เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2187 : ค่าหัว
ตอนที่ 2187 : ค่าหัว
สายตาของเจี้ยนเฉินสะท้อนความเย็นชาออกมาเมื่อได้ยินเรื่องลัทธิปีศาจชั้นฟ้าอีกครั้ง
เขาจำได้ดีว่าเขากับไคยะโดนล่าโดยหนึ่งในรองหัวหน้าห้วยอันบนที่ราบเมฆายังไง เขาจำได้ทุกตอนตอนที่เขาหนีอย่างสิ้นหวังไปยังจักรวรรดินิรันดร์ตะวันโลหิต
ตอนนั้นเขาเป็นแค่จอมเทพ การรับมือกับห้วยอันที่อยู่ขอบเขตตั้งต้นนั้นทำให้เขาตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง หากไม่ใช่เพราะราชาศักดิ์สิทธิ์ที่ยื้อห้วยอันเอาไว้สักพัก เขาอาจจะหนีไปยังจักรวรรดินิรันดร์ตะวันโลหิตไม่ได้ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้น แต่ห้วยอันก็ยังไล่ตามเขาไปถึงเมืองหลวงของจักรวรรดินิรันดร์ตะวันโลหิต หากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นจากจักรวรรดินิรันดร์ตะวันโลหิตไม่ได้เข้ามายุ่งและหยุดห้วยอันเอาไว้ เจี้ยนเฉินกับไคยะอาจจะไม่สามารถขึ้นยานอวกาศและออกจากที่ราบเมฆ
บอกได้ว่าพวกเขาต้องฝืนใจออกมา พวกเขาโดนบังคับโดยรองหัวหน้าของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า เจี้ยนเฉินไม่มีโอกาสที่จะได้บอกลาคนตระกูลเทียนหยวนด้วยซ้ำ
เป็นธรรมดาที่เขาจะแค้นเคืองห้วยอันอย่างมาก
“ ข้าสงสัยว่าข้าจะฆ่าห้วยอันได้หรือไม่เมื่อร่างบรรพกาลขึ้นมาถึงขั้นที่ 13” เจี้ยนเฉินคิด เขาอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่น เขาอยากที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองโดยเร็ว
“ผู้อาวุโสซูหราน ข้าต้องการอยู่ที่ดาวเคราะห์เทียนหมิงต่อไปสักพัก ข้าจำเป็นต้องเก็บตัวและเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง ข้าไม่คิดจะออกจากที่นั่นจนกว่าจะทะลวงผ่านได้” เจี้ยนเฉินตัดสินใจและบอกกับซูหราน
ซูหรานคิดตามและพยักหน้า “งั้นก็ได้ ข้าเองก็ต้องการเวลาหรับการบ่มเพาะเช่นกัน แม้ว่าข้าจะฟื้นฟูบาดแผลขึ้นมาแล้วแต่ข้าก็ยังต้องการเวลาในการฟื้นฟูการบ่มเพาะที่เสียไปเพื่อที่ข้าจะได้กลับสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง”
หลังจากนั้นทั้งสามคนก็ได้ลงไปยังดาวเคราะห์เทียนหมิงด้วยกัน พวกเขากำลังจะหาเมืองเพื่อพักชั่วคราว แต่ตอนที่ผ่านอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็พบกับสนามรบไกลออกไปที่ซึ่งมีควันลอยออกมาอยู่ทั่วทุกที่ กองทัพที่ประกอบด้วยพวกขอบเขตดั้งเดิมและพวกขอบเขตเทพหลายคนเข้าต่อสู้กันเอาเป็นเอาตาย นำไปสู่การหลั่งเลือดจนก่อแม่น้ำเลือดขึ้นมาได้
