เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2181 : จอมปราชญ์สูงสุดในอดีต
ตอนที่ 2181 : จอมปราชญ์สูงสุดในอดีต
เมื่อพลังสายเลือดหมาป่านภาโบราณสัมผัสเข้ากับค่ายกลบนประตูหิน มันก็ซึมผ่านเข้าไปด้านใน
ในเวลาเดียวกันค่ายกลของจอมปราชญ์สูงสุดบนประตูหินก็ได้ระเบิดแสงสว่างจ้าออกมา ตอนนั้นพลังงานอันมหาศาลที่ซ่อนอยู่ภายในค่ายกลเหมือนจะตื่นขึ้น ตอนที่มันปะทุออกมา อุกกาบาตทั้งดวงสั่นไหวอย่างรุนแรงราวกับเหมือนกำลังจะระเบิด
“ใครกันที่บอกให้เจ้าทำเช่นนี้ ? ” หญิงชราที่อยู่ใกล้สีหน้าเปลี่ยนไป นางมองกลับมาที่เจี้ยนเฉินและไคยะ ก่อนจะตะโกนใส่ทั้งคู่ นางมองไปที่ประตูหินด้วยความกลัวและในพริบตานางก็มาปรากฏตัวด้านหลังของเจี้ยนเฉินและไคยะ นางจับไหล่ของทั้งคู่เอาไว้ก่อนจะพาพวกนั้นออกจากที่นั่น
แต่ต่อมานางกลับหยุด นางแสดงสีหน้าแปลกใจออกมาและหันกลับไปมองประตูหินด้วยตาที่เป็นประกาย ภายใต้พลังงานที่แผ่ออกมานี้ ค่ายกลของจอมปราชญ์สูงสุดที่ประตูกลับเริ่มเปิดออกช้า ๆ
ไม่นานค่ายกลที่ทำให้นางกลัวไปถึงขั้วหัวใจกลับหายไป มันกลับมีแค่หยดเลือดเพียงหยดเดียวลอยอยู่ที่นั่น
“นี่มันเรื่องอะไรกัน ? ” การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้นางตะลึง นางมองไปที่เลือดนั่นและพูดขึ้นว่า “เจ้าได้หยดเลือดนี่มาจากไหนกัน ? ”
“นี่คือพลังของสายเลือดหมาป่านภาโบราณ ข้าได้รับมันมาโดยบังเอิญที่ยานอวกาศตอนที่อยู่กับท่าน” เจี้ยนเฉิน พูดขึ้น เขาเข้าใจว่านางไม่ใช่คนที่หวังร้าย ดังนั้นเขาจึงเชื่อใจนางในระดับหนึ่ง
“มันกลับเป็นพลังสายเลือดหมาป่านภาโบราณ” นางถอนหายใจออกมาด้วยความแปลกใจ นางมองไปที่ประตูหินที่มีอยู่มาไม่รู้นานเท่าใดก่อนจะพูดกับตัวเอง “บางทีที่นี่อาจจะถูกทิ้งไว้โดยจอมปราชญ์สูงสุดที่เป็นหมาป่านภาโบราณในอดีตหรือ ? รึบางทีอาจจะเป็นที่ซึ่งหมาป่านภาโบราณตายไปตอนที่ทำสมาธิหรือ ? ”
“ผู้อาวุโส หมาป่านภาโบราณคือจอมปราชญ์สูงสุดในอดีตงั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินแปลกใจ แค่ชื่อก็บอกแล้ว จอมปราชญ์สูงสุดในอดีตนั้นเป็นธรรมดาที่ต้องเป็นจอมปราชญ์สูงสุดที่ต้องปรากฏตัวในอดีต แต่มันกลับไม่มีอยู่
หญิงชรารู้ความลับบางอย่างเกี่ยวกับจอมปราชญ์สูงสุด นางพูดขึ้นช้า ๆ “ถูกต้อง หมาป่านภาโบราณนั้นเป็นจอมปราชญ์สูงสุดที่ปรากฏตัวในประวัติศาสตร์ เขามีตัวตนก่อนจอมปราชญ์สูงสุดทั้งเจ็ดยุคก่อนหน้านี้ไปไกล”
