เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2348: ทายาทของจอมปราชญ์สูงสุด (3)
ตอนที่ 2348: ทายาทของจอมปราชญ์สูงสุด (3)
ผู้นำแห่งยอดเขาตะวันเดือด กงซุนอี้ดูเหมือนจะบ้าไปแล้ว เขาใช้ทักษะลับในการเผาผลาญพลังชีวิต ปลดปล่อยพลังของวัตถุเทพอย่างมากเท่าที่จะทำได้เพื่อโจมตีเจี้ยนเฉิน เขาพยายามที่จะหยุดอีกฝ่ายจากการรับมรดก
เขาปักใจเชื่อแล้วว่าตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุดเป็นของเขา สิ่งที่เจี้ยนเฉินเอาไปจากตราประทับ มันก็หมายความว่าเขาสูญเสียส่วนหนึ่งของมรดกนั้นไป
ในเวลานี้ เจี้ยนเฉินกำลังดูดซับเนื้อหาของตราประทับโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุดต่อต้านมากขึ้นเรื่อย ๆ หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไป ไม่นานมันจะหลุดพ้นจากเขา
เป็นผลให้เขาไม่มีเวลาว่างที่จะจัดการกับเหล่าราชาเทพธาตุแสงอีกต่อไป เขายืนอยู่ในอากาศ ความคิดทั้งหมดของเขาจมลงอยู่ในตราประทับ
ในขณะนั้นดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ป้องกันใด ๆ กับโลกภายนอกเลย
คราวนี้กงซุนอี้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดที่เขาสามารถทำได้กับวัตถุเทพ เขาแกว่งอาวุธไปทางเจี้ยนเฉินอย่างแรงด้วยคลื่นพลังงานที่น่าอัศจรรย์
ทันใดนั้นก็มีเสียงระเบิดดัง เจี้ยนเฉินถูกกระบี่ของกงซุนอี้กระแทกไปเต็ม ๆ
ฉากนี้ทำให้กงซุนอี้ตกตะลึง บางทีอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้จินตนาการว่าเขาจะโจมตีเจี้ยนเฉินได้อย่างง่ายดาย
อย่างไรก็ตามจากนั้นเขาก็รู้สึกดีใจมาก เขารู้ดีว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้ป้องกันตัวจากการโจมตี เขาใช้เพียงร่างกายเป็นเกราะรับ
ตามความเชื่อของกงซุนอี้ ไม่ว่าจะทรงพลังแค่ไหน ไม่ว่าร่างของเจี้ยนเฉินจะยอดเยี่ยมแค่ไหน เขาก็จะต้องชดใช้ด้วยค่าตอบแทนที่สูงมากหลังจากถูกวัตถุเทพโจมตี แม้ว่าเขาจะไม่ตาย เขาก็คงใกล้ตาย
ข้างหลังกงซุนอี้ เหล่าราชาเทพธาตุแสงคนอื่น ๆ ที่มีวัตถุเทพต่างก็มีความสุขเมื่อพวกเขาเห็นเจี้ยนเฉินถูกวัตถุเทพของกงซุนอี้โจมตี พวกเขารีบควบคุมวัตถุเทพของตัวเองและส่งมันไปยังเจี้ยนเฉิน พวกเขาใช้กำลังเต็มที่ในการพยายามฆ่าเจี้ยนเฉิน
ทันใดนั้นเสียงระเบิดก็ออกมาอย่างต่อเนื่อง เจี้ยนเฉินไม่ได้ตอบโต้การโจมตีของพวกเขา เขาไม่ได้หลบ เขารับการโจมตีของพวกเขาด้วยร่างกาย
วัตถุเทพกระแทกใส่เจี้ยนเฉินไปรอบ ๆ ทันที ขณะที่พวกมันกระแทกร่างเพรียวของเขาด้วยอานุภาพรุนแรง ในที่สุดค้อนขนาดใหญ่ก็ตกลงมาจากท้องฟ้าและกระทบศีรษะของเจี้ยนเฉินเหมือนสายฟ้า คลื่นพลังงานอันทรงพลังทำให้มิติบิดเบือน
เจี้ยนเฉินร่วงลงมาบนพื้นทันที
“มันอะไรกัน ? ทำไมเจียงหยางที่อยู่ยงคงกระพันไม่สามารถโต้กลับได้…”
“ต้องเป็นเพราะตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุด เจียงหยางอาจต้องการที่จะทำความเข้าใจตราประทับ แต่มันก็ไม่รู้จักเขาในท้ายที่สุด มันดูดวิญญาณของเขาออกไปและทำลายประสาทสัมผัสเกี่ยวกับโลกภายนอกของเขา”
