เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2256 : พบกันที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์
ตอนที่ 2256: พบกันที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์
“ช่วยให้ข้าเป็นเซียนที่ถูกเลือก ? ใครเป็นคนเขียนมันขึ้นมา ? ช่างกล้าพูดนัก ! ” ตงหลิน หยานเซว่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อนางมองอักษรที่เกิดขึ้นจากลายของใบไม้
นี่เป็นใบไม้ธรรมดามาก การเปลี่ยนลายใบไม้นั้นไม่ยาก ดังนั้นตงหลินหยานเซว่จึงไม่สามารถบอกถึงความแข็งแกร่งของผู้ที่ส่งข้อความมาหานางได้
ในเวลาต่อมาตงหลินหยานเซว่ได้เพิ่มสัมผัสวิญญาณของนางไปทั่วทุกทิศทาง นางต้องการหาคนที่ส่งข้อความนี้ให้นาง
แต่นางก็ต้องผิดหวังเพราะว่านางไม่พบอะไรเลย แม้แต่ตอนที่นางปล่อยสัมผัสวิญญาณออกไปอย่างเต็มที่
“เนื่องจากคนนี้มีความมั่นใจเกี่ยวกับการช่วยเหลือข้าให้เป็นเซียนที่ถูกเลือก ต้องหมายความว่าเขาต้องไม่เป็นคนธรรมดา แต่สิ่งที่ข้ารู้แน่ ๆ ก็คือเขาไม่ได้มาหาข้าตรง ๆ และบอกข้าด้วยตนเอง เขาบอกให้ข้าไปที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์แค่นี้” ตงหลินหยานเซว่จ้องไปที่ใบไม้อย่างใจเย็น นางเริ่มสงสัยว่า “หรือว่าจะเป็นแผนการบางอย่าง ? พวกเขาต้องการหลอกให้ข้าไปที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์และต้องการทำอะไรบางอย่างกับข้า ? ”
มีความเย็นชาวาบผ่านสายตาของตงหลินหยานเซว่ เมื่อนางคิดว่าแม้ว่านางจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่ได้ไร้พลังใด ๆ
แต่ในช่วงเวลาต่อมาตงหลินหยานเซว่ก็ส่ายหน้า นางเป็นอัจฉริยะ 9 ดาวของโถงเซียนธาตุแสงและเป็นหนึ่งในห้าผู้เข้าร่วมคัดเลือกที่กำลังจะกลายเป็นเซียนที่ถูกเลือก มีใครบ้างที่กล้าลงมือกับนางในโถงเซียนธาตุแสง ?
“คืนจันทร์เต็มดวง นั่นคือคืนนี้ ทะเลสาบสะท้อนจันทร์ ไปดูกันว่าบุคคลลึกลับผู้นี้และหวังว่าเขาจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง” ตงหลินหยานเซว่พึมพำเบา ๆ ตำแหน่งเซียนที่ถูกเลือกนั้นทำให้นางต่อต้านไม่ได้ แม้ว่าจะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของความหวังที่จะมอบโอกาสให้นางกลายเป็นเซียนที่ถูกคัดเลือก แต่นางก็จะไม่ยอมแพ้
กลางคืนและพระจันทร์ลอยเด่นอยู่บนท้องฟ้า มีทะเลสาบขนาดใหญ่ล้อมไปด้วยภูเขาทั้งแปดด้านที่ครอบคลุมกว่าหมื่นกิโลเมตรจากยอดเขาหมื่นดอกไม้ภายใต้แสงจันทร์ที่เปล่งประกายบนท้องฟ้า ทะเลสาบขนาดใหญ่ก็เริ่มสว่างขึ้นทันทีจนเห็นได้ด้วยตาเปล่า ผิวน้ำของทะเลสาบเต็มไปด้วยแสงจันทร์ที่เข้มข้น มันเป็นความงามที่โลกได้แสดงออกมาให้เห็น
ทะเลสาบแห่งนี้เป็นที่รู้จักในนามทะเลสาบสะท้อนจันทร์ และยังเป็นหนึ่งในสถานที่ที่โด่งดังของโถงเซียนธาตุแสง
ในตอนนี้เจี้ยนเฉินนั่งอยู่อย่างสงบบนก้อนหินขนาดใหญ่สีดำด้วยชุดสีขาว ซึ่งแสดงตัวให้เห็นในถึงฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง เขาเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและเต็มไปด้วยความมึนงง ขณะที่จ้องไปยังดวงจันทร์ขนาดใหญ่บนท้องฟ้า
