เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2077 : รับมือกับวัตถุเทพ (2)
ตอนที่ 2077 : รับมือกับวัตถุเทพ (2)
สำหรับราชาเทพหลายคนแล้ว วัตถุเทพคือสิ่งที่พวกเขาฝันถึง มันถือว่าเป็นของในตำนานเพราะมันยากอย่างมากที่จะพบเห็นได้แม้เพียงสักชิ้นหนึ่ง เมื่อปรมาจารย์ชูเผยวัตถุเทพของตนเองออกมา เขาก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนทันที ราชาเทพหลายคนได้มองไปยังปรมาจารย์ชูด้วยสายตาสั่นไหวพร้อมกับความโลภที่ก่อตัวขึ้นมาในใจ แต่หลังจากที่เทียบความแข็งแกร่งดูแล้ว พวกเขาก็ได้แต่ข่มความโลภของตัวเองเอาไว้
ในสายตาพวกเขาแล้ว เจี้ยนเฉินนั้นเป็นคนที่แข็งแกร่งและน่ากลัว ถ้าราชาเทพช่วงสูงสุดของบัลลังก์ราชาเทพยังไม่ใช่คู่มือของเจี้ยนเฉิน มันคงยากที่จะหาใครเป็นคู่มือของเขาได้ แต่ตอนนี้ทุกคนเชื่อว่าปรมาจารย์ชูแข็งแกร่งกว่าเจี้ยนเฉินมากเมื่อมีวัตถุเทพในมือ
“เจี้ยนเฉิน คงจบสิ้นแน่ในคราวนี้…”
“ไม่มีราชาเทพคนไหนที่ทนพลังของวัตถุเทพได้ เขาต้องตายแน่…”
“ข้าหวังว่าคนที่ชื่อปรมาจารย์ชูนั้นจะไม่ทำเกินไป เขาน่าจะทิ้งอะไรไว้ให้พวกเราบ้าง….”
ราชาเทพทุกคนต่างก็พากันถอนหายใจ ไม่มีใครเชื่อว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นคู่ต่อสู้ของปรมาจารย์ชูได้ ยังไงซะวัตถุเทพก็ไม่อาจจะประมาทได้ แค่การปรากฏตัวของวัตถุก็ทำให้พวกราชาเทพยากที่จะหายใจได้ มันมีใครบ้างในหมู่ราชาเทพที่จะสู้กับมันได้ ?
ในอึดใจเดียวพายุสีดำก็กลืนกินเจี้ยนเฉินเข้าไป มันหมุนวนรอบตัวเจี้ยนเฉินด้วยพลังอันน่ากลัวที่เพียงพอจะฉีกดินจากพื้นและตัดเขาเป็นชิ้น ๆ ได้ ไม่ใช่แค่กันไม่ให้เจี้ยนเฉินหนี แต่แสงรอบตัวของเจี้ยนเฉินก็หม่นลงเพราะลมสีดำนี้เช่นกัน เสื้อผ้าของเขาฉีกขาดในเต็มไปด้วยรอยเฉือนในเสี้ยววินาที
พายุนี้น่ากลัวอย่างมาก แม้แต่ร่างบรรพกาลของเจี้ยนเฉินก็ยังยากจะทนมันได้ รอยตัดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นบนผิวของเขาพร้อมกับฉีกขาดออก เลือดบรรพกาลไหลออกมาทำให้ร่างของเขาโชกไปด้วยเลือดในทันที
หยุนซินที่อยู่ข้างกายองค์ชายห้าเริ่มกังวลเมื่อนางเห็นว่าเจี้ยนเฉินบาดเจ็บสาหัสแบบนี้ตั้งแต่ต้น นางขอร้องออกมา “องค์ชายห้า เจี้ยนเฉินเคยช่วยชีวิตข้าไว้ เพื่อข้าแล้วโปรดปล่อยเจี้ยนเฉินไป ตราบใดที่ท่านปล่อยเจี้ยนเฉินไป ข้าจะไม่ลืมความเมตตาของท่านไปตลอดชีวิต”
สายตาขององค์ชายห้าดูเย็นชาขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนั้น ไม่ใช่แค่คำขอร้องของหยุนซินไม่ได้ผล แต่ยังทำให้ความอาฆาตที่เขามีต่อเจี้ยนเฉินนั้นเพิ่มขึ้นอีกด้วย
