เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2198 : การตายของขอบเขตตั้งต้น (2)
ตอนที่ 2198 : การตายของขอบเขตตั้งต้น (2)
บรรพชนของตระกูลนักรบโลหิตดีใจอย่างมาก เขาเชื่อว่าเขาเป็นคนแรกที่หาเจี้ยนเฉินพบ ตราบใดที่เขาเอาข่าวนี้ไปบอกกับบรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าได้ การทำลายตระกูลกัสก็เป็นเรื่องง่ายดาย
ตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นว่าบรรพชนตื่นเต้นขึ้นมา แรงอาฆาตเขาก็ปะทุขึ้น เขาพูดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา “เมื่อข้ากล้าพอจะสู้กับเจ้าที่นี่ มันก็หมายความว่าข้าไม่ได้กลัวจะเปิดเผยตัวตนของข้า และข้าก็จะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดออกจากที่นี่ไปได้”
“ฮ่าฮ่า เจี้ยนเฉิน เจ้าหยิ่งทะนงจนดูถูกผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น ข้าอยากเห็นว่าเจ้าจะยื้อข้าไว้ยังไงในวันนี้” บรรพชนหัวเราะออกมา หลังจากที่รู้ตัวตนของเจี้ยนเฉินแล้ว เขาก็ไม่คิดที่จะสู้อีกต่อไป เขาได้ถอยกลับไปเพื่อจะนำข่าวนี้ไปบอกกับบรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าให้เร็วที่สุด
บรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้าเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่โด่งดังไปทั่วโลกเซียน ความสามารถของทั้งคู่นั้นโดดเด่น ทั้งสองได้ลงรายละเอียดไว้ในป้ายประกาศเรื่องชุดผนึกมือง่ายๆที่ใช้เรียกพวกเขา ตราบใดที่มีคนใช้ผนึกมือนั่น มันก็จะแจ้งต่อ บรรพชนกระบี่เดียวดาย แล ราชาเผิงสีฟ้า ทันทีไม่ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ตาม
แม้ว่าจะมีคนนับไม่ถ้วนที่รู้จักผนึกมือนี่ในโลกเซียน แต่ก็ไม่มีใครกล้าติดต่อบรรพชนกระบี่เดียวดายและราชาเผิงสีฟ้า เพราะทั้งสองสามารถหาคนที่ใช้ผนึกมือนั้นเจอได้อย่างง่ายดาย เมื่อรู้ว่ามีคนปั่นหัวพวกเขา ผลที่ตามมานั้นมันร้ายแรงจนไม่มีใครจะทนรับได้ไหว
ชัดแล้วว่าบรรพชนรู้จักผนึกมือนี้เพราะท่านี้มันเรียบง่าย เขาจำมันได้ทันทีที่เห็น
แต่ในโลกจิ๋วที่เขาได้สร้างขึ้นมา ก็เป็นเหมือนที่เขาบอกไว้ก่อนหน้านี้ มันค่อนข้างพิเศษ เมื่อยอู่ด้านในไม่ใช่แค่ทักษะลับทั้งหมดสำหรับการหนีจะไร้ค่า แต่แม้แต่วิธีการสื่อสารก็ยังไร้ค่าไปด้วย
ผลก็คือเขาจำเป็นต้องออกจากโลกจิ๋วก่อนเพื่อจะใช้ผนึกมือแจ้งไปยังผู้เชี่ยวชาญระดับสูงทั้งสองคน
“เจ้าขังข้าไว้ในโลกจิ๋วนี่แต่มันก็ขังเจ้าไว้ด้วย รวมกับการที่เจ้าบาดเจ็บและพลังงานข้าอยู่ในตัวเจ้า แผลเจ้ามีแต่จะร้ายแรงขึ้นเรื่อย ๆ ข้าอยากเห็นเหมือนกันว่าเจ้าจะหนีจากเงื้อมมือข้าได้ยังไง” เจี้ยนเฉินแค่นเสียงออกมา เขาได้โคจรพลังบรรพกาลเข้าไปในกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ ซึ่งทำให้มันเปล่งแสงออกมาเหมือนดวงดาวนับไม่ถ้วน แสงนี้ดูน่าหลงใหล ดาวทั้งหกดวงถูกสร้างขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ตะโกนออกมาแล้วเขาก็ได้แทงออกไปเต็มกำลัง
