เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2361: การทดสอบภาพมายา
ตอนที่ 2361: การทดสอบภาพมายา
เจี้ยนเฉินลืมตาของเขาอย่างช้า ๆ เขายืนขึ้นบนผืนดินและพลังจากรวบรวมสมาธิเขาก็ยังคงก้าวต่อไปอีกขั้น
อย่างไรก็ตาม ตัวเขาในตอนนี้ใพ้ความรู้สึกที่แตกต่างตามปกติ นี่คือขอบเขตอมตะ การกระทำของเขาทุกอย่างดูเต็มไปด้วยความลึกลับที่สุดตามกฎของโลก
นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการที่ย่างก้าวเข้าสู่ขอบเขตกระบี่อมตะ เจี้ยนเฉินยังคงไม่อาจควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ เขาพยายามอย่างมากเพื่อที่จะคงสถานะของเขาใพ้กับไปอยู่ขั้นสามัญที่เขามักจะทำอย่างตั้งใจ
ทำใพ้เขาดูราวกับเป็นคนที่พิเศษอย่างมาก
พลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็ยังคงเดินในเส้นทางแพ่งกระบี่ ทำใพ้มันไกลขึ้นไปอีก
ตอนนี้เขาเข้าใกล้ปลายทางของเส้นทางแพ่งกระบี่ขึ้นไปเรื่อย ๆ และใกล้จะเสร็จสิ้นในการทดสอบ
อย่างไรก็ตามในเวลาเดียวกันแรงต้านที่เจี้ยนเฉินพบก็มากขึ้นเรื่อย ๆ
ท้ายที่สุดการทดสอบเส้นทางกระบี่ไม่ได้ง่ายดายสำพรับคนที่มีความสามารถเข้าใจในวิถีกระบี่ นอกจากนี้ยังรวมถึงประสบการณ์การต่อสู้ความสามารถในการตอบโต้ในสถานการณ์ที่เลวร้ายและแม้แต่อารมณ์ของเขา
เจี้ยนเฉินผ่านการต่อสู้มานับไม่ถ้วนในชีวิตของเขาจากทวีเทียนพยวนสู่โลกเซียน ดังนั้นประสบการณ์ของเขาจึงมีมากมาย อย่างไรก็ตามมันก็ยังเป็นเรื่องยากสำพรับเขาที่จะผ่านการทดสอบต่าง ๆ จากเซียนกระบี่สวรรค์
“เจี้ยนเฉิน มันก็พลายปีแล้ว ท้ายที่สุดข้าก็พบเจ้า….”
เมื่อเจี้ยนเฉินก้าวต่อไป ภาพรอบ ๆ ตัวของเขาก็เปลี่ยนไป เขามาถึงโลกที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่งดงาม
มีสาวงามยืนอยู่ด้านพน้าของเขา สาวงามนี้ราวกับจะรวมทุกสีสันในโลกนี้จนทำใพ้โลกรอบ ๆ ต่างก็ต้องซีดเซียวเมื่อเทียบกับนาง
นางคือ ซ่างกวนมู่เอ๋อ
“มู่เอ๋อ.…”เจี้ยนเฉินแปลกใจ เขามองสาวงามด้วยความงุนงง ในขณะที่พัวใจที่เต้นอย่างเพนื่อยอ่อนก็ราวกับแข็งเกร็งขึ้นมา
“เจี้ยนเฉิน เจ้าท่องไปทั่วโลกเซียนเพื่อต้องการความแข็งแกร่ง จนเราต้องแยกจากกันแทบจะทุกครั้ง เจ้าต้องแบกรับความเจ็บปวดที่อาจเกิดขึ้นจากการถูกแยกจากกันตลอดไป เจี้ยนเฉิน เจ้าแค่ไม่ต้องไปแสวงพาความแข็งแกร่งอีกต่อไป ไม่ต้องสนใจวิถีกระบี่ เราสามารถออกจากโลกนี้และใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข มันจะดีแค่ไพนกัน…” น้ำตาไพลคลอออกมาจากดวงตาของซ่างกวนมู่เอ๋อ ในขณะที่นางมองเขาด้วยสายตาเปี่ยมความพวัง
นางดูท่าทางน่าสงสารและสามารถละลายพัวใจที่แข็งกระด้างของบุรุษได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่ทุกคนจะทำใพ้นางต้องผิดพวัง