“หลายปีผ่านไปแล้ว ข้าสงสัยว่านางฟ้าเฮายู่กำลังทำอะไรอยู่ หนานป้อเทียนศัตรูของนาง มีอัครสูงสุดเปลวเพลิงที่น่านัลถืออยู่เบื้องหลังเขา นั่นเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดที่เคลื่อนไหวต่อต้านหอคอยอนัตตา หนึ่งในเจ็ดจอมปราชน์ของโลกเซียน ข้าหวังว่านางฟ้าเฮายู่จะไม่ทำอะไรโดยประมาท”
เจี้ยนเฉินอดไม่ได้ที่จะคิดถึงนางฟ้าเฮายู่ที่แยกทางกับเขาเมื่อหลายปีก่อน ในขณะที่เขามองดูดวงจันทร์ เขาเต็มไปด้วยความกังวล
ในเวลานี้ มีบอลแสงสีขาวที่อ่อนโยนพุ่งลงมาจากท้องฟ้าลงบนทะเลสาบอย่างช้า ๆ
หลังจากนั้นแสงสีขาวก็กระจายหายไปเผยให้เห็นสาวงามที่น่าหลงใหลในชุดสีขาว
นางคือดงหลินหยานเซว่
ตงหลินหยานเซว่อยู่ในชุดสีขาวบริสุทธิ์และเท้าของนางก็ไม่แตะพื้น นางลอยอยู่เหนือพื้นเพียงหนึ่งนิ้วในขณะที่นางมองไปรอบ ๆ ก่อนที่จะเห็นเจี้ยนเฉินซึ่งอยู่ห่างไกลออกไปหลายกิโลเมตร
ในเวลานี้ เจี้ยนเฉินมองละสายตาจากพระจันทร์และสบตาไปยังตงหลินหยานเซว่ เขาคีบใบไม้ที่กำลังปลิวไประหว่างพวกเขา ก่อนที่จะโบกมือให้กับตงหลินหยานเซว่ที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตร
สายตาของตงหลินหรี่แคบลง นางอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เจี้ยนเฉินพร้อมกับเดินเข้าหาอย่างช้า ๆ นางเดินไปหาเจี้ยนเฉินในขณะที่ลอยอยู่เหนือผืนดิน ท้ายที่สุดนางก็ลอยไปถึงก้อนหินที่เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ นางอยู่ห่างจากเจี้ยนเฉินเพียงไม่กี่เมตร
“ตอนแรกข้าคิดว่าคนที่บอกให้ข้ามาที่นี่จะเป็นราชาเทพธาตุแสงเป็นอย่างน้อยหรือแม้แต่ผู้อาวุโส หรือบางทีอาจจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ถูกส่งมาจากตระกูลหรือองค์กรขนาดใหญ่ ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสี” ตงหลินหยานเซว่จ้องไปที่เจี้ยนเฉินอย่างใกล้ชิดและแสดงความผิดหวังอย่างไม่ปิดบัง
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเฉยชา “การบ่มเพาะของข้านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะมันไม่สำคัญเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือเจ้าต้องเข้าใจว่าข้าสามารถให้บางอย่างแก่เจ้าได้ ซึ่งแม้แต่อาวุโสหรือตระกูลหรือองค์กรใหญ่ ๆ ก็ไม่อาจให้เจ้าได้”
“ข้ารู้ว่าเจ้าไม่เชื่อข้า ข้ารู้ว่ามีหลายคนที่มั่งคั่งกว่าข้าที่เพรียบพร้อมไปทรัพยากรบ่มเพาะมากกว่าข้า อย่างไรก็ตามคนเหล่านี้จะทำให้เจ้าแน่ใจได้อย่างไรว่าสุดท้ายเจ้าจะได้รับชัยชนะ ? ”
ตงหลินหยานเซว่มองด้วยสายตาแปลก ๆ ขณะที่มีแสงแว่บผ่านสายตาของนางก่อนที่จะมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างสนใจ นางถามว่า “ข้าอยากรู้จริง ๆ ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณหนึ่งสีนั้นมีความมั่นใจมากขนาดไหน”
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างลึกลับ เพียงแค่สะบัดมือ พลังวิญญาณบริสุทธิ์ก็ปรากฏขึ้นทันที