“จากตอนที่โลกเซียนถูกสร้างจนมาถึงตอนนี้ บางทีอาจจะไม่มีใครรู้ว่ามันมีตัวตนมานานแค่ไหน นอกจากพวกจอมปราชญ์สูงสุด เวลาที่ไม่รู้จบนี้แบ่งออกเป็นหลายกัลป์ ใครจะไปรู้ว่ามันผ่านมานานแค่ไหนแล้วแต่ตามที่ข้ารู้มา มันคือช่วงเวลาก่อนที่จอมปราชญ์สูงสุดทั้งเจ็ดจะปรากฏตัว ยุคของหมาป่านภาโบราณมีแค่พวกระดับสูงของยุคนั้นที่ตายไป ถึงทำให้ยุคของจอมปราชญ์สูงสุดทั้งเจ็ดเกิดขึ้นมาได้”
“ในอีกความหมายคือมันมีจอมปราชญ์สูงสุดมากมายในโลกเซียนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานี้” เจี้ยนเฉินถอนหายใจออกมา
“มันเป็นเรื่องธรรมดา ใครจะไปรู้บ้างว่าโลกเซียนนั้นผ่านมากี่ยุคสมัย มันมีจอมปราชญ์สูงสุดอยู่ทุกยุคสมัย” ความทรงจำต่าง ๆ ปรากฏขึ้นมาในสายตาของหญิงชราและนางได้พึมพำออกมา “หลายปีก่อนตอนทีข้าอยู่เคียงข้างอาจารย์ของข้า ข้าโชคดีพอที่จะได้เห็นองค์หญิงใหญ่ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ข้าจำได้ว่าองค์หญิงใหญ่ได้บอกบางอย่างกับอาจารย์ของข้าในตอนนั้น นางบอกว่าแม้ว่าโลกเซียนจะผ่านมาหลายยุคสมัย แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จำนวนจอมปราชญ์สูงสุดในโลกหนึ่งจะมากเกินกว่า 10 คนต่อยุคสมัย”
ตอนที่นางพูดถึงตรงนั้น นางก็ดูอึดอัดขึ้นมา “ผู้คนบอกว่าเมื่อขึ้นไปถึงขอบเขตเทพแล้ว เจ้าจะหลุดพ้นจากขีดจำกัดเรื่องอายุและได้ชีวิตนิรันดร์ ซึ่งทำให้เจ้าเก่าแก่พอ ๆ กับโลกได้ แต่อันที่จริงแล้วไม่มีใครสามารถมีชีวิตนิรันดร์อย่างแท้จริงได้ แม้แต่จอมปราชญ์สูงสุดในอดีตที่เข้าใจกฎจนถึงขีดจำกัดและกลายเป็นส่วนหนึ่งกับกฎก็ยังตายได้”
“ ยกตัวอย่างเช่นการต่อสู้เมื่อสามล้านปีก่อน จอมปราชญ์สูงสุดทั้งเจ็ดก็ยังตายหรือไม่ก็บาดเจ็บ แม้แต่อาจารย์ปู่ของข้า อัครสูงสุดอนัตตาก็ยังต้องพบกับจุดจบ แม้แต่จอมปราชญ์สูงสุดก็ไม่อาจจะได้รับชีวิตนิรันดร์ที่แท้จริงได้ นี่ไม่ต้องนับพวกที่ต่ำกว่าจอมปราชญ์สูงสุดเลย….”
“อะไรคือชีวิตนิรันดร์ ? เก่าแก่เหมือนกับโลกรึ ? ในสายตาข้าแล้ว มันเป็นแค่เรื่องตลก…” สุดท้ายนางก็หัวเราะออกมาราวกับไม่สนใจความเป็นความตายอีกต่อไป
มีเหตุผลอะไรที่ต้องมาดีใจกับการมีชีวิตอยู่ ? มันมีเหตุผลอะไรที่ต้องมากลัวตาย ?
