เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2353: หนีออกจากศาลาศักดิ์สิทธิ์
ตอนที่ 2353: หนีออกจากศาลาศักดิ์สิทธิ์
ตงหลินหยานเซว่เริ่มตื่นตระหนกทันทีเมื่อเห็นว่าชายชราหัวโล้นกำยำดื้อรั้นเพียงใด นางเป็นห่วงเจี้ยนเฉิน
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินยังคงสงบ เขากล่าวว่า “อย่าวางท่ามากนักเลย ผู้อาวุโส สิ่งที่เจ้ากำลังค้นหาอยู่นั้นอยู่ในแหวนมิติของข้า ในเมื่อผู้อาวุโสต้องการจะตรวจสอบ ข้าจะเอามันออกมา”
“เมื่อเทียบกับเซียนผู้ถูกเลือก เจ้าดูน่าพอใจกว่าเล็กน้อย รีบเอาเหรียญโลหิตออกมา” ชายชราหัวโล้นก็สงบลงเล็กน้อยเมื่อเขาได้ยินคำพูดของเจี้ยนเฉิน
พวกเขาอยู่ด้านนอกค่ายกลของโถงเซียนธาตุแสง ดังนั้นพวกเขาจึงยังอยู่ในอาณาเขตของโถงเซียนธาตุแสง เขาไม่ต้องการโจมตีสาวกของโถงเซียนธาตุแสง เว้นแต่ว่าเขาจะไม่มีทางเลือก
ท้ายที่สุด จำเป็นต้องเคารพโถงเซียนธาตุแสงในฐานะองค์กรสูงสุด นอกจากนี้เซียนที่ถูกเลือกก็อยู่ที่นี่เช่นกัน โชคดีสำหรับเขาที่เจี้ยนเฉินให้ความร่วมมือ
เจี้ยนเฉินมองไปที่ตงหลินหยานเซว่และพูดว่า “นายหญิง จะดีที่สุดถ้าท่านกลับไปก่อน”
มีแสงแว่บผ่านดวงตาของตงหลินเมื่อนางได้ยินสิ่งนี้ นางดูเหมือนจะเข้าใจว่าเจี้ยนเฉินกำลังพยายามทำอะไร นางจ้องมองไปที่เขาอย่างลึกซึ้งและพูดว่า “ระวังตัวด้วย ! ”
ชายชราหัวโล้นก็ไม่ได้สงสัยอะไร เขายังคงยืนอยู่อย่างสงบ รอเจี้ยนเฉินนำเหรียญโลหิตออกมา
“ผู้อาวุโส โปรดมองให้ดี สิ่งที่ท่านต้องการอยู่ที่นี่” เจี้ยนเฉินยิ้มแปลก ๆ หลังจากที่ตงหลินหยานเซว่จากไปแล้ว จากนั้นก็มีกระบี่ปรากฏอยู่ในมือของเขา
ชายชราหัวโล้นก็ตกใจเล็กน้อยเมื่อเห็นเจี้ยนเฉินชักกระบี่ออกมาโดยที่ไม่ใช่เหรียญโลหิต แต่หลังจากนั้นเขาก็หรี่ตาและเขาก็แปลกใจ
นั่นเป็นเพราะเขาพบความจริงที่ว่ากระบี่นั้นเป็นวัตถุเทพ !
“เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่อ่อนแอเช่นนี้มีวัตถุเทพ ! ” ชายหัวโล้นประหลาดใจและในเวลาเดียวเขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างหลุดมาจากก้นบึ้งของหัวใจ
อย่างที่คาดเอาไว้ ทันทีที่วัตถุเทพปรากฏ มันก็ส่องแสงจนไม่อาจมองเห็นได้ มีเงาดวงดาวทั้งเจ็ดปรากฏออกมาจากกระบี่ มันพุ่งเข้าหาที่หัวของชายชราตรง ๆ ภายใต้เงาลวงตาจากแสงดาว
การโจมตีนี้น่าอัศจรรย์อย่างมาก ดาวทั้งเจ็ดก่อตัวกันเป็นเส้นตรงและล้อมรอบชายชราหัวโล้นประหนึ่งเป็นจักรวาล
“กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ ! มันเป็นกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ ! จะ-จะ-เจ้าคือเจี้ยนเฉิน ! ” ชายชราหัวโล้นเปลี่ยนไปอย่างมาก แม้ว่าเขาจะเป็นขั้นอสงไขย แต่เขาก็เป็นขั้นอสงไขยระดับต้น ๆ เขารู้สึกถึงภัยคุกคามที่มากมายจากการโจมตีของเจี้ยนเฉิน มันไม่ได้อ่อนแอไปกว่าการโจมตีปกติของขั้นอสงไขยส่วนใหญ่เลย
เจี้ยนเฉินพุ่งออกไปอย่างกะทันหัน ดังนั้นชายชราจึงถูกเผยจุดอ่อนออกมา การโจมตีนี้รวดเร็วอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นชายชราถึงไม่มีเวลาหลบเลย
กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ได้มาถึงชายชราก่อนที่เขาจะทันได้ขยับตัวเสียอีก
ในช่วงเวลาสำคัญนี้ พลังงานมหาศาลพุ่งออกมาจากชายชราทันทีและสร้างม่านพลังรอบ ๆ ตัวของเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็สวมชุดเกราะ
ตูม !
เวลานั้นกระชั้นชิดเกินไป ดังนั้นชายชราจึงไม่อาจสวมใส่ชุดเกราะบางส่วนได้หลังจากที่กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ของเจี้ยนเฉินได้มาถึงตัวเขาแล้ว
การโจมตีนั้นตัดผ่านการป้องกันของชายชรา กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ได้ใช้พลังแห่งการมีอยู่จากวัตถุเทพกับชุดเกราะชายชราจนมันส่องแสงเล็กน้อย
พลังงานระเบิดออกมา ชุดเกราะของชายชรานั้นเป็นเพียงวัตถุเซียนคุณภาพสูงสุดเท่านั้น มันจึงอยู่ในระดับที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเมื่อเทียบกับกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ มันถูกฉีกทำลายทันทีและชายชราก็กระเด็นออกไปไกล มีบาดแผลที่เลวร้ายปรากฏอยู่บนร่างกายของเขา ทำให้เขาต้องหลั่งเลือด
“ข้าเจอเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินอยู่ที่นี่ บรรพชน เจี้ยนเฉินอยู่นี่…” ในขณะที่เขากระเด็นไปด้านหลัง ชายชราพยายามจะสื่อสารกับบรรพชนของเขาที่อยู่ในโถงเซียนธาตุแสงทันที
อย่างไรก็ตาม ข้อความของเขาก็ถูกตัดออกโดยศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่เหนือก้อนเมฆ มันไม่อาจส่งเข้าไปได้
“บัดซบ ! ” ชายชราโกรธมาก เขาหยิบหยกสื่อสารออกมาและส่งข้อความผ่านทักษะลับ
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินหยิบจานค่ายกลออกมาจากแหวนมิติของเขาทันทีและโยนมาลงบนพื้นหลังจากที่ทำให้ชายชรากระเด็น เขายืนอยู่บนจานค่ายกลและเปิดใช้งานมันทันที
จานค่ายกลก่อตัวกันเป็นค่ายกลเคลื่อนย้าย
