เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2184 : มาเพื่อจัดการนาง
ตอนที่ 2184 : มาเพื่อจัดการนาง
แม้ว่าหญิงชราจะพูดแบบนั้น แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่คิดจะยอมแพ้ นี่คือมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด มันยากที่เขาจะใจเย็นได้
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ปล่อยพลังสายเลือดออกมาอีกครั้งเพื่อพยายามจะผ่านม่านพลังเข้าไป
แต่ครั้งนี้เจี้ยนเฉินกลับล้มสเหลว การใช้พลังเลือดเป็นตัวสนับสนุนคือสิ่งเดียวที่เขาคิดออกเท่านั้น แต่สุดท้ายผลลัพธ์ก็ล้มเหลว
มันราวกับว่าหญิงชราคนนี้พูดถูกว่ามีแค่สมาชิกของตระกูลหมาป่าเท่านั้นที่เข้าไปได้
“อย่าคิดเรื่องการโจมตีม่านพลังและเสียพลังไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะนี่สร้างขึ้นโดยจอมปราชญ์สูงสุดเอง มันไม่ได้ผลหรอก” หญิงชราพูดต่อ จากนั้นนางก็หันกลับแล้วเดินออกมา
เจี้ยนเฉินมองไปยังม่านพลังด้วยความเสียดาย เขาถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกท้อแท้ เขารู้ว่ามรดกของหมาป่านภาโบราณนั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะครอบครองได้ สุดท้ายเขาจึงได้แต่ออกจากที่นั่นไปพร้อมกับไคยะ
หลังจากที่ผ่านประตูหินออกมา ทั้งสองคนก็ได้กลับไปยังอุกกาบาต พวกเขาได้บินออกมาจากรูที่ขุดไว้ก่อนจะพบว่าหญิงชรายืนอยู่ที่ปลายหลุมมองไปยังท้องฟ้าอันมืดมนด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“พวกเขามาแล้ว พวกเขามาเร็วกว่าที่ข้าคิดเอาไว้ ค่ายกลปกปิดนี้ไร้ค่าแล้ว” นางยืนนิ่งและถอนหายใจออกมา
“ แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงรึ ? ” เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วและมองไปยังท้องฟ้าที่มืดมิดที่ไม่มีแสงดาว เขาค่อนข้างกังวลเพราะหอคอยอนัตตายังคงอยู่กับตัวเขา
“ถูกต้อง พวกเขาคือทหารที่ภักดีต่อพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงที่สุด แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทุกคนถูกเลือกมาจากอัจฉริยะนับไม่ถ้วนหลังจากการคัดเลือกที่เข้มข้น ทุกคนต่างก็ได้รับการสนับสนุนโดยพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ดังนั้นพวกเขาจึงแข็งแกร่งอย่างมาก มีแค่พวกอัจฉริยะระดับสูงที่เทียบกับพวกแม่ทัพเหล่านี้ได้ ซึ่งทำให้ยากจะจัดการพวกเขาได้” หญิงชราพูดขึ้นมาช้า ๆ จากนั้นนางก็มองไปที่เจี้ยนเฉินกับไคยะ ก่อนจะพูดด้วยท่าทีจริงใจ “พวกเจ้าสองคนควรรีบไปซะ พวกเจ้าควรออกจากที่นี่ก่อนที่แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์จะมาถึง เผื่อว่าจะเกิดปัญหาขึ้น”
“วิถีดั้งเดิมก่อนหน้านี้ควรจะเป็นของพวกเจ้า แต่ข้าไม่อาจจะควบคุมตัวเองได้ ดังนั้นข้าจึงดูดซับมันไปบางส่วน ผลก็คือข้าติดหนี้พวกเจ้า แต่ตอนนี้ข้าตกที่นั่งลำบากและหลังจากที่หนีมาตลอดหลายปีนี้ ข้าได้ใช้ทุกอย่างที่ข้ามี ผลก็คือข้าอาจจะตอบแทนพวกเจ้าไม่ได้” หญิงชราพูดด้วยท่าทีละอาย
“ผู้อาวุโส ทำไมท่านไม่เข้าไปในหอคอย ? เราหนีไปด้วยกันได้” เจี้ยนเฉินเอาหอคอยอนัตตาออกมาและบอกกับหญิงชรา นางไม่ใช่คนเลว นางโดนไล่ล่าเพราะอาจารย์ของนาง เขาอยากที่จะช่วยนางจริง ๆ
หญิงชราส่ายหน้าและพูดด้วยน้ำเสียงขมขื่น “หลังจากที่หนีมาตลอดหลายปี ข้าเหนื่อยแล้ว ข้าไม่ต้องการใช้ชีวิตไปกับการหนีอีกต่อไป ข้าเลือกที่จะตายที่นี่ ตายในที่ซึ่งหมาป่านภาโบราณจากไป มันถือว่าเป็นเกียรติสำหรับข้า”
นางมองไปที่เจี้ยนเฉิน “ข้าต้องเตือนเจ้าอย่างจริงใจว่าหอคอยในมือเจ้านั้นคือสิ่งของที่ผู้คนต้องการ มันเป็นไปไม่ได้ที่เจ้าจะครอบครองมันไว้ด้วยความแข็งแกร่งที่เจ้ามี ดังนั้นหาเวลาคืนมันให้กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงซะ”
“เจ้าต้องจำเอาไว้ว่าหอคอยนี้ไม่อาจจะตกอยู่ในมือแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ได้ ไม่เช่นนั้นแล้วผลงานทั้งหมดจะตกเป็นของพวกนั้น เจ้าต้องไปที่พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงด้วยตัวเองเพื่อคืนมัน ตอนนั้นแหละที่เจ้าจะได้ประโยชน์มากที่สุด เจ้าอาจจะได้รับการปกป้องจากองค์หญิงใหญ่ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง”
“ในโลกเซียนตอนนี้ การที่ได้รับการปกป้องจากองค์หญิงใหญ่สำคัญกว่าสิ่งใด เพราะองค์หญิงใหญ่คือหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเซียนนอกจากจอมปราชญ์สูงสุด “
ตูม !
