เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 232: ไม่พอใจ ? เช่นนั้นก็ท้าทายข้าสิ !
ตอนที่ 232: ไม่พอใจ ? เช่นนั้นก็ท้าทายข้าสิ !
เจี้ยนเฉินและไค่เอ้อเดินไปที่ประตูด้านหน้าลานกว้างซึ่งทั้งคู่ได้เห็นหัวหน้าทหารรับจ้างทั้ง 5 ยืนอยู่พร้อมกับกลุ่มทหารขนาดใหญ่ด้านหลังของเขา ที่ประตูไม่มีทหารยามคนไหนยิ้มอย่างมีความสุขสักคนขณะที่จ้องมองพวกเขา
ในขณะที่เจี้ยนเฉินและไค่เอ้อเดินออกไปที่ประตู ทุกคนที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มทหารรับจ้างของเซธก็เริ่มแผ่จิตสังหาร นี่เป็นสิ่งที่ผู้คนที่ผ่านความเป็นความตายและอยู่ใกล้ชิดแม่น้ำเหลืองแห่งความตายเท่านั้น ต่อหน้ากลุ่มทหารที่แผ่จิตสังหารไว้มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปใกล้ได้
“หัวหน้า!”
“หัวหน้า!”
….
เมื่อเห็นเจี้ยนเฉิน เซธ, เต้าคัง, ชาร์คัส,โม่เทียนและฉินเฟิงเข้ามาล้อมตัวเขา
หลังจากที่ทั้ง 5 เรียกชื่อเจี้ยนเฉิน ผู้ชายหลายร้อยคนต่างก็จ้องมองมาที่เจี้ยนเฉินด้วยดวงตาที่เย็นชาทันทีพร้อมกับปล่อยความกระหายเลือดราวกับสัตว์ร้ายออกมา อย่างไรก็ตามหลังจากเห็นว่าตัวเจี้ยนเฉินนั้นดูอายุน้อย พวกเขาบางคนก็อดไม่ได้ที่จะตกใจ
ก่อนที่พวกเขาจะมาพร้อมกับหัวหน้าของพวกเขา บรรดาหัวหน้าไม่ได้บอกให้พวกเขาฟังถึงเรื่องนี้ พวกเขารู้แค่ว่าพวกเขาต้องติดตามหัวหน้าของพวกเขาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งและมีศักยภาพที่มากกว่า การเปลี่ยนกลุ่มทหารรับจ้างมันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะยอมรับได้สำหรับพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงติดสอยห้อยตามหัวหน้าพวกเขาเพื่อมาดูกลุ่มนี้ อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่คิดว่าหัวหน้าคนใหม่ของพวกเขาจะเด็กขนาดนี้
ทหารรับจ้างทั้ง 5 กลุ่ม คนที่อยู่ด้านหลังพวกเราเป็นพี่น้องที่ดีและเป็นระดับหัวกะทิซึ่งเต็มใจจะเข้าร่วมทหารรับจ้างอัคนี ชาร์คัสชี้ไปที่กลุ่มคนข้างหลังเขาขณะที่เขาพูดกับเจี้ยนเฉิน
พวกเรามีทั้งหมด 121 คนที่อยู่ตรงนี้ กลุ่มทหารรับจ้างคิมหันต์มี 32 คน กลุ่มทหารรับจ้างมังกรทอง มี 25 คน กลุ่มทหารรับจ้างมือสังหาร มี 28 คน และกลุ่มทหารรับจ้างบูรพามี 19 คน โม่เทียนพูดเสียงดัง
เจี้ยนเฉินมองไปที่บรรดาชายหนุ่มกว่า 100 คนและยิ้มน้อย ๆ พลางพยักหน้า ไม่เลว ไม่เลวเลย งั้นก็เข้ามาพูดคุยกันด้านในดีกว่า
หลังจากนั้นเซธและหัวหน้าอีก 4 คนก็เดินเข้าประตูของตระกูลไค่ ทหารยามเบิกตามองพวกเขาขณะที่เขาไปยังลานกว้าง
ที่ลานกว้างมีคนกว่า 170 คนและจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความคาดหวัง
คนที่อยู่ด้านหน้าเขาจ้องมองมาที่เขา เขาตะโกนออกมาเสียงดังว่า พี่น้องทั้งหลาย ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะเคยเป็นฝ่ายหรืออยู่ในทหารรับจ้างกลุ่มใด ตอนนี้ข้าจะทำให้มันชัดเจนขึ้น พวกเจ้าในตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีซึ่งเป็นเสมือนครอบครัวเดียวกัน เราต้องทำงานอย่างนั้นเพื่อให้กลุ่มทหารรับจ้างอัคนีได้ประโยชน์ แต่ข้าเชื่อว่าพวกเจ้าทุกคนที่เข้ามาทำงานร่วมกันนี้จะทำให้กลุ่มของเราแข็งแกร่งและเติบโตยิ่งขึ้นต่อไปจนไปถึงจุดที่จะทำให้พวกเราเป็นกลุ่มทหารรับจ้างอันดับหนึ่งของทวีปเทียนหยวน นี่คือเป้าหมายของข้า เจี้ยนเฉิน
หลังจากที่เจี้ยนเฉินพูดเสร็จ ฝูงชนก็เงียบสนิทไปครู่หนึ่งก่อนที่บางคนได้ทำลายความเงียบขึ้นมา
แล้วใครจะได้เป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี ? คนในฝูงชนถาม
เจี้ยนเฉินยิ้มออกมาก่อนที่เขาจะตอบคำถาม ตั้งแต่วันนี้ไป ข้าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอัคนี !
แล้วทำไมเจ้าถึงต้องเป็นหัวหน้า ? อีกคนที่ไม่พอใจร้องอุทานขึ้น
ถูกต้อง เจ้ามีเหตุผลอะไรถึงได้เป็นหัวหน้าพวกเรา ?
เด็กน้อยที่หนวดยังไม่ขึ้น หากว่าเจ้าต้องการจะเป็นหัวหน้าพวกเรา มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่จะทำ…
ถูกต้อง…
เขาพูดถูก….
ไม่นานเสียงของคนที่คัดค้านเริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้คนจำนวนมากเริ่มส่งเสียงไม่พอใจมาจากกลุ่มเซธเป็นส่วนใหญ่ เมื่อได้ยินว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นหัวหน้าของพวกเขา แม้ว่าพวกเขาจะได้ยินว่าหัวหน้าคนใหม่ของพวกเขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมากอย่างเหลือเชื่อ แต่เมื่อเทียบกับอายุของเจี้ยนเฉิน พวกเขาจะเชื่อสิ่งเหล่านั้นได้อย่างไรในเมื่อดูอย่างไรเจี้ยนเฉินก็อายุแค่ 20 ปี เขาจะแข็งแกร่งสักเพียงไหนกัน ?
เสียงที่คัดค้านต่างมาจากกลุ่มของเซธและคนจากทั้ง 4 กลุ่มต่างก็เลือกที่จะยืนดูเงียบ ๆ ถ้าเจี้ยนเฉินไม่สามารถแก้ไขปัญหาเล็ก ๆ เหล่านี้ได้แล้ว เขาจะพากลุ่มทหารรับจ้างไปยังระดับโลกได้อย่างไร ?
เจี้ยนเฉินยังคงยิ้มอยู่ แม้ว่าจะไม่พอใจก็ตามเขาก็คาดไว้แล้วว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น แน่นอนว่าด้วยความแข็งแกร่งของข้าที่มากกว่าพวกเจ้า ในทวีปเทียนหยวนถือความแข็งแกร่งเป็นใหญ่ที่สุด หากพวกเจ้าไม่ยอมรับข้าในฐานะหัวหน้า พวกเขาก็ลองท้าทายข้าดู ใครก็ตามที่สามารถหลบกระบี่ของข้าได้ จะได้เป็นหัวหน้าและข้าจะกลายเป็นลูกน้องเอง
แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะใช้กระบี่ด้วยความเร็วปกติก็ยังสามารถเอาชนะเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษได้ใน 3 กระบวนท่าและทำให้พวกเขาต้องหยุดนิ่งใน 5 กระบวนท่า ถ้าเขาใช้พลังทั้งหมดแม้กระทั่งเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษก็ยังต้องตาย ด้านหน้าของเขาเป็นแค่คนที่อยู่ในขอบเขตเซียนระดับสูง พวกเขาไม่มีทางที่จะหลบหรือแม้กระทั่งป้องกันกระบี่ของเขาได้
เจ้านี่มันโอหังจริง ๆ ให้ข้าทดสอบดูสิว่าเด็กหนุ่มอย่างเจ้าจะเก่งสักเท่าไรกันเชียว ชายที่มีผิวสีเข้มกระโจนออกมาจากฝูงชนและควงอาวุธเซียนที่พึ่งรวมตัวกันเป็นขวานขนาดใหญ่ออกมา
เจ้าเริ่มได้เลย ! เจี้ยนเฉินคาดไว้แล้วพร้อมกับยิ้มให้กับชายผู้นั้น ในวลาเดียวกันกระบี่วายุโปรยสีเงินก็ปรากฏอยู่ในมือของเขา แม้ว่าชายด้านหน้าจะเป็นเซียนระดับสูงขั้นสุดยอดและไม่เพียงพอที่จะให้เขาใช้กระบี่ แต่เขาก็ตัดสินใจว่าเพื่อแสดงความเหนือชั้นกว่าของเขา เขาจะต้องใช้กระบี่วายุโปรย
เมื่อเห็นกระบี่บาง ๆ อยู่ในมือของเจี้ยนเฉิน ชายคนนั้นก็ไม่รู้ว่าถูกคุกคามใด ๆ เลย เขาหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มที่จะตะโกนออกมาก่อนที่จะพุ่งเข้าใส่เจี้ยนเฉินและฟันออกไป
เจี้ยนเฉินไม่สนใจที่จะหลบหลีกหรือป้องกันเลย ทันใดนั้นก่อนที่ขวานจะมาถึงเขา ฉับพลันก็มีแสงสีเงินแว่บเข้ามาในตาของชายคนนั้นก่อนที่ขวานจะเจาะทะลุอกของเจี้ยนเฉิน
“ฉัวะ ! “
กลุ่มคนที่ดูอยู่ห่าง ๆ ต่างก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ พวกเขาไม่คิดว่าคนที่โอหังอย่างเจี้ยนเฉินจะมีอะไรที่ดีกว่ากิ่งไม้แห้ง ๆ ที่ปลิวไปตามลมและก็ตายไปง่าย ๆ ทั้งอย่างนี้
อย่างไรก็ตามทหารยามซึ่งเข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างอัคนีซึ่งมาจากตระกูลเทียนซ่งไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ บนสีหน้า พวกเขารู้ถึงความแข็งแกร่งของเจี้ยนเฉินอย่างชัดเจนและไม่มีทางที่เขาจะตายด้วยการถูกฟันง่าย ๆ แบบนี้ได้
นั่นไง มันเป็นภาพติดตาจริง ๆ ด้วย