การโจมตีที่น่ากลัวนี้เท่ากับพวกขอบเขตตั้งต้นได้ใช้ทักษะต่อสู้ระดับเทพ ตอนที่แทงออกไป ท้องฟ้าและพื้นดินต่างก็สั่นไหวอย่างแรง มิติสั่นไหวพร้อมกับปราณกระบี่ที่เปล่งแสงออกมาสร้างแรงกดดันมหาศาลใส่ตัวของบรรพชน
สีหน้าของบรรพชุนเปลี่ยนไปทันที เขาหรี่ตาลง เขารับรู้ได้ถึงอันตรายจากการโจมตีนี้ มันมากเสียจนมากกว่าคู่แค้นของเขา บรรพชนของตระกูลกัส
ยิ่งกว่านั้นมันก็ล็อคเป้ามาที่พลังของเขา เจตจำนงกระบี่ได้ผนึกมิติโดยรอบ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหลบหรือหนี
ตอนนั้นมันสายเกินไปแล้วที่เขาจะใช้ทักษะต่อสู้ระดับเทพออกมาเป็นครั้งที่ 2 พลังงานดั้งเดิมได้ปะทุออกมาพร้อมกับกฎขอบเขตตั้งต้นได้มารวมตัวกันที่วัตถุเซียนของเขา เขาได้ฟันมันออกไปเต็มกำลัง
แกร๊ก !
เสียงดังสนั่นราวกับฉีกแก้วหูได้ดังขึ้น วัตถุเซียนขั้นสูงสุดได้แตกเป็นชิ้น ๆ กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ยังคงเปล่งแสงออกมาต่อ มันได้ฟันเข้าใส่โดยไม่ได้ลดความเร็วลงเลยแม้แต่น้อย ตัดแขนขวาทั้งแขนของบรรพชนไป
ใบหน้าของบรรพชนบิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดกับการเสียแขน เลือดได้ไหลออกมาจากไหล่ราวกับน้ำพุกระจายไปทั่วท้องฟ้า
“หากไม่ใช่เพราะวัตถุเทพของเจ้า เจ้าคงไม่มีทางเป็นคู่มือของข้าได้” บรรพชนตะโกนออกมา เขาไม่ได้มีร่างกายที่แข็งแกร่งเหมือนกับเจี้ยนเฉิน หลังจากที่บาดเจ็บสาหัสไป 2 รอบ พลังในการสู้ของเขาก็ลดฮวบลง นี่ยังไม่รวมการที่เขาเสียแขนขวาที่สำคัญไป ดังนั้นความสามารถในการตอบโต้ของเขาจึงลดลงเรื่อย ๆ
ยิ่งกว่านั้นเจี้ยนเฉินก็ได้ใช้พลังบริสุทธิ์ของกฎแห่งกระบี่และพลังบรรพกาลตอนที่แทงออกไปด้วย พลังทั้งสองนี้คลั่งราวกับม้าป่า
บรรพชนได้ใช้พลังทั้งหมดเพื่อรับการโจมตีของเจี้ยนเฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่มีแรงเหลือกดพลังอันบ้าคลั่งในตัว ผลก็คือเขาได้แต่ปล่อยให้พลังนั้นคลั่งได้ตามใจซึ่งมีแต่ทำให้บาดแผลของเขาแย่ลง ยิ่งเวลาผ่านไปเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งเสียเปรียบเท่านั้น
บรรพชนมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความแค้น เขากัดฟันแน่นและถอยกลับไปได้ห่างกว่าร้อยกิโลเมตรในพริบตา จากนั้นเขาก็สะบัดแขนซ้ายพร้อมกับมิติข้าง ๆ ที่เปิดออกสร้างเป็นประตูมิตินำไปสู่โลกภายนอก จากนั้นเขาก็ก้าวออกไปโดยไม่ลังเล
โบร้ว !!!!
