เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2303 : ต่อกรกับฉิงฉัน(2)
ตอนที่ 2303 : ต่อกรกับฉิงฉัน(2)
แม้ว่าค่ายกลนั้นจะทำให้คลื่นพลังงานอ่อนแอลงซึ่งทำให้พวกเขาไม่เป็นอะไร แต่คลื่นพลังนี้ก็ยังน่ากลัวสำหรับ ตงหลินหยานเซว่ที่ซึ่งมีระดับการบ่มเพาะเทียบเท่ากับขั้นศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น
เลือดกระจายออกมาจากปากของตงหลินหยานเซว่ นางหน้าซีดเผือด นางได้รับบาดเจ็บสาหัส ในเวลาเดียวกันวิญญาณของนางก็ได้รับผลกระทบจากพลังวิญญาณนักรบ แม้แต่พลังวิญญาณนักรบที่อ่อนแรงที่เข้าสู่ร่างกายนางกลับสร้างความเสียหายอย่างมาก
ตงหลินหยานเซว่รู้สึกเจ็บปวดอย่างมากในหัว ไม่นานนางก็หมดสติไป
“ยังมีชีวิตอยู่ ! ” ฉิงฉันแสดงสีหน้าเย็นชาออกมาและชี้นิ้วออกมาเป็นครั้งที่ 2 ลำแสงพลังงานอันแข็งแกร่งได้ก่อตัวขึ้นมายิงเข้าใส่ตงหลินหยานเซว่ด้วยพลังงานที่เพียงพอทำให้มิติบิดเบี้ยวได้
เจี้ยนเฉินจับตาดูตงหลินหยานเซว่อยู่ตลอด ตอนที่นางสลบไป เขาก็ใช้มือตัวเองประคองนางเอาไว้ ตาของเขาเป็นประกายขึ้นมาทันทีเมื่อเขาเห็นว่านางสลบไป
ในเวลาเดียวกัน มิติก็บิดเบี้ยวขึ้นมาเพราะพลังงานอันแข็งแกร่งที่พุ่งเข้ามา การโจมตีครั้งที่ 2 ของฉิงฉันได้พุ่งเข้ามาด้วยความเร็วแสง
เจี้ยนเฉินไม่ได้สนใจมองการโจมตีของฉิงฉันด้วยซ้ำ เขาดึงตงหลินหยานเซว่มาใกล้ตัวด้วยมือข้างหนึ่งและหันหลังให้กับฉิงฉันเพื่อปกป้องตงหลินหยานเซว่ ในเวลาเดียวกัน มือเขาก็ยื่นมือขวาของเขาออกไปด้านหลัง ทันใดนั้นกฎแห่งกระบี่อันแหลบคมก็ถูกใช้ออกมา มันได้ไปรวมตัวกันที่ปลายนิ้วของเจี้ยนเฉิน ก่อนที่จะมีปราณกระบี่ถูกยิงออกไป
ปราณกระบี่นี้เหมือนจะมีขนาดเท่ากับนิ้วมือแต่มันกลับทรงพลังอย่างมาก ตอนที่พุ่งอากาศมันได้เกิดเสียงตัดสายลมที่น่าขนลุกขึ้นมา มิติรอบ ๆ ต่างก็บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง มันเกิดรอยแตกของมิติขึ้นมาที่นั่น
ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็ได้โอกาสสู้เมื่อตงหลินหยานเซว่สลบไป และเหล่าราชาเทพธาตุแสงต่างก็พากันหนีไป !
