เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2171 : สิ้นสุดการเดินทาง
ตอนที่ 2171 : สิ้นสุดการเดินทาง
“ ข้าจะทำการบ่มเพาะในนิกายเต๋าเสียงศักดิ์สิทธิ์ต่ออีกสักพัก แม้ว่าจิตวิญญาณวัตถุของพิณปิศาจร่ำไห้จะตื่นขึ้นมาจนทำให้ข้าได้รับมรดกของบรรพชนที่สามมาแต่มันก็ยังมีข้อความที่บรรพชนที่สามได้ทิ้งเอาไว้ในนิกายเต๋าเสียงศักดิ์สิทธิ์ พวกมันจะช่วยข้าได้อย่างมาก” ซ่างกวนมู่เอ๋อมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตากังวล นางได้พูดขึ้นต่อ “เจ้าได้สร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ขึ้นที่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน และมันก็เพราะเจ้าที่สุดยอดราชาเทพได้เสียโอกาสที่จะได้รับพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน มันต้องมีคนจำนวนมากด้านนอกที่จำเจ้าได้ ดังนั้นการเดินทางของเจ้าในอนาคตคงต้องลำบากอย่างมาก เจ้าต้องระวังตัวเอาไว้”
เจี้ยนเฉินยิ้มด้วยท่าทีสบายใจ “มู่เอ๋อ ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ตายง่าย ๆ หรอก ใช่สิ นี่ยันต์ส่งตัวจักรวาล เจ้าเก็บมันไว้ใช้ตอนวิกฤต มันสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ เจ้าควรจะรับมันไว้” เจี้ยนเฉินส่งยันต์ส่งตัวจักรวาลให้กับซ่างกวนมู่เอ๋อ
“มันคือยันต์ส่งตัวจักรวาลจริง ๆ เจ้าได้มันมาจากไหนกัน ? ” เอเดรียนน่า, รุยตี้ และสวีเย่ ต่างก็แปลกใจเมื่อได้ยินเจี้ยนเฉินพูดถึงเครื่องรางนี้
“ยันต์ส่งตัวจักรวาลคือเครื่องรางระดับเทพ มิติหรือค่ายกลไม่อาจจะจำกัดมันไว้ได้ บอกกันว่าเป็นไปได้ที่จะหนีจากพวกอัครสูงสุดด้วยเครื่องรางนี้” ซุยหยุนหลานอธิบาย
ซ่างกวนมู่เอ๋อเข้าใจคุณค่าของยันต์ส่งตัวจักรวาลจากคำอธิบายนี้ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกซึ้งใจพร้อมกับปฏิเสธ นางพูดขึ้นด้วยความกังวล “เจี้ยนเฉิน เจ้าควรเก็บมันไว้กับตัวเอง เจ้าต้องการมันมากกว่าข้า”
“ข้ามีอีกอันกับตัว เจ้ารับมันไว้เถอะ ข้าจะได้สบายใจหากรู้ว่าเจ้ามีเครื่องรางที่ช่วยชีวิตเจ้าได้อยู่ติดตัว” เจี้ยนเฉิน พูดด้วยความหนักแน่นไม่คิดจะนางได้ต่อรองเลย
“ได้ ข้าจะรับมันไว้แต่อย่าลืมว่าเรารับปากกับเสี่ยวเป่า ไว้แล้วว่าเราจะไปรับเขาภายในหมื่นปี” ซ่างกวนมู่เอ๋อ มองไปที่เจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงเด็กน้อยที่รอการกลับมาของเขาที่ทวีปเทียนหยุนเมื่อนางพูดถึงเสี่ยวเป่าขึ้นมา เขาองก็คิดถึง โหยวเยว่, หวงหลวน และครอบครัวของเขา ความทรงจำต่าง ๆ ได้หลั่งไหลออกมาจากใจเขา
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินกับคนของเขารู้สึกได้ว่าพื้นที่รอบตัวนั้นเปลี่ยนไป พวกเขาถูกพา ๆ ไปยังชั้น 12 โดยพลังลึกลับ พวกเขาปราฏตัวในถ้ำที่ดูเก่าแก่
เหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตื่นตัว พวกเขาพากันระวังตัวกันทันที
“ไม่ต้องกังวล นี่คือจิตวิญญาณวัตถุของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น มีแค่จิตวิญญาณวัตถุที่ควบคุมทุกอย่างได้เท่านั้นที่จะทำอะไรแบบนี้ได้ในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน
“พี่เจี้ยนเฉิน ! ” เสียงของเสี่ยวม่านดังขึ้นมา นางกับจิตวิญญาณวัตถุที่เป็นชายแก่สูงกว่า 4 ฟุตปรากฏตัวมาข้างกายเจี้ยนเฉิน นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความดีใจ
ในอีกด้านจิตวิญญาณวัตถุกลับมองไปที่หมิงตง เขายังมองไปยังแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้าด้านหลังหมิงตง แววตาของเขาสั่นไหวราวกับคิดอะไรบางอย่างอยู่
“เสี่ยวม่าน เจ้าทำสำเร็จแล้วรึ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่เสี่ยวม่านด้วยรอยยิ้ม
เสี่ยวม่านพยักหน้าตอบรับ “ข้าเข้าใจหลักพื้นฐานของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนแล้ว เจ้ารู้รึไม่ว่าข้ารู้สึกยังไงกับการได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ? ข้ารับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มันเป็นความรู้สึกที่วิเศษ ข้าได้ยินมาจากจิตวิญญาณวัตถุว่าข้ายังต้องพัฒนาอีกมากกว่าจะควบคุมพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนได้ทั้งหมดด้วยตัวเอง”
