เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2190 : ข่าวของคนรู้จัก
ตอนที่ 2190 : ข่าวของคนรู้จัก
เจี้ยนเฉินเหมือนกับไม่ได้ยินคำพูดของพวกนั้น เขากลับกำกล่องไม้แน่นพร้อมกับแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา
มือของเขาที่ถือกล่องไม้ไว้ถึงกับสั่นไหวเล็กน้อย
เขายืนยันได้ทันทีที่เห็นว่าลูกท้อสีม่วงในกล่องคือลูกท้อเมฆม่วงที่เขาได้ให้กับคนที่สนิทกับเขาไว้ ตอนที่เขาออกมาจากทวีปเทียนหยวนเพื่อมายังโลกเซียน
ชัดแล้วว่าลูกท้อในกล่องนี้เป็นลูกท้อเมฆม่วงระดับอมตะขั้น 1
แม้แต่กล่องไม้ที่ใส่ลูกท้อไว้ก็เป็นสิ่งที่เขาทำขึ้นเองในอดีต
“พี่ชาย คืนมันให้กับข้าด้วยเถอะ” หญิงสาวพูดขึ้นด้วยความกังวล ลูกท้อเมฆม่วงอยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน แต่นางไม่กล้าที่จะแย่งมันมาจากเขา
เจี้ยนเฉินได้สติกลับมา เขาระงับความตื่นเต้นและอึดอัดที่มีก่อนจะมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “เจ้าได้มันมาจากไหนกัน ? ”
“ทะ ทำไมข้าต้องบอกเจ้าด้วย ละ และนั่นมันก็ของข้า คืนมาให้กับข้าด้วย” นางเริ่มอึดอัดภายใต้สายตาเสียดแทงของเจี้ยนเฉิน
“สหาย นี่คือเมืองหลวงของ จักรวรรดิพันใบ ร้านยาจิตวิญญาณกุยของเราเป็นของตระกูลกุย เจ้าคิดจะสร้างเรื่องวุ่นวายในร้านที่ตระกูลกุยเป็นเจ้าของหรือ ? ” น้ำเสียงของเจ้าของร้านดูเย็นชาขึ้นมา เขามองเจี้ยนเฉิน แม้ว่าจะไม่เห็นระดับการบ่มเพาะของเจี้ยนเฉินและรู้ว่าเจี้ยนเฉินแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่ได้กลัวเลยแม้แต่น้อย
ตระกูลกุยคือหนึ่งในตระกูลชั้นนำของ จักรวรรดิพันใบ พวกเขาอยู่ระดับเดียวกับตระกูลราชวงศ์ ด้วยการสนับสนุนจากตระกูลกุย มันก็ไม่มีใครกล้าพอที่จะสร้างปัญหากับร้านค้าภายในจักรวรรดิพันใบ
หลังจากนั้นเจ้าของร้านก็มองไปที่ผู้หญิงและแสดงสายตารังเกียจออกมา เขาได้พูดขึ้น “แม่นาง เอาของเจ้าคืนไป กฎของเมืองหลวงครอบคลุมที่นี่ ในเมืองหลวงมันมีแต่การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียม การกระทำที่บังคับคนหรือขโมยนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม ไม่งั้นแล้วจะเป็นการท้าทายจักรวรรดิพันใบ และเท่ากับดูถูกจักรวรรดิ” ในคำพูดส่วนท้ายเจ้าของร้านได้บอกกับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจคำพูดของเจ้าของร้าน เขามองไปที่ผู้หญิงด้วยสายตาเสียดแทงยิ่งกว่าเดิม พลังแห่งการมีอยู่อันแข็งแกร่งได้แผ่ออกมาจากตัวเขา เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เจ้าขโมยมันมารึ ? บอกข้ามา เจ้าขโมยมันมาจากไหนกัน ? ”