ปราณกระบี่ที่แหลมคมปะทะเข้ากับลำแสงที่มีพลังวิญญาณนักรบก่อนจะเกิดการระเบิดออก ตอนที่กฎที่แตกต่างกันปะทะกัน มันต่างก็ทำลายกันและเกิดคลื่นพลังแผ่ไปโดยรอบ
การโจมตีของพวกเขานั้นน่ากลัวเกินกว่าระดับราชาเทพ พื้นดินแตกออก มิติบิดเบี้ยว พื้นที่ส่วนนั้นแทบจะทรุดตัวลงไป
เจี้ยนเฉินใช้ร่างกายของตัวเองเป็นโล่เพื่อปกป้องตงหลินหยานเซว่ที่หมดสติไป ภายใต้การโคจรพลังบรรพกาล เขาก็ได้ใช้การป้องกันจนถึงขีดสุด มันราวกับว่าเท้าของเขาฝังรากไปกับพื้น เขายืนอยู่อย่างมั่นคงภายใต้คลื่นพลังที่กระจายออกมา เขาไม่ได้ขยับเลยแม้แต่น้อย
ในอีกด้าน ฉิงฉันที่ลอยอยู่บนอากาศกลับเหมือนมีโล่พลังที่มองไม่เห็นขึ้นมาตรงหน้าเขาและกันคลื่นพลังงานที่ระเบิดออกมาไม่ให้เข้าใกล้เขา
ตอนนั้นสายตาเขากลับเป็นประกายขึ้นมา เขามองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความตกตะลึง, แปลกใจและเหลือเชื่อ เขาอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมา “กฎแห่งกระบี่ ! ”
ฉิงฉันพบว่าเจี้ยนเฉินด้อยกว่าเขาอย่างมาก เจี้ยนเฉินเหมือนกับมีแกนวิญญาณหนึ่งสี ดังนั้นฉิงฉันจึงไม่ได้คิดใส่ใจอีกฝ่าย
แต่เมื่อเจี้ยนเฉินซึ่งแน่ชัดแล้วว่าเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงในสายตาของฉิงฉัน กลับแสดงพลังจากกฎแห่งกระบี่ได้ ฉิงฉันก็เริ่มสนใจอีกฝ่ายขึ้นมา
ตาของฉิงฉันเป็นประกายและมองมาที่เจี้ยนเฉิน แสงในตาเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว
เจี้ยนเฉินเองก็หันกลับมาช้า ๆ มองไปที่ฉิงฉันอย่างใจเย็น
แต่ไม่นานเขาก็รู้สึกแปลกใจนิด ๆ เขาพบว่าสายตาของฉิงฉันแปลกไป มันทำให้เขาสับสนเล็กน้อย
เขาไมได้รับรู้ถึงความอาฆาตจากสายตาของฉิงฉันเลยแม้แต่น้อย กลับกันแล้ว เขาเห็นความดีใจและตื่นเต้นจากสายตาอีกฝ่ายที่เปลี่ยนอารมณ์ไปมาอย่างรวดเร็ว
“การรับรู้วิญญาณก่อนหน้านี้มาจากเจ้ารึ ? ” ฉิงฉันถามหลังจากที่มองมาที่เจี้ยนเฉินสักพัก
“ถูกต้องแล้ว ! ” เจี้ยนเฉินมองไปที่ฉิงฉันอย่างใจเย็นและถามขึ้นมาว่า “เจ้าต้องการจะฆ่าตงหลินหยานเซว่หรือ ? ”
“เป้าหมายของข้าในการมายังโลกดวงจันทร์และดวงดาวคือการฆ่าผู้แข่งขันทั้งห้ารวมถึงผู้พิทักษ์ เพื่อที่โถงเซียนธาตุแสงจะได้ไม่มีเซียนผู้ถูกเลือก” ฉิงฉันตอบกลับอย่างใจเย็นและมองไปที่เจี้ยนเฉิน
“งั้นเจ้าก็คงต้องผิดหวังเพราะเจ้าไม่อาจจะฆ่าตงหลินหยานเซว่ได้” เจี้ยนเฉินพูดขึ้น
ฉิงฉันขมวดคิ้ว เขามองไปที่เจี้ยนเฉินแล้วตะโกนออกมา “เจ้าอยากปกป้องนางรึ ? เจ้าไม่ได้อ่อนแอ แต่เจ้าก็ไม่ได้อยู่ขอบเขตบรรพกาล เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถมากพอรึ ? ”
