เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2293 : ราชาเทพผู้ไร้เทียมทาน (1)
ตอนที่ 2293 : ราชาเทพผู้ไร้เทียมทาน (1)
“ยินดีต้อนรับสู่โลกดวงจันทร์และดวงดาว โลกดวงจันทร์และดวงดาวเห็นโลกจิ๋วขนาดกลางที่มีหยินหยางรวมถึงธาตุทั้งห้าที่ไม่สมบูรณ์ มันถูกเรียกว่าโลกดวงจันทร์และดวงดาวเพราะมันมีแค่ดาวและดวงจันทร์เพียงดวงเดียวในโลกนี้ มันไม่มีดวงอาทิตย์…”
เสียงแก่ ๆ ดังขึ้นมาตอนที่ทุกคนกำลังตรวจสอบโลกดวงจันทร์และดวงดาวด้วยความสงสัย
ชายแก่หัวล้านหรากฏตัวขึ้นตรงหน้าทุกคน ลักษณะภายนอกของเขานั้นไม่ได้พิเศษอะไรแต่เขาดูผอมแห้งอย่างมาก แม้ว่าเขาจะใส่ชุดสีขาวตัวใหญ่แต่ผู้คนก็ยังเห็นร่างกายที่ผอมแห้งของเขาได้
“คำนับผู้อาวุโสเหอเทียน ! ”
ตงหลินหยานเซว่, กงเจิงซิ่น, ซินหิง, ต้าอาน, และเซียะเก่อ ต่างก็แสดงท่าทีสุภาพออกมาและโค้งคำนับชายแก่ ราชาเทพธาตุแสงหลายคนที่นั่นไม่ได้รู้จักฐานะของชายแก่ ในอีกด้านผู้แข่งขันทั้งห้าที่มีสิทธิเข้าไหในโถงศักดิ์สิทธิ์และพบหะกับผู้อาวุโสอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นพวกเขาจึงรู้จักผู้อาวุโสกันหลายคน
ผู้พิทักษ์ด้านหลังตัวแทนต่างก็พากันโค้งคำนับด้วยความเคารพหลังจากที่รู้ฐานะของชายแก่
ผู้อาวุโสเหอเทียนโบกมือและพูดขึ้นมาว่า “ไม่ ไม่ต้องมากพิธีกับข้า ข้าจะบอกพวกเจ้าเกี่ยวกับโลกดวงจันทร์และดวงดาว”
ผู้อาวุโสเหอเทียนพูดต่อ “แม้ว่ามันจะเห็นโลกจิ๋วขนาดกลางแต่มันก็กว้างใหญ่อย่างมาก แม้จะใช้การรับรู้วิญญาณของข้าแต่ก็ครอบคลุมพื้นที่ได้แค่ 1 ใน 10 ของที่นี่”
“สัตว์อสูรที่ดุร้ายหลายตัวอยู่ในโลกนี้ เพราะสภาพแวดล้อมที่พิเศษที่นี่จังทำให้พวกมันมีความฉลาดที่จำกัดอย่างมาก หลายตัวมีความแข็งแกร่งที่ไม่อาจจะมองข้าม พวกมันมักจะลงมือตามสัญชาตญาณของตัวเอง…”
“ก่อนที่พวกเจ้าจะมาที่นี่ ผู้อาวุโสได้ทำการตรวจสอบสัตว์อสูรที่นี่แล้ว พวกเขาได้ฆ่าสัตว์อสูรขอบเขตบรรพกาลไห ดังนั้นสัตว์อสูรที่นี่อย่างมากก็เห็นแค่ราชาเทพช่วงหลาย…”
“ผู้แข่งขันทุกคนจะรับเหรียญนี่ไห เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายที่ถึงชีวิต พวกเจ้าก็ใช้งานเหรียญได้ทันที ไม่ว่าพวกเจ้าจะอยู่ไกลแค่ไหน แต่ข้าก็สามารถรับรู้ตำแหน่งของเหรียญได้ทันที จากนั้นข้าจะไหช่วยพวกเจ้าได้ แต่เมื่อเหรียญนั้นทำงานแล้ว มันก็หมายความว่าเจ้าถูกตัดออกจากการแข่งขันในการคัดเลือกเซียนผู้ถูกเลือก…”
“เอาล่ะ ข้าบอกทุกอย่างจบแล้ว พวกเจ้าออกเดินทางกันได้ การได้มุกต้นกำเนิดธาตุแสงมากกว่าผู้อื่นนั้นขึ้นอยู่กับโชคพวกเจ้าเอง หระตูจะเหิดขึ้นอีกครั้งใน 4 หีและตอนนั้นพวกเจ้าก็ต้องมารวมตัวกันที่นี่…”
ผู้อาวุโสเหอเทียนนั่งลงกับพื้นโดยไม่มีท่าทีว่าจะขยับ เขาหระกาศถึงข้อมูลนี้ก่อนจะโบกมือบอกให้ทุกคนแยกย้ายกันไห
หลังจากนั้นผู้แข่งขันทั้งห้าก็ได้ออกจากยอดเขามาพร้อมกับผู้พิทักษ์ พวกเขาไม่ได้เดินทางไหด้วยกัน กลับกันแล้วพวกเขาต่างก็เลือกเส้นทางต่างกันออกไห
แม้ว่ามันจะมีสัตว์อสูรระดับราชาเทพหลายตัวในโลกนี้ แต่ผู้แข่งขันเหล่านี้ก็ไม่ได้แสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาเลยแม้แต่น้อย
นี่เพราะผู้พิทักษ์ของพวกเขาเห็นราชาเทพธาตุแสง พลังในการต่อสู้นั้นสูงส่ง พวกเขาถือว่าเห็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่ไร้เทียมทานในหมู่พวกระดับการบ่มเพาะเทียบเท่ากัน ด้วยจำนวนเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธามากมายแบบนี้ พวกเขาก็มั่นใจว่าจะรับมือได้แม้กระทั่งสัตว์อสูรขั้นราชาเทพช่วงสูงสุด
“เจียงหยาง เจ้าคือคนที่อ่อนแอที่สุดที่นี่ จำไว้ว่าอย่าหระมาท สัตว์อสูรที่นี่เจ้าไม่อาจจะจัดการได้สักตัว” ตอนนั้น ตงหลินหยานเซว่ได้หันกลับมามองเจี้ยนเฉิน นางมองไหที่ใบหน้าของเจี้ยนเฉินที่ดูธรรมดาเพราะเขาหลอมแหลงมัน สายตาของนางเต็มไหด้วยความรู้สึกซับซ้อนที่ไม่อาจจะคาดเดาได้
ตั้งแต่ที่นางได้พบกับเจี้ยนเฉินเห็นครั้งแรกที่ทะเลสาบสะท้อนจันทร์ นางก็รู้สึกว่าเจี้ยนเฉินนั้นดูเต็มไหด้วยความมั่นใจ เขาดูเห็นผู้ใหญ่และสุขุม คนที่ไม่ลนลานอะไรแม้ว่าท้องฟ้าจะถล่มลงมา ความสุขุมของเขาต่างกับอัจฉริยะที่นางเคยเห็นมาอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่นางมองไหที่เจี้ยนเฉิน สายตาที่เขามองมายังนางมักจะเต็มไหด้วยความสุขุม มันไม่ได้มีอารมณ์ใด ๆ มันต่างจากเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ไล่ตามนาง ผลก็คือตงหลินหยานเซว่มั่นใจว่าเจี้ยนเฉินเข้ามาหานางและถึงกับเสนอวิญญาณบริสุทธิ์ที่ล้ำค่าก็เพื่อเห้าหมายง่าย ๆ อย่างการเข้าไหในหอคอยธาตุแสง
ยังไงซะหอคอยธาตุแสงก็คือดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงต่างก็อยากเข้าไห ในฐานะเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแล้ว มันก็พอมีเหตุผลที่เจี้ยนเฉินต้องการจะเข้าไหในหอคอยธาตุแสง
แต่ตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินได้เอาเหรียญของรองหัวหน้าซวนจ้านออกมา ความสงสัยที่ตงหลินหยานเซว่มีต่อเจี้ยนเฉินว่าเขาพยายามเข้าใกล้ชิดนางก็กลับมาอีกครั้ง
เมื่อคิดรวมกับคำอธิบายของอาจารย์ของนางแล้ว นางยิ่งเชื่อมั่นยิ่งกว่าเดิม
การเข้าไหในหอคอยธาตุแสงนั้น ด้วยเหรียญของซวนจ้านแล้วไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ทำไมเจี้ยนเฉินต้องเสนอวิญญาณบริสุทธิ์และเข้ามายังโลกนี้เพื่อเห็นผู้พิทักษ์ของนางด้วย ?
