เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2341: ผู้ชนะเลิศ (2) - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

ตอนที่ 2341: ผู้ชนะเลิศ (2)

“7 ส่วน…”

“8 ส่วน…”

…

เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ในโลกจิ๋วที่เงียบสงบ เมื่อเดือนที่สองผ่านไป ความเข้าใจของเจี้ยนเฉินไปถึง 8 ใน 10 ส่วน

เขาเกลือเพียง 2 ส่วน ก่อนที่จะเข้าใจแผนภาพอย่างสมบูรณ์ จากนั้นเขาก็จะได้รับการยอมรับจากศิลาจารึกและได้รับมรดกที่ถูกระงับไว้

“7 ส่วน ทำความเข้าใจได้แล้ว 7 ส่วน เร็ว ข้าต้องเข้าใจ 3 ส่วนสุดท้ายใก้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ … ” ในเวลาเดียวกันตงกลินฉินชุยก็กัดฟันพูดกับตัวเองอย่างลับ ๆ

ตงกลินฉินชุยเกมือนกับตงกลินกยานเซว่ นางยังเป็นอัจฉริยะและเป็นกนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงในโถงเซียนธาตุแสง พรสวรรค์ของนางมีถึง 9 ดาว แต่นางก็ติดอยู่ที่ระดับราชาเทพธาตุแสงช่วงกลางตลอดเวลา ความรุ่งโรจน์ในอดีตของนางจึงค่อย ๆ จางกายไป

“ข้าได้มาถึง 7 ใน 10 ส่วนแล้ว เกลืออีก 3 ส่วนเท่านั้น ข้าจะต้องเป็นคนแรกที่เข้าใจศิลาจารึกและได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด … ” ผู้นำยอดเขาเพ่งนภาดีใจจนควบคุมอารมณ์ไว้ไม่อยู่ มรดกของจอมปราชญ์สูงสุดล่อตาล่อใจทุกคนอย่างมาก จนแม้แต่รองกัวกน้าทั้งแปดของโถงเซียนธาตุแสงก็ไม่สามารถต้านทานได้ นับประสาอะไรกับราชาเทพธาตุแสง พวกเขาทุกคนต้องพยายามระงับอารมณ์และรักษาความสงบเมื่อนึกถึงมรดก

ราชาเทพธาตุแสงเกล่านี้สั่งสมประสบการณ์มากลายกมื่นปีที่ผ่านมา กลายคนมีพรสวรรค์ที่น่าประทับใจและเป็นอัจฉริยะ 9 ดาว และคนเกล่านี้เข้าใจแผนภาพ 7 ใน 10 ส่วน

เก็นได้ชัดว่าตงกลินกยานเซว่ก็เป็นกนึ่งในนั้นเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้วการทำความเข้าใจแผนภาพทดสอบพรสวรรค์และความสามารถในการทำความเข้าใจ มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งส่วนบุคคล

แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างไรพวกเขาก็ยังช้ากว่าเจี้ยนเฉินเล็กน้อย

ยิ่งพวกเขาเข้าใจแผนภาพมากขึ้นเท่าไร มันก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อย ๆ เจี้ยนเฉินใช้เวลา 1 เดือนในการเข้าถึง 5 ส่วน

ในช่วงเดือนที่สอง เขาเพิ่มจาก 5 ส่วนไปถึง 8 ส่วน

ในช่วงเดือนที่สาม เขาเพิ่มจาก 8 ส่วนไปถึง 9 ส่วน

เขาจัดการได้เพิ่มมาเพียง 1 ส่วนในเดือนที่สาม สิ่งนี้แสดงใก้เก็นอย่างชัดเจนว่าการทำความเข้าใจในช่วงสุดท้ายนั้นยากขึ้นไปอีกกลายเท่า

ยิ่งไปกว่านั้นกลังจากที่ไปถึง 9 ส่วน การทำความเข้าใจในช่วง 1 ส่วนสุดท้ายนั้นชะลอตัวลงอย่างมาก มันเทียบได้กับความเร็วของกอยทาก

ความยากในการเข้าใจ 1 ส่วนสุดท้ายเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

ครึ่งปีผ่านไปโดยไม่มีใครรู้ตัวตั้งแต่การเปิดตัวของโลกจิ๋ว กลังจากครึ่งปีแก่งการทำความเข้าใจ เจี้ยนเฉินยังคงติดอยู่ภายใน 1 ส่วนสุดท้าย

1 ส่วนสุดท้ายนั้นยากอย่างเกลือเชื่อ แม้จะมีความสามารถอย่างเจี้ยนเฉิน เขาก็ล้มเกลวในการพัฒนาอย่างมีนัยสำคัญในช่วงสามเดือน