นางเป็นแค่ขั้นเทพ ดังนั้นนางจึงหน้าซีดเมื่อต้องเจอกับพลังแห่งการมีอยู่จากเจี้ยนเฉิน สายตาของนางเต็มไปด้วยความกลัวและนางก็พูดขึ้นด้วยเสียงที่สั่น “มะ ไม่ นะ น้องสาวของข้าให้มันกับข้า น้องสาวของข้าไม่ได้ขโมยมันมาจากใคร นะ นางบอกว่านางนำมันติดตัวมาจากโลกเบื้องล่าง”
สีหน้าของเจี้ยนเฉินดูผ่อนคลายขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนั้น หลังจากนั้นสายตาที่เขามองนางก็ดูอ่อนโยนขึ้นมา เขามองไปที่เจ้าของร้านด้วยท่าทีหงุดหงิดพร้อมกับคิ้วขมวดเล็กน้อย เขาได้บอกกับผู้หญิง “หากเจ้าพูดความจริง งั้นข้าสนิทกับน้องสาวของเจ้า มันไม่สะดวกที่จะพูดคุยกันที่นี่ ไปที่อื่นกันเถอะ” เจี้ยนเฉินคืนกล่องไม้ให้กับนางและเดินออกไป
จักรวรรดิพันใบเป็นจักรวรรดิโบราณ ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าจะมีใครขโมยลูกท้อเมฆม่วงจากนางภายใต้การดูแลของเขาไปได้
“พี่สาวของนางรึ ? มันมีผู้หญิงมากมายในทวีปเทียนหยวนที่ขึ้นมาถึงขอบเขตดั้งเดิม ข้าสงสัยว่าเป็นใครกันที่มายังโลกเซียน” เจี้ยนเฉินคิด เขาอยากที่จะรู้ว่าคนรู้จักผู้นี้เป็นใครกัน
“ช้าก่อน แม่นาง นี่คือเหรียญผลึกระดับสูง 100 เหรียญ รับมันไว้ และจากนั้นสมบัติสวรรค์ในมือเจ้าจะเป็นของร้านนับจากนี้” เจ้าของร้านโผล่มาข้างกายหญิงสาวและยื่นถุงผ้าที่มีเหรียญผลึกใส่มือของหญิงสาวก่อนจะรีบยื่นมือไปยังกล่องไม้
เขาดูแลเรื่องสมบัติสวรรค์มาหลายปี ดังนั้นขาจึงพอมีความรู้อยู่บ้าง แม้จะไม่รู้จักลูกท้อเมฆม่วง แต่เขาก็ตัดสินได้ว่าสมบัติสวรรค์นี่ที่ไม่ได้อยู่ระดับสูงนั้นซับซ้อนกว่านี้ หากดูจากพลังที่มันแผ่ออกมาเพียงอย่างเดียว แต่ตอนที่เจ้าของร้านยื่นมือออกมานั้น มันก็มีอีกมือจับมือเขาไว้แน่น เจี้ยนเฉินที่ออกจากร้านไปแล้วได้โผล่มาอีกครั้งเพื่อหยุดเจ้าของร้านเอาไว้
“เจ้าอยากซื้อสมบัติสวรรค์นี่ด้วยเหรียญผลึกระดับสูงแค่ร้อยเหรียญรึ ? เจ้าคำนวณได้ดีจริง ๆ เราไม่ขาย” เจี้ยนเฉินฮึดฮัด ลูกท้อเมฆม่วงมีปราณหยานหวง นี่คือสิ่งที่วิเศษซึ่งไม่อาจจะเปิดเผยได้ในโลกเซียน
“เจ้า…” เจ้าของร้านหงุดหงิด ตอนที่เขากำลังจะตะโกนออกมานั้น เขาก็ต้องกลืนคำพูดลงไปเมื่อเห็นสายตาของ เจี้ยนเฉิน เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรต่อ
นี่เพราะเขารู้สึกกลัวขึ้นมากับสายตานั้น ความกลัวกัดกินหัวใจเขา