อย่างไรก็ตามศิษย์ของโถงเซียนธาตุแสงหลายคนที่เคลื่อนไหวรอบ ๆ อยู่ด้วย ทันทีที่พวกเขาเห็นกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ พวกเขาก็จำเจี้ยนเฉินได้ทันทีและตะโกนออกมา
ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาใช้วิธีการสื่อสารต่าง ๆ เพื่อติดต่ออาวุโสของพวกเขาตรง ๆ
แสงสีขาวเข้มได้เข้าล้อมเจี้ยนเฉิน ขณะที่พลังเคลื่อนย้ายพุ่งออกไปไกล
นี่คือค่ายกลเคลื่อนย้ายระยะไกล แม้ว่ามันไม่อาจข้ามภูมิภาคได้ แต่มันก็สามารถส่งเขาไปไกลมาก นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เขาจะหนีออกจากโถงเซียนธาตุแสง
ไม่เช่นนั้นเขาจะไม่สามารถออกไปได้ไกลก่อนที่ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงจะเข้ามาหาเขา เนื่องจากความแข็งแกร่งในตอนนี้ของเขา นี่เป็นกรณีที่ว่าเขายังเข้าใจกฏของมิติแล้วด้วย
“เจี้ยนเฉิน เราตามหาเจ้ามานานแล้วและในที่สุดเราก็พบเจ้า เจ้าทำให้เราค้นหาอย่างลำบากเหลือเกิน…”ในตอนนี้เสียงหนัก ๆ ดังออกมาจากโถงเซียนธาตุแสง พร้อมกับพลังงานขนาดใหญ่ควบแน่นกลายเป็นมือที่ใหญ่โตพุ่งไปทางเจี้ยนเฉินด้วยความเร็วสูง
มือที่ควบแน่นจากพลังงานประกอบด้วยความลึกลับของกฏและความจริงของโลก เมื่อมันผ่านไป ทุกกฏในพื้นที่เหล่านั้นก็ดูได้รับผลกระทบเช่นกัน
เจี้ยนเฉินรู้สึกได้เลยว่ามิติรอบ ๆ ตัวของเขาแข็งตัวอย่างรวดเร็ว ในขณะที่เขายืนอยู่บนจานค่ายกล เจ้าของมือต้องการเข้ามาแทรกแซงอย่างรุนแรงการการเคลื่อนย้ายของจานค่ายกล
อย่างไรก็ตามมันสายเกินไป ด้วยมิติเวลาก่อนที่จะแข็งตัวอย่างสมบูรณ์และมือได้มาถึง เจี้ยนเฉินก็หายตัวไปจากจานค่ายกลแล้ว
ชายกลางชุดดำยืนอยู่บนอากาศด้านนอกของศาลาศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วขณะจ้องไปที่ทิศทางของเจี้ยนเฉินที่หายไป เขาพึมพำ “ข้าช้าไปก้าวหนึ่ง ข้าปล่อยให้เขาหลบหนีได้ ข้าไม่อาจจับเขาได้ในครั้งนี้ หากข้าต้องการจะพาเขาไป ข้าต้องสู้กับคนอื่น มันน่าเสียดายมาก”
“เจี้ยนเฉินปรากฏตัว….”
“เขาซ่อนตัวอยู่ที่โถงเซียนธาตุแสงจริงๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาแสดงตัวมาแล้ว เขาก็ไม่อาจหลบหนีไปได้อีก.…”
“ข้าต้องการรู้ว่าเขาจะซ่อนตัวที่ไหนในเวลานี้….”
ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดทั้งหมดได้รวมตัวกันภายในโถงเซียนธาตุแสง ข้าง ๆ ชายกลางคนชุดดำ มีแสงออกมจากสายตา ขณะที่เขาขยายสัมผัสวิญญาณของพวกเขาอย่างรวดเร็ว
คนเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นผู้เชี่ยวชาญสุดยอดที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของที่ราบรกร้าง สัมผัสวิญญาณของพวกเขานั้นทรงพลังอย่างมากจนเสียครอบคุมทั่วทั้งที่ราบรกร้างทั้งหมดได้ภายในครั้งเดียว
ก่อนที่เจี้ยนเฉินจะเปิดเผยตัว ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงก็ไม่อาจมองพบข้อบกพร่องใด ๆ ในการปลอมตัวผ่านหน้ากากของโม่เทียนหยวนได้ ทำให้เขาไม่ถูกพบตัวตนที่แท้จริงของเขา อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้เปิดเผยตัวเองแล้ว ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงได้ล็อคเขาไว้แล้ว แม้จะมีหน้ากากของโม่เทียนหยวน เขาก็ไม่อาจซ่อนตัวได้อีกต่อไป
“ข้าเจอเขาแล้ว เขาอยู่ในเมือง….”