เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2368: บันไดหน้าประตู
ตอนที่ 2368: บันไดหน้าประตู
เจี้ยนเฉินเริ่มฝึกฝนโดยมุ่งเน้นทำความเข้าใจกฏแห่งการสร้างสรรค์, ไฟและกัดกร่อน
กฏที่เขาเลือกก่อนคือ กฏแห่งไฟ
กฏแห่งไฟเป็นกฏที่ทรงพลังอย่างมากสำหรับการโจมตี เมื่อเขาเข้าใจกฏแห่งไฟจนเป็นราชาเทพ อย่างน้อยมันจะเพิ่มทำให้พลังต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้น
ในขณะที่เจี้ยนเฉินเข้าใจกฏของไฟ เซียนกระบี่สวรรค์ที่อยู่บนยอดเขาก็ลืมตา เขาจ้องมองไปที่ตำแหน่งของเจี้ยนเฉิน สีหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนแปลง เขาพูดอย่างใจเย็น “เขาได้เดินเส้นทางกระบี่อมตะแล้ว หากเขายังคงเข้าใจมันอีก เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเขาจะไปถึงกระบี่อมตะภายในสามปี อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เลือกวิถีกระบี่ แต่เป็นกฏแห่งไฟแทน ดูเหมือนว่าเขาจะวางแผนเอาไว้แล้ว….”
มีแสงวาบผ่านสายตาของกระบี่สวรรค์ ดวงตาของเขาลึกซึ้งมากและบ่มพึมพำ “นั่นเป็นความลับที่เอาไว้สร้างย่ำตาโลหิต หากเขาทำสิ่งนั้นจริงๆเขาจะเอาน้ำตาโลหิตออกมา….อย่างไรก็ตามวิกฤตที่แท้จริงของเขาไม่ได้มาจากน้ำตาโลหิต ไม่ว่าอย่างไร ข้าจะปล่อยให้เขาต้องจัดการเอง”
ในพริบตา เจี้ยนเฉินก็ได้บ่มเพาะในภูเขาเทพกระบี่นานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว หลังจากนั้นเขาก็ลึกขึ้นและขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาถึงได้อารมณ์ไม่ดี
หากปราศจากหยกชะตา ความเข้าใจกฎของเขาก็ช้ามาก แม้ว่ามันจะดูรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อในสายตาคนอื่น แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเข้าใจกฎแห่งการสร้างสรรค์, ไฟและการกัดกร่อนจนถึงขั้นราชาเทพในเวลาสามปี
“หยกชะตามีค่ามากเกินไป ด้วยเหตุนี้ข้าจึงไม่อาจเอามันมาใช้ได้ แม้ว่าข้าจะอยู่ภายในหอคอยอนัตตาก็ตาม ท้ายที่สุดเซียนกระบี่สวรรค์ก็ทรงพลังมากเกินไป เขายิ่งใหญ่ว่าอัครสูงสุดส่วนใหญ่ ข้ายังไม่แน่ใจอย่างสมบูรณ์ว่าหอคอยอนัตตาจะสามารถหยุดยั้งสัมผัสของเซียนกระบี่สวรรค์ได้ ท้ายที่สุดหอคอยอนัตตาก็ได้รับความเสียหายในขณะนี้ มันไม่ได้มีการป้องกันอีกต่อไปเมื่อมันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์” เจี้ยนเฉินกังวล
“โชคดีที่ไคยะเข้าใจกฏแห่งการสร้างสรรค์และไฟเรียบร้อยแล้ว ข้าจะเข้าใจกฏกัดกร่อนก่อน ข้าหวังว่ากฏแห่งการรังสรรค์และไฟของไคยะจะมีส่วนช่วยเมื่อข้าต้องการมัน” ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ตัดสินใจ เมื่อเขากำลังฝึกฝนต่อไป เขาก็รู้สึกถึงบางสิ่งบางอย่างและมองออกไปไปนอกถ้ำ
ตอนนี้เองที่มีร่างสองร่างเดินเข้ามาจากด้านนอกด้วยกัน
สายตาของเจี้ยนเฉินหรี่ลงเล็กน้อยและเขารู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นคนทั้งสอง
พวกเขากลับเป็นหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงและหุนเจิ้งของเชื้อสายนักรบวิญญาณ
“ข้ารออยู่ด้านนอกมาหนึ่งเดือนแล้ว ท้ายที่สุดเจ้าก็ออกมา” หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงกล่าวทันทีที่เขาเข้าไปในถ้ำ เขาจ้องไปที่เจี้ยนเฉินด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย เขาไม่สนใจการพูดคุยและพูดว่า “เจี้ยนเฉิน ข้าหวังว่าเจ้าจะคืนมันให้ข้า ตราบใดที่เจ้าคืนของมา ข้าจะไม่ถือสาเอาความเรื่องอื่น ๆ ”
เจี้ยนเฉินเข้าใจว่าหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงได้มาเพื่อวิถีของเซียนจอมปราชญ์
อย่างไรก็ตามเขาได้รับวิถีของเซียนจอมปราชญ์จากความพยายามอย่างยากลำบากมากมายและมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ เขาได้รับมันมาอย่างสมบูรณ์ด้วยความสามารถของเขาเอง เขาจะคืนมันได้อย่างไร ?