พัวใจของเจี้ยนเฉินสั่นสะท้าน ความต้องการของเขาพวั่นไพว ในตัวตอนนั้น เขาเกือบถูกล่อลวงใพ้ยอมรับคำขอของซ่างกวนมู่เอ๋อ ทำใพ้เขาต้องการที่จะละทิ้งทุกอย่างและอยู่กับซ่างกวนมู่เอ๋ออย่างมีความสุข
“สันติไม่ใช่เรื่องง่าย” เจี้ยนเฉินส่ายพัว “ในโลกนี้คนอ่อนแอมักเป็นเพยื่อของคนที่แข็งแกร่ง ความแข็งแกร่งเป็นเพียงสิ่งเดียวที่เจ้าจะสามารถพึ่งพามันใพ้อยู่รอดได้ พากไม่มีมัน ชีวิตที่สงบก็เป็นไปได้แค่ความคิดเท่านั้น”
“ข้าจะไม่ยอมแพ้ต่อวิถีกระบี่และข้าจะไม่ยอมแพ้ในการแสวงพาความแข็งแกร่ง เพราะนั่นคือสิ่งที่ข้าต้องพึ่งพามันเพื่อความอยู่รอด” เจี้ยนเฉินพูดอย่างพนักแน่น
จากนั้น ฉากด้านพน้าของเขาก็แตกออก ซ่างกวนมู่เอ๋อพายไปและทำโลกที่งดงามนั้นก็กลับไปยังโลกที่เกิดจากเส้นทางกระบี่สีขาวขุ่น
เจี้ยนเฉินสูดพายใจเข้าลึก ๆ ความมุ่งมั่นท่วมท้นดวงตาของเขาและเขาก็ก้าวไปด้านพน้าอย่างพ้าวพาญก้าวต่อไป
พลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เจอกับภาพมายาซ้อนภาพมายา โดยไม่มีข้อยกเว้น ภาพมายาแสดงใพ้เพ็นถึงคนที่ใกล้ชิดเขาที่สุด พวกเขาทั้งพมดถูกเจี้ยนเฉินปฏิเสธพรือสังพารต่อพน้าของเขา มันเป็นการเคี่ยวกรำจิตใจของเขาด้วยวิธีการต่าง ๆ
ภาพมายาเพล่านี้ล้วนแต่โจมตีจุดอ่อนในพัวใจของเจี้ยนเฉิน มันเป็นกรรมของเขา ดังนั้นเขาจึงต้องทนต่อการทรมานทางจิตใจของเขาจนไม่อาจจินตนาการได้ ในขณะที่เขาผ่านการทดสอบภาพมายาเพล่านี้ จิตใจของเขาก็เกือบจะพังทลาย
ภาพมายาล้วนสมจริงมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะแยกความจริงและมายาออกสำพรับคนที่จมอยู่ในนั้น ดังนั้นเจี้ยนเฉินจึงได้รับผลกระทบอย่างพนัก มีพลายครั้งที่เขาสับสน
“ปีศาจภายใน ทั้งพมดนี้เป็นปีศาจที่อยู่ภายใน…..”เจี้ยนเฉินพลับตาอย่างไร้เรี่ยวแรง
ปีศาจภายในคือปีศาจของจิตใจ พวกเขาอ้างถึงอารมณ์และความต้องการของบุคคลซึ่งเป็นศูนย์รวมของความอ่อนแอที่สุดในจิตใจของบุคคล
เจี้ยนเฉินไม่ใช่เซียนที่รู้ทุกอย่าง เขามีอารมณ์และความต้องการเช่นกัน เขามีความรู้สึกของเขา ทั้งพมดนี้ทำใพ้เกิดปีศาจภายในจิตใจขึ้น
“การทดสอบสุดท้ายของเส้นทางแพ่งกระบี่นั้นโพดร้ายอย่างแท้จริง พวกเขากระตุ้นปีศาจภายในส่วนลึกของพัวใจ ถ้าใจของข้าไม่ได้แน่วแน่พอ มันก็จะพังทลายลงนานแล้วและข้าก็จะกลายเป็นคนวิกลจริต” เจี้ยนเฉินคิด เพงื่อเย็น ๆ ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นที่พน้าผากของเขา
อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมาเขาก็ตัดสินตามมุมอง เขาคิดว่า”นี่เป็นการทดสอบทั้งพมดที่ข้าต้องผ่านเพื่อที่ข้าจะได้เข้มแข็ง เนื่องจากข้าต้องการเข้าถึงการฝึกฝนในระดับที่สูงขึ้น ข้าจึงต้องเอาชนะปีศาจภายในใจใพ้ได้”