ตอนที่เจี้ยนเฉินเห็นอีกฝ้ายคิดจะออกไปจากโลกจิ๋ว มันก็เกิดเสียงคำรามของหมาป่าดังขึ้นมา คลื่นเสียงอันน่ากลัวได้ก่อตัวขึ้นจนเกิดเป็นคลื่นที่มองเห็นได้แผ่ออกไป คลื่นนี้แฝงไปด้วยความอ้างว้างและแรงกดดันมหาศาลที่เหมือนจะอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทั้งหมด
แรงกดดันนี้มันราวมาจากเส้นทางสวรรค์ มันแข็งแกร่งและน่าตกใจจนเพียงพอทำให้วิญญาณของคนต้องสั่นไหวได้
ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้ใช้พลังของสายเลือดหมาป่านภาโบราณออกมา มันได้คำรามออกมาด้วยเสียงที่น่าตกใจ พลังสายเลือดนี้ได้ดูดซับแก่นเลือดมาอย่างต่อเนื่องจนทำให้มันแข็งแกร่งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เทียบกับในอดีตแล้ว พลังของมันต่างระดับกันอย่างสิ้นเชิง
ตอนที่บรรพบุรุษกำลังจะก้าวออกไปจากโลกจิ๋ว จู่ ๆ เขาก็ตัวแข็งทื่อไป วิญญาณของเขาได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังนี้ทำให้เขาไม่อาจจะขยับตัวได้ สายตาของเขาถึงกับดูว่างเปล่าไป
แต่เขาอยู่ขอบเขตตั้งต้น ใช้เวลาแค่เพียงเสี้ยววินาที เขาก็รวบรวมสติได้
แต่ในการต่อสู้ที่ขอบเขตตั้งต้น เสี้ยววินาทีนี้เพียงพอที่จะตัดสินชัยชนะได้ ทันทีที่บรรพชนรวบรวมสติได้ เขาก็เห็นปราณกระบี่เปล่งประกายแสงดาวไม่รู้จบแผ่ออกมาจนเขาโดนแสงนั่นกลืนกิน
ฉัวะ !
ก่อนที่บรรพชนจะได้ตอบโต้ กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ก็ได้แทงเข้าใส่ที่หน้าผากของเขาและแทงทะลุหัวเขาจนทำลายวิญญาณของเขาไป
เพราะแบบนั้นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นจึงตายไป
ตอนที่บรรพชนของตระกูลนักรบโลหิตตายไป ชายแก่ที่เหมือนกับปราชญ์ก็ได้ลืมตาอันแดงก่ำขึ้นมา เขาอยู่ในห้องโถงที่มีไว้สำหรับราชาภายในพระราชวังของจักรวรรดิห่างออกมาหลายล้านกิโลเมตร สายตาเขาเหมือนจะมองผ่านอุปสรรคนับไม่ถ้วนได้และมองไปยังจุดที่เจี้ยนเฉินกับบรรพชนสู้กันอยู่ เขาถึงกับสีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา
“ช่างเป็นเสียงคำรามของหมาป่าที่น่ากลัวและยังมีพลังจากการต่อสู้ที่ขอบเขตตั้งต้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นของตระกูลหมาป่ามาที่นี่ ใกล้กับเมืองหลวงรึ ? ” ชายแก่คือเหตุผลที่มีจักรวรรดิพันใบแห่งนี้ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นเพียงคนเดียวของตระกูลราชวงศ์ มันเป็นเพราะเขาที่จักรวรรดิพันใบถึงได้อยู่อันดับต้น ๆ ในหมู่จักรวรรดิโบราณของดาวเคราะห์เทียนหมิง
ในเวลาเดียวกันเขาคือคนที่คอยคานอำนาจของตระกูลชั้นสูงทั้งสามเอาไว้
ตอนที่พูดนั้น ชายแก่ได้ลุกขึ้นยืนและกำลังจะออกไป
การต่อสู้ระหว่างขอบเขตตั้งต้นได้เกิดขึ้นที่นอกเมืองหลวง นี่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับจักรวรรดิพันใบ ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องไปตรวจสอบทันที
ยังไงซะทั้งจักรวรรดิพันใบก็มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นแค่เพียง 4 คนหากนับรวมเขาด้วย