เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2199 : เปิดเผยตำแหน่ง
ตอนที่ 2199 : เปิดเผยตำแหน่ง
แต่ตอนที่ชายแก่กำลังจะออกจากที่พักของตนนั้น พลังอันน่าตกใจก็ปรากฏขึ้น มันพุ่งทะลุค่ายกลด้านอกห้องโถงก่อตัวเป็นม่านพลังห่อหุ้มภายในห้องโถงเอาไว้
เมื่อรับรู้ได้ถึงพลังอันน่ากลัวที่ม่านพลังแผ่ออกมา สีหน้าของชายแก่ก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่อาจทำใจเย็นได้อีกต่อไป สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความกลัว
“ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าจักรวรรดิพันใบทำให้ผู้อาวุโสขุ่นเคืองใจหรือ ? ข้าหวังว่าผู้อาวุโสจะเมตตาเราด้วย” ชายแก่ป้องมือและพูดขึ้นมาด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น เขาคิดว่าจักรวรรดิของเขาทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ
“สิ่งที่เกิดขึ้นด้านนอกไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า อยู่เฉย ๆ ” เสียงแก่ ๆ ดังก้องไปทั่วห้องโถง
“ได้ ผู้อาวุโส ! ”
ในเวลาเดียวกันผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น 2 คนจากสามตระกูลชั้นสูงที่ไม่เคยสนใจเรื่องรอบตัวก็ต้องตื่นตกใจขึ้นมาเพราะคลื่นพลังนอกเมืองนี้ ตอนที่พวกนั้นกำลังจะออกจากที่เก็บตัวของตนนั้น พวกนั้นก็ต้องถูกขังไว้ในม่านพลังที่กันไม่ให้พวกนั้นออกไปได้
ที่ตำแหน่งที่สู้กันนั้น เจี้ยนเฉินได้ดึงกระบี่ออกมาจากหน้าผากของบรรพชน เขาเช็ดเลือดที่กระบี่ออกและเก็บกระบี่เข้าไปในแหวนมิติก่อนจะมองไปด้านหลัง
ลูกแก้วสีขาวเงินขนาดเท่ากับกำปั้นลอยอยู่ มันส่องประกายแสงขมุกขมัวออกมาดูน่าหลงใหล
เจี้ยนเฉินรู้ว่าลูกแก้วสีขาวนี่คือสิ่งที่สร้างโลกจิ๋วขึ้นมา เขารีบพุ่งเข้าไปและคว้ามันไว้ หลังจากนั้นเขาก็หันกลับและแบกศพบรรพชนคิดจะออกจากที่นั่นไป
นี่เพราะตอนที่เขาฆ่าบรรพชนไป ประตูสู่โลกจิ๋วได้ถูกเปิดออก คลื่นพลังจากการต่อสู้เป็นธรรมดาที่จะไหลผ่านประตูออกไปสู่โลกภายนอก เพราะแบบนั้นแม้แต่เสียงคำรามของหมาป่าก็ยังแผ่ไปปด้านนอกอย่างชัดเจน มันต้องมีคนมาตรวจสอบที่นี่ในไม่ช้า ดังนั้นเขาจึงไม่อาจจะอยู่ต่อที่นี่ได้
“ข้าไม่คิดว่าเจ้าจะมีความสามารถฆ่าพวกขอบเขตตั้งต้นได้”
แต่ตอนที่เจี้ยนเฉินคิดจะหนีไป มันก็มีเสียงแก่ ๆ ดังขึ้นมาด้านหลังเขา ซูหรานที่ซึ่งแต่งตัวดูธรรมดาได้ปรากฏตัวขึ้นด้านหลังของเขา
นางยังคงปกปิดพลังของตัวเองซึ่งทำให้นางดูราวกับผี นางเคลื่อนที่ไปมาได้อย่างไร้ร่องรอย ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงไม่อาจจะรับรู้ได้ตอนที่นางมาถึง หากไม่ใช่เพราะนางพูดขึ้นมา เจี้ยนเฉินอาจจะไม่รู้ว่านางมาอยู่ด้านหลังเขา
“ผู้อาวุโสซู ท่านมาตอนไหนกัน ? ” เจี้ยนเฉินป้องมือให้กับซูหราน
ซูหรานมองไปที่เจี้ยนเฉิน “เจ้าคือคนที่ทำให้โลกเซียนต้องสั่นคลอน แต่ข้ากลับติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่กับเจ้า ข้าจะไม่ดูแลเจ้าได้ยังไง ? ข้ารู้ทุกอย่างที่เจ้าทำในจักรวรรดิพันใบ” แม้ว่าระดับการบ่มเพาะของนางจะลดลงแต่นางก็ยังแกร่งกว่าคนระดับเดียวกัน มันเป็นไปไม่ได้ที่จะนำนางไปเทียบกับขั้นอสงไขย เมื่อนับทักษะและทักษะต่าง ๆ ที่นางมี
