เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2146: การกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
บรรดาสุดยอดราชาเทพทั้งหมดที่มารวมตัวกันที่ชั้น 8 ของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนได้หนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาปลดปล่อยความเร็วสูงสุดของพวกเขาและบางคนก็ใช้พลังแก่นโลหิตของพวกเขาโดยตรง บางคนก็จ่ายค่าตอบแทนจำนวนมากเพื่อใช้ทักษะลับ พวกเขาหนีไปทางชั้น 9 อย่างสิ้นหวัง
กิ้งก่าลาวาแข็งแกร่งเกินไป มันอยู่ที่ขั้นอสงไขย อย่างน้อยที่สุดก็ชั้นสวรรค์ที่ 7 หรือแม้แต่ชั้นสวรรค์ที่ 8 มันไม่ไกลจากขั้นบรรพกาลมากนัก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถรับมือกับมันได้
แม้แต่ซูเหวิน ที่เป็นอันดับสองบัลลังก์ทำเนียบราชาเทพพร้อมกับความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมซึ่งพอที่จะฆ่าขั้นอสงไขยได้ซึ่งไม่ต่างไปจากมดตัวหนึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้ากิ้งก่าลาวา
ซูเหวิน, เฉิงม่าน และสุดยอดราชาเทพที่มีกฎแห่งความตายต่างก็หนีออกไปเพื่อเอาชีวิตรอด พวกเขาใช้ทักษะลับในการระเบิดพลังอย่างรวดเร็ว พวกเขาอยู่ด้านหน้า เข้ามาใกล้ทางเข้าของชั้น 9 ขึ้นเรื่อย ๆ
ในขณะนี้ ความยินดีปรากฏในแววตาของพวกเขา โดยทั่วไปแล้วพวกเขาสามารถเห็นว่าตัวเองไปถึงชั้นที่ 9 แล้วหนีออกไปพร้อมกับเอาชีวิตรอด
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ภูเขาไฟขนาดมหึมาบินผ่านอากาศ กิ้งก่าชนเข้ากับภูเขาไฟขนาดใหญ่ที่ลอยขึ้นมาในอากาศพร้อมกับการกวาดหางของมัน บางทีอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญอย่างแท้จริงหรืออย่างอื่น ภูเขาไฟลอยไปตกที่ทางเข้าสู่ชั้น 9 มันถูกปิดตายโดยสิ้นเชิงและตัดเส้นทางหลบหนีของทุกคนออกไป
“ไม่ ! ”
สุดยอดราชาเทพทุกคนที่อยู่เบื้องหลังตะโกนออกมาด้วยความเสียใจเมื่อเห็นเช่นนี้ ความสิ้นหวังเติมเต็มหัวใจของพวกเขา
หากเป็นเวลาอื่น พวกเขาก็สามารถชนทะลุผ่านภูเขาไฟไปด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขา แม้ว่าก้อนหินของภูเขาไฟนั้นแข็งแกร่งมากพอที่จะใช้เป็นวัตถุดิบ พวกเขาก็ยังสามารถชนมันได้ตราบเท่าที่ยังมีเวลา
แต่ตอนนี้มีกิ้งก่าที่ทรงพลังที่น่ากลัวอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่มีเวลา กิ้งก่าอาจจะฆ่าพวกเขาทั้งหมดก่อนที่พวกเขาจะสามารถกำจัดสิ่งกีดขวางออกไปได้
ไม่เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถไปที่ชั้น 7 ได้แล้ว แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถไปที่ชั้น 9 ได้เช่นกัน พวกเขาติดอยู่บนชั้นที่ 8 อย่างแท้จริง และกลายเป็นเป้านิ่ง