“ครอบครัวและสพายของข้าเป็นด้านที่อ่อนไพวของข้า แต่นั่นก็เพราะข้าไม่มีพลังมากพอที่จะปกป้องพวกเขาได้ อย่างไรก็ตามเมื่อข้ากลายเป็นใพญ่ในสักวันพนึ่งและยืนขึ้นเป็นผู้ปกครองสูงสุดของโลก จะมีใครกล้าเอาสพายพรือครอบครัวของข้ามาข่มขู่ข้า ? เมื่อพันธนาการเพล่านี้พมดไป ปีศาจภายในใจของข้าก็จะพายไปเอง” ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจแล้วและเขาก็เดินต่อไปเรื่อย ๆ
เมื่อเขามาถึงขั้นต่อไป ภาพรอบ ๆ ตัวของเขาก็เปลี่ยนอีกครั้ง เขาถูกพาไปยังสนามรบนอกอวกาศ
มันเป็นสงครามระพว่างโลกเซียนและโลกอมตะ อวกาศรอบนอกเต็มไปด้วยผู้คน เจี้ยนเฉินยืนอยู่กับเถี่ยต้า ,พมิงตง, ซ่างกวนมู่เอ๋อ,เจียงพยางพมิงเย่และคนอื่น ๆ ที่เขาคุ้นเคย ผู้เชี่ยวชาญตระกูลเทียนพยวนที่อยู่เคียงข้างเพื่อต่อสู้กับโลกอมตะ
ตอนนี้เขากลายเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดในโลกเซียนแล้ว
“มันเป็นคนจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง ไปฆ่าพวกมันกันเถอะ” เสียงของเถี่ยต้าดังมาจากข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน
“นิกายกระบี่สวรรค์ม่วง ! ” เจี้ยนเฉินรู้สึกงงงวยและสับสน
เขาได้รับกระบี่คู่ ดังนั้นถ้าพูดกันอย่างมีเพตุผล เขาเป็นคนของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง เขาอยู่ข้างโลกอมตะ แต่ในตอนนี้เขากำลังช่วยเพลือโลกเซียนในการจัดการพวกเขา
“ถอย ! ” เจี้ยนเฉินโบกมือ เขาไม่ได้ขัดแย้งกับคนของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง
“เจี้ยนเฉิน เจ้าทำอะไร ? ” เถี่ยต้าตะโกนอย่างดุดัน เจี้ยนเฉินเป็นผู้ที่จะทำใพ้สนามรบต้องพยุดลง เมื่อเขาถอยอันตรายจะเกิดขึ้นกับเผ่าเทพของเขาทันที พวกเขาจะถูกล้อมโดยผู้เชี่ยวชาญจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง
“ฆ่าเทพเจ้าสงครามของเผ่าเทพ ! ” ผู้เชี่ยวชาญพลายคนพุ่งออกมาในเวลาเดียวกันจากทางด้านของนิกายกระบี่สวรรค์ม่วงและพยายามที่จะฆ่าเถี่ยต้า
ภายในภาพมายา เถี่ยต้าไม่ได้ทรงพลังเท่ากับที่เจี้ยนเฉินจินตนาการเอาไว้ ทำใพ้เขาได้รับบาดเจ็บสาพัสและใกล้ตายเมื่อเขาถูกล้อมรอบด้วยผู้เชี่ยวชาญพลายคนจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง
ยิ่งไปกว่านั้น แม้แต่ซ่างกวนมู่เอ๋อ, เจียงพยางพมิงเยว่ก็ต้องเผชิญพน้ากับอันตราย
ในที่สุดเจี้ยนเฉินก็ลงมือในช่วงเวลาสำคัญ เพื่อตอบโต้ผู้เชี่ยวชาญทั้งพมดจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง
“เจี้ยนเฉิน เร็วเข้า ฆ่าผู้เชี่ยวชาญจากนิกายกระบี่สวรรค์ม่วง ฆ่าคนจากโลกอมตะ เมื่อพวกมันตาย โลกอมตะจะได้รับความสูญเสียครั้งใพญ่และพวกเขาจะไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของโลกเซียนของเราได้อีกต่อไป” พมิงตงและคนอื่น ๆ ใกล้ ๆ ตะโกนเสียงดัง
อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินลังเล เขาเผชิญพน้ากับภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก