เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2356: คนจากเผ่าเทพ
ตอนที่ 2356: คนจากเผ่าเทพ
ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงที่ได้รับผลกระทบจากพลังวิญญาณนักรบของหุนเจิ้งได้ฟื้นคืนหมดแล้ว พวกเขาไม่ได้กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่หุนเจิ้งได้ทำพวกเขาเอาไว้ แต่ทุกคนต่างจ้องไปที่ชายชราที่ปรากฏตัวขึ้นมาด้วยสีหน้าที่น่าเกลียด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สนใจความแข็งแกร่งของชายชรา เพียงตระกูลทลายสวรรค์ก็เพียงพอที่จะเป็นตัวแทนที่จะทำให้ทุกคนต้องยับยั้ง
นี่เป็นเพราะบรรพชนทลายสวรรค์ของพวกเขา !
บรรพชนทลายสวรรค์เป็นหนึ่งในคนที่ทรงพลังที่สุดภายใต้อัครสูงสุด เขายืนอยู่ในระดับเดียวกับองค์หญิงใหญ่ของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง พวกเขาทั้งสองเป็นบุคคลที่ถูกเคารพนับถือทั่วทั้งโลกเซียน
ผู้เชี่ยวชาญสุดยอดเหล่านี้ใช้มาตรการรุนแรงในการหาหอคอยอนัตตา เพราะพวกเขาต้องการนำมันไปส่งมอบให้กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง หากพวกเขาทำเช่นนั้น พวกเขาก็สามารถสร้างสัมพันธ์กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงผ่านการทำงานครั้งนี้ได้
แต่ในตอนนี้ กลุ่มคนจากตระกูลทลายสวรรค์ปรากฏขึ้นมาทันด่วน พวกเขาต้องกำจัดเจี้ยนเฉินออกไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ากลัวสำหรับผู้เชี่ยวชาญสูงสุดที่มารวมตัวกันที่นี่
พวกเขาไม่อาจทำรุนแรงกับตระกูลทลายสวรรค์ !
แม้แต่หุนเจิ้งก็ยังใจหายเมื่อเขาได้ยินคำว่า ตระกูลทลายสวรรค์ !
หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงก็รู้สึกว่าเรื่องนี้น่ากลัวมาก เจี้ยนเฉินได้วิถีบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุด เขาไม่อาจยอมให้วิถีการบ่มเพาะตกลงไปอยู่ในมือของทายาทนักรบวิญญาณ แต่ตอนนี้เขารู้สึกไร้อำนาจ ตระกูลทลายสวรรค์ตอนนี้ได้ประกาศเข้าร่วมในครั้งนี้
“ตระกูลทลายสวรรค์ต้องการหอคอยอนัตตาด้วยงั้นหรือ ? ” ผู้เชี่ยวชาญสูงสุดถามด้วยความเสียใจ
พวกเขาหาเจี้ยนเฉินมาเป็นระยะเวลานาน พวกเขาค้นหาทั้งกลางวันกลางคืนในที่ราบรกร้างและใช้เวลาทั้งหมดไปกับมัน ตอนนี้ในที่สุดพวกเขาก็หาคนพบและตระกูลทลายสวรรค์ก็ปรากฏตัวเพื่อต้องการที่จะพาเจี้ยนเฉินไป นั่นไม่ได้หมายความว่าความพยายามทั้งหมดของพวกเขาในช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมานั้นไม่มีประโยชน์ใด ๆ เลยและพวกเขาก็ถูกฉกฉวยโอกาสในตอนท้าย ?
ทั้งหมดนี้ทำให้พวกเขาทุกคนไม่พอใจ
ชายชราแค่นเสียงเย็นชา เขาพูดอย่างดูถูกเหยียดหยาม “มันเป็นวัตถุเทพที่เสียหาย ทำไมมันถึงได้ดึงดูดสายตาของตระกูลทลายสวรรค์ของเรา ? ข้ามาภายใต้คำสั่งของนายท่านเพื่อที่จะพาเจี้ยนเฉินออกไป เจ้าสามารถต่อสู้แย่งชิงหอคอยได้เท่าที่เจ้าต้องการ”
ทุกคนเริ่มโล่งใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น ในเวลาเดียวกันพวกเขารู้สึกตกใจ พวกเขาทั้งหมดมองเจี้ยนเฉินด้วยความรู้สึกหลากหลาย
โดยธรรมชาติแล้วพวกเขารู้ว่าใครเป็นเจ้านายของชายชราคนนี้ นอกเหนือจากบรรพชนทลายสวรรค์ในตำนานแล้ว ใครจะมีสิทธิที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังเรียกขานว่าเป็นนายท่าน ?
