เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2263 : กลับคืนสู่ความสงบ
ตอนที่ 2263 – กลับคืนสู่ความสงบ
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณเพียงหนึ่งสีกำลังจะขวางทางผู้ท้าชิงตรงหน้าทุกคน หลายคนชื่นชมความกล้าหาญของเขาอย่างลับ ๆ ทำให้เจี้ยนเฉินถูกมองในแง่มุมใหม่
อย่างไรก็ตาม มีคนอื่น ๆ ที่มองเจี้ยนเฉินด้วยความดีใจเมื่อพวกเขาคิดเกี่ยวกับความทุกข์ที่เขาจะได้รับในอนาคต วันเวลาของเขาก็จะนับถอยหลังลง หลังจากล่วงเกินผู้ท้าชิงตำแหน่งเซียนผู้ถูกเลือก
“เจียงหยาง เจ้าน่าประทับใจมาก ข้าจะจำทุกสิ่งที่เจ้าพูดไว้” สีหน้าของกงเจิงซิ่น มืดครึ้มลงอย่างน่ากลัว เขาเน้นคำพูดทีละคำ ในขณะที่จิตสังหารทอประกายอยู่เต็มดวงตาของเขา
“ศิษย์พี่หยานเซว่ กงเจิงซินผู้นี้ได้ร่วมมือกับเหวินเฉิงในการต่อสู้ในวันนั้นเพื่อใส่ร้ายข้า เขาต้องการที่จะเอาบัวพันใบที่ผู้นำแห่งยอดเขาเพ่งนภาได้มอบให้ข้าไป อาจไม่มีใครนอกจากผู้นำยอดเขาที่สามารถยืนยันหลักฐานอันแน่นหนาเพื่อพิสูจน์เรื่องนี้และคืนความบริสุทธิ์ให้กับข้า อย่างไรก็ตาม การที่จะเข้าพบกับท่านผู้นำยอดเขานั้นเป็นไปไม่ได้ด้วยสถานะของข้า ดังนั้นข้าขอให้ศิษย์พี่หยานเซว่ไปพบท่านผู้นำยอดเขาเพื่อข้า แล้วนำผลการเข้าพบมาแจ้งให้ทุกคนทราบว่า ข้าได้วานให้กงเจิงซิ่นช่วยในการเอาชนะเหวินเฉิงหรือไม่และรับเอารางวัลนี้” เจี้ยนเฉินกล่าวกับตงหลินหยานเซว่ เขาไม่ได้พยายามลดเสียงลงเลย ทำให้เสียงของเขากระจายไปไกล
ตงหลินหยานเซว่หัวเราะคิกคัก นางจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ข้าจะช่วยเจ้าตามปกติเพื่อเห็นแก่บัวพันใบและพิสูจน์ให้เห็นว่าเจ้าบริสุทธิ์”
“ถูกต้อง มันน่าประทับใจมาก” สีหน้าของกงเจิงซิ่นเขียวคล้ำด้วยความโกรธ เขากัดฟันจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินก่อนที่จะหันหลังกลับและจากไป
เขารู้ว่าตราบใดที่ตงหลินหยานเซว่ยืนอยู่กับเจี้ยนเฉิน เขาจะไม่สามารถทำอะไรกับเจี้ยนเฉินได้ ยิ่งไปกว่านั้น เจี้ยนเฉินดูเหมือนจะไม่เคารพเขาเหมือนศิษย์คนอื่น ๆ ดังนั้นการอยู่ต่อไปก็ไร้ประโยชน์
ด้วยการจากไปของกงเจิงซิ่น เหวินเฉิงและชายคนที่สวมเสื้อคลุมสีดำโดยธรรมชาติแล้วไม่อาจอยู่ได้อีกต่อไป พวกเขาไม่พูดอะไรเลยและหนีออกจากยอดเขาทะยานเมฆอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเดียวกันบนภูเขาที่ห่างไกล ซินปิง หนึ่งในผู้ถูกเลือกก็ยืนเอามือของเขาไพล่หลัง เขาสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นจากระยะไกล
“ข้าไม่เคยคิดเลยว่า เจียงหยางจะมอบบัวพันใบให้แก่ตงหลินหยานเซว่จริง ๆ เนื่องจากมันอยู่ในมือของนาง มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ข้าจะได้มันมา”
“แต่นั่นมันจะดีกว่า ตงหลินหยานเซว่นั้นอ่อนแอที่สุด ถึงแม้จะมีบัวพันใบ มันก็ยังไม่ได้เปรียบอย่างมากต่อตำแหน่งเซียนที่ถูกเลือก ตราบใดที่กงเจิงซิ่น, ต้าอัน และเซียะเก่อ ไม่ได้รับมัน มันจะไม่ได้มีผลมากนัก”
