เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2245 : บรรพชนจักรพรรดิในจักรวรรดิซี
ตอนที่ 2245: บรรพชนจักรพรรดิในจักรวรรดิซี
มิติแตกหักและพลังงานที่หนาแน่นของโลกก็กระจายออกไปรอบ ๆ อย่างสั่นไหวราวกับโดนกระบีชี้เข้าที่คอ
นี่คือความแข็งแกร่งของขั้นบรรพกาล การโจมตีแบบง่าย ๆ นี้ก็เพียงพอที่จะเกิดเป็นการทำลายล้างทั้งโลกและทลายภูเขาได้ง่าย ๆ
บรรพชนนิกายแยกสวรรค์นั้นไม่ได้มีส่วนร่วม ดวงตาของเขาเบิกกว้างขณะที่มองไปที่ลุงหมิงของหมิงตง เขารู้ว่าบรรพชนสำนักสี่เสากระบี่ใช้การโจมตีนี้เพื่อทดสอบพลังของชายกลางคนและเพื่อบ่งบอกความแข็งแกร่งของเขา
การพิสูจน์นี้ตรงกับความตั้งใจของเขาเพราะเขาสามารถคาดเดาได้ว่าชายกลางคนเป็นขั้นบรรพกาล อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเขาอยู่ชั้นสวรรค์ที่เท่าไร
“ข้าอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 2 และกงซุนเต๋าก็เหมือนกับข้า หากคนนี้เป็นชั้นสวรรค์ที่ 3 เราจะสามารถรับมือได้หากร่วมมือกัน อย่างไรก็ตามหากเขาเหนือกว่านั้นและอยู่ชั้นสวรรค์ที่ 4 ขึ้นไป…เราอาจจะไม่ใช่คู่มือของเขาแม้ว่าเราจะร่วมมือกัน” บรรพชนนิกายแยกสวรรค์คิด
ใบหน้าของลุงหมิงไม่ได้เปลี่ยนไปเมื่อเขาจ้องมองไปที่กระบี่ทั้งสี่ที่กำลังมาถึง เขายกมือขึ้นอย่างสบาย ๆ และชี้ออกไป
เพียงแค่นี้ ก็เกิดกฏที่ทรงพลังมากพอที่จะทำให้บรรพชนทั้งสองหน้าซีด พวกมันรวมตัวกันจนเหลือไว้เพียงเส้นแสงและโจมตีที่กระบี่ทั้งสี่ในคราวเดียว
ตูม !
กระบี่ทั้งสี่เล่มส่งเสียงเบา ๆ หลังจากที่แสงสีทองกระทบกับพวกมันก่อนที่จะร่วงลงกับพื้น
แสงสีทองของลุงหมิงยังคงดำเนินการต่อไป ด้วยพลังแห่งกฎที่พุ่งเข้าหากงซุนเต๋า มันก็ราวกับมีดร้อนตัดผ่านเนย ภายใต้สายตาของเขา มันทะลวงทรวงอกของกงซุนเต๋า
เหลือไว้เพียงหลุมขนาดเท่าชามข้าวไว้ที่หน้าอกของกงซุนเต๋า
“ทรงพลังมาก ! คนนี้อยู่ชั้นสวรรค์ที่ 7 เป็นอย่างน้อย ! ” กงซุนเต๋าตกใจมาก เขาชำเลืองมองลุงหมิงอย่างตกใจและโบกมือของเขาเพื่อเก็บกระบี่ทั้งสี่ โดยไม่ลังเล เขาหนีจากไปอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
สายตาของบรรพชนนิกายแยกสวรรค์ก็หรี่แคบลงเช่นกันหลังจากเห็นความแข็งแกร่งของลุงหมิง เขาได้ตัดสินใจเช่นเดียวกับบรรพชนสำนักสี่เสากระบี่ เขาหนีออกไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
จักรพรรดินีตกตะลึงอย่างมากเมื่อนางเห็นขั้นบรรพกาลทั้งสองหนีสุดชีวิต นางรู้ว่าชายกลางคนที่ชื่อว่าลุงหมิงนั้นทรงพลังมาก เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่อยู่ในขั้นบรรพกาล แต่นางก็ไม่คิดเลยว่าลุงหมิงคนนี้จะทรงพลังเช่นนี้ แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญสูงสุดอย่างกงซุนเต๋าก็ถูกจัดการในกระบวนท่าเดียว
“ลุงหมิงผู้นี้อยู่ในชั้นสวรรค์ที่เท่าไรกัน ? ” จักรพรรดินีอดไม่ได้ที่จะสงสัย
ถึงแม้ว่าจักรพรรดินีจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในขอบเขตตั้งต้น แต่นางก็เป็นเพียงแค่อสงไขยช่วงปลาย นางไม่อาจบอกได้ว่าพลังของลุงหมิงนั้นอยู่ขั้นไหน
ในเวลานี้ ลุงหมิงมองไปที่พื้นที่ที่ว่างเปล่าและพูดอย่างเฉยเมยว่า “เมื่อเจ้ามาถึงแล้ว ทำไมไม่แสดงตัว ? ”
สายตาของจักรพรรดินีหรี่ลงเมื่อนางมองไปยังทางที่ลุงหมิงมอง
ชายชราคนหนึ่งปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ ในพื้นที่ที่ว่างเปล่า เขาสวมชุดคลุมมังกรและมีกิริยาเหมือนกับผู้ปกครอง เขาจ้องไปที่ลุงหมิงอย่างใกล้ชิดด้วยดวงตาที่ลึกซึ้งของเขา เขาเคร่งเครียดอย่างมาก
“บรรพชนจักรพรรดิ ! ”
อย่างไรก็ตามสีหน้าของจักรพรรดินีเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันเมื่อนางเห็นชายชรา และนางก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา
ชายชราคนนี้เป็นบรรพชนจักรพรรดิที่ถูกเครารพและแข็งแกร่งที่สุด ซีเหลียนซือ !