ซูหยากัดฟันของเขาในขณะที่ความบ้าคลั่งปรากฏอยู่เต็มดวงตาของเขา เขาร้องออกมาว่า “ในเมื่อพวกเราหนีไม่พ้น ก็ลองต่อสู้กันสักตั้งเถอะ มีเพียงความตายสำหรับพวกเรา ถ้าพวกเราต่อสู้โดยลำพัง แต่ถ้ามีพวกเราหลายร้อยคนและวัตถุเทพหลายสิบชิ้น ปล่อยให้มันเข้ามาในค่ายกลและเดิมพันกับความตาย มันเป็นไปได้ที่เราจะมีชีวิตรอด”
เจี้ยนเฉินไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์บนชั้นที่ 8 อีกต่อไป ตอนนี้เขากำลังจะออกจากชั้นที่ 7 แล้วบินไปที่ชั้นที่ 6
เจี้ยนเฉินเรียกเฮยหยาออกมา เขาติดตามอยู่ด้านข้างของเจี้ยนเฉินอย่างใกล้ชิดและคอยบอกทิศทางกับเขาเป็นครั้งคราว
“ข้ารู้สึกถึงพวกเขา พวกเขาอยู่ที่นั่น นายท่าน คนที่ท่านบอกให้ข้าจำดูเหมือนจะอยู่ด้วยกัน”
เฮยหยาชี้ไปในทิศทางหนึ่งในขณะที่เขาพูดกับเจี้ยนเฉิน หลังจากมาถึงชั้นที่ 5
“ทำได้ดีมาก เฮยหยา” เจี้ยนเฉินมีความตั้งใจสูง อารมณ์ของเขาดูเหมือนจะดีขึ้นมาก ทันใดนั้นเขาก็รีบพุ่งออกไปในทิศทางที่เฮยหยาชี้ออกมา
ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตรบนชั้นที่ 5 หมิงตง, เอเดรียนน่า, ซุยหยุนหลัน, รุยตี้และสวีเย่ รวมตัวกันอยู่ด้วยกัน
“ ข้าไม่เคยคิดเลยว่าหมิงตงจะมาจากทวีปเทียนหยวนอย่างแท้จริง ข้าเคยได้ยินจากผู้อาวุโสในตระกูลของเราว่าตระกูลมังกรและฟีนิกซ์ของเรานั้นเดิมตั้งอยู่ที่ทวีปเทียนหยวนก่อนที่จะย้ายไปยังทวีปสัตว์เทวะกับเทพเจ้าสัตว์อสูร ทวีปเทียนหยวนเป็นดินแดนบรรพบุรุษของเรา” รุยตี่มองดูหมิงตงอย่างตื่นเต้นและสายตาของเขาก็อบอุ่นเป็นพิเศษ
“หมิงตงเล่าเรื่องทวีปเทียนหยวนและทวีปสัตว์เทวะให้พวกเราฟังหน่อย สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง ? ” สวีเย่มองหมิงตงด้วยสายตาที่เปล่งประกาย นางเต็มไปด้วยความอยากรู้
“ตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดถึงเรื่องนี้ มาหาทางช่วยน้องชายของข้าแทน” หมิงตงกล่าวอย่างเคร่งเครียด สีหน้าของเขามืดครึ้มและจริงจัง เขาไม่สามารถทำให้สบายใจได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ทันใดนั้น แสงทอประกายวูบวาบที่พุ่งทะลุผ่านอากาศราวกับสายฟ้าฟาดในท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มีเพียงแสงจากดวงจันทร์เท่านั้น มันส่องแสงที่ทำให้ไม่เห็นได้ตลอด ได้พุ่งเข้าใกล้กับหมิงตงและคนอื่น ๆ โดยตรง
ความกังวลของหมิงตงหายไปทันทีเมื่อเขาเห็นแสงสว่าง เขาแปลกใจและดีใจมาก
ซุยหยุนหลันและเอเดรียนน่าก็โล่งใจเช่นกันเมื่อพวกนางเห็นแสงสว่าง