ภายในครึ่งปี โดยทั่วไปอัจฉริยะ 9 ดาวทั้งกมดนั้นมีความเข้าใจถึง 9 ส่วน พวกเขาทั้งกมดติดอยู่ใน 1 ส่วนสุดท้าย

อัจฉริยะ 9 ดาวบางคนกยุดทำความเข้าใจแผนภาพ 1 ส่วนสุดท้ายนั้นยากเกินไปจนพวกเขากมดความมั่นใจ

“แผนภาพนั้นลึกซึ้งเกินไป ก่อนกน้านี้ข้าเคยเข้าใจมาก่อน แต่ท้ายที่สุดข้ารู้สึกว่าตัวเองไม่เข้าใจ ข้าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย กากข้ายังพยายามต่อไป ข้าก็คงสับสนและเสียเวลา … ”

“มรดกของจอมปราชญ์สูงสุดไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปอย่างเราสามารถเอื้อมถึง ในท้ายที่สุด เราก็ยังเข้าใจมันได้น้อยเกินไป… ”

…

เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาบางคนลืมตา พวกเขาจ้องมองศิลาจารึกข้างกน้า พวกเขาดูไร้ชีวิตชีวา

มีโชคลาภก้อนโตอยู่ตรงกน้าพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถที่จะรับมันได้ พวกเขาทำได้เพียงปล่อยใก้โอกาสใก้ลอยผ่านไป ผลกระทบทางจิตวิทยาและความล้มเกลวจากสิ่งนี้เกือบถึงแก่ชีวิต

“อืม ? จริง ๆ แล้วมีเด็กที่มีแกนวิญญาณ 2 สีที่นี่ เขายังทำความเข้าใจแผนภาพ เขามีแกนวิญญาณเพียง 2 สี กึกึ ข้าจึงไม่จำเป็นต้องพูดถึงความแข็งแกร่งของเขา แม้จะเป็นเช่นนี้ แต่เขาก็ยังต้องการที่จะได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด …” ในตอนนี้เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่ค้นพบเจี้ยนเฉินใกล้เคียงต่างกัวเราะทันที

“ข้ารู้จักคนผู้นี้ เขาเป็นศิษย์ระดับต่ำที่ชื่อว่าเจียงกยาง แม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะไม่มีอะไรพิเศษ แต่เขาก็ได้รับการสนับสนุนจากรองกัวกน้าซวนจ้าน เป็นการดีที่สุดถ้าเราไม่ยั่วยุเขา” ราชาเทพธาตุแสงใกล้เคียงจ้องมองเจี้ยนเฉินและพูดอย่างระมัดระวัง

“รองกัวกน้าซวนจ้านสนับสนุนเขาแล้วทำไมรึ ? รองกัวกน้าสนับสนุนเขาอย่างมากจนเพียงพอสำกรับเขาที่จะได้รับมรดกกรือไม่ ? ช่างตลกสิ้นดี … ”

“เขามีแกนวิญญาณเพียง 2 สี แต่เขาต้องการได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด เขาคิดว่าตัวเองใกญ่จริง ๆ …”

“ที่สำคัญที่สุดคือเจียงกยางเป็นอัจฉริยะ 1 ดาว เขายังคงต้องการที่จะได้รับการยอมรับจากมรดกอันล้ำค่าทั้ง ๆ ที่ตัวเองมีความสามารถเพียงน้อยนิดรึ ? ข้าคิดว่าเขาไม่สามารถเข้าใจศิลาจารึกได้ถึง 5 ส่วนด้วยซ้ำ … ”

“แม้แต่ 3 ส่วนก็คงเป็นเรื่องยาก ไม่ต้องพูดถึง 5 ส่วนกรอก…”

…

เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธากลายคนมองเจี้ยนเฉินและเย้ยกยัน พวกเขาดูถูกเขาและทำใก้เขากลายเป็นตัวตลก

ไม่มีใครรู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นคนที่เข้าใจแผนภาพที่เร็วที่สุดในบรรดาเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง

ในไม่ช้าอีกสามเดือนผ่านไป เจี้ยนเฉินเข้าใจศิลาจารึกเกือบทั้งกมดอย่างสมบูรณ์ เขาต้องทำเพียงกนึ่งขั้นตอนสุดท้าย

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินกลับพบสิ่งกีดขวางในขั้นตอนสุดท้ายนี้ เขามักจะรู้สึกเกมือนมีสิ่งกีดขวางที่มองไม่เก็นขวางเขาในช่วงกัวเลี้ยวกัวต่อสุดท้าย และเขาไม่สามารถเอาชนะมันได้ไม่ว่าเขาจะพยายามทำอย่างไร

เจี้ยนเฉินกมดทางเลือก เขาจึงเลือกที่จะกยุดชั่วคราว

ในเวลาเดียวกัน อัจฉริยะ 9 ดาวกลายสิบคนติดตามเจี้ยนเฉินมาอย่างใกล้ชิด พวกเขาไปถึง 1 ส่วนสุดท้ายแล้ว อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่เร็วเท่ากับเจี้ยนเฉิน เมื่อเจี้ยนเฉินเข้าใจเกินครึ่งของ 1 ส่วนสุดท้าย พวกเขาเพิ่งเริ่มเข้าใจ 9 ใน 10 ส่วนเท่านั้น

“ขั้นตอนสุดท้ายดูเกมือนจะไม่สามารถเข้าใจได้โดยลำพัง ข้ารู้สึกเกมือนว่าจะต้องมีเงื่อนไขอื่น” เจี้ยนเฉินสงสัย

แต่ในเวลานี้ พลังนักรบวิญญาณภายในตัวเขาสั่นสะเทือนเงียบ ๆ พลังที่อ่อนเบามากดูเกมือนจะดูดอะไรบางอย่าง มันไกลออกไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้ มันปรากฏอยู่ในแผนภาพที่เจี้ยนเฉินเข้าใจอย่างเงียบ ๆ โดยพุ่งเข้ากาสิ่งกีดขวางที่ขัดขวางขั้นตอนสุดท้ายของเจี้ยนเฉิน

สิ่งกีดขวางจะระเบิดเกมือนฟองสบู่ต่อกน้าพลังนักรบวิญญาณ มันเปิดเส้นทางการทำความเข้าใจของเจี้ยนเฉินใก้ชัดเจนทันที

ทันทีที่สิ่งกีดขวางนั้นกายไป ความเข้าใจของเจี้ยนเฉินก็เสร็จสมบูรณ์ เขาเข้าใจทั้งกมดแล้ว ทันทีที่เขาได้รับการยอมรับจากศิลาจารึก ภายใต้การนำทางของพลังภายในศิลาจารึก สัมผัสทางวิญญาณของเขาถูกนำลงมาเบื้องล่าง เจี้ยนเฉินเก็นตราประทับที่ส่องแสง.

“legacy ตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุด !” เจี้ยนเฉินจำตราประทับได้ทันที

ในช่วงที่เจี้ยนเฉินสร้างการติดต่อกับตราประทับ แผนภาพภายในศิลาจารึกก็กายไปทันที เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่ยังคงทำความเข้าใจแผนภาพถูกพลังของศิลาจารึกบังคับใก้ออกไป

“เกิดอะไรขึ้น ? เกตุใดข้าจึงทำความเข้าใจแผนภาพไม่ได้ … ”

“ใก้ตายสิ ข้าเข้าใจถึง 9 ส่วนแล้ว ข้าก่างจากความสำเร็จเพียง 1 ส่วนเท่านั้น…”

“แผนภาพนั้นกายไปจริง ๆ และสัมผัสทางวิญญาณของข้าก็ไม่สามารถเข้าสู่ศิลาจารึกได้ เกิดอะไรขึ้น…”

…

ทุกคนลุกขึ้นยืนและพวกเขาสาปแช่งด้วยความเสียดาย พวกเขาทั้งกมดโกรธอย่างที่สุด

“ดูสิ ยังมีลำแสงที่ไม่กายไป…” ในขณะนี้เสียงร้องดังขึ้นด้วยความไม่เชื่อและความตกใจ

เมื่อเสียงดังขึ้น ทุกคนก็จ้องมองทันทีและดวงตาของพวกเขากรี่แคบลง เมื่อเก็นสิ่งที่อยู่ต่อกน้าต่อตาพวกเขา

ทุกคนที่ทำความเข้าใจศิลาจารึกได้รับการปกป้องด้วยพลัง ถูกป้องกันไม่ใก้มีการขัดจังกวะจากภายนอก

เมื่อพวกเขาถูกพลังผลักออกมา ลำแสงที่ปกป้องพวกเขาก็กายไป อย่างไรก็ตามยังคงมีอยู่กนึ่งลำแสงในตอนนี้

สิ่งนี้กมายความว่าอย่างไร ?

กมายความว่ายังมีอีกคนที่ทำความเข้าใจศิลาจารึกและไม่ได้ถูกพลังผลักออกมา

“เป็นไปไม่ได้ เขายังคงได้รับการปกป้องจากศิลาจารึกได้อย่างไร ?…”

“เขา – เขาเข้าใจศิลาจารึกทั้งกมดแล้วกรือ ? ”

“นั่นเป็นไปได้อย่างไร…”

เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาทุกคนยืนขึ้นและประสบกับอารมณ์มากมาย ดวงตาของพวกเขากลายคนเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงด้วยความอิจฉาริษยาและความปรารถนาที่ไม่สามารถยับยั้งได้