สีหน้าของเจี้ยนเฉินแปลกไป ทันใดนั้นเขาก็พบว่าจริง ๆ แล้วเขายากจะปิดบังความลับจากซูหรานได้ นางสามารถจับตาดูเขาได้โดยที่เขาไม่รู้ตัว
“นี่คือความน่ากลัวของขั้นบรรพกาลหรือ ? ” เจี้ยนเฉินตะลึง
ซูหรานมองไปที่หินสีขาวในมือของเจี้ยนเฉินและพูดขึ้นว่า “หินในมือเจ้าคือสิ่งที่สร้างขึ้นมาจากลูกแก้ววิญญาณที่ถูกพบบนหัวของสัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่ สัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่นั้นคือสายพันธุ์โบราณและหายาก ในยุคนี้แล้วสัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่แทบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว ”
“สัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่ทุกตัวทำการบำรุงจักรวาลและพัฒนามันเป็นโลกจริงขึ้นมา ลูกแก้ววิญญาณในมือเจ้าคือสมบัติในตัวสัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่ มันมีค่าอย่างมาก”
“มันเพราะโลกจิ๋วที่สร้างขึ้นจากลูกแก้ววิญญาณของสัตว์อสูรปฐพีเก่าแก่นั้นมีคุณสมบัติพิเศษ เจ้าอาจจะรู้ถึงมันบางส่วนแล้ว”
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะทำการตรวจสอบลูกแก้วในมือ เขาไม่คิดว่าลูกแก้วนี่จะมีต้นกำเนิดเช่นนี้
“น่าเสียดายที่ลูกแก้ววิญญาณในมือเจ้ามีคุณภาพจำกัด ไม่งั้นแล้วมันคงล้ำค่า” ซูหรานถอนหายใจและพูดขึ้นมาด้วยท่าทีเสียดาย จากนั้นนางก็มองไปยังร่างของบรรพชนและอดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมาก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไปกันเถอะ เราไม่อาจจะอยู่บนดาวเคราะห์เทียนหมิงได้อีกต่อไป”
เจี้ยนเฉินมองตามสายตาของซูหรานเพื่อตรวจสอบศพที่เขาแบกอยู่ เพราะแบบนั้นสีหน้าเขาถึงบิดเบี้ยวไป เพราะมือซ้ายของศพนี้ได้ทำผนึกมือแปลก ๆ อยู่
เจี้ยนเฉินคุ้นกับผนึกมือนี้ ทุกใบประกาศจับได้บ่งบอกไว้ว่ามันคือผนึกมือเพื่อใช้ติดต่อบรรพชนกระบี่เดียวดาย และราชาเผิงสีฟ้า ชัดแล้วว่าบรรพชนของตระกูลนักรบโลหิตได้ใช้ผนึกมือตอนที่เปิดประตูออกไปจากโลกจิ๋ว ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะฆ่าอีกฝ่ายได้สำเร็จ
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะบอกได้ทันทีว่าบรรพชนไม่อาจจะทำท่าผนึกมือได้เสร็จสิ้น แต่บรรพชนกระบี่เดียวดายและรนาชาเผิงสีฟ้าต่างก็เป็นพวกระดับสูง ไม่มีใครรู้ว่าผนึกที่ไม่สมบูรณ์นี่จะทำให้ทั้งสองสนใจได้หรือไม่
“ไปกันเถอะ ! ” เจี้ยนเฉินตะโกนออกมาพร้อมกับโยนศพบรรพชนเข้าไปในหอคอยอนัตตา จากนั้นเขาก็รีบออกไปพร้อมกับซูหราน
ฉิงยี่หยวนในชุดสีฟ้าได้บอกลาหญิงสาวที่มีแผลเป็นที่หน้าภายในกระท่อมหินในเขตที่ห่างไกลของเมืองหลวง
“พี่จือชิงเฉิง เจ้าต้องรอข้า เมื่อข้าแข็งแกร่งเพียงพอ ข้าจะมาหาเจ้าที่ดาวเคราะห์เทียนหมิง” ฉิงยี่หยวนกอดอีกฝ่ายไว้แน่นพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