ซินปิงบ่นกับตัวเอง เขาค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์นี้ จากนั้นเขาก็ออกจากยอดเขาด้วยพลังเซียนธาตุแสง
เรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากบัวพันใบได้สิ้นสุดลง เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ทรงพลังของยอดเขาต่าง ๆ ได้ส่งคำเชิญไปยังตงหลินหยานเซว่อีกครั้ง ยอดเขาทะยานเมฆเริ่มวุ่นวายมากในช่วงเวลานี้
อย่างไรก็ตาม ตงหลินหยานเซว่ปฏิเสธคำเชิญที่อบอุ่นทั้งหมดโดยไม่ลังเล
2 เค่อต่อมา เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดที่ได้มารวมตัวกันอยู่บนยอดเขาทะยานเมฆได้กลับสู่ภูเขาของตนเอง ยอดเขาทะยานเมฆที่วุ่นวายในที่สุดก็กลับคืนสู่ความสงบตามปกติ
“ศิษย์พี่เจียงหยาง ท่านรู้จักศิษย์พี่หยานเซว่ได้อย่างไร ? ทำไมข้าไม่เคยได้ยินท่านพูดถึงนางมาก่อนเลย ? ”
ทันทีที่ยอดเขาทะยานเมฆสงบลง ไป๋หยูก็มาถึงข้าง ๆ เจี้ยนเฉินและจับมือเขาอย่างรักใคร่และสอบถาม
ในทางกลับกัน จ้าวเฟิงยืนห่างออกไป สีหน้าที่จมอยู่ในความครุ่นคิด เขาจ้องมองไปที่ตงหลินหยานเซว่และเจี้ยนเฉินด้วยแววตาแห่งความอิจฉาซึ่งปรากฏภายในดวงตาของเขา
“บัดซบ เจียงหยาง รู้จักศิษย์พี่หยานเซว่ ได้อย่างไร ? เป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะรู้จักกัน…” จ้าวเฟิงคิดในขณะที่เขากัดฟัน เขาก็เหมือนกับไป๋หยู ในขณะที่ตงหลินหยานเซว่เป็นเหมือนนางฟ้าของเขา นางเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาทำได้แต่มองและไม่ได้ยืนอยู่บนพื้นดินที่เท่าเทียมกัน
ทว่านางฟ้าคนเดียวกันนี้ยังคุ้นเคยกับเจี้ยนเฉินและยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อพูดคุยกับเจี้ยนเฉิน แม้ว่ามันจะหมายถึงการล่วงเกินกงเจิงซินก็ตาม มันไม่ได้เป็นความรู้สึกที่ดีสำหรับจ้าวเฟิง
“ศิษย์น้อง ข้าจะอธิบายให้เจ้าฟังภายหลัง ข้ามีบางอย่างที่จะต้องพูดคุยกับศิษย์พี่หยานเซว่ ดังนั้นเจ้าควรกลับไปก่อน” เจี้ยนเฉินกล่าวกับไป๋หยู
ไป๋หยูย่นจมูกของนางด้วยความไม่พอใจและพูดจาอย่างแผ่วเบาในทันที“ ศิษย์พี่ ไม่ใช่ว่าท่านต้องสอนความเข้าใจในกฎแห่งศรัทธาแก่ข้า และท่านยังต้องสอนฝ่ามือธาตุแสงให้แก่ข้าด้วยเช่นกัน”
“เอาล่ะ ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้าจะสอนเจ้าในวันหลัง ตอนนี้ข้ายุ่งมากจริง ๆ ” เจี้ยนเฉินยิ้ม เขายอมรับไป๋หยู อย่างแท้จริง โดยปฏิบัติต่อนางในฐานะน้องสาวของเขา เขาลูบหัวนางด้วยความห่วงใย
“ศิษย์พี่เจียงหยาง ท่านพูดแล้วนะ พรุ่งนี้ข้าจะมาหาท่าน ท่านต้องสอนข้าทุกสิ่งที่ท่านรู้”
ไป๋หยูเหลือบตามองไปที่ตงหลินหยานเซว่ ก่อนเดินจากไปเพียงลำพัง
