เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2172 : จิตสังหารของราชาเผิงสีฟ้า
ตอนที่ 2172 : จิตสังหารของราชาเผิงสีฟ้า
หลังจากที่รู้ฐานะของหมิงตง แม้แต่จิตวิญญาณของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนก็ยังต้องแปลกใจ เขาคิด “ข้าคิดว่าชายผู้นี้เป็นศิษย์ขององค์หญิงหรือองค์ชายจากพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะเป็นองค์ชายเก้า ในอดีตพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงมีองค์หญิงและองค์ชายแค่เพียง 8 คน ทั้ง 8 คนนี้ต่างก็เป็นศิษย์ของจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา อันที่จริงแล้วมีแค่ศิษย์ของจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตาที่สามารถขึ้นเป็นองค์ชายหรือองค์หญิงได้ เมื่อชายคนนี้เป็นองค์ชายเก้าของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง เขาก็น่าจะเป็นศิษย์โดยตรงของจอมปราชญ์สูงสุดอนัตตา”
จิตวิญญาณวัตถุมองไปที่หมิงตงและเผยท่าทีระมัดระวังที่ยากจะได้เห็นออกมา เขาหันกลับไปมองที่เสี่ยวม่าน และกระซิบ “นายน้อย ชายที่ชื่อหมิงตงผู้นี้มีฐานะที่โดดเด่น ท่านควรใช้โอกาสที่หายากนี้ผูกมิตรกับเขา”
“อาจารย์ของเขาน่าประทับใจยิ่งนัก จากจอมปราชญ์สูงสุดทั้ง 7 ในโลกเซียน จอมปราชญ์อนัตตาอยู่อันดับ 1 ใน 3 เขาเป็นรองแค่เทพเจ้าสงครามจากเผ่าเทพ “
“ตะ แต่ข้าไม่รู้จักเขา” เสี่ยวม่านตอบกลับ นางไม่รู้ว่าต้องทำยังไง จิตวิญญาณวัตถุปกปิดเสียงของนางไว้อย่างดี ดังนั้นแม้ด้วยความแข็งแกร่งของนางตอนนี้แล้วแต่ราชาเทพก็ไม่มีทางได้ยินมัน
“น้องชาย ดูแลตัวเองด้วย อย่าลืมว่าเรายังต้องกลับไปยังทวีปเทียนหยวนด้วยกันและไปยังบ้านเกิดของเรา ข้าจะรอเจ้ากลับมา” หมิงตงกล่าวลาเจี้ยนเฉินและจากไปพร้อมกับแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า
หลังจากนั้นซ่างกวนมู่เอ๋อก็ได้ลาเจี้ยนเฉิน ก่อนจะกลับออกไปจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน
ตอนนี้พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนมีเจ้าของแล้ว และเจี้ยนเฉินก็กำลังออกจากที่นี่ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล มันไม่มีเหตุผลให้เขาต้องอยู่ต่อ ดังนั้นเขาจึงร่ำลาคนอื่น ๆ
ในเสี้ยวพริบตาทุกคนต่างก็กลับไปหมด เหลือเพียงแค่เจี้ยนเฉินและซุยหยุนหลาน
“พี่เจี้ยนเฉิน ท่านจะกลับไปแล้วหรือ ? ” เสี่ยวม่านอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาเมื่อเห็นว่าเจี้ยนเฉินกำลังจะกลับออกไป นางไม่เต็มใจให้เขากลับไป
เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมาและสลัดความคิดอื่น ๆ ทิ้ง เขามองไปที่เสี่ยวม่านและพูดขึ้นว่า “ถูกต้อง ข้าเองก็จะไปแล้ว เสี่ยวม่าน ให้เรายืมค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนของเจ้าที”