พลังวิญญาณบริสุทธิ์และความกดดันนั้นปรากฏขึ้นมาและดึงดูดความสนใจทั้งเจี้ยนเฉินและตงหลินหยานเซว่ ภายในลมหายใจเดียวก็ทำให้พวกเขารู้สึกว่าวิญญาณของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“วิญญาณบริสุทธิ์ ! จะ-เจ้าทำเรื่องนี้ได้อย่างไร ? ” ตงหลินหยานเซว่ตะโกนออกมาและไม่อาจรักษาท่าทางที่สงบของนางเอาไว้ได้ต่อหน้าวิญญาณบริสุทธิ์ ความตกใจและไม่อยากเชื่อปรากฏบนใบหน้าที่งดงามของนาง
เจี้ยนเฉินเก็บวิญญาณบริสุทธิ์กลับไปและยิ้ม “ตอนนี้เจ้าเชื่อข้าแล้วหรือยัง ? ”
ตงหลินหยานเซว่สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และบังคับให้ตัวเองสงบลงอย่างช้า ๆ นางมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ขณะที่นางพูดว่า”เจ้าได้รับวิญญาณบริสุทธิ์นี้มาจากไหน ? ” วิญญาณบริสุทธิ์มีค่าอย่างยิ่ง แม้แต่ในสถานะของตงหลินหยานเซว่ของโถงเซียนธาตุแสง นางก็รู้จักพวกมันผ่านเพียงบันทึกและคำบอกเล่าของอาวุโสเท่านั้น นางไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะได้เห็นมันด้วยตาของตนเอง
อย่างไรก็ตาม ตงหลินเข้าใจและรู้วิธีใช้วิญญาณบริสุทธิ์อย่างสมบูรณ์ ไม่เพียงแต่มันจะมีผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักสู้เท่านั้น แต่มันยังเป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยมสำหรับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง มันมีค่ามากจนเป็นสิ่งที่หายากแม้แต่โถงเซียนธาตุแสง ผู้อาวุโสหลายคนก็ยังไม่มีเก็บเอาไว้ครอบครอง
อย่างไรก็ตาม ถ้านางได้ครอบครองวิญญาณบริสุทธิ์ นางก็มีโอกาสที่จะเป็นเซียนที่ถูกเลือกมากขึ้น
“บอกข้า เจ้าต้องการอะไรเพื่อแลกกับวิญญาณบริสุทธิ์ ? ” ตงหลินหยานเซว่เก็บความตื่นเต้นของนางเอาไว้
เจี้ยนเฉินยืนอยู่บนก้อนศิลาและกล่าวว่า “คนที่เข้าร่วมคัดสรรเซียนคนหนึ่งจะสามารถเลือกผู้ติดตามได้ 9 คน ข้าต้องการเป็นหนึ่งในนั้น แน่นอนเจ้ารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ด้วยระดับการบ่มเพาะของข้า”
Donglin Yanxue’s gaze immediately became strange when heard that. She said, “Your final objective in going as far as to give me a puresoul so that I can become the Chosen Saint is only so that you can become one of my nine retainers?”
สายตาของตงหลินหยานเซว่ก็แปลกไปทันทีที่นางได้ยิน นางกล่าวว่า “เป้าหมายของเจ้าคือเจ้าจะให้วิญญาณบริสุทธิ์เพื่อให้ข้าได้เป็นเซียนผู้ถูกเลือกและเจ้าจะได้เป็นผู้ติตตามทั้งเก้าของข้า ? ”
การจ้องมองของตงหลินหยานเซว่ที่มีต่อเจี้ยนเฉินนั้นแปลกมาก นางค่อย ๆ ก้าวถอยหลังและจ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างระมัดระวัง นางพูดอย่างเย็นชา “เจ้าต้องการอะไร ? เลิกคิดเกี่ยวกับมันซะ หากเจ้าต้องการเข้าใกล้ข้าและทำให้ข้าชอบเจ้า เจ้าควรจะล้มเลิกความตั้งใจนี้”
เจี้ยนเฉินรู้สึกมึนงงอย่างมาก ในขณะนั้นเขาก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา เขาพูดไม่ออกเลย