เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2174 : ไร้เทียมทาน
ตอนที่ 2174 : ไร้เทียมทาน
เวลาเหมือนจะหยุดนิ่ง จักรวาลเหมือนกับตกอยู่ในความเงียบงัน มือที่ยื่นออกมาจากรอยมิติที่แตกออกนั้นเหมือนกับเป็นสิ่งของเพียงอย่างเดียวในโลกซึ่งส่งผลต่อความคิดของทุกคน
ตอนนั้นพวกขอบเขตตั้งต้นทุกคนที่มารวมตัวกันต่างก็รู้สึกว่าฝ่ามือนี้มีพลังแรงกล้าสูบความคิดของพวกเขา พลังของฝ่ามือนี้ประทับเข้าไปในจิตใจของพวกเขา
ไม่ว่าจะเป็นขั้นอสงไขยหรือขั้นบรรพกาลต่างก็ได้รับผลกระทบ
ไกลออกไปนั้น บรรพชนกระบี่เดียวดายซึ่งนั่งอยู่บนอุกกาบาตโดยสะพายกระบี่ไว้ที่หลังได้ลุกขึ้นยืน เขามองไปยังฝ่ามือนั้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียดพร้อมกับขนที่ลุกซู่
“แข็งแกร่งจริง ๆ นางคือหนึ่งในนักสู้ระดับสูงในหมู่พวกที่ต่ำกว่าขั้นอัครสูงสุด นางน่ากลัวจริง ๆ…” – บรรพชนกระบี่เดียวดายคิด แม้ด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีแต่เขาก็รู้สึกหมดหนทางต่อหน้าฝ่ามือนี้
แม้แต่บรรพชนกระบี่เดียวดายที่ดูอยู่ก็ยังรู้สึกเครียด ดังนั้นราชาเผิงสีฟ้าที่รับฝ่ามือนี้โดยตรงก็ยิ่งต้องตกใจกว่า การเผชิญหน้ากับฝ่ามือที่พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วแสงนี้ทำให้เขารู้สึกราวกับกำลังเผชิญหน้ากับสวรรค์ เขารู้สึกต่ำต้อยและไร้พลังต่อหน้าฝ่ามือนี้ซึ่งเขาไม่อาจจะต้านทนได้เลย
กฎในฝ่ามือนี้แข็งแกร่งเกินไป มันส่งผลต่อความคิดของราชาเผิงสีฟ้าโดยตรง จนทำให้เขารู้สึกว่าโชคชะตาต้องการจะปลิดชีวิตเขาและเขาก็ไม่อาจจะทำอะไรได้เลย
แต่ราชาเผิงสีฟ้าถือว่าเป็นพวกระดับสูงในหมู่นักสู้โลกเซียน แสงสีฟ้าได้ระเบิดออกมาจากตาเขาพร้อมกับข่มความรู้สึกตกใจในตัวเอาไว้ เขาได้คำรามออกมาพร้อกมับพลังงานอันน่ากลัวได้พุ่งออกมาราวกับน้ำที่ไหลออกมาจากเขื่อนที่แตกออก เขาได้ใช้พลังกฎของตัวเองโจมตีออกไป
ทันใดนั้นมิติส่วนนั้นก็แตกสลายออกไป การโจมตีของราชาเผิงสีฟ้าทรงพลังอย่างมาก การโจมตีเต็มกำลังโดยไม่ยั้งมือของเขานั้นน่ากลัวจนยากที่จะอธิบายพลังของมันได้
มิติเท่าที่ตามองเห็นแตกสลายออกไปภายใต้การโจมตีของราชาเผิงสีฟ้าจนกลายเป็นความมืดมิด พวกขอบเขตตั้งต้นและราชาเทพหลายคนไม่อาจจะหนีได้ทัน พวกนั้นได้รับผลกระทบและถูกสูบเข้าไปในรอยแตกมิติ
“ เมื่อเจ้าต้องการจะโจมตีข้า เจ้าก็ต้องชดใช้ไปด้วย หากคนเหล่านี้ตายที่นี่ มันก็เป็นเพราะเจ้า” ราชาเผิงสีฟ้าตะโกนก้องออกมาด้วยสายตาที่บ้าคลั่ง
เขาไม่ได้จงใจจะทำแบบนี้ คู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไป ดังนั้นเขาจึงต้องใช้การโจมตีเต็มกำลัง ผลก็คือมิติโดยรอบกลับแตกออกเพราะพลังที่เขาระเบิดออกมา
มือที่โผล่ออกมาจากรอยแตกมิติไม่ได้รับผลกระทบจากพลังงานของราชาเผิงสีฟ้า มือนั้นแฝงไปด้วยพลังอันลึกลับ ไม่ว่ามือนั้นจะผ่านไปที่ไหน พลังงานจากราชาเผิงสีฟ้ากลับแยกตัวออกจากกันเป็นสองฝั่งให้มือนั้นผ่านไป
ตอนวิกฤตนั้นเองมือนั้นไม่อาจจะหยุดยั้งได้ มันพุ่งอัดเข้าใส่อกของราชาเผิงสีฟ้าอย่างนุ่มนวล
อึก !
