เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2351: การชุมนุมในโถงเซียนธาตุแสง
ตอนที่ 2351: การชุมนุมในโถงเซียนธาตุแสง
ใบหน้าของหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงหมองลง เมื่อเขาได้ยินว่าเจียงหยางเป็นคนเดียวที่ยังไม่ได้ทดสอบโลหิต ทำให้ดวงตาของเขามีแสงจ้าทันที
“เจ้ากำลังบอกว่า ศิษย์ของโถงเซียนธาตุแสงของข้า เจียงหยางเป็นเจี้ยนเฉินจริง ๆ ? ” หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงถามอย่างเย็นชาก่อนที่จะส่ายหน้า “นั่นเป็นไปไม่ได้ หากเจี้ยนเฉินเป็นนักสู้ เขาไม่สามารถเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงได้”
“นั่นเป็นการยากที่จะพูด จะเป็นอย่างไรถ้าเจี้ยนเฉินเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณคนที่ 8…..”
“นั่นยังไม่จำเป็นต้องด่วนสรุป เนื่องจากเจียงหยางเป็นคนเดียวที่ยังไม่ทดสอบโลหิตในตอนนี้ มันจึงเป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งว่าเขาจะเป็นเจี้ยนเฉิน แน่นอนเรายังไม่ได้ทดสอบเขาเป็นการส่วนตัว ดังนั้นเราอย่าได้แน่ใจนัก….”
คนด้านนอกพูดอย่างสบาย ๆ พวกเขาจ้องมองไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือก้อนเมฆโดยไม่ตั้งใจและแววตาก็เต็มไปด้วยความโลภ
พวกเขามองไปที่ชั้นบนสุดของโถงศักดิ์สิทธ์แห่งหอคอยธาตุแสงที่พวกเขายืนอยู่
หอคอยธาตุแสงเป็นวัตถุเทพขั้นสุดยอดของจอมปราชญ์สูงสุดที่เคยใช้ในอดีต มันอยู่ในระดับเดียวกับหอคอยอนัตตา วัตถุเทพที่ทรงพลังเช่นนี้มักจะดึงดูดผู้เชี่ยวชาญทุกคนในโลกเซียน
อย่างไรก็ตามค่ายกลโบราณขนาดใหญ่ได้ขังหอคอยธาตุแสงเอาไว้และตัดความหวังทั้งหมดในการได้รับวัตถุเทพ ไม่มีสิ่งใดที่พวกเขาทำได้เกี่ยวกับหอคอยธาตุแสง
ในเวลานี้ กลุ่มขนาดพอ ๆ กันก็มาถึง อย่างไรก็ตามพวกเขาพยายามทำตัวกลมกลืนกับคนนอก พวกเขาทั้งหมดปกปิดแรงกดดันของพวกเขาทำให้ดูเหมือนกับคนทั่วไป พวกเขาบินมาด้วยความเร็วที่คงที่
พวกเขายังเป็นผู้เชี่ยวชาญสุดยอดในประเภทที่ทำให้ที่ราบต่าง ๆ สั่นสะท้านจากการโจมตีไม่กี่ครั้งได้ พวกเขายืนอยู่ในระดับเดียวกันหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสง
พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในที่ราบรกร้าง
ชายชราในเสื้อคลุมมังกรโดดเด่นมากท่ามกลางกลุ่มผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่น แม้ว่าพวกเขาจะปกปิดตัวตนของพวกเขาไว้ พวกเขาก็ยังมีพลังแห่งการมีอยู่ที่น่าประหลาดใจจนทำให้รอบ ๆ สั่นสะท้าน ดูเหมือนว่าเขาจะแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มคนทั้งหมด
ชายชราคนนี้เป็นบรรพชนจักรพรรดิของจักรวรรดินิรันดร์ของที่ราบรกร้าง จักรวรรดิเต๋าหวง
“รอให้ศิษย์ที่ชื่อเจียงหยางออกมากจากหอคอยธาตุแสง แล้วให้เขาทดสอบ เมื่อตัวตนของเขาได้รับการยืนยัน ให้พวกเขาออกไปทันที” บรรพชนจักรพรรดิพูด เสียงที่เก่าแก่และสง่างามของเขาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ที่ไม่สามารถท้าทายได้