“เจ้าไม่คิดจะพูดเรื่องอื่น ? หืม หยู่เฉิน เจ้าควรจะฟังให้ดี ข้าอยากจะถามว่าเจ้ากล้าพอที่จะเข้าไปหาเขางั้นหรือ”หุนเจิ้งพูดเยาะเย้ยทันทีที่หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงพูดจบ เขาไม่แม้แต่จะมองไปที่หยู่เฉินและสีหน้าของเขาก็น่าเกลียด เขามองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างมีกำลังใจและยิ้ม “เจี้ยนเฉิน เจ้าไม่ต้องกังวล นี่คือภูเขาเทพกระบี่ เซียนกระบี่สวรรค์ช่วยให้เราได้พบกับเจ้า มันค่อนข้างน่าแปลกใจที่น่ายินดี หากเขากล้าที่จะแตะต้องเจ้าที่นี่ เขาคงจบลงไปด้วยการกัดคำใหญ่กว่าที่เขาจะเคี้ยวได้ ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องกลัวเขา”
หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงสูดลมหายใจอย่างเยือกเย็นและเขามองไปที่หุนเจิ้งอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตามมันก็เป็นอย่างที่หุนเจิ้งกล่าว แน่นอนว่าเขาไม่กล้าพอที่จะเคลื่อนไหวในภูเขาเทพกระบี่หรือจะเป็นไปไม่ได้ที่จะเขาจะยืนอยู่ใกล้กับหุนเจิ้ง
“เจี้ยนเฉิน ข้าเข้าใจเจ้าเล็กน้อย ข้ารู้ว่าเจ้าเป็นคนให้ความสำคัญกับมิตรภาพ เจ้าอาจไม่รู้ แต่อาจารย์ของเจ้า ผู้นำยอดเขาทะยานฟ้า หานซิ่นและไป๋หยูที่เจ้าห่วงใยมาก รวมถึงตงหลินหยานเซว่ จะถูกลากมาลงโทษ การลงโทษของตงหลินหยานเซว่ดูจะรุนแรงเป็นพิเศษ นางรู้ชัดเจนว่าเจ้าเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณ ไม่เพียงแค่นั้น นางยังไม่รายงานเจ้า แต่นางยังช่วยให้เจ้าหลบหนีทำให้โถงเซียนธาตุแสงของเราสูญฌสียสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา บาปของนางนั้นมากเสียจนทำให้นางไม่อาจเป็นเซียนที่ถูกเลือกได้นั่นเอง แม้แต่การประหารนางก็ถูกมองว่าเป็นเพียงเล็กน้อย….” หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงกล่าวอย่างเย็นชา เขาไม่เคยทำสิ่งเหล่านี้ แต่วิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์นั้นสำคัญกับโถงเซียนธาตุแสงอย่างมาก เขาจะทำทุกอย่างเพื่อเอามันกลับมา
“หัวหน้า ท่านขู่ข้างั้นหรือ ? “ใบหน้าของเจี้ยนเฉินค่อย ๆ มืดหม่น เขาพูดอย่างเยือกเย็น “เราไม่พูดถึงความจริงที่ว่า ข้าได้รับวิถีบ่มเพาะด้วยความสามารถของข้าคนเดียว ตอนนี้โถงเซียนธาตุแสงของเจ้าควรจะขอบคุณและไม่ใช่ไม่พอใจข้าที่ได้วิถีการบ่มเพาะเป็นคนแรก ในขณะที่ข้าเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงตื่นขึ้นมา มันก็เป็นเพราะข้าที่โลกจิ๋วลับเปิดออกและมันก็เป็นเพราะข้าที่มรดกของจอมปราชญ์สูงสุดปรากฏขึ้น”
“ยิ่งไปกว่านั้น ข้าได้รับวิธีการบ่มเพาะที่เป็นมรดกเท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างยังอยู่ในโถงเซียนธาตุแสงของเจ้า พวกมันสามารถได้รับโดยทายาทของผู้นำยอดเขาตะวันเดือด”