“ไปเถอะ ไม่ต้องห่วงข้า เจ้าอย่าลืมสิว่าข้าเป็นขั้นเทพ แม้ว่าข้าจะไม่ได้แข็งแกร่งนักแต่ข้าก็ปกป้องตัวเองได้” จือชิงเฉิงพูดขึ้น นางรู้สึกขมขื่น เป็นธรรมดาที่นางจะรู้ว่าฉิงยี่หยวนไม่ได้อยู่ในชะตาที่ต่างจากการที่ตกอยู่ในมือของตระกูลกัส หากนางตามนายน้อยเจียงหยางไป แต่นายน้อยคนนี้คือคนที่แม้แต่ตระกูลกัสก็ยังไม่อาจจะทำให้ขุ่นเคืองใจได้ ฉิงยี่หยวนไม่มีพลังมากพอจะหนีจากอีกฝ่ายได้
“พอได้แล้ว นายท่านเร่งข้าให้พาเจ้าไปยังค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล เราต้องไปแล้ว” ตอนนั้นเฮยหยาได้พูดขึ้นมา เขาได้เอาเหรียญผลึกออกมาจากแหวนมิติและมอบมันให้กับจือชิงเฉิง ก่อนจะกลับไปพร้อมกับฉิงยี่หยวน
บรรพชนกระบี่เดียวดายที่นั่งอยู่บนอุกกาบาตที่มิติภายนอกไกลออกไปจากดาวเคราะห์เทียนหมิง เขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อยราวกับรูปปั้น
ราชาเผิงสีฟ้ายืนนิ่งหลับตาอยู่เหนืออุกกาบาต เขามองไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้วยสายตาเย็นชา
“ลูกน้องข้าคงหาต้นกำเนิดของเจี้ยนเฉินมาได้ในเร็ว ๆ นี้ ตราบใดที่หาได้ว่าเขาเป็นคนของตระกูลไหนและใช้ตระกูลนั่นมาขู่ ข้าก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไม่โผล่ออกมา แม้ว่าเขาจะทิ้งตระกูลตัวเองมาแล้ว แต่ข้าก็ยังหาเขาเจอ ที่ข้าต้องทำก็แค่ทำให้ญาติของเขาได้หลั่งเลือด และข้าก็จะสามารถหาได้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน” ราชาเผิงสีฟ้าพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ตอนนั้นจู่ ๆ บรรพชนกระบี่เดียวดายก็ลืมตาขึ้น ตาเขาเป็นประกายและมองไปยังมิติภายนอก เขาได้ตะโกนออกมาว่า “มีคนทำท่าผนึกมือที่ข้าทิ้งเอาไว้”
รังสีอาฆาตของราชาเผิงสีฟ้าปะทุออกมาจนทำให้มิติบิดเบี้ยว เขาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “ไม่มีใครกล้าพอจะใช้วิธีติดต่อกับเราโดยไม่มีหัวคิด เมื่อมันถูกใช้ก็แปลว่ามีคนพบร่องรอยของเจี้ยนเฉิน เขาอยู่ที่ไหน ? ”
“ผนึกนี้ไม่ได้สมบูรณ์แต่มันเชื่อมต่อกับข้า ตอนที่ถูกใช้นั้น กฎของโลกได้เปลี่ยนไปเล็กน้อยและข้าก็รับรู้ได้ถึงมันอย่างแม่นยำ ที่นั่นน่าจะเป็นดาวเคราะห์เทียนหมิง” บรรพชนกระบี่เดียวดายลุกขึ้นยืนทันที
“ข้าจะไปก่อน ! ” ราชาเผิงสีฟ้าเปลี่ยนเป็นแสงสีฟ้าพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูง ในพริบตาเขาก็หายไปในมิติภายนอก
บรรพชนกระบี่เดียวดายนั้นกลับกัน เขากลับจมลงไปในอุกกาบาต มันมีค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลที่เพียงพอจะส่งคนไปทั่วที่ราบที่นี่ได้ เขายืนอยู่ใจกลางค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกลและโยนเหรียญผลึกห้าสีออกไปก่อนที่ผลึกนั้นจะหายไป
ระยะทางไปยังดาวเคราะห์เทียนหมิงนั้นไกลอย่างมาก ดังนั้นมันคงใช้เวลานาน เขาไม่ได้เร็วเท่ากับราชาเผิงสีฟ้า ดังนั้นวิธีการเดินทางที่เร็วที่สุดสำหรับเขาก็คือการใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล