เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 228: สร้างชื่อให้ตัวเอง
ตอนที่ 228: สร้างชื่อให้ตัวเอง
ดวงตาของเจี้ยนเฉินกวาดมองเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งเจ็ดคนตรงหน้าเขาด้วยรอยยิ้มกว้าง ในช่วงเวลานี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความสุขตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีของเขาจะไม่กลายเป็นกลุ่มที่โดดเดี่ยวอีกต่อไป ด้วยการแนะนำของเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งเจ็ดคน ความแข็งแกร่งของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีจะเพิ่มขึ้นหลายเท่า
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินเข้าใจว่าชายทั้งเจ็ดคนนี้จะไม่เชื่อฟังเขาและมีแนวโน้มที่จะพยายามทรยศเขาในภายหลัง แต่นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับเจี้ยนเฉินเพราะเขาเพียงวางแผนที่จะใช้พวกเขาชั่วคราวเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี เขาจะใช้พวกเขาเพื่อทำภารกิจของทหารรับจ้างให้สำเร็จเพื่อปรับปรุงระดับของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี วิธีนี้ใช้ประโยชน์จากเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้งเจ็ดอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มีประโยชน์อะไรสำหรับเจี้ยนเฉินมาก เขาจึงคิดจะใช้พวกเขาเพียงชั่วระยะเวลาสั้น ๆเท่านั้น
“ทำไมพวกเจ้าห้าคนไม่แนะนำตัวเอง” เจี้ยนเฉินถามทั้งห้าคน
ด้วยความลังเล ทั้งห้ามองหน้ากันก่อนที่ชายเสื้อคลุมสีดำจะพูดออกมาว่า ” ข้า เซธ หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างคิมหันต์”
“ข้าชื่อเต้าคัง หัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างมังกรทอง”
” ข้าชื่อชาร์คัส จากกลุ่มทหารรับจ้างชาร์”
” ข้าชื่อโม่เทียน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมือสังหาร”
” ข้าชื่อฉิงเฟิง จากกลุ่มทหารรับจ้างบูรพา”
ชายทั้งห้าแนะนำชื่อและสังกัดของพวกเขา แต่เมื่อเจี้ยนเฉินเคยได้ยินคำแนะนำตัวเขาก็ยิ่งตกใจมากขึ้น เขาไม่คิดว่าห้าคนนี้จะเป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้าง หากเป็นเช่นนี้ เขาก็เพิ่งจะควบคุมกลุ่มทหารรับจ้าง 5 กลุ่มและกลุ่มผู้ทรงอิทธิพล 2 กลุ่มของเมืองเวค
ด้วยการเปิดเผยนี้ เจี้ยนเฉินพอใจกับผลกำไรที่เขาได้รับในวันนี้ เขาไม่คิดว่าคนโดดเดี่ยวอย่างเขาจะก้าวกระโดดขึ้นไปเป็นคนที่มีอำนาจ
ในขณะเดียวกัน เขาก็รู้ตัวอย่างเจ็บปวดว่าในขณะที่นี่เป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งในเมืองเวคซึ่งอยู่ภายในทวีปเทียนหยวน มันบ่งบอกได้ว่าทวีปนี้ไม่มีอะไรสำคัญเลย
“ฉิงเฟิงจากกลุ่มทหารรับจ้างบูรพา ! ” ดวงตาของเจี้ยนเฉินเผยให้เห็นถึงความตกใจสุดขีดเมื่อได้ยินชื่อของคนสุดท้าย ชื่อนี้เป็นชื่อเดียวกับกระบี่ของเขา ช่างบังเอิญจริง ๆ !
เจี้ยนเฉินมองผู้ชายที่ชื่อฉิงเฟิงใกล้ ๆ ชายผู้นี้ดูเหมือนจะอายุประมาณ 40 ปีและค่อนข้างผอมเหมือนพวกที่ชอบศึกษาตำรา เขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและผมของเขาก็ยาวถึงเอว บางครั้งลมจะพัดผมของเขาปลิวไสวไปกับสายลม คิ้วของเขาเหมือนดาบคมเรียว และเขามีนัยน์ตาคู่ที่สดใสส่องประกาย ดวงตาของเขาให้ความรู้สึกว่าเขาสามารถแทงทะลุใครบางคนได้อย่างง่ายดายเหมือนดาบ
เจี้ยนเฉินเคลื่อนตัวออกห่างจากฉิงเฟิง และมองไปที่สมาชิกอีกกลุ่มหนึ่งของตระกูลเทียนซ่ง “เทียนซ่งหลีตายแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป เมืองเวคจะไม่มีตระกูลเทียนซ่งอีกต่อไป ข้ารู้ว่าพวกเจ้าหลายคนได้รับค่าจ้างจากตระกูลเทียนซ่ง เนื่องจากข้าอารมณ์ดีและไม่ต้องการฆ่าผู้บริสุทธิ์อย่างไร้ความปราณี พวกเจ้าไปได้”
ทันใดนั้นทหารยามนับร้อยก็ฟื้นตัวจากอาการมึนงงและหันไปมองเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 7 คนและศพของพี่น้องตระกูลเทียนซ่ง ทุกคนในลานเงียบกริบ
” ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจ..”
“ขอบคุณที่ไม่ได้ฆ่าพวกเรา..”
……..
หลังจากนั้นความเงียบก็พังทลายลงทันทีที่หลายคนเริ่มร้องไห้ขอบคุณเจี้ยนเฉิน ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครรอช้า พวกเขารีบออกไปทันที
ทหารยามร้อยคนออกจากสนามบ้านของตระกูลเทียนซ่งทันที แต่ยังมีอีก 40 คนที่ไม่ยอมออกไป
เจี้ยนเฉินมองคนเหล่านั้นด้วยความสับสน “ทำไมพวกเจ้าถึงยังไม่ยอมออกไป ? “
ผู้ชายบางคนลังเลก่อน ทันใดนั้นชายที่มีร่างกายกำยำก็ก้าวไปข้างหน้าและมองหน้าเจี้ยนเฉิน เขาพูดว่า “ท่านจอมยุทธ์ ข้าอยากติดตามท่าน ท่านจะยอมรับข้าหรือไม่ ? “
อยากจะติดตามข้าหรือ ? เจี้ยนเฉินมองหน้าเขาอย่างประหลาดใจ เมื่อมองไปที่ชายคนนี้ เขาเดาว่าเขาเป็นชายร่างใหญ่มีกล้ามที่อายุประมาณ 30 ปี กล้ามเนื้อของเขาค่อนข้างเด่นชัดและตัดสินจากท่าทางการพูด เจี้ยนเฉินสามารถประมาณได้ว่าชายผู้นี้เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ
เจี้ยนเฉินพยักหน้า “ถ้าเจ้าต้องการเข้าร่วมกับข้าจริง ๆ ข้าจะเพิ่มชื่อเจ้าในการลงทะเบียนที่สมาคมทหารรับจ้าง”
ชายคนนั้นดีใจอย่างมากขณะที่เขาพูดอย่างเร่งรีบว่า “ข้าจะเชื่อฟังท่าน ! “
“ท่านจอมยุทธ์ ข้าก็อยากเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างของท่านด้วย”
“ท่านจอมยุทธ์ โปรดรับข้าเข้ากลุ่มทหารรับจ้างของท่านด้วย..”
หลังจากนั้นไม่นานทหารรับจ้างอีกสองสามคนก็เริ่มส่งเสียงยินดีที่เห็นว่าเจี้ยนเฉินยอมรับพวกเขา.
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะฆ่าเทียนซ่งหลี คนเหล่านี้หลายคนได้รับการว่าจ้างจากตระกูลเทียนซ่งและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเทียนซ่งหลีเลย พวกเขาไม่ได้เป็นมิตรกับเขาเช่นกัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีความรู้สึกหนักใจกับความตายของเขาและพวกเขายังไม่ใช่กลุ่มที่คิดจะแก้แค้นเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยอมรับว่าคนเหล่านี้มีทั้งเซียนระดับสูงโดยมีเพียงไม่กี่คนที่เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญ หากพวกเขาเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ความแข็งแกร่งของกลุ่มจะเพิ่มขึ้น
เจี้ยนเฉินไม่รู้ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของพวกเขาคืออะไรหรือหากพวกเขาจงรักภักดีต่อผู้อื่น แต่ตอนนี้สิ่งนี้จะไม่เป็นอุปสรรคต่อกลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ตอนนี้กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีต้องการสมาชิกเพิ่มอย่างมาก เมื่อสถานการณ์ของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีคงที่ เจี้ยนเฉินก็จะดึงพวกที่แอบแฝงออกจากกลุ่ม
” นอกเหนือจากเทียนซ่งหลีและเทียนซ่งเต้าหยุนแล้ว ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินมองดูชายที่เหลืออีก 40 คนแล้วถาม
ในขณะที่เจี้ยนเฉินถามคำถาม ชายคนแรกที่ให้คำมั่นว่าจะติดตามเจี้ยนเฉินพูดออกมาทันทีว่า “เทียนซ่งหลีมีฮูหยิน 3 คนที่อาศัยอยู่ที่ด้านหลัง โปรดรอสักครู่ ท่านจอมยุทธ์ ข้าจะนำตัวพวกเขาออกมาทันที” จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ด้านหลังของบ้านอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นไม่นานคนที่กระตือรือร้นหลายคนก็เห็นว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อเจี้ยนเฉินก็วิ่งตามชายคนนั้นไปทันที
หลังจากเห็นคนเหล่านี้วิ่งไปทางด้านหลัง ชายสี่สิบคนที่เหลือก็พูดไม่ออกราวกับว่าพวกเขารู้ตัวว่าพวกเขาเพิ่งพลาดโอกาสที่ดีนี้ไป เพียงแค่มองไปที่ชายคนนั้นหายเข้าไปในด้านหลังของลาน ชายเหล่านั้นก็มีเจตนาอันโหดร้าย