“ถ้ามันไม่ใช่เพราะข้า หอคอยธาตุแสงจะยังเป็นเหมือนเดิม เมื่อก่อนที่ซึ่งเต็มไปด้วยหมอกที่ไม่มีสิ้นสุด มันคงเป็นไปไม่ได้ที่มันกลายเป็นเหมือนตอนนี้ สถานที่ปกป้องเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมด”
“ดังนั้นโถงเซียนธาตุแสงของเจ้าควรจะขอบคุณข้า ข้ากำจัดภัยคุกคามครั้งใหญ่ให้กับโถงเซียนธาตุแสงของเจ้า….”
ใบหน้าของหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกหลายครั้งเมื่อเขาฟังคำพูดของเจี้ยนเฉิน เขาจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินด้วยสายตาที่ตกใจและพูดอย่างดุดัน “ทำไมจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงตื่นขึ้นเพราะเจ้า ? ”
“บางที อาจเป็นเพราะข้าสามารถควบคุมพลังวิญญาณนักรบ” เจี้ยนเฉินพูดอย่างคลุมเครือ เห็นได้ชัดว่าเขาจะไม่เปิดเผยความจริงที่ว่าจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
“ความสัมพันธ์ระหว่างเชื้อสายวิญญาณนักรบและโถงเซียนธาตุแสงนั้นลึกซึ้งมาก แต่มันก็ไม่ดีหรือแย่ ข้าไม่รู้รายละเอียดมากนัก แต่ข้ารู้ว่าต้องมีเชื้อสายนักรบวิญญาณเพื่อรับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด เนื่องจากไม่มีใครสามารถเอาชนะช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสุดท้ายของเรื่องทั้งหมด มีเพียงพลังวิญญาณนักรบเท่านั้นที่จะสามารถผ่านอุปสรรคสุดท้ายและปลดปล่อยมรดกของจอมปราชญ์สูงสุดที่เก็บไว้ข้างใต้มัน”
เจี้ยนเฉินจ้องมองหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงด้วยสายตาที่เปล่งประกายและต่อเนื่อง “พลังวิญญาณนักรบนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด”
“เป็นไปไม่ได้ ! ” หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงเน้นทุกคำ เขาปฏิเสธที่จะยอมรับสิ่งนี้
“หัวหน้า บางทีเจ้าควรจะถามจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง ข้าไม่รู้รายละเอียดที่แน่นอน แต่เจ้าควรจะทำ” เจี้ยนเฉินกล่าว ตอนนี้จิตวิญญาณวัตถุได้หลอมรวมกับความทรงจำบางอย่างแล้ว เขาน่าจะสามารถตอบคำถามได้สักสองสามข้อ
“ข้าจะกลับมา” หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงจ้องมองไปที่เจี้ยนเฉินอย่างลึกซึ้ง เขาหันหลังและเดินกลับไปทางเดิม
พลังวิญญาณนักรบมีความสำคัญต่อการเข้าใจแผนภาพและการได้รับมรดกของจอมปราชญ์ ข่าวนี้น่าตกใจมากจนเกินไปและมันก็โค่นล้มผู้นำความคิดและความเข้าใจของโถงเซียนธาตุแสงอย่างสมบูรณ์ เขาจำเป็นต้องกลับไปและสอบถามจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสงอย่างละเอียด