เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2158 - วัฏสงสาร (2)
ตอนที่ 2158 – วัฏสงสาร (2)
“วัฏสงสาร ? ” ปรมาจารย์เฉินหลงบ่นพึมพำอย่างสับสน เขาพบว่าชื่อนี้คุ้นเคยเหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่งมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมาปรมาจารย์เฉินหลงตัวสั่นอย่างรุนแรง เขาจ้องมองไปที่ร่างพร่ามัวด้านนอกภูเขาเนปจูนและตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “จะ- เจ้าเป็นอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารที่ทำลายลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนเพียงลำพังงั้นหรือ ? ”
หลังจากรู้ตัวตนของเขาแล้ว จิตใจของปรมาจารย์เฉินหลงก็อยู่ในความปั่นป่วน เขาตกใจอย่างยิ่งและรู้สึกไม่อยากจะเชื่อ
ตำนานเกี่ยวกับอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารได้กรอกเข้าหูของเขานับตั้งแต่เขาเข้ามาในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน อย่างไรก็ตาม ข่าวลือทุกเรื่องล้วนน่าประหลาดใจมาก เพียงพอให้ราชาเทพผู้ที่ได้ยินเป็นครั้งแรกรู้สึกประหลาดใจ
ลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนเป็นองค์กรสูงสุดที่สั่นสะเทือนและปกครองในโลกแห่งเซียน ไม่เพียงแต่มีสาวกเป็นล้าน ๆ คนเท่านั้น หนึ่งในขั้นอัครสูงสุดได้มาถึงขั้นเกือบสูงสุดในการบ่มเพาะและเป็นที่รู้จักในฐานะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังที่สุดที่่ต่ำกว่าจอมปราชญ์สูงสุดในอดีต
มันเป็นไปได้ที่จะจินตนาการว่าลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนเป็นอย่างไรในอดีตที่มีบรรพชนซึ่งทรงอำนาจเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม อมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารได้ทำลายลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนเพียงลำพังซึ่งดูเหมือนเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจในสายตาของหลาย ๆ คนในโลกแห่งเซียน เพียงเสี้ยววินาทีเดียวขั้นอัครสูงสุดทั้งสี่รวมถึงบรรพชนได้ตายลงให้กับจอมปราชญ์สูงสุด ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนไม่มีผู้ใดมีชีวิตรอดไปได้
ถ้าไม่ใช่เพราะการมาถึงของหนึ่งในเจ็ดจอมปราชญ์สูงสุดในโลกแห่งเซียน, จอมปราชญ์สูงสุดแห่งวิถีโบราณ, ลัทธิเต๋าแห่งเนปจูนอาจจะไม่สามารถปกป้องพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนซึ่งเป็นวัตถุเทพเทพขั้นสูงเอาไว้ได้ แน่นอนว่ามันจะถูกทุบเป็นชิ้น ๆ โดยอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสาร
นี่เป็นอะไรที่มากเกินพอที่จะแสดงให้เห็นถึงพลังของอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสาร
กระนั้นในขณะนี้ในตอนนี้อมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารที่ดูเหมือนจะเป็นตำนานของปรมาจารย์เฉินหลงได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาด้วยตนเอง มันส่งผลกระทบต่อเขาอย่างมาก
จิตวิญญาณที่ติดกับเฉินหลงก็เบิกดวงตางูกว้างเช่นกัน มันยังจ้องมองไปข้างหน้าที่ร่างพร่ามัวซึ่งได้กล่าวอ้างว่าเป็นอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารด้วยความตกใจถึงขีดสุดเช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เห็นรูปร่างอันพร่ามัว แต่พวกเขาก็สามารถรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่น่ากลัวและท่วมท้นจากเขา
ร่างนั้นไม่ได้พูดอะไร เขาลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่พลังอันน่าสะพรึงกลัวของวัฏสงสารพุ่งทะยานออกมาอย่างรุนแรงเหมือนแม่น้ำที่บ้าคลั่งกลั่นตัวเป็นก้อนเมฆใต้ฝ่าเท้าของเขา ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าเขากำลังขี่ก้อนเมฆ
เขาไม่ได้ยืนยันตัวตนของเขาและเขาก็ไม่ปฏิเสธ เขายืนนิ่ง ๆ อยู่นอกภูเขาเนปจูนเงียบ ๆ อยู่ครู่หนึ่งราวกับว่าเขากำลังจ้องมองไปที่เฉินหลงที่ยืนอยู่
ในอีกไม่นาน ร่างของเขาก็กลับกลายเป็นพลังแห่งวัฏสงสารและหายไปเหมือนสายหมอก เขาไม่ได้เข้าสู่ภูเขาเนปจูน
ห่างออกไปหลายล้านกิโลเมตร เจี้ยนเฉินและสุดยอดราชาเทพที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนอยู่บนพื้นอย่างไร้พลัง พวกเขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังแห่งวัฏสงสารและพลังชีวิตของพวกเขาก็หมดไปอย่างรวดเร็ว
พวกเขาอ่อนแอลงเรื่อย ๆ จากการสูญเสียพละกำลังชีวิตอันมหาศาล