เจี้ยนเฉินยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางมองไปที่ชายเหล่านั้น จากการแสดงออกของพวกเขา เจี้ยนเฉินจดจำใบหน้าของคนเหล่านี้ทันที แต่เขาไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ สำหรับเขา เขายังมีเวลาจัดการคนเหล่านี้ในภายหลังและอาจถูกขับไล่ออกจากกลุ่มตอนที่พวกเขาหมดประโยชน์
” ปล่อยข้าไป ! ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ! “
ไม่นานหลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงร้องที่น่ากลัวของผู้หญิงสองสามคนในขณะที่กลุ่มผู้ชายที่ออกไปก่อนหน้านี้กลับมาพร้อมกับผู้หญิงสามคนที่อยู่ตรงกลาง ในบรรดาสามคนนั้น สองคนมีอายุราว ๆ 30 ปีในขณะที่คนสุดท้ายดูเหมือนจะอายุประมาณ 20 ปีซึ่งมีรูปร่างที่ค่อนข้างดี
“ท่านจอมยุทธ์ ทั้งสามคนนี้เป็นฮูหยินของเทียนซ่งหลี สองคนแรกอยู่กับเทียนซ่งหลีมาหลายปีในขณะที่คนที่อายุน้อยกว่าเพิ่งแต่งงานกับเขามา 2 ปี” ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะถาม ชายคนแรกก็แนะนำพวกเขา
“อ๊า” เจี้ยนเฉินพยักหน้าด้วยความพึงพอใจต่อผลงานของชายคนนี้ เขาไม่ได้คิดว่าชายผู้ร่างกำยำคนนี้จะพิถีพิถันมากนัก
ผู้หญิงสามคนนั้นดูซีดเซียวราวกับว่าพวกเขาเสียเลือด ทันทีที่พวกนางเห็นศพของเทียนซ่งหลีและเทียนซ่งเต้าหยุน พวกนางต่างก็นิ่งเงียบด้วยความตกใจ
ชายคนนั้นมองใบหน้าของเจี้ยนเฉินขณะถือขวานไว้ที่คอของผู้หญิงคนหนึ่ง “จอมยุทธ์ เนื่องจากทั้งสามคนนี้เป็นฮูหยินของเทียนซ่งหลี เราควรจะฆ่าพวกนางหรือไม่ ? “
” อย่าฆ่าข้า ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย. ..”
ผู้หญิงสามคนร้องออกมาด้วยความหวาดกลัวจากคำถามนั้น ราวกับว่าพวกนางรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้ พวกนางมองเจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่อ้อนวอน น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากดวงตาเหมือนสายน้ำ
เมื่อเห็นว่าผู้หญิงสามคนนี้มีความสิ้นหวังมากเพียงใด เจี้ยนเฉินก็ถอนหายใจก่อนที่จะโบกมือว่า “เอาเถอะ ปล่อยพวกนางไป” เจี้ยนเฉินไม่สนใจหญิงสามคนที่ไร้ทางสู้ ท้ายที่สุดเขาไม่ได้เป็นคนเลือดเย็น
“ได้เลย ท่านจอมยุทธ์ ! ” พวกเขาไม่คัดค้านคำพูดของเจี้ยนเฉินและเลิกเอาอาวุธต่อหญิงสามคนทันที
หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็พาคนกลุ่มใหญ่ออกจากลานของตระกูลเทียนซ่ง เรื่องที่เกี่ยวกับตระกูลเทียนซ่งอาจกล่าวได้จบลงอย่างน่าทึ่ง
ตระกูลเทียนซ่งไม่ได้ถูกก่อตั้งขึ้นมานานนับร้อยปีเหมือนตระกูลอื่นที่มีประวัติมากมาย ดังนั้นเสาหลักที่แท้จริงของความแข็งแกร่งของตระกูลคือเทียนซ่งหลีและเทียนซ่งเต้าหยุน
ข่าวการถอนรากถอนโคนตระกูลเทียนซ่งเป็นที่โจษขานไปทั่วเมืองเวคและทำให้ทุกคนตกตะลึง ข่าวเรื่องนี้ยิ่งใหญ่กว่าตอนที่ตระกูลโจวถูกทำลาย
หลังจากที่ทุกคนค้นพบว่าตระกูลเทียนซ่งถูกฆ่าตาย ชื่อเสียงของเจี้ยนเฉินก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เขาโด่งดังมากจนแทบจะไม่มีใครในเมืองที่ไม่รู้เรื่องของเขา ในช่วงเวลาสองวัน เจี้ยนเฉินได้ทำลายล้างกลุ่มทหารรับจ้างโจวรวมทั้งตระกูลโจวก่อนแล้วจึงทำลายตระกูลเทียนซ่ง ไม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังได้ควบคุมผู้อาวุโสของตระกูลสองคนและหัวหน้าห้าคนจากกลุ่มทหารรับจ้าง ในตอนแรกแทบจะไม่มีใครเชื่อข่าวที่น่าตื่นตกใจนี้