“ข้าให้โอกาสเจี้ยนเฉินแล้วแต่เขาไม่ฉลาดพอ ความตายคือบทลงโทษสถานเบา” องค์ชายห้าพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
สายตาของหยุนซินแสดงความสิ้นหวังออกมา นางมองไปยังผู้คนข้างกายองค์ชายห้าและคิด “เจี้ยนเฉิน ข้าไม่ใช่คนที่จะมองข้ามบุญคุณ ข้าจะจำบุญคุณที่เจ้ามีให้กับข้า หากเจ้าตายในวันนี้ ข้าสาบานว่าจะแก้แค้นให้เจ้าในอนาคต”
ด้านหลังนั้น หยุนเหลียนชิงแอบถอนหายใจ ในบรรดาราชาเทพของครอบครัวหยุน เขาเป็นมิตรกับเจี้ยนเฉินที่สุด แต่เขาไม่อาจจะทำอะไรได้เลยในตอนนี้
“ดูเหมือนว่าวัตถุเทพจะไม่ได้ดีเด่อะไร ! ”
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินที่ถูกขังอยู่ในพายุสีดำและหลายคนเชื่อว่าเขาคงทนได้ไม่นานนัก เขาได้ตะโกนออกมาอย่างเย็นชา กระบี่ในมือเขาจู่ ๆ ก็เปล่งแสงออกมาและเปลี่ยนเป็นลำแสงขนาดใหญ่ที่เขากวัดแกว่งออกมา
ปราณกระบี่เข้มข้นราวกับเมฆฝนที่ขยายตัวไปทั่วท้องฟ้า มันแฝงไปด้วยพลังบรรพกาลที่ทรงพลัง
ตูม !
ปราณกระบี่ปะทะเข้ากับพายุสีดำ เมื่อพลังทั้งสองปะทะกัน พวกมันก็สร้างเสียงดังสนั่นขึ้นมา เจี้ยนเฉินใช้โอกาสนี้สลัดตัวออกจากพายุสีดำเพื่อก้าวออกมาจากพายุ
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะตัวโชกเลือดและอยู่ในสภาพน่าอดสู แต่ก็มีแค่เจี้ยนเฉินที่รู้ว่าแผลของเขานี้เป็นแค่รอยขีดข่วน พวกมันไม่ได้ตัดไปถึงเส้นเอ็นหรือกระดูกของเขา
ยังไงซะเขาก็ขึ้นมาถึงขั้น 12 ของร่างบรรพกาลแล้ว ความแข็งแกร่งของร่างกายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ด้อยไปกว่าวัตถุเซียนขั้นสูงประเภทป้องกันเลย
ตอนที่เขาปรากฏตัวออกมาจากพายุ บาดแผลของเขาก็ฟื้นฟูด้วยอัตราที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
“ช่างเป็นการฟื้นฟูที่น่ากลัวจริง ๆ….” ราชาเทพโดยรอบมองเห็นมัน พวกเขาต่างก็อึ้งและมองมาที่เจี้ยนเฉินราวกับมองดูสัตว์ประหลาด
ปรมาจารย์ชูหรี่ตาลงและเริ่มเคร่งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
แต่ตอนนั้นเองได้มีแสงสีทองอัดแน่นรอบตัวเจี้ยนเฉิน ก่อตัวเป็นเส้นปราณกระบี่ต้าหลัวขึ้นมาในพริบตา มันพุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์ชู ในเวลาเดียวกัน เจี้ยนเฉินก็หลอมรวมเข้ากับกระบี่ของตนและพุ่งเข้าใส่ปรมาจารย์ชูด้านหลังปราณกระบี่นั้นด้วย