“พี่เจี้ยนเฉิน อยู่ที่นี่ทำการบ่มเพาะต่อเถอะ จิตวิญญาณวัตถุบอกว่ามันมีสมบัติมากมายที่นี่ ท่านคงปลอดภัยหากทำการบ่มเพาะที่นี่ และพี่จื่อหยุนก็จะมาที่นี่เช่นกัน” เสี่ยวม่านอ้อนวอนให้เจี้ยนเฉินอยู่ต่อ นางเหมือนจะอ้อนเขา นางยังเด็กและใสซื่อ นางยังเชื่อว่าเจี้ยนเฉินรู้สึกดีกับจื่อหยุน
คำขอร้องของเสี่ยวม่านทำให้จิตวิญญาณวัตถุไม่พอใจอย่างมาก เขาควบคุมพลังของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและเคลื่อนย้ายเจี้ยนเฉินกับซุยหยุนหลานไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลโดยไม่ถามเสี่ยวม่านเลยแม้แต่น้อย เขาได้พูดขึ้นว่า “นี่คือค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล แต่จุดที่พวกเจ้าจะถูกส่งไปนั้นจะเป็นแบบสุ่ม สิ่งเดียวที่ข้ารับรองได้คือมันปลอดภัย ไปได้แล้ว”
จิตวิญญาณวัตถุเหมือนกลัวว่าเจี้ยนเฉินจะเปลี่ยนใจ
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาและปฏิเสธคำขอของเสี่ยวม่าน เขาได้เข้าไปในค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลกับซุยหยุนหลาน ก่อนจะหายไปจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน
เขาไม่ได้ถามเกี่ยวกับแร่ไพไรต์ที่จอมปราชญ์สูงสุดวัฎสงสารพูดถึง
อย่างแรกเลย แร่ไพไรต์นั้นมีความร้อนสูงจนน่ากลัว แม้ว่าตอนนี้เขาจะทนอยู่ใต้ลาวาได้หลายวินาที แต่เขาก็ยังไม่อาจจะเก็บแร่ไพไรต์ได้
ยิ่งกว่านั้นจิตวิญญาณวัตถุของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนก็ตื่นขึ้นมาแล้ว แน่นอนว่ามันรู้ความสำคัญของแร่ไพไรต์ ดังนั้นมันไม่มีทางที่จะให้เขาได้แร่นี้ไปแม้แต่ชิ้นเดียว
“นายน้อย ท่านใสซื่อเกินไป โชคดีที่ข้าไม่ได้ยกมรดกทั้งหมดให้กับเจ้าหนูนั่น ไม่งั้นแล้วเราคงเสียหายอย่างมาก ถึงแม้ว่าเขาจะเอามรดกไปแค่สามในสิบส่วน มันก็ทำให้เรามีมรดกน้อยลงแต่เขากลับได้มันไปง่าย ๆ….”
จิตวิญญาณวัตถุหัวเราะออกมาตอนที่เจี้ยนเฉินและซุยหยุนหลานจากไป เขาเหมือนกับคนแก่เจ้าเล่ห์
….
นักสู้ขอบเขตตั้งต้นจากกลุ่มต่าง ๆ พากันรอยอยู่ด้านนอกพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนด้วยความกังวล สีหน้าของหลายคนสะท้อนความกังวลออกมา บางคนถึงกับหน้าซีดเพราะความโกรธ
“ ชื่อของซูเหวินยังอยู่ในบัลลังก์ราชาเทพหรือไม่ ? “ – ชายแก่ผู้ใช้ภาพลวงตาลงมาจากเรือมิติและถามขึ้นมา
“ ผู้อาวุโสสูง ชื่อของนายน้อยซูยังคงอยู่ในบัลลังก์ราชาเทพ มันยังไม่หายไป” ชายวัยกลางคนหลายคนตอบกลับด้วยความสุภาพ
“วิเศษ ซูเหวินคือคนที่โดดเด่นที่สุดในหมู่ตระกูลซูในรอบล้านปี เขาแบกรับความหวังในการกอบกู้ตระกูลเอาไว้ เราไม่อาจจะปล่อยให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาได้ ข้าจะทิ้งร่างแยกไว้ที่นี่ ข้าอยากเห็นเขาออกมาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนด้วยตัวเอง….”