ในท้องฟ้านั้นมีพลังงานอันแข็งแกร่งก่อตัวเป็นพายุพัดกระจายออกมา ราชาเทพหลายสิบคนกำลังต่อสู้กันอยู่
“นั่นลัทธิปีศาจชั้นฟ้า ! ” เมื่อเห็นกลิ่นอายปีศาจกินพื้นที่ครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า เจี้ยนเฉินก็บอกได้ทันทีว่ามันเป็นของลัทธิปีศาจชั้นฟ้า เขาเองก็เคยรับรู้อะไรแบบนี้มาก่อน
ตอนที่มองดูทหารที่ตายอยู่ในสนามรบ เจี้ยนเฉินก็เงียบไป เขารู้สึกเศร้ากับการตายของพวกนี้จากก้นบึ้งหัวใจ เขารู้แล้วว่าลัทธิปีศาจชั้นฟ้าก่อสงครามอย่างต่อเนื่องนั้นไม่ใช่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเอง มันคือการเก็บแก่นเลือดและพลังวิญญาณของผู้บ่มเพาะที่ตายไปในสนามรบ หลังจากนั้นพวกนั้นก็จะควบรวมเป็นลูกประคำเลือดและลูกประคำวิญญาณขึ้นมาผ่านค่ายกลที่แข็งแกร่ง
หลังจากที่ถอนหายใจออกมาแล้ว เจี้ยนเฉินก็ไม่ได้อยู่ที่นั่นต่อนานนัก เขาได้เดินทางออกไปต่อ
ไม่นานพวกเขราก็มาหยุดที่เมืองหลวงของจักรวรรดิโบราณที่ชื่อ ‘พันใบไม้’
“ไม่ใช่แค่มีค่ายกลที่แข็งแกร่งปกป้องเมืองนี้ แต่พลังงานดั้งเดิมที่นี่ก็หนาแน่นกว่าด้านนอกหลายเท่า อยู่ที่นี่กันก่อน” ซูหรานมองไปยังเมืองตรงหน้าและบอกกับเจี้ยนเฉินและไคยะ
แต่ไม่นานสีหน้านางก็ดูประหลาดไป นางมองไปที่เจี้ยนเฉินและพูดขึ้นว่า “เจ้าควรปลอมตัวเสียหน่อย”
“ปลอมตัว ? ” เจี้ยนเฉินแปลกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขาเงยหน้าขึ้นมองเมืองตรงหน้าและคิดตามก่อนจะเริ่มปลอมตัวทันที
ไม่นานเขากับไคยะก็ดูหน้าตาต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง ทั้งสองปกปิดพลังของตัวเองไว้และเข้าไปในเมืองพร้อมกับซูหราน
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในเมือง เจี้ยนเฉินก็พบป้ายประกาศล่าค่าหัวเขา ด้านข้างรูปนั้นมีข้อความเกี่ยวกับตัวเขารวมไปถึงทักษะที่เขาเชี่ยวชาญ, กฎที่เขาใช้และเรื่องอื่น ๆ
“ คนที่ตั้งค่าหัวข้าคงเป็นบรรพชนกระบี่เดียวดาย” ตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นตัวหนังสือสามตัวด้านล่าง สีหน้าเขาก็เคร่งเครียดขึ้นมา
“ตราบใดที่ให้ข้อมูลนำจับเจี้ยนเฉินได้ เจ้าจะได้รับเงินทองมหาศาลจากบรรพชนกระบี่เดียวดาย และเขาจะถือว่าติดหนี้บุญคุณเจ้า หากเจ้าสามารถจับเจี้ยนเฉินได้และส่งเขาให้กับบรรพชนกระบี่เดียวดาย เจ้าจะมีโอกาส 3 ครั้งที่จะให้บรรพชนกระบี่เดียวดายลงมือทำสิ่งที่เจ้าต้องการได้ หึหึหึ ข้าไม่คิดว่าชายหนุ่มที่ชื่อเจี้ยนเฉินผู้นี้จะมีค่ามากมายแบบนี้ เพราะตัวเขามันจึงเป็นไปได้ที่จะมีโอกาส 3 ครั้งที่จะให้อัครสูงสุดลงมือด้วยตัวเองได้”
