เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2175 : วิ่งเข้าหาภัยพิบัติ
ตอนที่ 2175 : วิ่งเข้าหาภัยพิบัติ
อวกาศรอบนอกอันกว้างใหญ่เต็มไปด้วยความมืดมิดและความหนาวเหน็บ มันไม่อาจจะรับรู้ทิศทางหรือเวลาได้ มันง่ายที่ผู้คนจะพากันหลงทาง
ตอนนี้ที่อวกาศรอบนอกมียานอวกาศลำหนึ่งเคลื่อนที่ผ่านออกไปเงียบ ๆ แต่กลับรวดเร็วอย่างมาก
ชายหนุ่มที่ดูไปแล้วอายุประมาณ 20 ปีใส่หน้ากากหนังปิดบังใบหน้าและหญิงสาวอายุพอ ๆ กันนั่งอยู่กับเขาในห้องโดยสาร พวกเขาต่างก็มองออกไปยังอวกาศรอบนอก
“เจี้ยนเฉิน เราจะไปไหนกันต่อ ? ”
ตอนนั้นผู้หญิงได้ถามขึ้นมาและมองไปที่อวกาศรอบนอกที่ไม่คุ้นตาแต่กลับให้ความรู้สึกคุ้นเคยเพราะเหตุผลบางอย่าง นางเหมือนจะกังวลเกี่ยวกับอนาคต
“เราไม่มีแผนภูมิดาวและเราก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน สิ่งสำคัญอย่างแรกคือเราต้องรู้ก่อนว่าเราอยู่ที่ไหนแล้วค่อยลงมือทำอย่างอื่น ยังไงซะอวกาศรอบนอกก็ไม่ได้เงียบสงบแบบที่เห็นภายนอก เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงเหล่าสัตว์อสูรมิติที่อยู่ที่นี่ เราต้องระวังตัวไม่เข้าไปในเขตอันตราย” ผู้ชายพูดขึ้นและมองไปยังอวกาศรอบนอก
ทั้งสองคนนี้คือเจี้ยนเฉินและไคยะ
หลังจากที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายส่งเจี้ยนเฉินกับซุยหยุนหลานออกมา พวกเขาก็ได้มาถึงอวกาศที่ไม่คุ้นเคยแห่งนี้ ซุยหยุนหลานไม่ได้เดินทางไปกับเจี้ยนเฉิน นางปฏิเสธคำเชิญที่จะไปหาเจียงหยางหมิงเย่วและเดินทางเพียงลำพัง
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เรียกไคยะออกมาจากหอคอยอนัตตา ด้านในแหวนมิติที่เขาได้มาจากสุดยอดราชาเทพในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน เขาเจอยานอวกาศลำเล็ก ๆ ผลก็คือทั้งสองได้ใช้มันเพื่อเดินทางในอวกาศรอบนอกแห่งนี้
ปัญหาเดียวคือพวกเขาทำการค้นในแหวนมิติและพบยานอวกาศ 2 ลำแต่กลับไม่พบแผนภูมิดาวเลย
ผลก็คือพวกเขาหลงทางอยู่อวกาศรอบนอก พวกเขาได้แต่ควบคุมยานให้บินไปยังทิศทางเดียวเพื่อหวังว่าจะได้พบกับใครสักคนที่คิดจะออกจากอวกาศรอบนอกนี้และพวกเขาจะได้ถามทิศทางจากอีกฝ่าย
“น่าเสียดายที่เฉินหลงหายตัวไป” ไคยะถอนหายใจออกมา ตอนที่นางคิดถึงเรื่องในอดีตที่ทั้งสามท่องอวกาศรอบนอกไปด้วยกัน นางก็เริ่มเสียดายขึ้นมา
“ไม่ต้องกังวลไป เขาไม่เป็นอะไรหรอก เจ้าต้องจำไว้ว่าภูเขาเนปจูนหายไปกับเขาด้วย” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
แต่ตอนนั้นเองสีหน้าของทั้งสองก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ด้านนอกนั้นอวกาศที่เคยเต็มไปด้วยหมู่ดาวจู่ ๆ ก็หายไป มิติที่พวกเขาตอนนี้มีแต่ความว่างเปล่า มันมีแค่ความมืดมิดไม่รู้จบไม่มีแสงดาวเลยแม้แต่น้อย
“นี่…ค่ายกลหรือ ? ” เจี้ยนเฉินตรวจสอบรอบ ๆ และพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ไม่ต้องคิดเลยว่าค่ายกลจะแข็งแกร่งแค่ไหนเมื่อสร้างได้ในอวกาศรอบนอก แต่เจี้ยนเฉินไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลเลยแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขาโดนขังไว้ด้านใน พวกเขาก็ตกที่นั่งลำบาก
ในพริบตาเจี้ยนเฉินกับไคยะก็ออกมาที่ด้านนอก ทั้งสองคนมองไปรอบ ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“เราเข้ามาในค่ายกลจริง ๆ ค่ายกลนี้แข็งแกร่งเกินไป น่าเสียดายที่เฉินหลงไม่อยู่ด้วย ไม่งั้นแล้วเราอาจจะหาทงาออกไปจากค่ายกลด้วยความเชี่ยวชาญด้านค่ายกลของเขาได้” ไคยะพูดขึ้น ทั้งนางและเจี้ยนเฉินต่างก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องค่ายกล ดังนั้นสถานการณ์ที่พวกเขาเผชิญอยู่ตอนนี้จึงถือว่าแย่อย่างมาก
“มากับข้า ไปดูกันเผื่อว่าเราจะออกจากที่นี่ได้” เจี้ยนเฉินจับมือไคยะและถอยกลับไปยังทางที่พวกเขาจากมา แต่การออกจากค่ายกลนั้นพูดง่ายกว่าทำ ยิ่งกว่านั้นพวกเขาก็ไม่ได้เชี่ยวชาญเรื่องค่ายกลเลยแม้แต่น้อย
ผลก็คือต่อมาอีกไม่นาน เจี้ยนเฉินก็รู้สึกว่าเขาหมดความอดทน เขาหมดหนทางจริง ๆ
ตอนนั้นก็มีพลังงานอันแข็งแกร่งสายหนึ่งแผ่ออกมา ลำแสงสีดำขนาดเท่ากับนิ้วมือโผล่มาห่อหุ้มตัวเจี้ยนเฉินกับ ไคยะเอาไว้ พร้อมกับรังสีอาฆาตที่แผ่ออกมาราวกับสายฝน
แสงนี้มาจากทุกทิศทาง มันผนึกเส้นทางการถอยของเจี้ยนเฉินกับไคยะเอาไว้ พลังในลำแสงแต่ละเส้นทำให้ เจี้ยนเฉินต้องสะดุ้งด้วยความกลัว ลำแสงมากมายพวกนี้รวมกันแล้วมีพลังมากพอที่จะฆ่าพวกขอบเขตตั้งต้นได้
“เร็วเข้า รีบเข้าไปในหอคอย” เจี้ยนเฉินตะโกนขึ้นและเรียกเอาหอคอยอนัตตาออกมา ในพริบตาทั้งสองก็ได้เข้าไปซ่อนตัวด้านใน
ตูม ตูม ตูม….