ปรมาจารย์ชูยังคงใจเย็น เขามั่นใจอย่างมากราวกับว่าไม่มีใครเอาชนะเขาได้ เขาโบกพัดเบา ๆ และสร้างสายลมอันรุนแรงพัดเข้าใส่ปราณกระบี่ในทันที
เมื่อปราณกระบี่สลายไป เจี้ยนเฉินก็ได้ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับกระบี่ของเขา พลังของเขาหมุนวนแผ่เจตจำนงในการต่อสู้อันน่าตกใจออกมา เขาแทงมันออกไปด้วยพลังทั้งหมดที่เขามี
สีหน้าของปรมาจารย์ชูไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีอันรวดเร็วที่แฝงไปด้วยพลังอันน่าตกใจของเจี้ยนเฉิน เขาแค่ยื่นพัดไปตรงหน้าและกันการโจมตีนี้เอาไว้
การต่อสู้ของเจี้ยนเฉินและปรมาจารย์ชูดุเดือดอย่างมาก ทั้งสองคนเข้าปะทะกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า คลื่นพลังงานที่แผ่ออกมานั้นน่ากลัวจนราชาเทพโดยรอบต้องตัวสั่นด้วยความแปลกใจ
นี่เพราะปรมาจารย์ชูได้ใช้วัตถุเทพและขึ้นเป็นราชาเทพช่วงปลายมานานแล้ว และเจี้ยนเฉินที่ใช้วัตถุเซียนขั้นสูงสุดอีกทั้งยังเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้นแต่กลับมีพลังอันน่ากลัว มันทำให้ราชาเทพหลายคนรู้สึกกลัวขึ้นมา ราชาเทพรอบ ๆ มารวมตัวกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ราชาเทพช่วงต้นและช่วงกลางหลายคนไม่อาจจะทนคลื่นพลังที่แผ่ออกมาจากการต่อสู้ได้
ในแต่ละครั้ง พัดวายุนิลหายนะของปรมาจารย์ชูจะสร้างสายลมอันน่ากลัวขึ้นมาในทุกครั้งที่เขาโบกพัด ลมนั้นทรงพลังจนแม้แต่ราชาเทพช่วงปลายหลายคนไม่กล้าที่จะรับแรงปะทะของมัน
ตูม ตูม ตูม ….
เสียงระเบิดบนท้องฟ้าดังก้องขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจี้ยนเฉินไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย เขาใช้พลังทั้งหมดที่มีเพื่อสู้กับปรมาจารย์ชู พวกเขาสู้กันตั้งแต่อยู่บนฟ้าจนกลับมาที่พื้นดิน กินพื้นที่ไปหลายหมื่นกิโลเมตร ปราณกระบี่ที่แหลมคมปะทะกับลมสีดำ ระเบิดออกในอากาศจนดูเหมือนกับพลุไฟ คลื่นพลังอันน่ากลัวทำให้รอบข้างสั่นไหวซึ่งคนที่อยู่ห่างออกไปกว่าล้านกิโลเมตรก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้ร่างกายของเจี้ยนเฉินเต็มไปด้วยบาดแผล เลือดบรรพกาลไหลหยดลงมาจากฟากฟ้า เขาตัวชุ่มเลือดไปทั้งตัวเพราะการต่อสู้กับปรมาจารย์ชู เขาไม่ได้เปรียบเลยแม้แต่น้อย
แม้ว่าเจี้ยนเฉินดูเหมือนว่าจะบาดเจ็บสาหัสแต่เขาก็ได้แสดงจุดอ่อนออกมาเลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้วเขาดูเด็ดเดี่ยวมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่แค่ร่างบรรพกาลทำให้เขามีร่างกายและการฟื้นฟูที่สูง แต่มันยังทำให้เขามีความอึดที่น่ากลัวอีกด้วย
