เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2255 : ตงหลิน หยานเซว่
ตอนที่ 2255: ตงหลิน หยานเซว่
เจี้ยนเฉินออกจากเทือกเขาทะยานเมฆ ด้วยพลังเซียนธาตุแสง เขาจึงบินไปยังส่วนลึกของโถงเซียนธาตุแสงอย่างต่อเนื่อง
ดินแดนของโถงเซียนธาตุแสงนั้นกว้างใหญ่มาก ไม่ว่าจะมาจากทางตะวันตก, ตะวันออก, ทิศเหนือหรือทิศใต้ มันก็มีอาณาเขตกว่าล้านกิโลเมตร มีภูเขานับพันลูกในอาณาเขตที่กว้างใหญ่นี้ โดยมียอดเขาหลัก 99 ยอด
เจี้ยนเฉินเดินตรงไปยังยอดเขาหนึ่งใน 99 ยอดของยอดเขาองค์รักษ์
ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ออกจากอาณาเขตของยอดเขาเพ่งนภา เขายืนเอามือไพล่หลังขณะที่เดินผ่านภูเขาที่เต็มไปด้วยพลังเซียนธาตุแสงสีขาวล้อมรอบ เขาถูกบดบังด้วยเมฆเป็นครั้งคราว
ระหว่างทางเขาพบกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจำนวนมากและมีไม่กี่คนเท่านั้นที่จำเจี้ยนเฉินได้
“หึม ? นี่เขาดูเหมือนคนชื่อเจียงหยางจากรอบ ๆ ยอดเขาเพ่งนภา ทำไมเขามาที่นี่ ? ”
“เจียงหยาง ? นั่นคือัจฉริยะที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสีซึ่งสามารถเอาชนะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแกนวิญญาณสามสีได้น่ะหรือ ? ”
“ใช่ เขาดูเหมือนเจียงหยางจริง ๆ อย่างไรก็ตามเจียงหยางเป็นอัจฉริยะ 1 ดาว ข้าคิดว่าอาจมีอีกด้านหนึ่งสำหรับเรื่องราวของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสีในการเอาชนะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแกนวิญญาณสามสี…”
“เจ้าพูดถูก ข่าวลือมักไม่น่าเชื่อถือ ถ้าเจียงหยางเป็นอัจฉริยะระดับ 9 ดาว มันจะสมเหตุสมผลมากกว่านี้ หลังจากที่อัจฉริยะ 9 ดาวมีความสามารถที่จะท้าทายคนที่มีการบ่มเพาะสูงกว่า อย่างไรก็ตามเจียงหยางเป็นเพียงอัจฉริยะ 1 ดาว ในด้านความสามารถแล้ว เขายังแย่กว่าข้า….”
“เป็นศิษย์น้องเจียงหยางที่อยู่ตรงหน้ายอดเขาเพ่งนภาด้านหน้า ? ข้า ฉีเซิง จากยอดเขาต่อสู้ ข้าต้องการสู้กับศิษย์น้องเจียงหยาง…..”
…
เสียงที่คล้ายกันดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีหลายคนเผยตัวตนของเขาออกมาและต้องการต่อสู้กับเจี้ยนเฉิน
ท้ายที่สุด เจี้ยนเฉินก็มีชื่อเสียงหลังจากที่เอาชนะเหวินเฉิงบนยอดเขาเพ่งนภา แม้ว่าชื่อของเขาจะไม่ดังไปทั่วทั้งโถงเซียนธาตุแสงและได้รับความสนใจจากผู้อาวุโส แต่เขาก็เป็นคนที่ทุกคนที่อยู่ด้านนอกโถงศักดิ์สิทธิ์รู้จัก
เจี้ยนเฉินไม่สนใจต่อความสงสัยและการท้าทายรอบ ๆ เขามุ่งไปด้านหน้าอย่างเร่งรีบและเขาก็เคลื่อนไหวเร็วขึ้น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่ามีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงไม่กี่คนที่กำลังพยายามไล่ตามเขาอยู่ เขาพุ่งทะลุเหนือก้อนเมฆและใช้ปีกธาตุแสงกระพือออกไปด้วยความเร็วสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ตอนนี้เขาไม่มีเวลาสนใจคนเหล่านี้
“เจียงหยางกลัวจริง ๆ เขาไม่กล้าพูดอะไรเลย นั่นหมายความว่าอย่างไร ? หมายความว่าเขารู้สึกผิดขึ้นมา…”
“เจ้าพูดได้เลยว่าการต่อสู้ของเจียงหยางบนยอดเขาเพ่งนภาเป็นของปลอม….”