ลำแสงนั้นอัดเข้ากับหอคอยอนัตตาจนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มันทำให้หอคอยอนัตตาสั่นไหว ภายใต้คลื่นพลังอันน่ากลัวนี้ ยานอวกาศที่จอดอยู่ใกล้ ๆ ยังไม่ทันได้กระเด็นออกไปก็ต้องแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
เจี้ยนเฉิน ไม่ลังเลที่จะควบคุมหอคอยอนัตตาพุ่งออกไป เขาหวังว่าเขาจะพุ่งออกจากค่ายกลนี้ได้ด้วยความแข็งแกร่งของหอคอยอนัตตา
“ข้าสงสัยว่าเจ้าของค่ายกลนี้จะอยู่ที่นี่ด้วย หากพวกเขาอยู่ด้วย งั้นเราคงต้องออกจากที่นี่ในทันที ไม่เช่นนั้นแล้วต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่ ข้าได้ยันต์ส่งตัวจักรวาลมา 3 ใบจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนและตอนนี้ก็เหลือแค่ใบเดียว ข้าไม่อยากเสียมันที่นี่” เจี้ยนเฉินคิดและรีบบินออกไปด้วยหอคอยอนัตตาให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้
หอคอยอนัตตาทนการโจมตีจากค่ายกลแล้วพุ่งออกไป แม้ว่ามันจะเสียหายอยู่และถูกผนึกโดยปราณกระบี่ซึ่งกันไม่ให้ปล่อยพลังทั้งหมดออกมา แต่มันก็ยังเป็นวัตถุเทพขั้นสูงสุด แค่วัสดุของมันก็ไม่อาจจะทำลายได้แล้ว
ผลก็คือแม้ว่าการโจมตีจากค่ายกลนี้จะรุนแรงแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรหอคอยอนัตตาได้
ตูม !
ตอนนั้นเสียงระเบิดดังขึ้น หอคอยได้ชนเข้ากับม่านมิติและทำลายอุกกาบาตบริเวณนั้น
เมื่ออุกกาบาตแตกออก มันก็เหมือนกับมีรอยแตกปรากฏขึ้นมาที่ค่ายกล
“หยุด ! อย่าทำลายค่ายกล ! “
ตอนนั้นเองมีเสียงแก่ ๆ ดังขึ้นมา ต่อมาก็มีมือขนาดใหญ่อัดแน่นมาจากพลังงานยื่นออกมาดึงหอคอยอนัตตากลับไป
สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไปอย่างมาก ด้วยการโดนมือนี้จับเอาไว้ เขาก็ไม่อาจจะใช้หอคอยอนัตตาหนีไปได้ ยังไงซะการควบคุมหอคอยอนัตตาของเขาก็อ่อนแออย่างมาก เขาไม่อาจจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของหอคอยออกมาได้
สีหน้าของเจี้ยนเฉินบิดเบี้ยวไป เขาถอนหายใจออกมากับความโชคร้ายของตัวเอง เขารู้แล้วว่าเขาอาจจะได้พบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นที่แข็งแกร่งอย่างมาก
ตูม !
มือขนาดใหญ่ที่อัดแน่นจากพลังงานได้โยนหอคอยอนัตตาไปยังอุกกาบาตที่ซ่อนอยู่ในค่ายกล มันเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นที่ผิวของอุกกาบาต นี่คือผลลัพธ์ของความแข็งของหอคอยอนัตตา
“ข้ารู้ว่าเจ้าได้ยินข้า ออกมา อย่าซ่อนตัวอยู่ด้านใน” เสียงแก่ ๆ แหบแห้งดังขึ้นมาอีกครั้ง แม้ว่าเสียงนี้จะเข้าไปไม่ถึงภายในหอคอยอนัตตา แต่เจี้ยนเฉินก็ได้ยินมันอย่างชัดเจนเพราะเขาหลอมรวมหอคอยอนัตตาได้ครึ่งหนึ่งแล้ว