ส่วนจ้าวเฟิงนั้น เขาไม่ต้องการถูกเตือนจากเจี้ยนเฉิน หลังจากไป๋หยูจากไปแล้ว เขาก็จ้องมองไปที่ตงหลินหยานเซว่ซึ่งยังคงอยู่ที่นั่นด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาเดินจากไปไกลด้วยความคิดที่สับสน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ไปไกลเกินไป เขาหยุดอยู่ห่างจากที่พักของเจี้ยนเฉินในระยะหนึ่ง โดยซ่อนตัวอยู่ที่นั่นอย่างลับ ๆ เพื่อเฝ้าสังเกตที่พักของเจี้ยนเฉิน
หรือถ้าจะกล่าวให้อย่างถูกต้อง เขาสังเกตความสัมพันธ์ของเจี้ยนเฉินและตงหลินหยานเซว่
“ เจียงหยาง ดูเหมือนว่าศิษย์พี่ของเจ้าจะห่วงใยเจ้าจริง ๆ ” ตงหลินหยานเซว่พูดอย่างลึกลับ เห็นได้ชัดว่านางสังเกตเห็นว่าจ้าวเฟิงลอบฟังพวกเขา
เจี้ยนเฉินส่ายหน้าในขณะที่เขายิ้มอย่างขมขื่น เขาไม่ได้พยายามอธิบายพฤติกรรมของจ้าวเฟิง “บอกข้า เจ้าอุตส่าห์เดินทางมาจากยอดเขาหมื่นบุปผา เจ้าต้องการอะไรจากข้า ? ”
ตงหลินหยานเซว่จ้องมองเจี้ยนเฉินอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าประสบความสำเร็จในการใช้งานและเข้าใจพลังเซียนธาตุแสง ข้ามาหาเจ้าเพื่อสิ่งนี้”
“เจ้าต้องการให้ข้าสอนวิธีใช้พลังเซียนธาตุแสงหรือ ? ” เจี้ยนเฉินมองดูตงหลินหยานเซว่ด้วยความประหลาดใจ
ตงหลินหยานเซว่ส่ายหน้าของนางเบา ๆ และแก้ไขเขาว่า “ มันไม่ได้สอน แต่เพื่อพูดคุยและแบ่งปัน”
เจี้ยนเฉินพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขายิ้ม “ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถเข้าใจวิธีการของข้า มันอาจเป็นเรื่องยากที่จะได้รับประโยชน์จากข้า”
“หากเจ้าซึ่งมีแกนวิญญาณเพียงหนึ่งสีสามารถทำได้ แล้วข้าจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้เชียวหรือ” ตงหลินหยานเซว่ตอบคำถาม
“เอาล่ะ มาลงมือทำกันเถอะ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ข้ายังต้องการให้เจ้าไปที่ยอดเขาเพ่งนภาและรับหลักฐานบางอย่างเกี่ยวกับบัวพันใบ ข้าคิดว่าท่านผู้นำจะเห็นความสามารถของเจ้าในฐานะเซียนผู้ถูกเลือก”
ตงหลินหยานเซว่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย นางมองดูเจี้ยนเฉินอย่างจริงจังและถามว่า “เจ้าเอาจริงหรือ ? ”
“แน่นอนว่าข้าจริงจัง กงเจิงซิ่นมาหาเรื่องข้าครั้งแล้วครั้งเล่า หากข้าไม่ตอบโต้ เขาจะคิดว่าข้าเป็นเพียงเป้าหมายง่าย ๆ คราวนี้ข้าจะทำให้กงเจิงซินต้องอับอายพร้อมด้วยหลักฐานอย่างแน่นอน” สีหน้าของเจี้ยนเฉินมืดครึ้มลงและแววตาที่ดุร้ายก็ทอประกายผ่านดวงตาของเขา
สีหน้าของตงหลินหยานเซว่แข็งทื่อ นางเพ่งมองใบหน้าที่แสนจะธรรมดาของเจี้ยนเฉินอย่างรอบคอบว่าเขาสร้างมันมาจากหน้ากากหรือไม่ ซึ่งราวกับว่านางเพิ่งได้พบกับเขา
ในอีกไม่นานต่อมา ตงหลินหยานเซว่พยักหน้าอย่างเคร่งขรึม นางพูดอย่างเคร่งเครียด “เอาล่ะ ตอนนี้ข้าจะไปที่ยอดเขาเพ่งนภา อย่างไรก็ตาม ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถพิจารณาผลที่ตามมาได้อย่างชัดเจน คนที่หนุนหลังกงเจิงซิ่นนั้นไม่ง่ายเหมือนคนที่หนุนหลังเหวินเฉิง” ตงหลินหยานเซว่จึงออกเดินทางตรงไปยังยอดเขาเพ่งนภา