“ พลังชีวิตของเรากำลังจะหมดไป แต่พลังงานลึกลับยังไม่มีวี่แววว่าจะหยุด พวกเราทุกคนกำลังจะตายที่นี่ในวันนี้ ? ” รุยตี้พูดอย่างขมขื่น เขาไม่กลัวความตาย อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกเสียใจที่ต้องตายที่นี่โดยไม่รู้ตัว
“ตามข่าวลือที่มีอยู่เสมอว่าเมื่อดวงจันทร์เนปจูนปรากฏขึ้น จะมีบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นกับพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน หลายคนเชื่อว่าสิ่งนี้เป็นการปลุกจิตวิญญาณวัตถุและการเลือกเจ้านายคนใหม่ แต่ดูเหมือนว่านี่คือสิ่งที่เขาอ้างถึงจริง ๆ ” ซุยหยุนหลานถอนหายใจ
“ข้าไม่คิดว่าข้าจะมาตายที่นี่ แต่จะเกิดอะไรขึ้นกับฝ่าบาท ฝ่าบาทยังคงอ่อนแออยู่ในขณะนี้ มันคงจะยากมากสำหรับนางที่จะอยู่รอดในโลกแห่งเซียนเพียงลำพัง … ” ซุยหยุนหลานนึกถึงเทพธิดาหิมะผู้ซึ่งยังคงรอทรัพยากรการบ่มเพาะจากนางอยู่ ซุยหยุนหลานก็พลันกังวล
ในขณะนี้ เสียงร้องครางโหยหวนก็ดังกึกก้องจากด้านข้างของซุยหยุนหลาน เจี้ยนเฉินซึ่งแต่เดิมทรุดตัวลงบนพื้น ทันใดนั้นก็เปล่งประกายสีแดงจาง ๆ
ขณะที่แสงสีแดงปรากฏขึ้น ตัวตนอันอ้างว้างที่ดูเหมือนจะมาจากขอบเขตตั้งต้นในอดีตก็ระเบิดตัวขึ้นพร้อมกับตัวตนที่น่ากลัวซี่งเกินความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจี้ยนเฉินสร้างความหวาดกลัวให้กับสุดยอดราชาเทพหลาย ๆ คน
ด้วยแรงกดดันจากพลังแห่งวัฏสงสาร เจี้ยนเฉินใช้พลังแห่งสายเลือดหมาป่านภาโบราณในตัวเขา มันก่อตัวเป็นม่านพลังบาง ๆ ราวกับกระดาษรอบตัวเขา
หลังจากใช้พลังแห่งสายเลือด พลังแห่งวัฏสงสารที่แทรกซึมเข้าไปในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนทั้งหมดก็ดูเหมือนจะถูกผลักออกไปชั่วคราว ในขณะที่พลังแห่งสายเลือดไหลออกไปอย่างรวดเร็ว เจี้ยนเฉินก็ค่อย ๆ ฟื้นพลังขึ้นมาบ้าง เขาลุกขึ้นนั่งด้วยความยากลำบาก
การกระทำของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึงทันที พวกเขาจ้องมองไปที่เขาและแสดงอาการตกใจ
เจี้ยนเฉินไม่สนใจสายตาที่จ้องมองเขา เขาหลับตาอย่างช้า ๆ จดจ่ออยู่กับการรวบรวมพลังวิญญาณทั้งหมดของเขา เขาต้องการที่จะนำหอคอยอนัตตาออกมาและโยนผู้คนรอบ ๆ ตัวเขาเข้าไป จากนั้นก็ออกไปจากที่นี่พร้อมกับยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลในคราวเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นการหยิบเอาหอคอยอนัตตาหรือยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลออกมาจากแหวนมิติของเขา การกระทำเหล่านี้จำเป็นต้องใช้พลังการรับรู้ของวิญญาณของเขา
ถ้ามันเป็นช่วงเวลาอื่น มันคงเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขาที่จะทำเช่นนั้น อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาถูกห่อหุ้มด้วยพลังแห่งวัฏสงสาร เขาสามารถพึ่งพากำแพงบาง ๆ ที่สร้างขึ้นโดยพลังแห่งสายเลือดของหมาป่านภาโบราณเพื่อรวบรวมพลังวิญญาณของเขาและทำสิ่งที่เขาต้องทำให้เสร็จ
“เร็วเข้า ! เร็วเข้า ! ” ในขณะที่เจี้ยนเฉินรวบรวมพลังวิญญาณของเขา เขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล พลังของสายเลือดไหลออกเร็วเกินไป เขาไม่สามารถอยู่ได้นานกว่านี้อีกแล้ว
“มันเป็นตัวตนของสายเลือดของหมาป่านภาโบราณจริง ๆ ” ในขณะนี้เสียงอันชราดังกึกก้องไปทั่วทุกที่ เมื่อเสียงดังขึ้นพลังวัฏสงสารก็สั่นสะเทือนอย่างรุนแรงในบริเวณใกล้เคียง
ใกล้ ๆ กันมีร่างมายาที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนหนึ่งของพลังวัฏสงสารปรากฏตัวขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ทันทีที่ร่างปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่ามันจะครอบครองโลกทั้งโลกทำให้กฎที่อยู่รอบ ๆ ได้รับการเปลี่ยนแปลงลึกลับบางอย่าง ม่านพลังรอบ ๆ เจี้ยนเฉินแตกสลายราวกับกฎของโลกถูกกดดัน
“อมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารได้โปรดเมตตา ! ” ในขณะนี้แสงสีฟ้าและแสงสีม่วงก็ปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเจี้ยนเฉิน จิตวิญญาณกระบี่ปรากฏตัวกลายเป็นชายหญิงที่ดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบของพวกเขา พวกเขาจ้องมองที่ร่างพร่ามัวอย่างตื่นเต้น
การปรากฏตัวของจิตวิญญาณกระบี่ทำให้พลังวัฏสงสารรอบ ๆ อมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารสั่นแบบไม่เป็นธรรมชาติ เขาร้องออกมาว่า “อืม ? จือหยิง, ฉิงโซว, ทำไมเจ้าทั้งสองคนถึงมาปรากฏตัวในโลกแห่งเซียน ? ” เสียงอันชราของอมตะเที่ยงแท้วัฏสงสารเต็มไปด้วยความประหลาดใจ