พวกเขาทั้งหมดเป็นสุดยอดราชาเทพ ดังนั้นการรับรู้ของพวกเขาจึงทรงพลังอย่างมาก ทันใดที่กระแสของแสงปรากฏขึ้น พวกเขาก็ตระหนักว่าเจี้ยนเฉินอยู่ในนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขาเห็นว่ามีเพียงเจี้ยนเฉินและเฮยหยา พวกเขาสับสนและสงสัย
“เจี้ยนเฉิน สุดยอดราชาเทพที่ไล่ตามเจ้าไปอยู่ที่ไหน ? ” หมิงตงบินขึ้นไปรับเขาอย่างอบอุ่น เขามองไปข้างหลังเจี้ยนเฉินอย่างระมัดระวังในขณะที่เขารู้สึกสับสนอย่างมาก
“ พวกเขาทั้งหมดอยู่บนชั้น 8” เจี้ยนเฉินไม่ได้ปิดบังอะไรและบอกพวกเขาเกี่ยวกับกิ้งก่าลาวา
สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินเรื่องกิ้งก่า เห็นได้ชัดว่าพวกเขาตกตะลึง
“หมิงตง ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะมาถึงสุดยอดราชาเทพในเวลาเพียงไม่กี่ศตวรรษและเจ้ามีวัตถุเทพมากมายอยู่กับเจ้า ดูเหมือนว่าเจ้าจะทำได้ดีในโลกแห่งเซียน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ดูเหมือนข้าจะกังวลมากเกินไป” เจี้ยนเฉินพิจารณาหมิงตง ก่อนที่จะจ้องมองแม่ทัพทั้งห้าที่อยู่ข้างหลังเขา เขารู้สึกมีความสุขกับหมิงตงจากก้นบึ้งของหัวใจ
ตอนนี้พี่น้องทั้งสองมีเวลาที่จะอยู่ด้วยกันจากแยกกันมาหลายร้อยปีแล้ว
“ข้าจะเทียบกับเจ้าได้อย่างไร ? ความแข็งแกร่งของข้าเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะข้ามีทรัพยากรในการบ่มเพาะไม่มีวันหมดในเวลาหลายปีที่ผ่านมา บวกกับมรดกที่ทรงพลังและการบำรุงในรูปแบบต่าง ๆ เป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะไม่เข้มแข็ง ข้าไม่เหมือนกับเจ้าที่ท่องไปในโลกเซียนเพียงคนเดียวและขึ้นมาเป็นสุดยอดระดับราชาเทพในระยะเวลาสั้น ๆ โดยที่ไม่มีคนหนุนหลังเลย ยิ่งกว่านั้นเจ้าอาจเป็นแค่ราชาเทพช่วงต้นในตอนนี้ ในขณะที่ข้ากำลังจะมาถึงราชาเทพข้สวปลาย โดยพื้นฐานแล้วข้ามาถึงจุดสิ้นสุดของขอบเขตการบ่มเพาะนี้แล้ว ในขณะที่เจ้ายังมีพื้นที่เหลือเฟือมากมาย ข้าแย่ยิ่งกว่าเจ้าอีกมาก” หมิงตงกล่าวอย่างเศร้าโศก
เจี้ยนเฉินตบไหล่ของหมิงตงและหลังจากสนทานากันเล็กน้อย แล้วเขาก็มองไปที่ซุยหยุนหลันและถามว่า “ผู้พิทักษ์ซุย ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ? พี่สาวของข้าอยู่ที่ไหน ? ท่านพานางมาด้วยหรือไม่ ? ”
“ฝ่าบาทตอนนี้สบายดี นางอยู่ในที่ปลอดภัยและไม่ได้เข้ามาในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนกับข้า” ซุยหยุนหลันเอ่ย น้ำเสียงของนางยังคงเย็นชาและไร้อารมณ์ ในขณะที่มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเป
นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงตัวตนของเมื่อครั้งอยู่ที่ทวีปเทียนหยวน แม้แต่มดตัวหนึ่งก็ยิ่งใหญ่กว่าเขา
ถึงกระนั้นหลังจากนั้นไม่กี่ศตวรรษ เจี้ยนเฉินก็มาถึงระดับเดียวกับนาง นางรู้สึกว่ามันไม่จริง