องค์กรท้องถิ่นของที่ราบรกร้างได้ขุ่นเคืองพวกคนนอกมากนานแล้ว
คนนอกไม่รู้สึกกลัวเมื่ออยู่เบื้องหน้าบรรพชนจักรพรรดิของจักรวรรดิเต๋าหวง พวกเขายังคงสงบและหนึ่งในนั้นก็พูดว่า “แน่นอน เมื่อเราทดสอบเจียงหยางและยืนยันว่าเขาไม่ใช่เจี้ยนเฉิน พวกเขาทุกคนจะออกไปจากที่ราบรกร้างทันที”
“ข้าหวังว่าเจ้าจะรักษาคำพูด” หัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงกล่าวอย่างเย็นชา เขาจ้องมองกลุ่มคนนอกไปเรื่อย ๆ จนเจอบรรพชนจักรพรรดิและป้องมือของเขากล่าวพร้อมกับพูดว่า “งั้นทุกคนได้มากันครบแล้ว ทำไมไม่เข้าไปในโถงศักดิ์สิทธิ์ของข้า ? ข้าจะส่งคนไปเรียกเจียงหยางมา”
หลังจากพูดอย่างนั้น กลุ่มคนที่มีความสำคัญต่าง ๆ ก็ไปที่โถงศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสง
ในเวลาเดียวกันหนึ่งในแปดรองหัวหน้า ซวนจ้าน ที่ยืนอยู่ด้านนอกของโถงเซียนธาตุแสงกำลังจ้องมองไปที่ทางเข้าหอคอยธาตุแสงด้วยความสนใจ
“ซวนจ้าน คนนอกมารวมตัวกันในโถงเซียนธาตุแสงของเรา เจียงหยางเป็นคนสุดท้ายที่จะทำการทดสอบ เป็นไปได้อย่างมากว่าเจียงหยางจะเป็นตัวตนปลอม ๆ เข้าสู่หอคอยธาตุแสงทันทีและบอกให้เขามาทดสอบ”ในขณะที่เสียงของหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงดังขึ้นในหัวของซวนจ้าน
มีแสงวาบผ่านดวงตาของซวนจ้านและเขาก็หายเข้าไปข้างในทันที
ในเวลาเดียวกันที่บนที่ว่างขนาดใหญ่มีคนกำลังนั่งอยู่เงียบ ๆ ในมุม ๆ หนึ่งของเมืองที่คึกคักท่ามกลางที่ราบรกร้าง มีอาคารเล็ก ๆ ในส่วนลึกของที่ดินที่มีมูลค่า ชายวัยกลางคนยืนอยู่ด้านนอก เขาโค้งคำนับขณะที่เขารายงานข้อมูลบางอย่าง
“ผู้อาวุโสตู้ นอกจากศิษย์ของโถงเซียนธาตุแสงที่ชื่อว่าเจียงหยางแล้ว ทุกคนบนที่ราบรกร้างได้รับการทดสอบแล้ว เป็นไปได้อย่างมากว่าเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงคนนั้นเป็นเจี้ยนเฉินที่ปิดบังตัวจน ทั้งคนภายนอกและผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นได้ไปรวมตัวกันที่โถงเซียนธาตุแสง ผู้อาวุโสคิดว่าเราต้องไปด้วยหรือไม่ ? ”
“เจียงหยาง ? เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง ? เจี้ยนเฉินเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณงั้นหรือ ? ” เสียงที่ชราดังออกมาจากบ้าน
“เราไม่อาจยืนยันได้ในตอนนี้” ชายกลางคนตอบอย่างนอบน้อม
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าไปได้”
“ขอรับ ผู้อาวุโสตู้ ! ” ชายกลางคนถอยหลังกลับไปอย่างนอบน้อม
ชายชุดดำที่นั่งอยู่ในศาลา เขามองไปยังทิศทางของหอคอยธาตุแสงและพึมพำว่า “เจี้ยนเฉิน การหาตัวเขาช่างยากเย็นยิ่งนัก อย่างไรก็ตามเขาเป็นคนพิเศษ ที่จริงเขาสามารถหลบเลี่ยงความลับสวรรค์และป้องกันเราทุกคนจากการทำนายแม้กระทั่งร่องรอยของเขา แม้แต่อาจารย์ก็ไม่อาจทำอะไรได้เลย ข้าสงสัยว่าผู้ที่ชื่อว่าเจียงหยางนี้เป็นเจี้ยนเฉินที่ปลอมตัวมาหรือไม่ ? ”
“ข้าหวังว่าจะเป็นเขา ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่เราจะหาเจี้ยนเฉินได้ ท่านอาจารย์ก็ค่อยข้างอดทน….”
“เราสามารถทิ้งหอคอยอนัตตาไปเมื่อพวกเขาต่อสู้ ข้าเพียงแค่ต้องพาเจี้ยนเฉินกลับไป มันจะทำให้ภารกิจที่ได้รับสำเร็จ….”
…
ในเวลาเดียวกัน ในดินแดนที่เขียวชอุ่มที่เต็มไปด้วยชีวิตในเมืองที่คึกคัก ผู้เฒ่าที่ดูใจดีกำลังอธิบายเส้นทางความลึกลับให้กับหญิงสาวงดงามที่ใส่ชุดสีเขียวที่ดูมีอายุประมาณ 20 ปีเท่านั้น
“อันเดรียน่า เจ้าพึ่งมาถึงขอบเขตตั้งต้น ดังนั้นการใช้พลังและความเข้าใจของเส้นทางชีวิตของเจ้าจึงเปลี่ยนเป็นระดับใหม่อย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตามขั้นอสงไขยเป็นเพียงการเริ่มต้นในขอบเขตตั้งต้น เจ้ายังมีเส้นทางอีกยาวไกล ดังนั้นเจ้ายังขาดไปอยู่ในหลาย ๆ ด้าน บางแง่มุมในการทำความเข้าใจกับเส้นทางแห่งชีวิตของเจ้า…..”
ในเวลาเดียวกัน ชายวัยกลางคนก็เดินเข้ามาอย่างรวดเร็วและหยุดอยู่ที่ไกล ๆ เขาพูดอย่างสุภาพ “ผู้อาวุโสประจำโถง มีข่าวเกี่ยวกับเจี้ยนเฉิน….”
สายตาของหญิงชุดเขียวที่กำลังจดจ่อเกี่ยวกับคำอธิบายของหญิงชราสว่างขึ้นทันที นางมองไปที่ชายกลางคนและพูดก่อนที่หญิงชราจะตอบว่า “ในที่สุดก็ได้ข่าวแล้ว เขาอยู่ที่ไหน ? ”
“ทุกคนให้ความสนกับเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่ชื่อว่าเจียงหยางในโถงเซียนธาตุแสง ในตอนนี้เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ยังไม่ได้ทดสอบโลหิต หลายคนสงสัยว่าเขาเป็นเจี้ยนเฉิน” ชายกลางคนกล่าว
“ศิษย์ของโถงเซียนธาตุแสง ? เจี้ยนเฉินเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณ ? ไม่อย่างนั้นมันจะเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปลอมตัวเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสง” หญิงชราขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน
อันเดรียน่าตบหน้าผากของนางด้วยความเหนื่อยหน่าย นางพึมพำ “เฮ้อ ข้าลืมได้อย่างไรว่าเจี้ยนเฉินไม่ได้เป็นแค่นักสู้”
“ผู้อาวุโส เจียงหยางน่าจะเป็นเจี้ยนเฉิน เพราะเจี้ยนเฉินก็เป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเช่นกัน ไปที่โถงเซียนธาตุแสงทันที” อันเดรียน่าพูดกับหญิงชราข้าง ๆ นาง
นางได้อยู่ในโลกชั้นต่ำกว่าหลายล้านปีในฐานะต้นไม้เทพเจ้าเอลฟ์ นางเป็นหนึ่งในคนที่รู้จักเจี้ยนเฉินมานานที่สุด ดังนั้นนางย่อมทราบเป็นอย่างดีว่าเจี้ยนเฉินเป็นทั้งเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงและนักสู้ นางรู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงขั้น 9 ของทวีปเทียนหยวน
“ไม่จำเป็นต้องรีบร้อน ไม่จำเป็นต้องรีบ เนื่องจากเจี้ยนเฉินซ่อนตัวได้นานขนาดนี้แล้ว เขาต้องมีความสามารถอย่างแน่นอน มาดูการแสดงที่จะเกิดขึ้นของเจี้ยนเฉินก่อน ท้ายที่สุดเขาก็จะรอดพ้นจากเงื้อมมือของราชาสีฟ้ากระจ่าง มันอาจไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เขามีความเร็วที่คนทั้งโลกเซียนแทบจะตามทันได้ การหลบหนีจากเขานั้นยากมาก แม้แต่ขั้นบรรพกาล นับประสาอะไรกับราชาเทพ….” หญิงชรากล่าวอย่างลึกลับขณะที่นางก้มหัวลง