ซีเหลียนซือไม่ได้มองไปที่จักรพรรดินี ดวงตาที่ลึกซึ้งของเขายังคงมองไปที่ลุงหมิง “ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 แม้จะกวาดสายตามองทั่วที่ราบเมฆาทั้งหมด ก็มีเพียงผู้เชี่ยวชาญไม่กี่คนเท่านั้นที่มาถึงขั้นนี้และข้าก็เพิ่งเห็นพวกเขาทั้งหมด ท่านไม่ได้อยู่ในกลุ่มคนเหล่านั้น” การจ้องมองของซีเหลียนเซว่ก็เริ่มเขม็ง เขาตะโกนออกมาว่า “ท่านเป็นใคร ? มาจากที่ไหนกัน ? ทำไมท่านถึงมายุ่งเรื่องภายในของจักรวรรดิซีของข้า ? ”
ลุงหมิงไม่สนใจซีเหลียนซือ เขามองไปที่หมิงตงและพูดว่า “การบ่มเพาะของคนผู้นี้ก็เหมือนกับข้า เขาอยู่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ! ”
หมิงตงพยักหน้าเข้าใจ
“น้อมพบบรรพชนจักรพรรดิ ! ” จักรพรรดินีไม่อาจสงบสติอารมณ์ของนางได้เมื่อนางเห็นซีเหลียนซือ นางดึงซีหยูออกมาและโค้งคำนับซีเหลียนซืออย่างระมัดระวัง
ในที่สุดซีเหลียนซือก็มองไปที่จักรพรรดินี เขาไร้อารมณ์และเย็นชา “เจ้าควรจะเป็นจักรพรรดินีคนปัจจุบัน เจ้าพาคนเหล่านี้มางั้นหรือ ? ”
“บรรพชนจักรพรรดิ สามีของข้า จักรพรรดิได้หายไปโดยไม่มีเหตุผลและการติดต่อทั้งหมดก็สูญหาย ข้ากังวลเรื่องความปลอดภัยของจักรพรรดิ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมข้าถึงขอให้ผู้กล้าหมิงตงมาค้นหาเขา” จักรพรรดินีตอบอย่างสุภาพ
สีหน้าของซีเหลียนซือไม่ได้เปลี่ยนไป เขาพูดอย่างเย็นชา “ไซหยุนสบายดี พาคนเหล่านี้ออกไป”
“แต่….” จักรพรรดินีลังเล
“ไม่มีแต่ ออกไปจากจักรวรรดิซีพร้อมกับคนของเจ้า” ซีเหลียนซือสั่งอย่างเย็นชา
จักรพรรดินีเริ่มโศกเศร้าเมื่อนางได้ยินอย่างนั้น นางเต็มไปด้วยความขมขื่น นางไม่อาจท้าทายบรรพชนจักรพรรดิที่สั่งนางออกมาได้ ความจริงแล้วนางไม่แม้แต่จะมีความคิดที่จะต่อต้านจากก้นบึ้งของหัวใจ
นี่เป็นเพราะซีเหลียนซือนั้นเป็นทุกอย่างสำหรับจักรวรรดิซี เขาเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจักรวรรดิซีของเขาถึงอยู่ได้จนถึงตอนนี้ แม้ว่าเขาจะลงจากบัลลังก์หลายปีแล้วและไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของจักรวรรดิ แต่เขาก็ยังเป็นคนที่มีอำนาจสูงสุดในครอบครัวราชวงศ์ เพียงคำเดียวของเขาก็เพียงพอที่จะทำให้จักรพรรดิคนปัจจุบันลงจากตำแหน่ง
อย่างไรก็ตามซีหยูไม่ได้เติบโตในจักรวรรดิซี ไม่มีความเคารพใด ๆ ต่อบรรพชนจักรพรรดิ นางพูดจาหยาบคายและดื้อรั้นว่า “ถ้าไม่พบเสด็จพ่อของข้า ข้าก็จะไม่จากไป”
“ไม่จำเป็นต้องพูดอีกแล้ว”ในเวลานี้ลุงหมิงที่อยู่ด้านหนังได้ก้าวมาด้านหน้าหมิงตง เขาเดินเอามือไพล่หลังมาด้านหน้าทุกคน เขาจ้องไปที่ซีเหลียนเซว่อย่างใจเย็นและพูดว่า “เขาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของเมล็ดปีศาจและกลายเป็นหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยใครบางคน เขาไม่ได้เป็นบรรพชนจักรพรรดิที่เจ้ารู้จักอีกต่อไป”
“อะไรนะ ! ” จักรพรรดินีก็ตะลึง นางตกใจมาก
“ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะพูดอะไรอีก ลุงหมิงเปิดทางไปยังเขตต้องห้าม” หมิงตงกล่าวอย่างเย็นชา