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินเดินไปถึงตรงหน้าประตูหิน เขากดไปที่ประตูเพื่อเปิดมันออกช้า ๆ
ทันใดนั้นพลังงานอันบริสุทธิ์ก็ปะทุออกมา พลังนี้แฝงไปด้วยกฎของโลก เพราะเจี้ยนเฉินอยู่หน้าสุด พลังนี้จึงปะทะเข้ากับเข้าก่อนจนทำให้สติเขาสั่นไหว
เมื่อพลังพุ่งผ่านเขาไป เขาก็รู้สึกว่าตัวเองได้หลอมรวมกับโลก เขาหลับตาลงและเหมือนจะเห็นเส้นทางกว่าสามพันเส้นที่ถักทอกันเหมือนกับแหซึ่งทำให้เขารับรู้มันได้ทั้งหมด เขายื่นมือออกไปและรู้สึกเหมือนจะกำมันไว้ได้อย่างมั่นคง เขารู้สึกว่าเขาจับมันได้จริง ๆ
สติของหญิงชราเองก็สั่นไหว นางร้องออกมาด้วยความแปลกใจไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ “นะ นี่มันวิถีดั้งเดิมในตำนานรึ ? ” สีหน้าของนางดูซับซ้อน นางไม่เหมือนกับเจี้ยนเฉิน นางรู้ว่าวิถีดั้งเดิมนี้หายากและล้ำค่าแค่ไหน มันคือสมบัติที่แม้แต่ในหมู่จอมปราชญ์สูงสุดก็ยังต้องหลั่งเลือดเพื่อแย่งชิงมันมา”
นางหลับตาลงทันที นางพยายามทำความเข้าใจอย่างสุดความสามารถเพื่อดูดซับวิถีดั้งเดิมให้ได้มากที่สุด
ในเวลาเดียวกัน ไคยะก็อดไม่ได้ที่จะหลับตาลงเช่นกัน นางเริ่มดูดซับวิถีดั้งเดิมที่แผ่ออกมาจากประตูหิน ตอนนั้นแม้แต่ไคยะก็ไม่อาจจะรับรู้ได้ว่าหลุมดำปรากฏขึ้นในทะเลความคิดของนาง ทันทีที่วิถีดั้งเดิมเข้าไปในตัวนาง มันก็ถูกสูบเข้าไปในหลุมดำและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
ตั้งแต่ที่หลุมดำนี้ปราฏขึ้นมา ไคยะได้ดูดซับวิถีดั้งเดิมที่ปะทุออกมาจากประตูหินกว่าครึ่ง แม้แต่เจี้ยนเฉินและหญิงชรารวมกันแล้วก็ไม่อาจจะเทียบกับไคยะได้
“วิถีดั้งเดิม มันคือวิถีดั้งเดิมจริง ๆ ฉิงโซว เร็วเข้า รีบตื่น…” จิตวิญญาณกระบี่ที่หลับใหลมานานในตัวของเจี้ยนเฉินตื่นเต้นกันขึ้นมา
“มันคือวิถีดั้งเดิมจริง ๆ นี่คือสิ่งที่จอมปราชญ์สูงสุดในอดีตทิ้งเอาไว้ตอนจากไปในตอนที่ทำสมาธิ และวิญญาณของพวกเขาก็ได้กลับมายังโลก หนึ่งในสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในโลกนี้ จือหยิง เอามันมาทั้งหมด…”
หลังจากนั้นจิตวิญญาณกระบี่ก็ลงมือ จิตวิญญาณกระบี่ที่ซ่อนอยู่ในตัวของเจี้ยนเฉินได้เปลี่ยนเป็นหยินหยางหมุนวนรอบกัน ตอนที่หมุนวนนั้นมันก็เกิดการสูบขึ้นมาดึงเอาวิถีดั้งเดิมเข้าไปอย่างรวดเร็ว
ด้วยความช่วยเหลือของจิตวิญญาณกระบี่ วิถีดั้งเดิมที่ถูกเจี้ยนเฉินดูดซับก็เพิ่มขึ้นมาหลายเท่า ภายใต้การร่วมมือกันของพวกเขาแล้ว เขาสามารถดูดซับวิถีดั้งเดิมได้มากกว่าสามในสิบส่วน ไคยะดูดซับมันไปกว่าครึ่ง ส่วนหญิงชราได้ไปเพียงมากกว่าหนึ่งในสิบส่วนเล็กน้อย