เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2113: กฎที่สอง (1)
ตอนที่ 2113: กฎที่สอง (1)
“มิติที่นี่ใหญ่มาก เนื่องจากมีกิ้งก่ายักษ์อยู่ที่นี่ ข้าต้องไปที่อื่น” เจี้ยนเฉินกล่าว ก่อนที่จะถอยกลับไปที่หอคอยอนัตตาทันที เขาเคลื่อนที่ออกจากบริเวณนี้เพื่อหลีกเลี่ยงกิ้งก่า
หอคอยอนัตตาที่เสียหายนั้นเป็นเหมือนราวกับภูตผีเคลื่อนที่ผ่านก้นลาวาอย่างเงียบ ๆ ภายใต้การควบคุมของเจี้ยนเฉิน พวกเขาก็หยุดลงหลังจากที่เดินทางไปหลายล้านกิโลเมตร มันดูเหมือนจะมาถึงจุดสิ้นสุดของชั้นที่ 8
“เราจะปลอดภัยที่นี่” เจี้ยนเฉินพึมพำกับตัวเอง เขารู้สึกถึงสถานการณ์ข้างนอกอย่างเงียบ ๆ ผ่านการเชื่อมต่อของหอคอยอนัตตาก่อนที่จะออกไปอย่างรวดเร็ว
“ระวังตัว กิ้งก่านั้นยังคงตามเรามาจนถึงที่นี่” ไคยะพูดตามหลัง นางดูค่อนข้างกังวลและเป็นห่วง
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ เจี้ยนเฉินกลับไปที่หอคอยพร้อมกับใบหน้าที่มืดหม่นในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เขาพูดอย่างสยดสยอง “กิ้งก่ายังอยู่ด้านนอก มันตามเรามา ความอดทนของมันมากเกินไป ข้าจึงไม่รู้สึกถึงการคงอยู่ของมันจากภายในหอคอย”
เจี้ยนเฉินอยู่ในอารมณ์สยอง กิ้งก่ายักษ์นั้นเป็นศัตรูที่จะโจมตีเขาทันทีที่มันเห็น ยิ่งไปกว่านั้นการโจมตีของมันทั้งหมดก็รุนแรงอย่างยิ่ง มันทรงพลังมากจนแม้แต่ขั้นอสงไขยก็ตายจากการโจมตีเพียงทีเดียวของมัน ตอนนี้เขาไม่อาจรวบรวมเหรียญผลึกแห่งไฟได้แล้ว
เขาสามารถเห็นได้ว่าพื้นที่ด้านนอกนั้นเกลื่อนไปด้วยเหรียญผลึกแห่งไฟ แต่เขาก็ไม่อาจรวบรวมมันได้ มันเป็นการทรมานอย่างเจ็บปวดสำหรับทุกคนหากมาอยู่ในจุดจุดนี้
เจี้ยนเฉินไม่ยอมแพ้ เขายังคงเคลื่อนที่ผ่านลาวาและสลับไปยังพื้นที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตามมันก็ทำให้เขาโกรธมาก ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน กิ้งก่าก็จะติดตามเขาไปหรือพูดให้ถูกมันจะติดตามหอคอยไป มันจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับหอคอยและโจมตีหอคอยครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้หอคอยสั่นสะเทือน
“ดูเหมือนว่าตอนนี้ข้าจะไม่อาจออกไปข้างนอกได้เพราะมีกิ้งก่ายักษ์ตามมา อย่างไรก็ตามถึงข้าจะออกไปข้างนอกไม่ได้ ข้าก็จะบ่มเพาะที่นี่สักพัก” เจี้ยนเฉินถอนหายใจอยู่ภายใน หลังจากส่งมอบเรื่องทั้งหลายให้ไคยะแล้ว เขาก็ไปหาจื่อหยุนและเสี่ยวม่านก่อนที่จะไปชั้น 9 ของหอคอยอนัตตาด้วยตัวเอง เขาเข้าสู่ช่วงการเก็บตัวบ่มเพาะ
ความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกฎของกระบี่ได้บรรลุถึงความสำเร็จขั้นกลางของจิตวิญญาณกระบี่แล้ว ตอนนี้เขาสามารถควบรวมปราณกระบี่สายที่สามได้แล้ว เขายุ่งอยู่กับการรวบรวมเหรียญผลึกแห่งไฟก่อนหน้านี้และเขาก็เก็บมันเอาไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้เขาไม่มีเวลามากพอที่จะควบรวมปราณกระบี่สายที่สามหลังจากนั้น
ตอนนี้มีกิ้งก่าที่น่ากลัวกำลังรออยู่ด้านนอก เขาถูกขังอยู่ในหอคอยอนัตตา ดังนั้นเขาจึงได้แต่ใช้เวลานี้ในการฝึกฝนเท่านั้น
เจี้ยนเฉินได้รวมเอาปราณประบี่ทั้งสองอีกครั้ง ในอดีตเขาก็เคยทำอยู่แล้ว เขาจึงคุ้นเคยกับกระบวนการเหล่านี้ ไม่นานเขาก็เริ่มควบแน่น
เจี้ยนเฉินใช้เวลากับตัวเองอยู่เงียบ ๆ ไคยะ, จื่อหยุนและเสี่ยวม่านก็ไม่ได้อยู่เฉย ๆ พวกเขาก็ยังคงบ่มเพาะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสี่ยวม่าน นางบ่มเพาะอย่างหนักหลังจากที่มีเรื่องเกิดขึ้นในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ความสามารถของนางก็ไม่น่ากลัวนัก แต่เพราะเนื่องจากตัวนางยังเด็กเกินไปและไม่ได้มีเวลาบ่มเพาะที่นานนัก นางจึงอยู่ขอบเขตมนุษย์เพียงเท่านั้น หลังจากที่นางตัดสินใจบ่มเพาะอย่างยากลำบากเมื่อรวมกับทรัพยากรที่มากมายของจื่อหยุน การพัฒนาของเสี่ยวท่านก็อาจอธิบายได้ว่ายอดเยี่ยมอย่างมาก ไม่นานนางก็ทะลวงไปถึงขอบเขตเซียน
ในทางกลับกัน จื่อหยุนเพิ่งจะได้มรดกของขั้นบรรพกาล ตอนนี้นางมีช่วงเวลาที่สงบสุขที่หาได้ยากแล้ว นางจึงทุ่มเทให้กับการดูดซับมรดก
บนท้องฟ้าเหนือลาวา ราชาเทพรวมตัวกันที่นั้นและไม่ได้ออกไปไหน ราชาเทพส่วนใหญ่เข้ามาเพิ่มอีกในภายหลังและมาเพื่อรับรู้ถึงจิตวิญญาณวัตถุของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ตอนนี้พวกเขามีความมั่นใจว่าเสี่ยวม่านจะมีความสำคัญต่อกระบวนการของพวกเขาและไม่ยอมแพ้ในการตามหานาง
อย่างไรก็ตามลาวาไม่ได้สงบเหมือนกับทุกวัน มันจะมีแรงสั่นสะเทือนที่รุนแรงเป็นครั้งคราวและเปลวไฟจะพุ่งขึ้นมาจากด้านล่าง ซึ่งจะทำให้พวกเขาดำลงอย่างง่ายดาย พวกเขาทั้งหมดกำลังรอคอยให้ลาวาสงบลง
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในพริบตาสามปีก็ผ่านไป ในวันนี้ที่ชั้น 9 ของหอคอยอนัตตา ทันใดนั้นก็มีแสงส่องสว่างออกมาราวกับดวงอาทิตย์ลอยเหนือบนท้องฟ้าและส่องแสงให้กับทั่วทั้งโลก
เจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังอย่างยิ่งแผ่ออกมาจากศูนย์กลางของชั้นที่ 12 ปัจจุบันเจี้ยนเฉินอยู่ใต้แผ่นศิลาขนาดใหญ่ ขณะที่ปราณกระบี่ขนาดหนึ่งนิ้วอยู่เหนือหัวของเขา ดูเหมือนว่ามันจะมีสติเป็นของตัวเองขณะที่มันหมุนรอบเจี้ยนเฉินเป็นครั้งคราว มันเป็นเจตจำนงกระบี่ที่เย็นชา
เพียงเวลานั้นเกิดแสงแว่บขึ้นมาและปราณกระบี่ก็หายไป เพียงเสี้ยววินาทีมันก็เข้ามาอยู่ในวิญญาณของเจี้ยนเฉินและไปอยู่กับปราณกระบี่อีก 2 สายที่ดูเหมือนกัน
เจี้ยนเฉินค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่เขาแสดงความดีใจ หลังจากผ่านมา 3 ปีจากการเก็บตัวบ่มเพาะ เขาก็ประสบความสำเร็จในการควบรวมปราณกระบี่ลึกซึ้งเส้นที่ 3
เขาสามารถรู้ได้อย่างชัดเจนว่าในตอนนี้เขาได้ควบรวมปราณกระบี่เส้นที่ 3 เมื่อเทียบกับทั้งสองเส้นก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะทรงพลังกว่าเล็กน้อย
หลังจากนั้นเขาก็มองไปที่แผ่นศิลาขนาดใหญ่ แผ่นศิลาทำหน้าที่ควบคุมทั้งหมดของหอคอยอนัตตาโดยการหลอมรวมอย่างสมบูรณ์เท่านั้นที่จะทำให้เขาควบคุมหอคอยอนัตตาได้อย่างหมดจด
“ข้าสงสัยว่าข้าจะสามารถหลอมรวมชั้นที่ 6 ด้วยความแข็งแกร่งในตอนนี้ของข้าได้หรือไม่….” เจี้ยนเฉินจ้องไปที่แผ่นศิลาขณะที่เขาคิดกับตัวเอง หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็วางมือแนบไปที่แผ่นศิลาและพยายามควบรวมชั้นที่ 6
อย่างไรก็ตามเขาก็ยอมแพ้ในไม่ช้า ชั้นที่ 6 นั้นยากที่จะหลอมรวมมากกว่าชั้นที่ 5 หลังจากที่เขาพยายามแล้ว เขาก็พบว่าแม้ว่าการบ่มเพาะของเขาจะมีความก้าวหน้า เขาก็ยังไม่อาจหลอมรวมชั้นที่ 6 ได้
“ดูเหมือนว่าข้าจะลองหลังจากที่การบ่มเพาะทะลวงเป็นขั้นอสงไขย” เจี้ยนเฉินถอนหายใจเบา ๆ เพียงความคิดเขาก็หายไปจากชั้นที่ 9 และเมื่อเขาปรากฏอีกรอบเขาก็อยู่ชั้นที่ 1 แล้ว เขาปรากฏตัวข้างไคยะอย่างเงียบ ๆ
เขาไม่ได้ออกไปตรวจสอบกิ้งก่า ในช่วงเวลาสามปีที่ผ่านมา แม้ว่าเขาจะมุ่งไปกับการควบรวมปราณกระบี่ลึกซึ้ง ความรู้สึกของเขาก็ยังตรึงอยู่กับหอคอยอนัตตา เขาสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงการสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราว
เห็นได้ชัดว่าเจ้ากิ้งก่ายังไม่ได้จากไป บางทีมันอาจจะสนใจหอคอยเพราะมันกระแทกเข้ามาเป็นครั้งคราว อย่างไรก็ตามในแต่ละครั้งที่มันทำเช่นนั้น พลังของมันก็ช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่มันจะทำให้หอคอยอนัตตาสั่นสะเทือนเป็นครั้งคราวเท่านั้น แต่มันยังทำให้ลาวาทั้งหมดกระเพื่อมอีกด้วย ทำให้ชั้นที่ 8 ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนไม่สงบลงได้