เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2257 : วิธีการใช้วิญญาณที่น่าอัศจรรย์
ตอนที่ 2257: วิธีการใช้วิญญาณที่น่าอัศจรรย์
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้าไม่ได้สนใจเจ้าเลยแม้แต่น้อย ข้าต้องการตำแหน่งนั้นเพื่อที่ข้าจะได้เข้าไปในหอคอยธาตุแสง” เจี้ยนเฉินอธิบายพลางยิ้มอย่างขมขื่น
Some of the cautiousness and contempt in Donglin Yanxue’s eyes vanished. She asked, “There’s something that I don’t understand. Out of the five candidates, why have you chosen me, instead of Gongzheng Xin or Xin Bin, who are more likely to become the Chosen Saint?”
ความระมัดระวังและท่าทีที่เหยียดหยามดูถูกของตงหลินหยานเซว่หายไป นางถามว่า “มีบางอย่างที่ข้าไม่เข้าใจ จากผู้เข้าคัดเลือกทั้ง 5 ทำไมเจ้าถึงเลือกข้า แทนที่จะเป็นกงเจิงซิ่นหรือซินปิงที่มีโอกาสที่จะกลายเป็นเซียนที่ถูกเลือกมากกว่า”
“มันก็เหตุผลง่าย ๆ เจ้าเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดในทั้ง 5 คนนี้ ดังนั้นเจ้าควรจะมีโอกาสน้อยที่สุดที่จะได้เป็นเซียนที่ถูกเลือก ถ้าข้าสามารถช่วยเจ้าได้เพื่อที่จะกลายเป็นเซียนที่ถูกเลือกได้อย่างไม่คาดคิด เจ้าจะมีความซาบซึ้งต่อข้าอย่างมากและการเดินทางไปยังหอคอยธาตุแสงของข้าจะราบรื่นยิ่งขึ้น”
“แน่นอนว่านั่นเป็นเพียงเหตุผลหนึ่ง เหตุผลหลักคือข้าได้ยินเกี่ยวกับพวกเจ้าทั้งห้าคน ข้ารู้อดีตของเจ้าอยู่บ้าง แม้ว่าความรู้ของข้าจะไม่สมบูรณ์นัก แต่ข้าเข้าใจพวกเจ้าทั้งห้าอย่างคร่าว ๆ ความรู้สึกที่เจ้าให้ข้าคือเจ้าน่าเชื่อถือกว่าคนอื่น ๆ อีก 4 คนมากนัก” เจี้ยนเฉินกล่าว
“เจ้าต้องการเข้าไปในหอคอยธาตุแสงจริง ๆ และไม่มีเหตุผลอื่นเลยงั้นหรือ ? ” ตงหลินหยานเซว่เพ่งมองเจี้ยนเฉินอย่างใกล้ชิด
“แน่นอน”
“งั้นก็ดีมาก ข้าให้สัญญากับเจ้า อย่างไรก็ตามมีเวลาเพียง 2 ปีก่อนที่จะถึงการคัดเลือก และซินปิงกับกงเจิงซิ่นคงจะไปถึงแกนวิญญาณสี่สีขั้นกลางช่วงปลาย พวกเขาอาจจะทะลวงได้ตลอดเวลา ถ้าข้าต้องการเอาชนะพวกเขา ข้าต้องมีแกนวิญญาณสี่สีขั้นปลายเป็นอย่างน้อย”
“แม้ว่าวิญญาณบริสุทธิ์นั้นจะมีค่ามากและมีประสิทธิภาพมาก มันเป็นเรื่องยากที่ข้าจะทะลวงผ่านไปถึงสองขอบเขตในเวลาสั้น ๆ ” ตงหลินหยานเซว่กล่าว
เจี้ยนเฉินคิดและพูดว่า “เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล นอกเหนือจากวิญญาณบริสุทธิ์ ข้าจะให้บัวพันใบ อย่างไรก็ตามเนื่องจากข้าเลือกเจ้า ข้าจะช่วยเหลือเจ้าด้วยความสามารถที่มากมายของข้า เพื่อให้เจ้าสามารถต่อสู้ในการได้เป็นเซียนที่ถูกเลือก”
ตาของตงหลินหยานเซว่เป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อนางได้ยินเขาพูดบัวพันใบ นางกล่าวว่า “ผู้นำยอดเขาเพ่งนภามีบัวพันใบ กงเจิงซิ่นและซินปิงได้ไปหาเข้าครั้งแล้วครั้งเล่า โดยหวังว่าจะได้บัวพันใบ แต่ท้ายที่สุดท่านผู้นำยอดเขาก็มอบให้บัวพันใบให้กับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแกนวิญญาณหนึ่งสี”
