เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2196 : จุดสูงสุดของระดับสูง
ตอนที่ 2196 : จุดสูงสุดของระดับสูง
ชายวัยกลางคนคือบรรพชนของตระกูลนักรบโลหิต
“จะ เจ้าอยู่ขอบเขตตั้งต้นรึ ? ” บรรพชนมองมาที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไป เขาดูอึดอัดใจ
“ระดับการบ่มเพาะของข้ามันไม่ได้สำคัญ ที่สำคัญคือเจ้าอาจจะไม่มีความสามารถที่จะสังหารข้า” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับปราณกระบี่ที่แผ่ออกมารอบตัวเป็นแสงสีขาวเงิน แสงนี้แผ่ออกไปโดยอรบทำให้เขาดูราวกับเทพที่ลงมาจากสวรรค์
เขาชี้นิ้วออกไป ตอนที่เจตจำนงกระบี่ที่เป็นของจิตวิญญาณกระบี่ในขั้นสมบูรณ์แบบปรากฏขึ้นมา เส้นปราณกระบี่สีทองก็อัดแน่นขึ้นมาด้านหน้า มันได้พุ่งทะลุอากาศออกไปเข้าใส่บรรพชนของตระกูลนักรบโลหิต
ปราณกระบี่สีทองนี้เหมือนกับจะมีสีดำบางส่วนอยู่ด้วย มันคือพลังบรรพกาล
สีหน้าของบรรพชนบิดเบี้ยวไป เขาชี้นิ้วออกมาพร้อมกับเส้นพลังแห่งการสังหารที่มารวมตัวกันรอบตัว พวกมันได้ก่อตัวเป็นลำแสงกฎปะทะกับปราณกระบี่ที่พุ่งเข้ามา
ด้วยเสียงระเบิดที่ดังก้องขึ้น ปราณกระบี่สีทองได้สลายออกไปจากการปะทะนี้เหลือทิ้งไว้แต่เพียงเศษเสี้ยวพลังที่กระจายออกไปโดยรอบ
ลำแสงที่อัดแน่นขึ้นมาจากกฎก็หม่นลงเช่นกันแต่มันไม่ได้สลายไป มันกลับใช้พลังที่เหลือพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉิน ต่อ
“กระบี่ต้าหลัวคงไม่พอ” เจี้ยนเฉินขมวดคิ้วกับผลลัพธ์ที่ออกมา หลังจากที่ร่างบรรพกาลขึ้นมาถึงขั้นที่ 13 และจิตวิญญาณกระบี่ได้ขึ้นมาถึงขั้นสมบูรณ์แบบของเส้นทางแห่งกระบี่แล้ว เขาก็รู้ว่าทักษะกระบี่มากมายที่เข้าใจก่อนหน้านี้กลับไร้ค่าในระดับนี้
นี่เพราะด้วยความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้แล้ว แม้แต่การโจมตีธรรมดาก็ยังทรงพลังกว่าขีดจำกัดของกระบี่ต้าหลัว ผลลัพธ์ก็คือกระบี่ต้าหลัวของเขากลับมีพลังแค่รูปร่างของทักษะแต่ไม่ได้มีแก่นแท้ของมัน
ดวงตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลง เขายอมแพ้กับการใช้ทักษะกระบี่ที่เขารู้มา เขาสะบัดแขนเสื้อแล้วส่งลำแสงเพื่อสลายพลังสังหารที่เหลือทิ้ง หลังจากนั้นเขาก็ชี้นิ้วที่มือขวาออกมาอัดแน่นปราณกระบี่ขึ้นเป็นเส้นพลังที่เหมือนกับกระบี่ก่อจะพุ่งเข้าใส่บรรพชน
สีหน้าของบรรพชนหม่นลง เขากันการโจมตีของเจี้ยนเฉินและตะโกนออกมาว่า “นายน้อยเจียงหยาง ครั้งนี้เป็นความผิดของข้าเอง แต่โชคดีที่ผลลัพธ์นี้ยังไม่ถึงขั้นผิดพลาด ข้าหวังว่านายน้อยจะยกโทษให้กับข้า และข้าจะกลับไปทันที “
“ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าข้าแข็งแกร่ง ข้าคงกลายเป็นศพไปแล้วเมื่อเจ้าต้องการสังหารข้า ข้าก็ไม่อาจจะปล่อยเจ้าไปได้ มีแค่เราเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะรอดออกจากที่นี่ในวันนี้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา เขาหยุดใช้ทักษะกระบี่ทั้งหมดและสู้ด้วยวิธีพื้นฐานที่สุด เขากวัดแหว่งปราณกระบี่บนนิ้วและแทงออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาเร็วยิ่งกว่าแสงเหลือทิ้งไว้แค่เพียงภาพติดตา ภาพติดตานี้ถึงกับทับซ้อนกันและดูหนาแน่นราวกับห่าฝน
ตอนนันเองการโจมตีของเขาคงอธิบายได้แค่ว่ามันราวกับพายุ
“นายน้อยเจียงหยาง เราไม่อาจจะปล่อยวางเรื่องนี้ไปได้จริง ๆ หรือ ? ” บรรพชนถามด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
แม้ว่าความแข็งแกร่งของนายน้อยจะทำให้เขาแปลกใจ แต่เขาก็บอกได้ว่านายน้อยผู้นี้อ่อนแอกว่าเขาเล็กน้อย หากเขาใช้พลังทั้งหมดที่มีและยอมบาดเจ็บในระดับหนึ่ง มันก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่านายน้อยที่นี่
ยิ่งกว่านั้นที่นี่ก็คือโลกจิ๋วของเขา ตราบใดที่โลกจิ๋วยังอยู่ เขาก็ไม่ต้องกังวลว่านายน้อยจะหนีไป
“ หากข้าเป็นแค่ราชาเทพ เจ้าจะปล่อยให้ข้ารอดไปงั้นรึ ? มันเป็นไปไม่ได้ที่ข้าจะยกโทษและลืมเรื่องนี้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา รังสีอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวเขาพร้อมกับพลังที่ปะทุขึ้นมา เขาได้โจ่มตีออกไปเต็มกำลังไม่ได้ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย
เจี้ยนเฉินพอเข้าใจความแข็งแกร่งของตัวเองแล้ว ร่างบรรพกาลขั้นที่ 13 นั้นทำให้เขามีสิทธิท้าทายพวกขอบเขตตั้งต้นได้ ด้านเดียวที่ขาดไปคือความเข้าใจกฎ
ในด้านของกฎที่เขาเข้าใจแล้ว กฎแห่งการทำลายล้างยังอยู่ที่ขั้นเหนือเทพช่วงปลาย ส่วนกฎแห่งกระบี่นั้นอยู่เทียบเท่ากับราชาเทพช่วงสูงสุด ในการปะทะกันของกฎแล้ว เขาไม่ใช่คู่มือของกฎแห่งการสังหารของบรรพชน เขาต้องพึ่งพลังในการต่อสู้ที่ใช้พลังบรรพกาลของเขาเพื่อปิดช่องว่างที่มีระหว่างเขากับผู้ที่อยู่ขอบเขตตั้งต้น
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็อย่าถือโทษข้า” สายตาของบรรพชนสะท้อนความชั่วร้ายออกมา พลังงานอันน่ากลัวปะทุมาจากตัวเขาราวกับคลื่นพร้อมกับกฎขอบเขตตั้งต้นที่ได้แผ่ไปทั่วมิติ
