เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2242 : กลียุคบนที่ราบเมฆา
ตอนที่ 2242: กลียุคบนที่ราบเมฆา
เช่นเดียวกับเจี้ยนเฉินที่กลับไปยอดเขาทะยานเมฆพร้อมกับชัยชนะกับไป๋หยู ที่ราบเมฆาที่อยู่ห่างไกลกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้ที่วุ่นวาย
พันธมิตรเทียนที่นำโดยจักรพรรดิเทียนและกลุ่มพันธมิตรต่อต้านที่นำโดยยอดเขาเทียนซานเข้าปะทะและเกิดสงครามขึ้น
แม้ว่ากลุ่มพันธมิตรต่อต้านจะมีผู้คนประมาณครึ่งหนึ่งจากตระกูลระดับสูงบนที่ราบเมฆา พวกเขาก็ถูกบังคับให้ล่าถอยออกมาอย่างต่อเนื่องในการทำสงครามกับพันธมิตรเทียน
พวกเขาไม่ได้แพ้ให้กับพันธมิตรเทียนในจำนวนของผู้เชี่ยวชาญระดับสูง แต่พันธมิตรเทียนนั้นมีปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้ ทำให้กลุ่มของเขาต้องแตกพ่าย
เมื่อรวมเข้ากับจักรพรรดินิรันดร์ทั้งสี่ของพันธมิตร ไม่เพียงแต่พันธมิตรเทียนจะมีข้อได้เปรียบด้านจำนวนผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง แต่มันยังได้เปรียบอย่างท่วมท้นเช่นเดียวกัน
นำโดยจักรพรรดินิรันดร์ทั้งสี่ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นและทหารนับไม่ถ้วนปะทะกับคนที่มีความแข็งแกร่งพอ ๆ กันจากกลุ่มพันธมิตรต่อต้าน
ที่ราบเมฆาเต็มไปด้วยหมอกควันจากสงคราม ศพที่กองทับถมบนซากศพเป็นชั้น ๆ และเลือดที่ไหลดั่งแม่น้ำ มันเป็นราวกับนรกในชีวิตจริง
ผู้เฒ่าเทียนซานต่อสู้กับปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้หลายครั้งในอวกาศ ตอนนี้เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสและได้ถอยทัพออกมาจากภาคกลางของกลุ่มพันธมิตรต่อต้านและป้องกันที่ภาคเหนือ
ภาคกลางได้ล่มสลายอย่างสมบูรณ์ ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของจักรวรรดิเทียนในตอนนี้
ยิ่งกว่านั้นสาขาของปีศาจชั้นฟ้าในที่ราบเมฆาถูกทำลายโดยปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้ นอกเหลือจากห้วยอัน รองหัวหน้าอีก 2 คนก็ตายจากการต่อสู้
ห้วยอันได้เลือกที่จะทรยศลัทธิปีศาจชั้นฟ้าและยอมจำนนต่อปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้
อาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนจากภาคใต้ไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามเนื่องจากอยู่ห่างไกล พวกเขายังคงเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตามผู้บ่มเพาะทุกคนในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ปิงเทียนต่างก็ตกอยู่ในความหวาดกลัว พวกเขากลัวว่าวันหนึ่งการต่อสู้จะมาถึงที่นี่
เมื่อเทียบกับพวกเขา ตระกูลเทียนหยวนในแคว้นตงอันนั้นมีความสงบกว่ามาก ราวกับว่าพวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับการต่อสู้เลย
แน่นอนว่าความสงบของพวกเขามาจากสิ่งที่หมิงตงพูดไว้ว่า “ทุกคนไม่ต้องห่วง ตราบใดที่ข้ายังอยู่ที่นี่ พวกเขาก็ไม่อาจสัมผัสกับเส้นผมของตระกูลเทียนหยวนแม้แต่เส้นเดียวของเจ้าได้ ต่อให้ปีศาจสวรรค์เที่ยงแท้มาด้วยตัวเอง
แม้ว่าสิ่งที่หมิงตงพูดจะดูเหมือนไร้สาระ แต่ทุกคนในตระกูลเทียนหยวนก็เชื่อมั่น
นี่เป็นเพราะมีสุดยอดขั้นบรรพกาลติดตามหมิงตงไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน !
และมันก็ทำให้ตระกูลเทียนหยวนยังอยู่สบายดีเมื่อสงครามเกิดบนที่ราบเมฆา คนที่บ่มเพาะก็ยังคงบ่มเพาะต่อไป ในขณะที่คนอื่นก็ทำหน้าที่ของตนเองตามปกติ
และตอนนี้ กลุ่มคนหลายสิบคนที่โชกเลือดได้บินมาที่แคว้นตงอัน พวกเขามาถึงตระกูลเทียนหยวนอย่างรวดเร็ว
หมิงตงที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนกับหยุนเสี่ยวหยานดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงการมาของคนเหล่านี้ ดวงตาของเขามีแสงแวบออกมาอย่างเย็นชา
“พวกเขานี่ไม่กลัวตายจริง ๆ ถึงต้องมายั่วยุตระกูลเทียนหยวนของเรา” หมิงตงพูดพร้อมกับแผ่จิตสังหาร
อย่างไรก็ตามตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสของตระกูลเทียนหยวน ซีหยูได้พุ่งขึ้นไปบนอากาศเป็นคนแรก นางมองไปยังผู้คนหลายสิบคนที่เข้ามาใกล้ตระกูลอย่างรวดเร็วและดีใจน้ำตาไหลทันที
“เสด็จแม่ ! ” ซีหยูตะโกนออกมาและออกไปรับพวกเขาทันที
“หยูเอ๋อ ! ” หญิงที่ดูสง่างามที่อยู่ด้านหน้าก็มีความสุขเช่นกัน นางมาถึงด้านหน้าของซีหยูเพียงอึดใจเดียวและโอบกอดซีหยูอย่างแน่นหนา
ผู้หญิงคนนี้เป็นจักรพรรดินีของจักรวรรดิซี
อย่างไรก็ตามนางเต็มไปด้วยเลือด แม้กระทั่งหลายคนที่อยู่ด้านหลังของนางต่างก็โชกเลือดและได้รับบาดเจ็บ
“เสด็จแม่ เกิดอะไรกับท่าน ? เกิดอะไรขึ้นที่พระราชวัง ? และเสด็จพ่ออยู่ที่ไหน ? เสด็จพ่อเป็นอย่างไรบ้าง ? ” สีหน้าของซีหยูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อนางเห็นเลือดบนตัวของจักรพรรดินี หัวใจของนางเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ
ในเวลานี้หมิงตงก็ขึ้นไปบนท้องฟ้ากับหยุนเสี่ยวหยานที่มองจากที่ไกล ๆ
“หยูเอ๋อ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะพูดเรื่องนี้ ออกไปจากที่นี่กับทุกคนในตระกูลเทียนหยวน ยิ่งเร็วยิ่งดี ไม่มีเวลาเหลือแล้ว” จักรพรรดินีได้กล่าวอย่างเร่งรีบ นางดึงซีหยูไปกับนางขณะที่บินไปยังตระกูลเทียนหยวน ไม่มีเวลาให้นางอธิบายเลย
“เสด็จแม่ เกิดอะไรขึ้น ? ” ซีหยูรู้สึกไม่สบายใจพลางถามอย่างกังวล
“อย่าถามตอนนี้ หยูเอ๋อ ฟังแม่ รวบรวมคนสำคัญทันที” จักรพรรดินีพูดอย่างเคร่งเครียดก่อนที่จะมองไปยังชายร่างเตี้ยที่อยู่ข้างหลังของนาง “ประธานเทียน โปรดเตรียมค่ายกลเคลื่อนย้ายทันที”
ชายชราตัวเตี้ยอยู่ในขอบเขตอสงไขยเช่นกัน เขาพยักหน้ารับกับคำสั่งของจักรพรรดินีและเริ่มที่จะสร้างค่ายกล