“ยิ่งกว่านั้นคนผู้นี้คือบรรพชนกระบี่เดียวดาย บรรพชนกระบี่เดียวดายคือคนที่มีชื่อเสียงในโลกเซียน แม้แต่ในหมู่อัครสูงสุด เขาก็ถือว่าเป็นคนที่โดดเด่น” ซูหรานมองเจี้ยนเฉินแล้วก็ถอนหายใจออกมา
“งั้นรึ ? บรรพชนกระบี่เดียวดาย ตอนนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของโลกเซียนตอนนี้ แค่ทำให้เขาติดหนี้บุญคุณได้สักครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้อาณาจักรและองค์กรชั้นนำมากมายสนใจ ตั้งแต่บรรพชนกระบี่เดียวดายได้ตั้งค่าหัวเจี้ยนเฉินไม่กี่ปีมานี้ ไม่ใช่แค่มีองค์กรมากมายบนดาวเคราะห์เราที่ทำการค้นหาคนที่ชื่อเจี้ยนเฉิน แต่มันก็ยังมีองค์กรมากมายในดาวเคราะห์อื่นที่พยายามอย่างมากเพื่อหาตัวเขา พวกเขาต่างก็ต้องการโอกาสที่จะให้ บรรพชนกระบี่เดียวดายลงมือแทนพวกเขา 3 ครั้งนั่น”
ผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆ กระซิบกระซาบตอนที่ซูหรานเดินผ่าน
“ข่าวลือบอกว่าบรรพชนกระบี่เดียวดายเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 5 มันเพียงพอที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดบนดาวเคราะห์ท้องฟ้าทมิฬของเรา”
“นี่ไม่ต้องนับดาวเคราะห์เราเลย บรรพชนกระบี่เดียวดายนั้นไร้เทียมทานในหมู่ดาวเคราะห์อันดับล่าง ๆ เช่นกัน”
ผู้คนโดยรอบพากันพูดคุยกัน ทุกคนต่างก็พูดถึงบรรพชนกระบี่เดียวดายด้วยความสนใจ
“ไปกันเถอะ ไปหาที่พักกันก่อน” ซูหรานบอกกับเจี้ยนเฉินและออกไปทันที
หลังจากที่พวกเขาออกไปแล้ว มันก็มีผู้หญิงหุ่นเพรียวบางแต่ใบหน้าน่าเกลียดผล่ตรงหน้าป้ายประกาศจับเจี้ยนเฉิน นางมองไปที่รูปเจี้ยนเฉินใกล้ ๆ ราวกับจะจดจำมันไว้ให้ได้ทุกรายละเอียด
“ตรงหน้าข้านี้คือโอกาสครั้งเดียวในชีวิต เจี้ยนเฉิน แม้ว่าเราจะไม่ได้มีความแค้นเคืองต่อกัน แต่ข้าก็ต้องหาเจ้าให้พบ เพราะหากหาเจ้าพบ บรรพชนกระบี่เดียวดายจะติดหนี้บุญคุณข้าและด้วยหนี้บุญคุณครั้งนี้ บรรพชนกระบี่เดียวดายจะลงมือและช่วยน้องฉิงยี่หยวนจากตระกูลกัส” นางกำหมัดแน่นพร้อมสายตาเด็ดเดี่ยว นางได้สาบานในใจ “น้องฉิงยี่หยวน รอข้าก่อน ข้าจะหาทางช่วยเจ้าให้ได้”
เจี้ยนเฉิน, ไคยะและซูหราน หาโรงเตี้ยมเพื่อพักชั่วคราว พวกเขาได้จ่ายเงินค่าเช่าไป 3 ปี เจี้ยนเฉินได้เข้าไปที่ห้องตัวเองและสร้างค่ายกลเพื่อเก็บตัวบ่มเพาะ
เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ในห้องพร้อมกับแหวนมิติหลายวงที่โผล่มาในมือ เขาเริ่มจัดทรัพยากรในการบ่มเพาะเพื่อเตรียมตัวสำหรับการทะลวงผ่าน