เจี้ยนเฉินหลบหลีกอย่างต่อเนื่อง จนทำให้มันเป็นหลักฐานที่ดีต่อความสงสัยของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง
ไม่กี่ชั่วยามต่อมา เจี้ยนเฉินก็มาถึงปลายทางนั้นก็คือยอดเขาหมื่นดอกไม้
ยอดเขาหมื่นดอกไม้เป็นหนึ่งในยอดเขาหลักทั้ง 99 ยอด เนื่องจากมันถูกปกคลุมไปด้วยกล้วยไม้นับพันทำให้มีกลิ่นหอมมากอยู่บนยอดเขาหมื่นดอกไม้
เจี้ยนเฉินเริ่มปกปิดตัวตนของเขาหลังจากมาถึงที่นี่ ทันทีเขาหายไปจากมุมมองของทุกคน หายไปกับชั้นค่ายกลบนภูเขา ในขณะที่เขาแทรกซึมเข้าไปบนยอดเขาอย่างระมัดระวัง
ในเวลานี้มีหญิงผิวขาว 2 คนเดินลงบนเส้นทางเล็ก ๆ ที่ไหลผ่านภูเขา พวกเขาพูดคุยกันในขณะที่เดิน
ทั้งสองคนนั้นดูเหมือนอยู่ในวัยกลางคน นางเป็นคนงดงามและสง่าและมีความอดทน นางมีพลังแห่งการมีอยู่บางอย่างที่เหมือนกับเป็นคนสำคัญ
นางเป็นผู้นำยอดเขาหมื่นดอกไม้ ตงหลิน ฉินชุย
หญิงสาวอีกคนดูมีอายุเพียงราวยี่สิบปีเศษ ๆ เท่านั้น นางเป็นเหมือนกับนางฟ้าที่มีผิวสีขาวและตาสีดำ นางมีพลังแห่งการมีอยู่ที่ราวกับว่าไม่อาจมีใครขัดขืนนางได้
นางคือ ตงหลิน หยานเซว่ นางเป็นคนที่งดงามและเป็นหนึ่งในห้าผู้เข้ารับการคัดเลือกเป็นเซียนผู้ถูกเลือกคนต่อไป
“หยานเซว่ การคัดเลือกเซียนผู้ถูกเลือกกำลังใกล้เข้ามา ใครจะรู้ว่าผู้ทรงอำนาจคนต่อไปอาจจะเป็นเจ้า ดังนั้นเจ้าต้องฝึกฝนอย่างจริงจังในโถงศักดิ์สิทธิ์ เจ้าไม่อาจมาที่นี่ได้บ่อย ๆ ” ผู้นำยอดเขาหมื่นดอกไม้ ตงหลิน ฉินซุย พูดอย่างจริงจัง
ตงหลิน หยู่เซว่ ถอนหายใจเบา ๆ นางพูดว่า “ความคาดหวังที่ท่านมีต่อข้านั้นมากเกินไป จากผู้สมัครทั้งห้า กงเจิงซิ่นและซินปิงใกล้จะเป็นแกนวิญญาณสี่สีช่วงปลายแล้ว เมื่อถึงวันที่คัดเลือกเซียนผู้ถูกเลือก มีความเป็นไปได้ว่าพวกเขาทั้งสองจะไปได้ถึงระดับนั้น ต้าอานและเซียะเก่อยังมีแกนวิญญาณสี่สีช่วงกลาง ในขณะที่การบ่มเพาะของข้านั้นอ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเราทั้งห้า แม้แต่ผู้อาวุโสที่ชี้แนะข้าในโถงศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่คิดว่าข้าจะเอาชนะได้และกลายเป็นเซียนผู้ถูกเลือกในตอนนี้”
“ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่คิดว่าจะได้เป็นเซียนที่ถูกเลือกเลย”ตงหลิน หยานเซว่เต็มไปด้วยความท้อแท้
“ไม่ต้องเสียใจ ยังเหลืออีก 2 ปีไม่ใช่หรือ ? ด้วยความสามารถของเจ้า เป็นไปไม่ได้ที่จะทะลวงหากว่าเจ้าพยายาม เมื่อแกนวิญญาณเจ้าเป็นสี่สีช่วงกลาง เจ้าจะยืนอยู่ในระดับเดียวกับพวกเขาทั้งสี่ มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น” ตงหลินฉินซุยให้กำลังใจนาง
“ข้าจะทำให้ดีที่สุดในปีนี้” ตงหลินหยานเซว่พูดเบา ๆ นางรู้สึกกดดันอย่างมาก “ท่านป้า ข้าเหนื่อยมาก ข้าขอตัวก่อน”
“ไปเถอะ”
คงหลินหยานเซว่กลับไปที่ยอดเขา นางนั่งอยู่บนหินสีดำภายในลานบ้านของป้านางอย่างสงบ ในขณะที่นางจมไปกับความคิดของนาง
“ทุกคนต้องการเป็นเซียนที่ถูกเลือก แต่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะเอาอัจฉริยะ 9 ดาวทั้งสี่คน” ตงหลินหยานเซว่ขมขื่น ในขณะเดียวกันนางก็ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้
จากผู้สมัครทั้งห้า นางเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดและเป็นคนที่บ่มเพาะสั้นที่สุด ดังนั้นการแข่งขันครั้งนี้จึงไม่เป็นธรรมต่อนาง
ถ้านางมีเวลามากพอ นางมั่นใจว่านางจะตามคนอื่นอีก 4 คนทัน อย่างไรก็ตามนางมีเวลาน้อยเกินไป
ในเวลานี้ มีใบไม้ลอยเหนือกำแพงลานบ้าน ภายใต้สายลมที่อ่อนโยน มันตกลงบนมือของตงหลินหยานเซว่ในท้ายที่สุดด้วยความบังเอิญ
ใบไม้นั้นเรียบง่ายอย่างมาก มันเป็นเหมือนกับใบไม้ทั่ว ๆ ไปที่หล่นมาจากต้นไม้ ดังนั้นตงหลินหยานเซว่จึงไม่ได้คิดมากไป นางต้องการที่จะโยนมันทิ้งไป
แต่ในเวลาต่อมา สายตาของนางก็หรี่ลง นางจ้องไปที่ใบไม้ด้วยความสนใจอย่างมาก ที่ลายใบไม้มีการเชื่อมโยงต่อในรูปแบบที่ผิดธรรมชาติเล็กน้อย
“เมื่อจันทร์เต็มดวง มาพบข้าที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์ ข้าจะช่วยเจ้าในการเป็นเซียนที่ถูกเลือก ! “