ลังเลที่จะเข้าไป นางรีบพุ่งไปยังหอคอยอนัตตา แต่ตอนที่นางก้าวไปถึงทางเข้า พลังลึกลับกลับปรากฏขึ้นและก่อตัวเป็นโล่ที่มองไม่เห็นขวางกั้นนางไว้ไม่ให้นางเข้าไปในหอคอยได้
“เด็กสาวผู้นี้น่าจะเกี่ยวข้องกับพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนซึ่งพลังของราชวังปกป้องนางเอาไว้ สำหรับหอคอยแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะได้รับความเสียหายหนักแต่มันโดดเด่นจริง ๆ ถ้าข้าเดาไม่ผิด หอคอยนี้น่าจะกันพลังของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนเอาไว้หรือไม่ก็พลังของพระราชวังน่าจะขัดขวางไม่ให้นางเข้าไป เพราะมันจะไร้พลังทันทีที่นางเข้าไปด้านใน” คังหยิงที่ยืนอยู่ข้างโม่เฉิง มองไปยังเสี่ยวม่านด้วยความสนใจ ก่อนจะมองไปยังหอคอย เขาเหมือนครุ่นคิดบางอย่างอยู่
“พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนเป็นวัตถุเทพขั้นสูง แม้ว่าจะไม่ได้มีจิตวิญญาณวัตถุแต่มันก็ยังแข็งแกร่งอย่างมาก หอคอยนี้อยู่ระดับอะไรกันที่แม้แต่พลังของพระราชวังก็ยังเข้าไปไม่ได้ ? ” โม่เฉิงแปลกใจ
“หอคอยนี้เป็นวัตถุเทพเป็นอย่างน้อยเพราะมีแค่วัตถุเทพเท่านั้นที่ตัดพลังของพระราชวังได้” คังหยิงพูดขึ้น ในอีกด้าน เจี้ยนเฉินเห็นว่าเสี่ยวม่านไม่อาจจะเข้าไปในหอคอยอนัตตาได้ก็สายตาเปลี่ยนไปทันที เขาแค่นเสียงเย็นชาออกมาและทำการควบคุมพลังที่เป็นของหอคอยอนัตตา
ตอนนี้เจี้ยนเฉินขัดเกลาไปได้ถึงชั้นห้าของหอคอยอนัตตาแล้ว เขามีพลังในการควบคุมมันแบบพื้นฐานได้ซึ่งรวมไปถึงพลังเศษเสี้ยวหนึ่งของหอคอยด้วย
แม้ว่าพลังเศษเสี้ยวหนึ่งจะอ่อนแอและไม่ได้มีผลที่ทำให้ศัตรูตะลึงได้ แต่มันก็มีประโยชน์ในบางสถานการณ์ ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน พลังของมันได้แผ่อออกมาจนทำให้หอคอยส่องแสงสีทองจาง ๆ ออกมา ไม่ว่าแสงนั้นจะไปที่ใด มันก็เหมือนกลายเป็นโลกของหอคอยเอง มันราวกับเป็นมิติของตัวมันเอง
เมื่อแสงสีทองห่อหุ้มตัวเสี่ยวม่านเอาไว้ พลังลึกลับรอบตัวนางก็ถูกตัดขาด เมื่อไม่มีพลังคอยขวางกั้น เสี่ยวม่านก็ข้ามเข้าไปในหอคอยอนัตตาได้ทันที
ในเวลาเดียวกันผนึกที่นิพพานอมตะเที่ยงแท้ทิ้งเอาไว้ที่หอคอยอนัตตาก็เริ่มตื่นขึ้น รอยฟันบนหอคอยเริ่มเปล่งแสงและกดพลังของหอคอยเอาไว้ ไม่ถึง 5 วินาทีพลังที่เจี้ยนเฉินใช้จากหอคอยก็ถูกสยบโดยผนึกของนิพพานอมตะเที่ยงแท้
ทันใดนั้นหอคอยอนัตตาก็หยุดส่องแสงและกลับไปอยู่ในสภาพเดิมอีกครั้ง
เจี้ยนเฉินโบกมือเก็บหอคอยไปให้เร็วที่สุดเท่าที่เขาทำได้ หลังจากที่ตะโกนเรียกไคยะ ทั้งสองคนก็ได้บินหนีออกไปด้วยความเร็วเทียบเท่ากับแสง
สถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่สำหรับทั้งคู่ ชัดเจนแล้วว่ามันไม่สะดวกที่พวกเขาจะต้องมารับมือกับคนขององค์ชาย ถ้าพวกเขายังอยู่ที่นี่ มันจะมีราชาเทพแห่กันเข้ามาเพิ่ม และนั่นก็จะทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ยิ่งกว่าเดิม
“เจี้ยนเฉิน เจ้าคิดว่าจะหนีไปได้รึไง ? ” ปรมาจารย์ชูยิ้มออกมา พัดวายุนิลหายนะปรากฏขึ้นมาในมือเขา เขาสะบัดมันเบา ๆ และทำให้โลกรอบตัวมืดมนลง แม้แต่พลังงานดั้งเดิมก็กระจัดกระจายพร้อมกับพายุสีดำที่ปรากฏตัวขึ้นพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยพลังอันรุนแรง
“วัตถุเทพ ! ” ราชาเทพโดยรอบตะโกนอันออกมาและมองไปยังพัดในมือของปรมาจารย์ชู พวกเขาต่างก็พากันตะลึง