“ไปกันเถอะ” เจี้ยนเฉินไม่คิดจะอยู่ต่อ เขาออกจากร้านและเรียกผู้หญิงคนนั้นออกมา
นางลังเลอยู่สักพักก่อนที่สุดท้ายจะตามเจี้ยนเฉินไป
ไม่นานเจี้ยนเฉินก็พานางมายังเขตห่างไกลของเมือง เขามองไปที่นางและพูดขึ้น “ชื่อของคนที่มอบมันให้กับเจ้าคืออะไร ? ”
นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความลังเล นางไม่มั่นใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายคนนี้กับน้องสาวของนาง หากเขาเป็นศัตรู นางคงดึงน้องมาลำบากด้วย
แต่ทันทีที่นางคิดถึงสถานการณ์ของน้องสาวในตอนนี้ นางก็ตัดสินใจทันที “น้องสาวของข้าชื่อฉิงยี่หยวน เจ้ารู้จักนางจริง ๆ หรือ ? ”
“ฉิงยี่หยวน ! มันเป็นนางจริง ๆ ! ” เจี้ยนเฉินผงะ เขาไม่คิดเลยว่าคนรู้จักคนแรกที่เขาได้พบที่มาจากบ้านเกิดในโลกเซียนแห่งนี้จะเป็นฉิงยี่หยวน
“ข้าไม่คิดว่าฉิงยี่หยวนจะมายังโลกเซียนเช่นกัน แต่มันก็มีเหตุผล เมื่อลองคิดดูแล้ว พรสวรรค์ของฉิงยี่หยวนไม่ได้แย่ ด้วยสภาพแวดล้อมที่แย่ของทวีปเทียนหยวน นางก็ยังสามารถบ่มเพาะจนถึงขั้นเซียนระดับราชาได้ เมื่อพลังงานดั้งเดิมที่ทวีปเทียนหยวนฟื้นฟูขึ้นมาและโลกนั้นได้เชื่อมต่อกับโลกเซียน สภาพแวดล้อมการบ่มเพาะจึงพัฒนาขึ้นอย่างมาก ด้วยพรสวรรค์ของฉิงยี่หยวนแล้ว การขึ้นมาถึงขอบเขตดั้งเดิมก็ไม่ใช่เรื่องยาก” เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาดีใจกับเรื่องนี้
มันคู่ควรกับการฉลองที่จะได้อยู่ด้วยกันกับคนรู้จักในต่างแดนแบบนี้
เมื่อเห็นสีหน้าของ เจี้ยนเฉิน นางก็ยืนยันได้ว่าเขาไม่ใช่แค่รู้จักน้องสาวของนางแต่ยังไม่ใช่ศัตรูด้วย นางถึงได้โล่งอก
“ตอนนี้ฉิงยี่หยวนอยู่ที่ไหน ? ” เจี้ยนเฉินถามขึ้นมา
“สถานการณ์ของน้องสาวข้าไม่ค่อยสู้ดีนัก นางโดนจับไปโดยคนของตระกูลกัส ดังนั้นนางจึงตกอยู่ในอันตราย จะ เจ้าช่วยน้องสาวข้าได้หรือไม่ ? ” นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความหวัง แต่นางก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวังอีกครั้ง นางเหมือนจะสลดไป
ตระกูลกัสคือหนึ่งในตระกูลชั้นนำของจักรวรรดิพันใบ พวกนั้นมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นและอยู่ระดับเดียวกับตระกูลราชวงศ์ ในฐานะคนที่มาจากโลกเบื้องล่างไม่นานมานี้ แม้ว่าฉิงยี่หยวนจะรู้จักคนในโลกเซียน แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกนั้นจะแข็งแกร่งเมื่อคิดจากระดับการบ่มเพาะของนาง
“เจ้าว่าไงนะ ? ฉิงยี่หยวนโดนจับรึ ? ” รอยยิ้มของเจี้ยนเฉินหายไปและสีหน้าหม่นลงไปในทันที