…
“ชื่อของคุณหนูยังอยู่บนบัลลังก์ราชาเทพรึไม่ ? ” เสียงแก่ ๆ ดังขึ้นมาจากเรือมิติอีกลำ
“หัวหน้าตระกูล ชื่อของคุณหนูยังคงอยู่บนบัลลังก์ราชาเทพอยู่…”
…
“ข้าหวังว่ารุยตี้กับสวีเย่จะออกมาได้อย่างปลอดภัย” เรื่องราวที่คล้าย ๆ กันเกิดขึ้นที่ยานอวกาศรูปร่างเหมือนกับมังกร
คนที่พูดนั้นเป็นชายแก่ตัวแดงก่ำ เขาเหมือนกับคนธรรมดาแต่เขากลับดูสูงส่งอย่างมาก
เขาคือรุยต้า หนึ่งในผู้อาวุโสของนิกายมังกรและฟินิกซ์ เขาคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดของนิกายในตอนนี้ เขาอยู่ขั้นบรรพกาลช่วงสูงสุด
“หากข้ารู้ว่าจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ข้าคงไม่มีทางส่งรุยตี้และสวีเย่ไป พวกเขาคือคนที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดตั้งแต่ที่ก่อตั้งนิกายขึ้นมา พวกเขามีโอกาสอย่างมากที่จะขึ้นมาถึงขั้นอัครสูงสุดได้ในอนาคต ซึ่งจะทำให้นิกายของเราโดดเด่นในหมู่องค์กรชั้นนำ….”
….
เรื่องคล้ายกันนี้เกิดขึ้นในหลายที่ ชัดแล้วว่าองค์กรใหญ่ต่าง ๆ พากันกังวลว่าสุดยอดราชาเทพของตนยังมีชีวิตอยู่รึไม่
มีหลายคนที่มีฐานะสูงส่งในหมู่ราชาเทพและมีบางคนที่เป็นความหวังในการกอบกู้ตระกูลของพวกเขา
แต่ตอนนั้นจู่ ๆ ก็มีพลังแผ่ออกมาที่ทางเข้าพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนพร้อมกับกลุ่มคนจำนวนมากปรากฏตัวขึ้นมา
คนพวกนี้ส่วนมากแล้วเป็นราชาเทพและแทบทั้งหมดต่างก็หน้าซีดและอยู่ในสภาพน่าอนาถ มองแค่เพียงแว่บเดียวก็เป็นไปได้ที่จะบอกว่าพวกเขาอ่อนแอแค่ไหน พวกเขาคือสุดยอดราชาเทพที่รอดมาได้
พวกนั้นส่วนมากพากันนั่งอยู่ พวกเขายังไม่รู้ตัวเลยว่าพวกเขาได้ออกมาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนแล้ว เมื่อสัมผัสได้ถึงความเย็นของมิติภายนอกพวกเขาถึงได้สติ พวกเขาพากันลืมตาขึ้นและตะลึงไปในทันที
“เกิดอะไรขึ้นกัน ? ทำไมข้าถึงออกมาด้านนอกได้ ? ” สุดยอดราชาเทพหลายคนต่างก็สับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“พวกเขาออกมาแล้ว พวกเขาออกมาแล้ว….”
ในเวลาเดียวกันก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมา พวกคนอื่น ๆ ที่รออยู่ภายนอกพากันแห่เข้ามาหาพวกนี้
“ข้าไม่คิดว่าจิตวิญญาณวัตถุจะส่งข้าออกมาด้านนอกแบบนี้ ฮิฮิ ช่วยประหยัดแรงข้าจริง ๆ ” หมิงตงเองก็อยู่ในหมู่ราชาเทพที่ถูกส่งตัวออกมา เขากำลังมุ่งหน้าไปที่ชั้น 1 กับแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งห้า แต่สุดท้ายแล้วเขาก็ถูกส่งออกมาดโดยพลังของพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนตอนที่เพิ่งจะออกมาจากชั้น 9
“ไปกันเถอะ ไปหาพี่แปด ข้าต้องการไปยังที่ราบเมฆาและต้องการให้พี่แปดมอบแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งกว่านี้ให้กับข้า ฮาฮา ข้าสงสัยจริง ๆ ว่าเสี่ยวไป๋จะเป็นยังไงบ้าง นูบิส เจ้างูเย่อหยิ่งนั่นด้วย” หมิงตงหัวเราะออกมา ชัดแล้วว่าเขามีความสุขอย่างมาก
“เจ้าคือหมิงตงรึ ? คนที่ฆ่าศิษย์ข้า ? ”
ตอนนั้นมีรังสีอาฆาตกวาดออกมาจนทำให้มิติถึงกับสั่นไหวและแตกออก
สีหน้าของหมิงตงเปลี่ยนไปทันที เจตนาสังหารนี้เล็งเป้ามาที่เขา แม้ว่าจะอยู่ไกลแต่ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนว่าตัวจะฉีกขาดออกจากกัน เขาไม่อาจจะต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย