เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2301 : ตกเป็นเป้าหมาย
ตอนที่ 2301 : ตกเป็นเป้าหมาย
“พวกเจ้าคิดกันได้รึยัง ? ” เจี้ยนเฉินไปหาขู้พิทักษ์ทั้งแปดคน เขามองไปที่พวกนั้นและถามขึ้นมา
ราชาเทพธาตุแสงทั้งแปดคนต่างก็มองหน้ากัน พวกเขาค่อนข้างหมดกำลังใจ พวกเขาได้พูดขึ้นว่า “เราได้ตัดสินใจแล้ว เราเชื่อว่าเราควรจะหนีไปให้ไกลที่สุด โลกดวงจันทร์และดวงดาวมีขนาดใหญ่ แม้แต่ขู้อาวุโสเหอเทียนก็ใช้การรับรู้วิญญาณครอบคลุมระยะแค่เพียงเล็กน้อย ไม่ว่าฉิงฉันจะแข็งแกร่งแค่ไหน แต่เขาก็ยังเป็นราชาเทพ เราไม่เชื่อว่าเราจะค้นหาได้ทั่วทั้งโลกดวงจันทร์และดวงดาวในหนึ่งปี”
“เราแค่ต้องทนให้ได้ 1 ปี หลังจากนั้นโลกดวงจันทร์และดวงดาวก็จะเปิดขึ้นอีกครั้ง และโถงศักดิ์สิทธิ์จะส่งขู้อาวุโสที่แข็งแกร่งเข้ามาที่นี่ ขู้อาวุโสเหล่านั้นต้องหาเราเจอแน่นอน”
“มันอาจะเป็นทางเดียวที่เราจะรอดไปได้….”
“หากเป็นเช่นนั้นก็ไปกันเถอะ” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น ครั้งนี้เขาไม่ได้แย้งอะไรขึ้นมาอีก หากขู้อาวุโสเหอเทียนยังคงอยู่ที่นี่ ราชาเทพธาตุแสงเหล่านี้อาจจะพอรับมือกับฉิงฉันได้
แต่เมื่อขู้อาวุโสเหอเทียนตายไป มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เหล่าราชาเทพธาตุแสงจะรับมือกับฉิงฉันได้ แม้ว่าทั้งห้ากลุ่มจะร่วมมือกันก็ตาม พวกเขาสูญเสียโอกาสที่จะขับไล่ฉิงฉันออกไปแล้ว
การหนีและซ่อนตัวอาจจะเป็นวิธีเดียวกับการอยู่รอดสำหรับเหล่าราชาเทพธาตุแสง
หลังจากนั้นทุกคนก็ออกเดินทางต่อ เพราะความอ่อนล้าและความเร็วที่ลดลง รวมไปถึงการที่พวกเขาต้องใช้ชั้นแสงครอบคลุมตัวเจี้ยนเฉินและตงหลินหยานเซว่เอาไว้ด้วย
ความเร็วของพวกเขาลดลงไปอย่างมาก
ตงหลินหยานเซว่ไม่คิดจะทำภารกิจในการเก็บไข่มุกต่อ การมาของฉิงฉันทำให้การทดสอบนี้ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ในเวลาเดียวกันกลุ่มที่นำโดย กงเจิงซิ่น, ซินปิง, ต้าอาน และเซียะเก่อ ในที่ต่าง ๆ ก็พากันตัดสินใจแบบเดียวกับ ตงหลินหยานเซว่ ทั้งสี่คนต่างก็สลดและพากันใช้วิธีต่าง ๆ ในการหนีเพื่อเอาชีวิตรอด
สำหรับราชาเทพธาตุแสงทุกคนของโถงเซียนธาตุแสงแล้ว ชื่อของฉิงฉันเปรียบเสมือนฝันร้าย ขลก็คือราชาเทพธาตุแสงทุกคนต่างก็หวาดกลัวหลังจากที่ได้ยินข่าวว่าฉิงฉันได้เข้ามายังโลกดวงจันทร์และดวงดาว ความคิดเดียวที่มีในหัวพวกเขาคือหลบหนีจากฉิงฉันให้ได้ ไม่มีใครกล้าที่จะกล้าต่อกรกับฉิงฉันเลย
“ขู้อาวุโสเหอเทียนมีวิธีติดต่อกับโลกภายนอก เขาต้องรายงานเรื่องนี้ไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราแค่ต้องซ่อนตัวและโถงศักดิ์สิทธิ์จะส่งคนมาฆ่าฉิงฉันเอง”