เจี้ยนเฉินเป็นเพียงราชาเทพ แต่เขาก็สามารถดึงดูดความสนใจของบรรพชนทลายสวรรค์ได้และทำให้เขาส่งผู้เชี่ยวชาญมาปกป้องเขาเป็นการส่วนตัว
ไม่สำคัญว่าบรรพชนทลายสวรรค์นั้นมีความตั้งใจที่จะปกป้องเจี้ยนเฉินจริง ๆ หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ คือเมื่อข่าวนี้ออกไป ทุกคนที่ต้องการจะยื่นมือมาทางเจี้ยนเฉินจะต้องคิดอย่างระวังถึงผลที่เกิดขึ้น
“เจี้ยนเฉินมอบหอคอยอนัตตาให้กับพวกเขา แล้วมาที่ตระกูลทลายสวรรค์ของข้า หากเจ้าได้รับการสนับสนุนจากนายท่านของข้า เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องพยายามมากมายเพื่อสร้างสัมพันธ์กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง” ชายชราจากตระกูลทลายสวรรค์กล่าวกับเจี้ยนเฉิน
เจี้ยนเฉินยังคงนิ่งเฉย เขาถามอย่างขึงขัง “ผู้อาวุโสต้องสับสนแล้ว ผู้น้อยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลทลายสวรรค์และผู้น้อยก็ไม่รู้จักบรรพชนทลายสวรรค์เช่นกัน ข้าขอถามได้หรือไม่ว่าทำไมบรรชนทลายสวรรค์ต้องการตัวข้า ? ”
“เจ้ารู้เองเมื่อเจ้าไปถึงตระกูลทลายสวรรค์” ชายชราตระกูลทลายสวรรค์ตอบกลับ
“ฮึ่ม ถ้าหากบรรพชนตระกูลทลายสวรรค์มาด้วยตัวเอง เจ้าก็ไม่ต้องคิดเลยว่าจะเอาเจี้ยนเฉินไปได้” ในตอนนี้หุนเจิ้งตะโกนออกมา ทันใดนั้นเขาก็เริ่มส่องแสงเจิดจ้าและดูเหมือนจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับภูเขาวิญญาณนักรบที่อวกาศรอบนอก พลังของพวกเขาหลอมรวมเข้ากันอย่างสมบูรณ์
มันไม่ใช่แค่นั้น ร่างทั้งหกที่นั่งอยู่บนภูเขาวิญญาณนักรบก็ส่องแสงเหมือนกับหุนเจิ้ง พลังงานที่สำคัญของพวกเขาและพลังทั้งหมดของพวกเขาดูเหมือนจะรวมเข้าด้วยกันที่หุนเจิ้งผ่านเงาภาพภูเขาวิญญาณนักรบ
ผลลัพธ์ตามมาไม่เพียงแต่หุนเจิ้งจะหลอมพลังจากภูเขาวิญญาณนักรบ แม้แต่สมาชิกทั้งหกของภูเขาวิญญาณนักรบก็หลอมรวมพลังกับหุนเจิ้งด้วยวิธีพิเศษ
ทันใดนั้นพลังแห่งการมีอยู่ของหุนเจิ้งก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก ผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดทั้งหมดที่มารวมตัวกันต่างก็หน้านิ่วคิ้วขมวด พวกเขากลัวมาก
“ข่ายพลังนับรบวิญญาณในตำนานของเชื้อสายนักรบวิญญาณมันช่างสมกับชื่อจริง ๆ อย่างไรก็ตามนี่ไม่ใช่ภูเขาวิญญาณนักรบ ดังนั้นพลังที่เจ้าสามารถยืมได้จากภูเขาวิญญาณนักรบมีจำกัดอย่างมาก ภาพเงาของภูเขาวิญญาณนักรบนั้นไม่เพียงพอต่อสิ่งที่เจ้าจะต่อกรได้ตามที่เจ้าต้องการ” ชายชราจากตระกูลทลายสวรรค์พูดอย่างเย็นชา เขาใช้ฝ่ามือของเขาที่ดูเหมือนจะหลอมรวมเข้ากับสภาพแวดล้อมและกฏบดขยี้ไปทางหุนเจิ้งพร้อมกับความลึกลับของโลกที่สุดยอด
แต่ในขณะนี้ ไม้เท้าก็ปรากฏออกมาโดยไม่รู้ว่ามาจากไหน มันตีเข้าไปที่มือของชายชราอย่างอ่อนโยน