“ใช่แล้ว จิตวิญญาณวัตถุเอามรดกทั้งหมดในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมาให้ข้า นี่คือข้อตกลงของข้ากับพี่เจี้ยนเฉิน” เสี่ยวม่านบอกกับจิตวิญญาณวัตถุ
จิตวิญญาณวัตถุพยักหน้า เขาได้ยินเรื่องนี้จากเสี่ยวม่านมาก่อนแล้ว ดังนั้นเขาจึงยื่นมือออกมา ทันใดนั้นค่ายกลและเขตกักกันทั้งหมดรอบมรดกที่นักสู้ขอบเขตตั้งต้นทิ้งเอาไว้ก็แตกออก มรดกที่มีอยู่กว่าหลายล้านปีกลับหายไปในพริบตา
ตอนที่มรดกปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง พวกมันก็ลอยอยู่ตรงหน้าจิตวิญญาณวัตถุ
จิตวิญญาณวัตถุถือว่ามีอำนาจเหนือกว่าผู้ใดเมื่ออยู่ภายในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน เขาสามารถควบคุมพลังของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนได้ตามต้องการ นอกเสียจากว่าจะพบกับตัวตนที่มีพลังเหนือกว่าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ดังนั้นวัตถุเทพขั้นสูงก็ไม่อาจจะหลุดรอดจากเงื้อมมือเขาได้
ผลก็คือค่ายกลของขั้นบรรพกาลและพวกที่อ่อนแอกว่าขั้นอสงไขยต่างก็ไร้ค่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจิตวิญญาณวัตถุ
“มีมรดกของขั้นบรรพกาล 5 ชิ้นและขั้นอสงไขย 18 ชิ้น เนื่องจากเป็นคำสั่งของนายน้อย เจ้าเอามรดกพวกนี้ไปได้” จิตวิญญาณวัตถุพูดขึ้น เขามองไปยังมรดกที่ลอยอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน
เจี้ยนเฉินไม่คิดเกรงใจและเก็บมรดกที่เพียงพอทำให้หลายคนอิจฉาไปในทันที
มรดกเหล่านี้มีหลายประเภท บางอันเป็นแหวนมิติ บางอันเป็นรูปสลัก บางอันเป็นความเข้าใจบางส่วนที่เก็บไว้ในลูกปัดหลากสี
แทบไม่ต้องคิดมรดกทั้งหมดก็ถูกเก็บไว้ในแหวนมิติ
“รุยตี้, สวีเย่ ตามที่เราตกลงกันไว้ ของพวกนี้เป็นของเจ้า” เจี้ยนเฉิน ส่งมรดกกว่าสามในสิบส่วนให้กับรุยตี้และ สวีเย่ นี่คือสิ่งที่พวกเขาตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้
เมื่อเห็นมรดกของขั้นบรรพกาลและขั้นอสงไขยอยู่ตรงหน้า รุยตี้และสวีเย่ ก็ตื่นเต้นขึ้นมา แต่พวกเขาไม่ได้รับมันไว้ทันที พวกเขากลับลังเลขึ้นมาแทน
สุดท้ายทั้งสองก็เอามรดกไปแค่คนละชิ้น พวกเขาได้พูดขึ้นว่า “จริง ๆ แล้วเราไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก หากเราเอาไปสามในสิบส่วน เราคงรู้สึกผิด ข้ากับสวีเย่จะเอาไปแค่คนละชิ้น “
“หากไม่ใช่เพราะนิกายมังกรและฟินิกซ์ขาดแคลนมรดกและต้องการของเหล่านี้ เราทั้งสองคงไม่รับมันไว้” สวีเย่พูดขึ้นด้วยท่าทีสิ้นหวัง
เมื่อรับของเหล่านั้นแล้วทั้งสองคนก็ร่ำลาก่อนจะกลับออกไป
ไม่นานหลังจากนั้น เอเดรียนน่าก็ได้กลับออกไปด้วย นางรีบกลับไปยังเผ่าเทพเพื่อรายงานกับเทพเจ้าสงครามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน
“น้องชาย ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการกลับไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ข้าก็จะไม่บังคับให้เจ้าไป ข้าจะไปยังที่ราบเมฆาเพื่อไปดูตระกูลเทียนหยวนที่เจ้าได้ก่อตั้งขึ้นมา เจ้ามีข้อความอะไรฝากบอกพวกเขาหรือไม่ ? ” หมิงตง ถาม
เจี้ยนเฉินลังเลไปเล็กน้อยก่อนจะส่งมรดกทั้งหมดที่เขาได้รับมาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนให้กับหมิงตง จากนั้นเขาก็เอาสมบัติสวรรค์ขั้นเทพออกมาจากแหวนมิติและพูดขึ้นว่า “เอาของพวกนี้ไปยังตระกูลเทียนหยวน และดูว่ามีใครเหมาะสมกับมรดกเหล่านี้บ้าง”
“ได้ เจ้าไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไ ข้าจะอยู่ในตระกูลของเจ้าสักพัก ดังนั้นเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของตระกูลเทียนหยวน ด้วยฐานะองค์ชายเก้าของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงของข้าแล้ว การปกป้องสักตระกูลคงไม่ใช่เรื่องยาก” หมิงตงรับปาก เขามีสิทธิและความมั่นใจด้วยฐานะที่เขามีตอนนี้