ตงหลินหยานเซว่มองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยท่าทีแปลก ๆ และพูดว่า “เจ้าคงเป็นเจียงหยาง คนที่เอาชนะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณสามสีด้วยแกนวิญญาณหนึ่งสี”
เจี้ยนเฉินพยักหน้ายืนยัน จากนั้นเขาก็เก็บวิญญาณบริสุทธิ์และบัวพันใบไว้ในแหวนมิติอีกวงก่อนที่จะเอาให้กับตงหลิน เขากล่าวว่า “หากเจ้ามีความต้องการอื่นหรือเกิดปัญหาใด ๆ ในช่วงเวลานี้ เจ้าสามารถมาหาข้า ตราบใดที่ข้าช่วยเจ้าได้ ข้าจะทำทุกอย่าง” เจี้ยนเฉินไม่สนใจสิ่งที่ต้องจ่ายออกไปให้กับตงหลินหยานเซว่เพื่อให้กลายเป็นเซียนที่ถูกเลือก เพื่อที่เขาจะได้เข้าไปในหอคอยธาตุแสง
ที่ราบรกร้างเต็มไปด้วยผู้เชี่ยวชาญ แม้จะมีหน้ากากของโมเทียนหยุนที่ป้องกันไม่ใช้คนส่วนใหญ่เห็นตัวตนที่แท้จริงของเขา แต่ทุกคนก็มีความสามารถในวิธีการที่แตกต่างกันมากมาย เป็นผลให้เขาต้องเข้าสู่หอคอยธาตุแสงอย่างเร็วที่สุดเพื่อรับเอาวิธีการบ่มเพาะสำหรับเขาก่อนที่จะออกจากที่ราบรกร้าง
หลังส่งของ เจี้ยนเฉินก็กลับไปที่ยอดเขาทะยานเมฆ
ตงหลินหยานเซว่ยังคงอยู่บนหิน นางถือแหวนมิติในขณะที่นางมองเจี้ยนเฉินจากไป แสงในดวงตาของนางสั่นไหวขณะที่นางสงสัยว่า “เบื้องหลังเจียงหยางเป็นใคร ถึงได้เอาวิญญาณบริสุทธิ์ออกมาได้ง่าย ๆ ที่แม้แต่ผู้อาวุโสก็ไม่อาจหามาได้ ? ”
“หรือเขาไม่คิดที่จะใช้วิญญาณบริสุทธิ์จริง ๆ ? ”
…
ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า หานซินยังคงรักษาอย่างสงบ เขาจึงไม่ได้เรียกศิษย์ทั้งสามมาทุก ๆ เช้า ด้วยเหตุนี้เองชีวิตของเจี้ยนเฉินจึงสงบอย่างยิ่ง เขายังคงอยู่ในบ้านพักของเขาและไม่ค่อยออกไปเนื่องจากต้องบ่มเพาะทุกวัน
ศิษย์น้องหญิง ไป๋หยู นางเป็นแขกประจำของเขา นางไปที่บ้านของเขาทุกวันและจะอยู่ที่นี่ตลอดทั้งวัน นางจะมาที่นี่ตอนเช้าและมักจะกลับไปอย่างไม่เต็มใจหลังพระอาทิตย์ตกดิน
เป็นเรื่องธรรมดา ไป๋หยูไปที่นั่นเพื่อให้เจี้ยนเฉินสอนการใช้พลังเซียนธาตุแสง เมื่อศิษย์น้องมาอยู่ตรงหน้า ก็เป็นเรื่องปกติที่เจี้ยนเฉินไม่อาจปฏิเสธได้และได้สอนวิธีการใช้งานทั้งหมดเกี่ยวกับพลังเซียนธาตุแสงให้กับไป๋หยูอย่างละเอียด เขาหวังจริง ๆ ว่าไป๋หยูจะแข็งแกร่งขึ้นได้
อย่างไรก็ตามผลลัพธ์ที่ได้ไม่ดีนัก ไม่ว่าจะเป็นวิธีการที่เจี้ยนเฉินสาธิตให้ดูและอธิบายใด ๆ ไป๋หยูก็ไม่อาจเข้าใจและควบคุมพลังเซียนธาตุแสงอย่างสมบูรณ์
“เฮ้อ~ ทำไมมันยากจัง ? ข้าพยายามมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่อาจใช้ได้ดีนัก ศิษย์พี่ ช่วยอธิบายให้ข้าฟังอย่างเข้าใจที มีทักษะลับอื่น ๆ อีกหรือไม่ ? ” ผ่านความล้มเหลว ไป๋หยูก็แสดงท่าทางเสียใจ
“บางทีอาจมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับความสามารถ” เมื่อเจี้ยนเฉินพูด ตอนนี้เขามั่นใจว่าเขาสามารถควบคุมพลังเซียนธาตุแสงได้อย่างสมบูรณ์นั้นไม่ใช่เพราะพลังวิญญาณของเขาเท่านั้น พลังบรรพกาลแท้จริงได้หลอมเข้ากับวิญญาณของเขาซึ่งมันมีส่วนที่สำคัญที่สุด
มันเป็นเพราะพลังบรรพกาลที่ทำให้วิญญาณของเขาได้รับการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทำให้เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพลังเซียนธาตุแสงและกฏต่าง ๆ มากกว่าคนทั่วไป
“ศิษย์น้อง ข้าควรจะอธิบายกฎแห่งศรัทธาให้กับเจ้า ข้าเพิ่งได้รับความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับกฎแห่งศรัทธา เมื่อครู่ขณะที่ข้ากำลังสอนเจ้า ข้าหวังว่ามันจะช่วยเจ้าได้” เจี้ยนเฉินพูดก่อนที่จะอธิบายสิ่งที่เขาเห็นทันที เมื่อเขาเข้าใจกฎแห่งศรัทธาและความเข้าใจกฏต่าง ๆ ของเขา
กฎแห่งศรัทธาเป็นหนึ่งในสามพันวิถี มันเป็นกฎของโลกและลึกซึ้งอย่างยิ่ง มันไม่อาจอธิบายได้ชัดเจนนัก วิธีเดียวที่จะเข้าใจมันคือต้องผ่านความเข้าใจของตัวบุคคล
เจี้ยนเฉินไม่ได้หวังว่าไป๋หยูจะได้เข้าใจกฎแห่งศรัทธาในเวลาสั้น ๆ เขาเพียงหวังว่าเขาจะช่วยให้ไป๋หยูได้รับความเข้าใจที่ชัดเจนอย่างยิ่งเกี่ยวกับกฎแห่งศรัทธา เพื่อที่นางจะได้ไม่ต้องหลงทางในอนาคต
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินอธิบายความเข้าใจของเขาเกี่ยวกฎแห่งศรัทธา เขารู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของเขายืดหยุ่นและคาดเดาไม่ได้ กฎต่าง ๆ ทั่วไปที่อยู่ทุกหนทุกแห่งที่เกี่ยวกับกฎแห่งศรัทธาดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับตัวเขาได้ตามที่เขาปรารถนา
ในตอนนี้ เจี้ยนเฉินกำลังคิดที่จะสร้างรากฐานให้กับไป๋หยู ด้วยความสามารถที่ดีที่สุดของเขา เพื่อที่จะปูเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับนางเมื่อนางกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาในอนาคต
ท้ายที่สุดเขารู้สึกอย่างชัดเจนว่ากฎทุกหนทุกแห่งของกฎแห่งศรัทธาเริ่มแตกสลายอย่างช้า ๆ เมื่อเขาพูดสิ่งที่เขาเข้าใจให้มันง่ายขึ้น
เหมือนกับตอนที่หานซินเริ่มใช้กฎแห่งศรัทธาให้เจี้ยนเฉินดูเป็นการส่วนตัว ด้วยการให้เขาได้สัมผัสกับกฏในแบบที่เข้มข้นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
วิธีนี้ได้ผลเช่นเดียวกับการส่งพิมพ์เขียวที่เป็นในรูปแบบของกฏ
ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือหานซินจำเป็นต้องควบกฎแห่งศรัทธาให้เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ ขณะที่เขาเรียกใช้งานมัน ในขณะที่เจี้ยนเฉินรู้จักมันได้อย่างสมบูรณ์ ตามสิ่งที่เขาต้องการ กฎแห่งศรัทธารอบ ๆ ก็หายไปโดยทันทีทำให้มันง่ายขึ้น