ตรงหน้าเขานั้น ปรมาจารย์ชูสภาพผิดไปจากตอนแรก เสื้อผ้าสีขาวราวกับหิมะเต็มไปด้วยรอยเลือด นั่นคือเลือดของตัวเขาเอง
ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้ ดังนั้นเขาจึงพบว่าแม้ว่าจะมีวัตถุเทพ แต่เขาก็ยากจะฆ่า เจี้ยนเฉินได้ทันที
ไกลออกไป โม่เฉิงมองดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด หลังจากที่ขึ้นเป็นราชาเทพแล้ว ความแข็งแกร่งที่เจี้ยนเฉินมีนั้นเกินกว่าที่เขาคาดไว้เช่นกัน
คังหยิงที่อยู่ข้างกายโม่เฉิงก็มองดูการต่อสู้นี้ เขาพูดขึ้นช้า ๆ “ชายคนที่มีวัตถุเทพไม่ได้อ่อนแอ ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีแล้ว มันเพียงพอที่เขาจะก้าวขึ้นไปยังบัลลังก์ราชาเทพได้ แต่คงอยู่ได้แค่หนึ่งในพัน การก้าวขึ้นไปยังบัลลังก์ราชาเทพไม่จำเป็นต้องทิ้งชื่อของตัวเองเอาไว้ เขาอาจจะล้มเหลวในการทิ้งชื่อของตัวเองไว้บนบัลลังก์ราชาเทพ สำหรับชายที่ชื่อเจี้ยนเฉิน เขาสามารถสู้กับนักสู้เช่นนั้นได้หลังจากที่เพิ่งจะเป็นราชาเทพและยังได้รับบาดเจ็บ เขาผิดปกติ ไม่ว่าผลลัพธ์ของการต่อสู้จะออกมาเป็นยังไง ชื่อของเจี้ยนเฉินจะโด่งดังเพราะการต่อสู้นี้..”
ด้านล่างนั้น ไคยะมองดูเจี้ยนเฉินสู้กับปรมาจารย์ชูอยู่เงียบ ๆ นางไม่ได้เข้าไปยุ่งด้วยและได้พึมพำออกมา “เจี้ยนเฉินบาดเจ็บเพราะวัตถุเทพ หากชายที่ชื่อปรมาจารย์ชูไม่ได้มีวัตถุเทพ ความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินคงเพียงพอที่จะเอาชนะเขาได้ และหากเจี้ยนเฉินใช้ไพ่ลับทั้งหมดที่มี เจี้ยนเฉินก็น่าจะฆ่าปรมาจารย์ชูได้ พลังที่เจี้ยนเฉินใช้นั้นแข็งแกร่งอย่างมาก แต่ข้ารู้สึกว่ามันดูคุ้นเคยเพราะเหตุผลบางอย่าง แต่ข้าจำไม่ได้ว่าทำไม”
ในอีกด้านองค์ชายห้าแห่งจักรวรรดินภาได้เผยสีหน้าบิดเบี้ยวออกมา เขามองดูเจี้ยนเฉินสู้กับปรมาจารย์ชูด้วยสีหน้าเคร่งเครียดและความรู้สึกเหลือเชื่อ เขายากจะรับความจริงข้อนี้ได้
เขาเข้าใจความแข็งแกร่งที่ปรมาจารย์ชูมีและด้วยวัตถุเทพในมือแล้ว เขาคือคนที่ทำอะไรก็ได้ตามใจในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน แม้ว่าเขาจะปลดปล่อยพลังของวัตถุเทพออกมาได้ไม่เต็มที่ก็ตาม แต่เขากลับติดชะงักกับการต่อสู้กับคนที่เพิ่งขึ้นมาเป็นราชาเทพได้ไม่นาน
“บัดซบ” องค์ชายห้าสบถในใจ ตอนนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าเขาไปหาเรื่องคนน่ากลัวขนาดไหนเอาไว้