เขาได้สร้างผนึกขึ้นด้วยมือ ทุกการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงเหมือนจะผูกมัดกับความจริงของโลกและมีความลึกลับของกฎราวกับว่าจะทำให้โลกเคลื่อนไหวได้
“ฝ่ามือโลกาวินาศ ! ” จู่ ๆ บรรพชนกลับตะโกนออกมา เขาได้เข้าโจมตีเจี้ยนเฉินโดยตรงด้วยฝ่ามือที่แฝงไปด้วยความจริง
ทันใดนั้นพลังงานอันน่ากลัวและพลังของกฎรอบตัวบรรพชนก็อัดแน่นกลายเป็นมือขนาดใหญ่อัดเข้าใส่เจี้ยนเฉินด้วยพลังแห่งการมีอยู่ที่มาจากโลกที่น่ากลัว
โลกจิ๋วนี้สั่นไหวอย่างรุนแรง มันดูเหมือนว่ามันจะถึงขีดจำกัดของโลกจิ๋วนี้แล้ว
“ทักษะต่อสู้ระดับเทพ ! ” สีหน้าของเจี้ยนเฉินเปลี่ยนไป เขาเคร่งเครียดขึ้นมา นี้คือทักษะต่อสู้ระดับเทพซึ่งผู้ที่อยู่ขอบเขตตั้งต้นใช้ออกมา ดังนั้นพลังทั้งหมดของมันจึงถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ มันไม่เหมือนกับการโจมตีของสุดยอดราชาเทพในพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนที่ซึ่งทั้งวัตถุเทพและทักษะต่อสู้ระดับเทพอ่อนแอลงเมื่ออยู่ในมือพวกนั้น
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะขึ้นมาถึงขั้นที่ 13 แล้ว แต่เขาก็ไม่กล้าจะเผชิญหน้ากับทักษะต่อสู้ระดับเทพของบรรพชนด้วยความประมาท เขารับรู้ได้ถึงพลังแห่งการมีอยู่มหาศาลจากทักษะต่อสู้ระดับเทพที่แผ่พลังมันออกมา
ด้วยการพลิกฝ่ามือ กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ก็ปรากฏขึ้นในมือของเจี้ยนเฉิน พลังบรรพกาลในตัวเขาบ้าคลั่งขึ้นมา พลังทั้งหมดถูกถ่ายเข้าไปในกระบี่นจนทำให้อาวุธนั้นระเบิดแสงระยิบระยับออกมา มันเหมือนกับว่าดาวนับไม่ถ้วนได้มารวมตัวกัน ดาวถูกสร้างขึ้นมาจากกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ทีละดวง ๆ
1,2….6
ด้วยการที่ดาวทุกดวงที่ถูกสร้างขึ้นมา แรงกดดันที่กระบี่ได้แผ่ออกมาจึงแข็งแกร่งขึ้น มันหยุดตอนที่ดาวดวงที่ 6 ได้ถูกสร้างขึ้นมา ตอนนั้นแรงกดดันจากกระบี่ก็น่ากลัวอย่างมาก มันไม่ได้ด้อยไปกว่าทักษะต่อสู้ระดับเทพของบรรพชนเลย
“วัตถุเทพ ! “
เมื่อรับรู้ได้ถึงแรงกดดันจากกระบี่ สีหน้าของบรรพชนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาอิจฉาจากก้นบึ้งหัวใจ
วัตถุเทพนั้นล้ำค่าในโลกเซียนที่แม้แต่พวกขอบเขตตั้งต้นหลายคนก็ไม่ได้มีในครอบครอง แม้ว่าบรรพชนของตระกูลนักรบโลหิตจะขึ้นมาถึงขอบเขตตั้งต้นแล้ว และเป็นหนึ่งในคนระดับสูงของจักรวรรดิพันใบ แต่เขาก็ไม่ได้มีวัตถุเทพในครอบครอง
เจี้ยนเฉินแกว่งกระบี่ในมือและพลังอันน่ากลัวก็ปะทุออกมาราวกับคลื่นยักษ์ ภายใต้แสงที่ส่องประกายจากดวงดาว มันก็ได้เข้าปะทะกับฝ่ามือของบรรพชนทันที