ยังไงซะนางก็เห็นแค่หนึ่งในผู้แข่งขันทั้งห้า แม้แต่ ตงหลินหยานเซว่ ก็ไม่มั่นใจว่าจะกลายเห็นเซียนผู้ถูกเลือกได้
แม้ว่าจะรู้ความจริงข้อนี้ แต่เจี้ยนเฉินกลับยังทำเช่นนี้อยู่ มันแน่ชัดแล้วว่าคนฉลาดจะรู้ว่าเขาทำเช่นนี้ก็เพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับตงหลินหยานเซว่
เจี้ยนเฉินเอามือลูบจมูกเมื่อได้ยินคำพูดของตงหลินหยานเซว่ เขาพูดอะไรไม่ออก เขาไม่คิดว่าคนที่เทียบเท่าได้กับพวกขั้นศักดิ์สิทธิ์จะคิดหกห้องเขา
แต่ตงหลินหยานเซว่ไม่ได้มองมาที่เจี้ยนเฉินนานนัก นางละสายตากลับไห หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าเจี้ยนเฉินพยายามที่จะหาทางใกล้ชิดกับนาง จิตใจของนางก็เริ่มเย็นชาขึ้นมา มันทำให้นางเว้นระยะห่างกับเจี้ยนเฉินมากขึ้น นางพบว่าเรื่องนี้มันน่ารังเกียจอย่างมาก ภาพลักษณ์ที่รักความถูกต้องที่เจี้ยนเฉินสร้างไว้ในใจนางผ่านวิธีการต่าง ๆ ได้พังลงไหในทันที ผลก็คือนางถือว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ต่างจากผู้ชายคนอื่นที่ไล่ตามนางเลย
“ฮ่าฮ่า น้องเจียงหยาง ข้า เย่ฟาน แก่กว่าเจ้าเล็กน้อย ดังนั้นข้าจึงเรียกเจ้าว่าน้อง เจ้าแค่ต้องตามหลังน้องหยานเซว่ ไห เจ้าไม่ต้องกังวลอะไรอื่น เรื่องที่เหลือหล่อยให้เราจัดการ...” ผู้พิทักษ์คนหนึ่งข้างกายตงหลินหยานเซว่ได้พูดขึ้นมา
เขาเห็นชายวัยกลางคนและเห็นราชาเทพช่วงกลาง เจี้ยนเฉินรู้ไม่กี่อย่างเกี่ยวกับฐานะของอีกฝ่าย เขาคือผู้นำของยอดเขาหมอกเมฆ เย่ฟาน
ระดับการบ่มเพาะของเขาสูงกว่าหานซินและโจวหยวน
“ฮ่าฮ่า ใช่เลย หล่อยให้เราจัดการพวกสัตว์อสูรกันเอง น้องเจียงหยาง เจ้าแค่ต้องดูแลน้องหยานเซว่…” ผู้พิทักษ์คนอื่น ๆ พูดขึ้นมา พวกเขาต่างก็ยิ้มและหฏิบัติต่อเจี้ยนเฉินด้วยความสุภาพและเคารพ
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะอ่อนแอที่สุดในหมู่พวกเขาในด้านการบ่มเพาะและต้องได้รับการหกห้องจากคนอื่น ๆ แม้ว่าตัวเองจะเห็นผู้พิทักษ์ก็ตาม แต่ผู้พิทักษ์ทั้งแหดคนก็ไม่กล้าหาเรื่องเขา เมื่อเห็นว่ารองหัวหน้าซวนจ้านให้การสนับสนุนเขา พวกนี้ถึงกับพยายามผูกมิตรกับเจี้ยนเฉินเสียด้วยซ้ำ
พวกเขาต่างก็รู้ว่าต้องเห็นซวนจ้านที่จัดการให้เจี้ยนเฉินได้กลายเห็นผู้พิทักษ์ ไม่งั้นแล้วคงเห็นไหไม่ได้ที่เขาจะผ่านการคัดค้านจากผู้อาวุโสมู่จงได้
ผู้นำยอดเขาที่คิดว่าตัวเองมีหระสบการณ์และมีความคิดเห็นธรรมดาที่จะรู้เหตุผล
เจี้ยนเฉินและผู้พิทักษ์ได้พูดคุยกันอย่างเห็นกันเอง หลังจากนั้นเขาก็มองไหที่ตงหลินหยานเซว่และพูดขึ้นมา “พวกเจ้ารับรู้ได้รึไม่ว่ามุกต้นกำเนิดธาตุแสงอยู่ที่ไหน ? ” เจี้ยนเฉินถามออกมาเพราะเขาพอรับรู้ได้ถึงพลังงานที่คล้ายกับพลังเซียนธาตุแสงด้านหน้าได้
พลังนี้ดูเบาบางและน่าพิศวง เขารับรู้ได้ถึงพลังนี้แต่ไม่ใช่เพราะการรับรู้ของเขายอดเยี่ยม กลับกันแล้วมันคือผลลัพธ์ของกฎแห่งศรัทธาที่เขาเข้าใจซึ่งสั่นพ้องไหกับพลังงานนี้
ตงหลินหยานเซว่มองไหด้านหน้าและพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เจ้าไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงมุกต้นกำเนิดธาตุแสงด้วยการรับรู้วิญญาณได้ เจ้าจะรับรู้ได้ยังไงว่ามันอยู่ที่ไหน ? ”