“มหัศจรรย์ เราสามารถฆ่าเขาได้โดยไร้กังวลในตอนนี้ ผู้คนมากมายพูดว่าเจียงหยางคือฉิงฉันที่ปลอมตัวมา ถ้าเราฆ่าเขาจริง ๆ เชื้อสายนักรบวิญญาณจะสูญเสียสมาชิกอีก 1 คน นั่นเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมมาก…”
“ความดีความชอบของการฆ่าเจียงหยางจะเป็นของเราทุกคน เรามาลงมือกัน แล้วเราจะได้รับรางวัล … ”
…
ในระยะไกล เหล่าราชาเทพธาตุแสงหลายคนร้องตะโกนและทะยานเข้ามา
ราวกับว่าเจียงหยางตายแล้วในสายตาของพวกเขา แม้ว่าเขาจะอยู่ยงคงกระพันก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามราชาเทพธาตุแสงที่มีวัตถุเทพไม่ได้แจ่มใสเลย แต่จิตใจของพวกเขาหนักอึ้งยิ่งขึ้น ใบหน้าของพวกเขาน่าเกลียดมาก เพราะพวกเขาไม่เห็นแม้แต่หยดเลือดสักหยดเดียว
คนที่มีระดับการบ่มเพาะใกล้เคียงกับพวกเขาถูกโจมตีด้วยร่างกายที่ไร้สิ่งป้องกันมากกว่าสิบครั้งจากวัตถุเทพ แต่ถึงกระนั้นเลือดก็ยังไม่ไหลออกมา ใครจะเชื่อสิ่งนี้ถ้าพวกเขาไม่ได้เห็นด้วยตาของตนเอง ?
“วิถีของเซียนจอมปราชญ์ ! ” ในขณะเดียวกัน จิตใจของเจี้ยนเฉินก็สั่นคลอนในขณะที่เขาจมอยู่ภายในตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุด เขาเต็มไปด้วยความยินดี
ในที่สุดเขาก็พบวิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดในตราประทับ
วิธีการบ่มเพาะสร้างขึ้นโดยเจ้านายคนก่อนของหอคอยธาตุแสง มันถูกเรียกว่าวิถีของเซียนจอมปราชญ์
“ดูดซับ ! ” เจี้ยนเฉินหมกมุ่นกับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับวิธีการบ่มเพาะทันทีโดยไม่ลังเล
จู่ ๆ ส่วนของตราประทับที่เจาะรายละเอียดของวิธีการบ่มเพาะได้หลั่งไหลเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉินทันทีเหมือนน้ำท่วม เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าศีรษะของเขาบวมอย่างเจ็บปวดทันทีที่ข้อมูลอันมหาศาลถูกบีบเข้าสู่หัวของเขา
จำนวนข้อมูลนั้นมากเกินไปมากจนเจี้ยนเฉินพบว่ามันมากเกินไปกับระดับการบ่มเพาะในปัจจุบันของเขา
ข้างนอก ราชาเทพธาตุแสงพร้อมวัตถุเทพรวมตัวกันรอบ ๆ เจี้ยนเฉิน ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างขณะที่จ้องมองเจี้ยนเฉินซึ่งนั่งอยู่บนพื้น ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างที่สุด
เจี้ยนเฉินปกคลุมไปด้วยบาดแผลจำนวนมาก มันมาจากวัตถุเทพในมือของพวกเขา
แต่ไม่มีข้อยกเว้น บาดแผลทั้งหมดเป็นเพียงรอยขีดข่วน พวกมันเกือบจะทำร้ายอวัยวะสำคัญของเขา แต่มันกลับไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาหลั่งเลือด
สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจมากขึ้นคือบาดแผลของเจี้ยนเฉินหายเป็นปกติในอัตราที่มองเห็นได้
ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที บาดแผลที่พวกเขาทำร้ายเจี้ยนเฉินด้วยวัตถุเทพก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่มีแผลเป็นเหลืออยู่สักรอยเดียว
เมื่อเห็นสิ่งนี้ทำให้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึง เหล่าผู้นำยอดเขาที่ทรงพลังต่างตะลึงราวกับว่าพวกเขาเพิ่งเห็นผี
“สิ่งนี้เป็นไปได้อย่างไร…” กงซุนอี้พูดด้วยเสียงสั่นราวกับว่าเขาได้รับผลกระทบอย่างมากจากผลลัพธ์นี้