“ข้ามี ! ”
“ดีมาก ! แสดงให้ข้าดูทีว่าเจ้ามีความสามารถแค่ไหนกัน ! ” ฉิงฉันตะโกนออกมาพร้อมกับพลังที่พุ่งสูงขึ้น มันทำให้เมฆและลมกระจายตัว มิติในเขตนั้นเกิดบิดเบี้ยวขึ้นมา
สายตาของเจี้ยนเฉินดูเฉียบคมขึ้นมา เขาก้มหน้ามองตงหลินหยานเซว่ที่หมดสติในอ้อมแขน ตอนนี้ยังมีเลือดไหลออกมาจากมุมปากของนาง แค่คิด กฎมิติรอบตัวตงหลินหยานเซว่ก็ส่งตัวนางออกไป
“กฎของมิติ ! ” ฉิงฉันอุทานออกมา แสงแปลก ๆ ปรากฏขึ้นในแววตาของเขา ตอนที่เขามองมายังเจี้ยนเฉิน เขารับรู้ได้ชัดเจนว่าตงหลินหยานเซว่ถูกส่งไปยังภูเขาห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรด้วยกฎของมิติ
ภูเขาแต่เดิมแล้วเป็นของตัวนิ่มที่มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับจอมเทพ แต่ตัวนิ่มนั้นถูกฆ่าโดยใบมีดมิติซึ่งโผล่มาตอนที่ตงหลินหยานเซว่ถูกส่งไปที่นั่น
เจี้ยนเฉินเริ่มทำการโจมตีทันทีหลังจากที่ส่งตงหลินหยานเซว่ไปยังที่ปลอดภัย
ในพริบตาเจตจำนงกระบี่ขั้นสูงสุดก็แผ่ออกมาจากตัวเขา มันเหมือนกับว่าจิตได้รวมตัวกันจากทุกทิศทางและทำให้เจี้ยนเฉินเหมือนกับกลายเป็นกระบี่ที่ไร้เทียมทานยืนหยัดอยู่ในโลก
หลังจากนั้นเขาก็เปล่งแสงที่เจิดจ้าออกมา ด้วยเจตจำนงกระบี่ที่แข็งแกร่งเพียงพอทำให้มิติสั่นไหวได้นี้ เขาก็ได้แทงเข้าใส่ฉิงฉันทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เจี้ยนเฉินได้สู้หลังจากที่วิญญาณของเขาได้หลอมรวมกับพลังงานของพลังบรรพกาล !
การโจมตีในครั้งนี้น่าทึ่ง ปราณกระบี่ได้แทงทะลุอากาศจนทำให้มิติเปิดออกเกิดรอยแตกสีดำขนาดต่าง ๆ ขึ้นมา ปราณกระบี่ที่ดูเย็นเยือกนี้ได้ทำให้ต้นไม้และหินโดยรอบกลายเป็นฝุ่นผง แม้แต่พื้นดินด้านล่างก็ยังต้องแตกเมื่อโดนปราณกระบี่นี้เฉือนและทำให้พื้นดินยุบลงไป
แม้ว่าความเข้าใจของเจี้ยนเฉินในเรื่องกฎแห่งกระบี่ยังคงอยู่ที่ขั้นสมบูรณ์แบบ แต่พลังในการต่อสู้ของเขากลับเพิ่มขึ้นมาอย่างมาก
ยิ่งกว่านั้นเจี้ยนเฉินก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าตั้งแต่ที่วิญญาณเขาเปลี่ยนแปลงไป มันไม่ใช่แค่เขาสามารถควบคุมพลังเซียนธาตุแสงได้ตามที่เขาต้องการ แต่เขาถึงกับควบคุมกฎแห่งกระบี่ได้มากขึ้นไปด้วย ผลก็คือความสอดคล้องกับกฎแห่งกระบี่ก็ได้ขั้นไปถึงระดับสูง
ฉิงฉันเครียดขึ้นมา เขาตะโกนออกมาและพลังงานอันน่ากลัวก็ระเบิดออกมาจากตัวเขา พลังทั้งหมดได้รวมตัวกันที่มือขวาของเขา เขาใช้นิ้วเป็นกระบี่แล้วกวัดแกว่งมันด้วยพลังวิญญาณนักรบที่อัดแน่นอยู่ภายใน
ในพริบตา เวลาเหมือนจะช้าลง นิ้วของฉิงฉันที่มีความลึกลับที่แข็งแกร่งของวิถีเหมือนจะส่งผลต่อเวลาซึ่งทำให้มันช้าผิดปกติ