ราชาเผิงสีฟ้าหน้าซีดเผือดพร้อมกับเลือดที่พุ่งออกมาจากปาก อกของเขาถูกทำลายเผยให้เห็นรูขนาดใหญ่พร้อมกับเกล็ดสีฟ้าที่กระจายไปทั่ว มันกระจายออกไปพร้อมกับเลือดของราชาเผิงสีฟ้า
ราชาเผิงสีฟ้าเซกลับไป เขามองไปที่มือนั่นด้วยความตกตะลึงและกลัว สายตาที่เต็มไปด้วยความกลัวนั้นแฝงไปด้วยความโกรธแค้น
เขาหันกลับและหนีโดยไม่ลังเล เขาใช้ความเร็วทั้งหมดที่ตัวเองมีพุ่งหนีไปได้หลายล้านกิโลเมตรในคราวเดียว เขาเร็วจนน่าเหลือเชื่อ
“ราชาเผิงสีฟ้า คนของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงนั้นเจ้าไม่อาจจะแตะต้องได้ ครั้งนี้ข้าสั่งสอนบทเรียนเจ้า แต่มันจะไม่มีครั้งที่สอง” น้ำเสียงอันเย็นชาดังขึ้นมาจากมิติ เสียงนั้นกดทับเวลาและมิติจนไปถึงตัวราชาเผิงสีฟ้าที่หายตัวไป มันดังก้องในหัวเขาอย่างชัดเจน
นักสู้ลึกลับที่ลอบโจมตีไม่ได้ไล่ตามเขามา มือของนางแทงทะลุมิติและเวลากลับเปล่งแสงออกมา เส้นพลังและแสงพุ่งออกมา มันพุ่งเข้าไปห่อหุ้มพวกผู้บ่มเพาะที่ไม่ได้แข็งแกร่งพอจะหนีจากการสูบมิติออกมา
สุดท้ายมือนั้นก็พุ่งผ่านมิติที่แตกออก
มิติที่แตกออกกลับฟื้นฟูด้วยความเร็วที่สูงขึ้นกว่าเดิมกลับไปเป็นสภาพเดิมในเวลาไม่กี่วินาที
ไม่นานความสงบก็กลับมาอีกครั้ง มือนั้นได้หายไป เหลือทิ้งไว้แค่เพียงหมิงตงและองค์หญิงแปดที่ยืนอยู่ที่เดิมโดยไร้รอยขีดข่วน
แม้ว่าพวกเขาจะอยู่ใกล้กับราชาเผิงสีฟ้าและอยู่ใจกลางพายุ แต่พวกเขากลับไม่เป็นอะไรเลยแม้แต่น้อย
พวกนักสู้ขอบเขตตั้งต้นและราชาเทพต่างก็กระจายตัวออกไปเพราะความกลัว ตอนที่พวกเขาคิดถึงสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้น พวกเขาต่างก็รู้สึกกลัวกันขึ้นมา
บรรพชนกระบี่เดียวดายยังคงยืนอยู่บนอุกกาบาต ตอนที่ราชาเผิงสีฟ้าโจมตีออกมาก่อนหน้านี้ พลังงานอันน่ากลัวที่ระเบิดออกมานั้นทำให้อุกกาบาตรอบ ๆ ระเบิดกลายเป็นฝุ่นผง มีแค่อุกกาบาตที่บรรพชนกระบี่เดียวดาย ยืนอยู่เท่านั้นที่ไม่เป็นอะไร
ตอนนั้นสายตาของบรรพชนกระบี่เดียวดายจับจ้องไปที่หมิงตง เขาแอบคาดเดาตัวตนของหมิงตงอยู่
“หมิงตงอาจจะมีฐานะสูงส่งกว่าเรา” ไกลออกไป รุยตี้และสวีเย่ได้มองไปที่หมิงตงด้วยความรู้สึกซับซ้อน
“องค์หญิงใหญ่ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงเพิ่งจะออกจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนเมื่อไม่นานมานี้ แต่ด้วยความเร็วของนางแล้ว นางคงไปถึงเขตนอกแล้ว แต่เพราะหมิงตง นางจึงฉีกมิติและเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดูเหมือนว่าฐานะของหมิงตงในพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงจะน่าประทับใจ เขาอาจจะเป็นศิษย์ขององค์หญิงแปดหรือองค์หญิงใหญ่ จำไว้ว่าเราไม่อาจจะทำให้ชายคนนี้ไม่พอใจได้” ผู้อาวุโสรุยต้าแห่งนิกายมังกรและฟินิกซ์โผล่มาข้างกายรุยตี้และสวีเย่พร้อมกล่าวเตือนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมาจากพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง…” อีกด้าน องค์หญิงหยุนเสี่ยวหยานแห่งจักรวรรดิพันบงกชได้แสดงสีหน้าซับซ้อนออกมา
“ แม้ว่าข้าจะรู้ว่าเจ้ามีต้นกำเนิดที่โดดเด่น แต่ข้าก็คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะมาจากที่ซึ่งยิ่งใหญ่อย่างพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ความต่างในฐานะของเรากลับต่างกันถึงเพียงนี้…” – หยุนเสี่ยวหยาน สีหน้าหม่นลง นางเหมือนกับสลด
“ ดูเจ้าสิ ดูสิว่าเจ้าเป็นอะไรไป มันก็แค่การเดินทางมายังพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนแต่เจ้าก็ตายไปกว่าครึ่งชีวิต เจ้าทำให้พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงต้องอับอาย” ในเวลาเดียวกันองค์หญิงแปดก็ทำการสั่งสอนหมิงตงด้วยท่าทีไม่พอใจ จากนั้นนางก็มองไปที่หยุนเสี่ยวหยานที่อยู่ไกลออกไป และบอกกับหมิงตง “ข้าจะพาเจ้าไปพบคนคนหนึ่ง เจ้ามีโชคชะตาเกี่ยวพันกับนาง”