“ที่นี่ปลอดภัย ท่านไม่จำเป็นต้องไปไหน” ในเวลานี้หมิงตงที่มาพร้อมกับหยุนเสี่ยวหยานก็พูดออกมาอย่างใจเย็น
จักรพรรดินีมองไปที่หมิงตง แม้ว่าจะไม่รู้จักเขา แต่นางก็สามารถบอกได้ว่าเขาเป็นแค่เพียงราชาเทพ เมื่อรวมกับสถานการณ์ที่เร่งด่วน นางก็ไม่อารมณ์เสียจากคำพูดของหมิงตง นางเพียงแค่สั่งให้ประธานเทียนยกเลิกการสร้างค่ายกล
“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ายังไม่หนีไปอีกหรือ ? จักรพรรดินี เจ้าคิดว่าจะหนีรอดจากข้าไปได้งั้นหรือ ? ” ในตอนนี้มีเสียงตะโกนดังออกมาจากที่ไกล ๆ คนกลุ่มหนึ่งเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วจากระยะไกล พวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วมากและเข้ามาในอาณาเขตของเมืองในพริบตาและล้อมกลุ่มคนของจักรพรรดินีไว้
สีหน้าของจักรพรรดินีเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดทันที นางมองไปที่ซีหยูที่อยู่ข้าง ๆ นางและน้ำตาร่วงออกมาทันที นางคิดว่า”ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะมาถึงเร็วเพียงนี้ แม้ว่าข้าต้องตายที่นี่ ข้าจะต้องส่งหยู่เอ๋อออกไปอย่างปลอดภัย ข้าไม่อาจปล่อยให้เกิดอะไรกับนางได้”
ผู้นำเป็นชายชราเหลือบมองไปที่ซีหยูและจักรพรรดินี เขาเย้ยหยัน “จักรพรรดินี ทำไมเจ้าไม่หนีอีกเล่า ? วันนี้ไม่เพียงแต่เจ้าจะหนีไม่รอด แม้แต่องค์หญิงซีหยูของเจ้าก็ต้องตาย ตระกูลเทียนหยวนที่เล็กจ้อยก็ต้องถูกทำลายเพราะเจ้าเช่นกัน”
ชายชราคงสภาพดีกว่านี้หากเขาไม่พูดถึงตระกูลเทียนหยวน ใบหน้าของหมิงตงหมองทันทีเมื่อเขาได้ยินคำพูดเหล่านี้ จิตสังหารวาบผ่านสายตาของเขาก่อนที่จะหัวเราะเยาะ “จริงหรือ ? ข้าต้องการดูว่าใครหน้าไหนกล้าที่จะแตะต้องตระกูลเทียนหยวนในวันนี้”
ชายชรามองไปที่หมิงตงด้วยความตกใจ ในตอนนี้เขาเริ่มสงสัยว่าเขาจะหูฝาดเสียแล้ว ราชาเทพเพียงคนเดียวกล้าพูดกับเขาเช่นนี้ได้
ไม่เพียงแต่ชายชราจะตกตะลึงเช่นนั้น จักรพรรดินีก็มองไปที่หมิงตงด้วยความประหลาดใจ
เมื่อชายชรากลับมารู้สึกตัว เขาก็มองไปที่หมิงตงอย่างเย็นชาและพูดว่า “ข้าสามารถกวาดล้างตระกูลเทียนหยวนได้เพียงแค่โบกมือ ข้าจะแสดงให้เจ้าเป็นว่าข้าทำลายตระกูลได้อย่างไร”
จากนั้นชายชราก็โบกมือของเขาไปยังตระกูลเทียนหยวน
ทันใดนั้นก็มีแรงกดดดันที่ทรงพลังของขอบเขตอสงไขยขั้นที่ 9 ออกมาจากร่างของเขา มือขนาดใหญ่ของเขาปรากฏขึ้นบนอากาศและกวาดไปยังตระกูลเทียนหยวนที่พร้อมจะฉีกมันด้วยพลังที่น่ากลัว