“ขณะนี้เขากำลังซึมซับตราประทับ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถหันเหความสนใจไปยังสิ่งภายนอก มาโจมตีกันต่อไปและดูว่าเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน” หนึ่งในนั้นแสดงความคิดเห็นและทำการโจมตีต่อในทันทีด้วยวัตถุเทพ
คนที่ควบคุมวัตถุเทพคนอื่น ๆ ก็มีส่วนเช่นกัน หลังจากนั้นกลุ่มของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ทะยานขึ้นมามีส่วนร่วมเช่นกัน พวกเขาทั้งหมดปลดปล่อยการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดใส่เจี้ยนเฉิน
ทันใดนั้นกฎแห่งศรัทธาก็เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อม พลังงานอันทรงพลังสร้างความหายนะบนพื้นดินอย่างไร้ความปราณี เจี้ยนเฉินจมอยู่ใต้การโจมตีแล้ว
แต่ไม่นานพวกเขาทั้งหมดก็ต้องงงงวย เหมือนก่อนหน้านี้ เจี้ยนเฉินมีรอยขีดข่วนเพียงเล็กน้อยหลังจากการโจมตีทั้งหมดของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านั้น รอยขีดข่วนเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นโดยวัตถุเทพเท่านั้น
กล่าวอีกนัยหนึ่งไม่ว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงจะทรงพลังขนาดไหน รวมถึงคนที่ตัดผ่านไปถึงราชาเทพช่วงปลาย ไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะทำอันตรายเจี้ยนเฉินนอกจากพวกเขาจะครอบครองวัตถุเทพ
“สวรรค์โปรด เขายังเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่…”
ทุกคนอ้าปากค้าง สิ่งที่พวกเขาเพิ่งเห็นก็คือการยกระดับความเข้าใจโลกอย่างสมบูรณ์
หากพวกเขาเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้น อย่างน้อยที่สุดพวกเขาก็สามารถยอมรับมันได้ อย่างไรก็ตามคู่ต่อสู้ของพวกเขาบังเอิญเป็นราชาเทพเหมือนกับพวกเขา
ในขณะนี้เจี้ยนเฉินได้รับข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับวิธีการของวิถีของเซียนจอมปราชญ์จนครบถ้วน เขาเข้าใจวิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ตราประทับนั้นไม่ง่ายเหมือนวิธีการบ่มเพาะทั่วไป นอกจากนี้มันยังมีทักษะธาตุแสงที่ทรงพลังและทักษะลับโบราณอย่างมากจากยุคที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
แม้แต่ความรู้เกี่ยวกับการบ่มเพาะก็ถูกเขียนขึ้นโดยจอมปราชญ์สูงสุดด้วยตัวเองเช่นเดียวกับความเข้าใจในกฎอย่างลึกซึ้ง
เจี้ยนเฉินไม่เปลืองเวลาหลังจากยอมรับวิธีการบ่มเพาะวิถีของเซียนจอมปราชญ์แม้แต่น้อย เขาพยายามดูดซับเนื้อหาอื่น ๆ ของตราประทับ
แต่ในขณะนี้ตราประทับที่เขากำไว้ในมือก็ร้อนจัด พลังนั้นเพิ่มขึ้นนับครั้งไม่ถ้วนในครั้งนั้น และมันก็หลุดพ้นจากมือของเจี้ยนเฉินในทันที มันบินออกมาและไปถึงตรงหน้ากงซุนอี้
เจี้ยนเฉินจะยอมให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร ? เขาตะโกนออกมาและพลังแห่งการมีอยู่ของเขาก็ระเบิด เขามาถึงข้างหน้ากงซุนอี้ในครั้งเดียวและยื่นมือออกไปหาเขาโดยตรง
อย่างไรก็ตามพลังจากหอคอยธาตุแสงปรากฏขึ้นอย่างเงียบเชียบ มันห้อหุ้มกงซุนอี้เอาไว้อย่างสมบูรณ์ มันกำลังปกป้องเขา
หอคอยะาตุแสงเป็นวัตถุเทพสูงสุด เป็นสิ่งที่อยู่ในระดับเดียวกับหอคอยอนัตตา เป็นผลให้เจี้ยนเฉินไม่มีนัยสำคัญเหมือนมดต่อหน้าพลังมหาศาล เขาไม่สามารถทำร้ายกงซุนอี้ได้
ด้วยแสงส่องประกาย ตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุดก็หายไประหว่างดวงตาของกงซุนอี้ในลักษณะของแสง
กงซุนอี้หลับตาและทรุดตัวลงแข็งราวกับกระดาน เขาหมดสติไป
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทุกคนที่นั่นก็ตกตะลึงทันที ทุกคนละสายตาจากเจี้ยนเฉินและจดจ่ออยู่กับกงซุนอี้ พวกเขาสับสน ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“จิตวิญญาณวัตถุ ! ” เจี้ยนเฉินมองดูกงซุนอี้อย่างลึกซึ้งและแอบเรียกหาจิตวิญญาณวัตถุ
“นายท่าน เขามีสายเลือดของเจ้านายคนก่อนของหอคอยธาตุแสงซึ่งไหลผ่านในตัวเขา เขาสืบเชื้อสายมาจากเจ้านายคนก่อน … ” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน น้ำเสียงของเขาก็เต็มไปด้วยความตกใจและไม่เชื่อ
“ข้าได้เรียนรู้จากจิตสำนึกที่โกรธแค้นของจิตวิญญาณวัตถุแห่งหอคอยธาตุแสงว่าเจ้านายคนก่อนไม่ใช่ราชันของยุคนี้ และเขาก็ไม่ได้เป็นราชันแห่งยุคในอดีต เขามาจากยุคก่อนหน้านั้น ข้าไม่เคยคิดเลย ข้าไม่เคยคิดเลยว่าสายเลือดของเจ้านายคนก่อนจะสามารถเอาชีวิตรอดได้ 2 ยุค”
“นายท่าน ข้ายังคงไม่สามารถควบคุมหอคอยธาตุแสงได้อย่างเต็มที่ และจิตสำนึกที่โกรธแค้นของจิตวิญญาณวัตถุแห่งหอคอยธาตุแสงก็กำลังส่งผลกระทบต่อข้าตลอดเวลา ข้าไม่สามารถลบล้างพลังที่ปกป้องทายาทของจอมปราชญ์สูงสุดออกไปได้” จิตวิญญาณวัตถุกล่าว แม้ว่าเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของหอคอยธาตุแสง แต่เขาใช้เวลาน้อยเกินไปในสถานะนี้ นอกจากนี้เขายังหลอมรวมกับจิตสำนึกที่โกรธแค้นจากจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง ดังนั้นเขาจะได้รับอิทธิพลจากจิตสำนึกที่โกรธแค้นอยู่ตลอดเวลา ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้
เจี้ยนเฉินใช้ความคิด เขาไม่แปลกใจกับสิ่งนี้เพราะเขาคาดหวังว่าสิ่งนี้จะเป็นผลลัพธ์สุดท้ายตั้งแต่เขาค้นพบปฏิกิริยาจากตราประทับของจอมปราชญ์สูงสุดต่อสายเลือดของกงซุนอี้
ตราประทับได้ถูกลบออกจากศิลาจารึกผ่านความเข้าใจในแผนภาพของเขา พูดตามหลักการ เขาควรจะได้สืบทอดทุกสิ่งภายในตราประทับอย่างมีเหตุผล แต่เขาไม่เคยคิดเลยว่าทายาทของเจ้านายคนก่อนของหอคอยธาตุแสงจะมาปรากฏตัว
ตราประทับชาญฉลาด แม้ว่าเขาจะปฏิบัติตามเงื่อนไขได้สำเร็จ แต่เขาก็ยังเป็นคนนอกสำหรับตราประทับ ในขณะที่เลือดของคนที่ทิ้งตราประทับไว้ตั้งแต่แรกนั้นไหลผ่านเส้นเลือดของกงซุนอี้ เขาจึงเป็นผู้สืบทอดของจอมปราชญ์สูงสุด
โดยธรรมชาติแล้วตราประทับจึงเลือกทายาทไม่ใช่คนนอก
แม้ว่าเจี้ยนเฉินอาจจะสามารถสืบทอดทุกสิ่งได้ หากก่อนหน้านี้เขาเลือกที่จะฆ่ากงซุนอี้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดทำแบบนั้นเพราะการกระทำเช่นนี้จะเป็นการละเมิดศีลธรรมของเขา หากกงซุนอี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้านายคนก่อนของหอคอยธาตุแสงเลย อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาคือผู้สืบทอดของเจ้านายคนก่อน