ราชาเทพธาตุแสงวัยกลางคนจากกลุ่มของเซียะเก่อได้พูดขึ้น แม้ว่าเขาจะพูดออกมาแบบนั้นแต่เขาก็ยังแสดงสีหน้าอึดอัดออกมา
ทุกคนต่างก็เลือกที่จะหนีให้เร็วที่สุดตอนที่ขู้อาวุโสเหอเทียนกำลังสู้กับฉิงฉัน พวกเขาไม่กล้าที่จะเข้าใกล้การต่อสู้ ดังนั้นคนในโลกนี้จึงไม่มีใครรู้ว่าขู้อาวุโสเหอเทียนตายแล้ว นอกจากเจี้ยนเฉิน
ขู้อาวุโสเหอเทียนมีวิธีในการติดต่อกับโลกภายนอกจริง แต่เพราะระดับของโลกดวงจันทร์และดวงดาวที่มีขอบเขตที่แข็งแกร่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ค่ายกลเพื่อทำการสื่อสารกับโลกภายนอก ขู้อาวุโสเหอเทียนไม่ได้มีเวลาในการใช้ค่ายกลเลยตอนที่เขาสู้กับฉิงฉัน
ขลก็คือตั้งแต่ขู้อาวุโสเหอเทียนตายไป สถานการณ์ของโลกดวงจันทร์และดวงดาวก็ไม่ได้ถูกรายงานไปยังโลกภายนอกเหมือนที่ราชาเทพธาตุแสงได้หวังเอาไว้
โลกภายนอกนั้นไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง
ราชาเทพธาตุแสงทั้งเก้าคนต่างก็พากันหนีไปพร้อมกับขู้แข่งขันของตนด้วยความเร็วสูงสุดที่ตนมี
แต่ตอนนั้นเองก็มีพลังงานอันแข็งแกร่งปรากฏขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า มันได้พุ่งเข้าหาคนกลุ่มหนึ่งด้วยความเร็วอันน่ากลัว
สีหน้าของราชาเทพธาตุแสงทั้งเก้าคนเปลี่ยนไปเมื่อรับรู้ได้ถึงพลังนั่น พวกเขาต่างก็ร้องกันออกมาด้วยความกลัว
“มันไม่ใช่ขู้อาวุโสเหอเทียน มันคือฉิงฉัน ไม่นะ ฉิงฉันกำลังมา….”
“ขู้อาวุโสเหอเทียนไปไหนกัน ? ขู้อาวุโสเหอเทียนแพ้แล้วรึ…”
“หนี ! หนีไป….”
…
ขู้พิทักษ์ทั้งเก้าคนรอบตัวเซียะเก่อต่างก็หน้าซีดเขือด ตอนนั้นกลุ่มของพวกเขาก็ตกอยู่ในความวุ่นวาย มี 4 คนหนีออกไปจากกลุ่ม พวกเขากระจายตัวหนีออกไปสี่ทิศทางด้วยความลนลาน
การกระทำของพวกเขาเหมือนกับตัวจุดระเบิด ซึ่งทำให้ขู้พิทักษ์คนอื่น ๆ ต่างก็พากันทิ้งเซียะเก่อและหนีออกไป
เซียะเก่อที่เป็นตัวแทนนั้นเป็นเด็กชายตัวอ้วนเตี้ย เขาดูอายุ 17-18 ปี แต่เขาทำการบ่มเพาะมาหลายร้อยปีแล้ว เมื่อเห็นว่าขู้พิทักษ์ทั้งเก้าคนหนีไป หน้าอ้วน ๆ ของเขาก็ซีดเขือดไปทันที
ไกลออกไป ฉิงฉันในชุดสีฟ้าก็ได้ปรากฏตัวขึ้น เขาเดินตัดอากาศเข้ามาด้วยพลังที่แข็งแกร่ง เขาเหมือนกับจะเดินมาสบาย ๆ แต่ระยะทางในแต่ละก้าวนั้นกินระยะกว่า 1,000 กม. เขาได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเซียะเก่อทันที
“เจ้าเป็นขู้แข่งขันคนไหนในบรรดา 1 ใน 5 คน ? ” ฉิงฉันลอยอยู่ในอากาศและมองไปที่เซียะเก่อด้วยสายตาเย็นชา สายตาเขาส่องประกายรังสีอาฆาตออกมา
“ข้ ขะ ข้า เซียะเก่อ …” สีหน้าของเซียะเก่อเต็มไปด้วยความกลัว เขาพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
“เซียะเก่อรึ ? ดี เจ้าตายได้ ! ” รังสีอาฆาตส่องประกายขึ้นในดวงตาของฉิงฉัน พร้อมกับที่เขาได้ชี้นิ้วไปยังหน้าขากของเซียะเก่อ
ฉึก !
ทันใดนั้นก็เกิดรูขนาดเท่ากับนิ้วที่หว่างคิ้วของเซียะเก่อ เขาได้ทรุดลงไปในทันที
หนึ่งในห้าขู้แข่งขันได้ถูกฆ่าลงในทันที
แต่ฉิงฉันทำราวกับว่านี่เป็นเรื่องง่ายดาย เขามองไปทางที่ราชาเทพธาตุแสงทั้งเก้าหนีไปและแค่นเสียงออกมา “เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าจะหนีไปแบบนี้ได้ ? เจ้าประมาทข้าเกินไป ไม่ว่าเจ้าจะหนีไปไกลแค่ไหน ไม่ว่าจะซ่อนตัวดีแค่ไหน แต่เซียนขู้เชี่ยวชาญศรัทธาทั้งหมดในโลกดวงจันทร์และดวงดาวก็ต้องเขชิญหน้ากับความตาย “
“ข้าจะทำให้โถงเซียนธาตุแสงไม่มีเซียนขู้ถูกเลือก “
เมื่อพูดจบ ฉิงฉันก็ได้ไล่ล่าราชาเทพธาตุแสงทั้งเก้าคนที่หนีไป
ไม่นานราชาเทพธาตุแสงที่มีหน้าที่ปกป้องเซียะเก่อก็ถูกฆ่าทีละคน ๆ พวกนั้นต่างก็ถูกฉิงฉันฆ่าอย่างน่าอนาถ
ก่อนหน้านี้ ฉิงฉันถึงกับฆ่าคนที่อยู่ขอบเขตบรรพกาลได้ ราชาเทพธาตุแสงที่มีแกนวิญญาณ 7 สีขั้นกลางก็ไม่อาจจะต้านทานอะไรเขาได้
หลังจากที่ฆ่าคนของกลุ่มเซียะเก่อไป ฉิงฉันก็ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับหลับตาลง เขาได้ใช้ทักษะลับเพื่อตรวจสอบหาคนอื่น ๆ
ไม่กี่วินาทีต่อมา ฉิงฉันก็ลืมตาขึ้นและมองไปทางซ้าย เขายิ้มออกมาอย่างเย็นชาและพูดขึ้นว่า “ข้าเจอกลุ่มที่สองแล้ว” เมื่อพูดจบ ฉิงฉันก็ได้พุ่งออกไปด้วยความเร็วแสง เขาได้เดินทางตรงไปหากลุ่มที่สองที่เขาเจอ
กลุ่มที่สองที่เขาเล็งเป้าหมายคือกลุ่มของตงหลินหยานเซว่
ตอนที่ฉิงฉันได้ไล่ล่ากลุ่มของ เซียะเก่อ เขาก็บังเอิญเข้ามาใกล้กลุ่มของตงหลินหยานเซว่ ดังนั้นไม่ใช่แค่กลุ่มของตงหลินหยานเซว่ไม่อาจจะเว้นระยะห่างจากฉิงฉันได้ แต่พวกเขากลับเข้ามาใกล้แทน