ทันใดนั้นก็เกิดพลังทำลายล้างขึ้น มันฉีกผ่านมิติตรง ๆ และสร้างหลุมดำขนาดเท่ากำปั้น มันกลืนกินทุกอย่างในบริเวณโดยรอบและดูดพลังทั้งหมดไปที่นั่น
ชายชราจากตระกูลทลายสวรรค์ยังคงอยู่ที่เดิมหลังจากถูกโจมตี แต่พลังงานที่ปรากฏออกมาจากไม้เท้าก็ยังไม่หายไปเลย
หญิงชราปรากฏตัวอย่างเงียบ ๆ และดึงไม้เท้ากลับไปที่มือของนาง
“ข้าคาดไว้อยู่แล้วว่าเผ่าเทพต้องส่งคนออกมา แต่ข้าไม่คิดเลยว่าจะเป็นเจ้า ดูเหมือนว่าผู้นำหนุ่มของเผ่าเทพของเจ้าจะให้ความสำคัญกับเจี้ยนเฉินจริง ๆ ถึงได้ส่งผู้อาวุโสประจำโถงมา” ชายชราจากตระกูลทลายสวรรค์มองหญิงชราอย่างใจเย็น
“ห๊ะ! ผู้อาวุโสจากเผ่าเทพ ! ” สีหน้าของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดที่รวมตัวกันเปลี่ยนแปลงไป หลังจากที่รู้ตัวตนและเบื้องหลังของหญิงชรา
ในอดีตเผ่าเทพเป็นที่รู้จักกันในชื่อของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเซียน พวกเขาเป็นตระกูลที่ทรงพลังอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง อย่างไรก็ตามตั้งแต่เทพเจ้าสงครามในอดีตได้ตายลง พวกเขาก็สูญเสียฉายาเหล่านั้นไป
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเป็นอย่างนั้น เผ่าเทพก็ยังเป็นหนึ่งในองค์กรระดับสูงของโลกเซียน มรดกของพวกเขาลึกซึ้งอย่างมาก มีน้อยคนมากที่กล้ายั่วยุเขา
“ตู้ซาน ในเมื่อเจ้ารู้ว่าเจี้ยนเฉินเป็นคนที่เทพเจ้าสงครามของเรานับถือ เจ้าควรจะเข้าใจว่าเจ้าไม่อาจพาเจี้ยนเฉินไปได้” ผู้อาวุโสประจำโถง ทีเน่ พูด นางรู้ว่าบรรพชนทลายสวรรค์เป็นคนแบบไหนและยิ่งรู้ดีว่าเขามีแรงจูงใจที่ไม่อาจหยั่งถึงได้ในการพาเจี้ยนเฉินไป
ทำให้นางไม่อาจให้เจี้ยนเฉินถูกพาไปยังตระกูลทลายสวรรค์ได้
ตู้ซานส่ายหน้าและมีการดูถูกผ่านสายตา เขาพูดว่า “เผ่าเทพในตอนนี้ไม่ใช่เผ่าเทพในอดีต ก่อนที่เทพเจ้าตัวน้อยของเจ้าจะเติบโตเต็มที่ เจ้าไม่มีสิทธิ์พูดกับตระกูลทลายสวรรค์ของเราเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นเว้นแต่ว่าผู้อาวุโสสูงสุดของเผ่าเทพของเจ้าจะมาด้วยตัวเอง ไม่ใช่ผู้อาวุโสประจำโถงที่ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้กับข้า”
ดวงตาของทีเน่เย็นชาเมื่อนางได้ยิน นางพูดช้า ๆ “ข้าไม่คิดเลยว่าตระกูลที่ไม่มีความสำคัญใด ๆ จะบอกว่าเผ่าเทพของเราไม่คู่ควรกับเผ่าเทพในปัจจบุัน ตู้ซาน เนื่องจากเจ้ามีความมั่นใจ ข้าต้องการดูว่าเจ้าจะเอาชนะข้าในวันนี้ได้หรือไม่ อัครสูงสุดขั้นต้นอย่างข้าด้วยความแข็งแกร่งขั้นอัครสูงสุดช่วงกลาง” จากนั้นทีเน่ก็ชี้ไปที่หน้าของตู่ซาน ทันใดนั้นแสงสีเขียวก็โอบล้อมเขาเอาไว้อย่างแน่นหนา
ในเวลาเดียวกัน ทั้งสองคนก็หายไป
“หุนเจิ้ง รีบพาเจี้ยนเฉินไปยังภูเขาวิญญาณนักรบเร็ว ๆ อย่าให้คนจากตระกูลทลายสวรรค์มาแย่งตัวเขาได้ บรรพชนตระกูลทลายสวรรค์ไม่ใช่คนดีนัก”
เมื่อทีเน่หายไป เสียงของนางก็ดังอยู่ในหัวของหุนเจิ้ง