ตอนนั้นเองได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นในท้องฟ้าและมีพลังงานที่ทำให้เจี้ยนเฉินต้องกลัว ปั่นป่วนที่อวกาศรอบนอก
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป
“ไม่นะ พวกเขามาถึงกันเร็วเช่นนี้ พวกเขาคงใช้ทักษะลับและเคลื่อนย้ายมาจากที่นี่โดยตรงจากที่อื่น ดูเหมือนว่าพวกเขาตัดสินใจแล้วว่าจะฆ่าข้า พวกเขาคงไม่ให้เวลาข้าได้พักหายใจแน่” หญิงชราพูดขึ้นด้วยสีหน้าเครียด จากนั้นนางก็มองไปที่เจี้ยนเฉินกับไคยะ และเอ่ยเร่งพวกเขา “เจ้าสองคนไปซะ ออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด อย่าให้โดนจับ”
เมื่อพูดจบหญิงชราก็พุ่งขึ้นไปบนฟ้า นางปลดปล่อยพลังขอบเขตเซียนออกมาทั้งหมดและพุ่งออกไปที่อวกาศรอบนอกด้วยความเด็ดเดี่ยวและไม่กลัวตาย นางจะไปสู้กับแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ที่ไล่ล่านางมาเป็นครั้งสุดท้าย ค่ายกลปกปิดด้านนอกอุกกาบาตแตกแล้วและแผ่นค่ายกลที่เสียหายก็หลุดร่วงออกสลายกลายเป็นฝุ่น
ซวนหมิงเป็นคนที่ใช้แผ่นค่ายกลนี้ มันมีคุณภาพที่น่าประทับใจและสามารถฆ่าขั้นอสงไขยได้ แต่ภายใต้การโจมตีของแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ มันกลับแตกสลายก่อนที่จะได้ใช้งาน
เมื่อไม่มีค่ายกลคอยขัดขวาง แสงดาวที่ถูกปกปิดเอาไว้ก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเจี้ยนเฉินและไคยะอีกรอบ
แต่ทั้งสองไม่ได้มีเวลามาชื่นชมท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กลับกันแล้วพวกเขาได้แต่มองไปด้านหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมาจากมิติภายนอก เขาเห็นได้ว่าหญิงชราถูกล้อมเอาไว้โดยผู้เชี่ยวชาญ 2 คนที่ส่องแสงสีทองออกมาจากตัว กฎขอบเขตตั้งต้นถูกใช้ออกมา พวกเขาปะทะกันอย่างดุเดือด มันรุนแรงจนแม้แต่ท้องฟ้าก็ยังดูมืดหม่น ทั้งบริเวณนั้นสั่นไหวพร้อมกับรอยแตกที่ปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
“ไคยะ ไปกัน” เจี้ยนเฉินมองไปยังพลังงานอันน่ากลัวที่อวกาศรอบนอกเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเอายานอวกาศออกมาจากแหวนมิติโดยไม่ลังเล แล้วเดินทางออกไปพร้อมกับไคยะในอีกทาง
มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้ของหญิงชรากับแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง แม้ว่าจะเข้ามาถึงขั้นสมบูรณ์แบบของจิตวิญญาณกระบี่ แต่เขาก็ไม่อาจจะช่วยนางได้เลย
ปัง !
ตอนที่ยานอวกาศบินออกมาจากอุกกาบาต มันเหมือนกับชนเข้ากับกำแพงที่มองไม่เห็น ยานสั่นไหวอย่างรุนแรงและหยุดลงทันที
“ไม่นะ ม่านพลังมิติ แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ได้ผนึกมิตินี้เอาไว้ เราไม่อาจจะหนีได้” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว