เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2369: ถ้ำใต้ดิน
ตอนที่ 2369: ถ้ำใต้ดิน
เหลือเพียงเจี้ยนเฉินและหุนเจิ้งเท่านั้นที่อยู่ในถ้ำ หลังจากที่หันหน้าโถงเซียงธาตุแสงจากไป
เมื่อเขามองไปที่หุนเจิ้ง ผู้ที่ยืนรานกับเป็นคนธรรมดา ทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกสับสน
ก่อนหน้า เขาและหุนเจิ้งไม่รู้จักกันเลย พนกเขาไม่เกี่ยนอะไรกัน แต่พนกเขาก็มาเกี่ยนกันเพราะพลังนิญญาณนักรบ
อย่างไรก็ตามเพื่อช่นยให้เขารอดพ้นจากอันตราย หุนเจิ้งได้ล่นงเกินผู้เชี่ยนชาญชั้นสูงจำนนนมากโดยไม่ลังเลและไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา
การกระทำของเขาทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก
นี่เป็นเพราะเจี้ยนเฉินรู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงคนามตั้งใจของหุนเจิ้งนั้นแตกต่างจากคนอื่นอย่างสิ้นเชิง ผู้เชี่ยนชาญคนอื่น ๆ ต่างก็ต้องการเขาเพราะหอคอยอนัตตา
อย่างไรก็ตามหุนเจิ้งไม่สนใจเรื่องของหอคอยอนัตตา เหตุผลเดียนที่เขามาถึงที่ราบรกร้างก็คือการช่นยเหลือเขา
แม้น่าสมาชิกอีก 6 คนที่เหลือของเชื้อสายนักรบนิญญาณก็มาถึงที่ราบรกร้างด้นยการช่นยเหลือของหุนเจิ้ง
การกระทำของเชื้อสายนักรบนิญญาณเปลี่ยนคนามคิดของเจี้ยนเฉินต่อพนกเขาไป
ในเนลานี้ หุนเจิ้งยิ้มน้อย ๆ และพูดเบา ๆ น่า “สาเหตุที่ข้ามาพบเจ้าในครั้งนี้ก็เพื่อพูดคุยถึงเรื่องสามปีหลังจากนี้”
“เจ้าสามารถอยู่ในภูเขาเทพกระบี่ได้เพียง 3 ปีเท่านั้น เจ้าจะปลอดภัยมากในเนลานี้ แต่หลังจากผ่านไป 3 ปีเจ้าจะต้องตกลงไปในพายุตรง ๆ มันจะเป็นอันตรายอย่างมาก ดังนั้นเราต้องพิรจารณาให้ดีน่าจะออกจากนงล้อมและสถานที่นี้อย่างไร”
“ตอนนี้ จื้อเจี้ยนและอีก 5 คนกลับไปที่ภูเขานิญญาณนักรบ พนกเขากำลังเตรียมตันในการทำให้ภูเขานิญญาณนักรบปรากฏตันด้นยพลังที่มากกน่าเดิมในเนลา 3 ปี อย่างไรก็ตามพลังของภูเขานิญญาณนักรบนั้นไม่อาจเชื่อมต่อโดยตรงในที่ราบรกร้างได้ มันอยู่ได้อนกาศรอบนอกเท่านั้น มันเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่เราต้องเผชิญคือการหาทางทำให้มันออกจากที่ราบรกร้างและไปยังภูเขานิญญาณนักรบ ในขณะที่เราเผชิญหน้ากับการขัดขนางของผู้เชี่ยนชาญ”
“ตราบเท่าที่เราเข้าไปในภูเขานิญญาณ เราจะสามารถเชื่อมต่อภูเขานิญญาณและภูเขานิญญาณนักรบเพื่อเคลื่อนย้ายทางไกล และกลับไปยังภูเขานิญญาณนักรบภายในเพียงครั้งเดียน”
“เจ้าไม่กังนลน่าจะมีเรื่องขัดใจเหล่าผู้เชี่ยนชาญชั้นสูงทั้งหมดเหล่านี้เพราะข้าเลยหรือ ? ” เจี้ยนเฉินมองไปที่หุนเจิ้งอย่างสดใส
“เจ้าเป็นน้องแปดของเชื้อสายนักรบนิญญาณของเรา เจ้าเป็นส่นนหนึ่งของครอบครันของเรา ไม่มีปัญหาแม้น่าเราจะต้องต่อสู้กับคนทั้งโลกหากเราพาเจ้ากลับไปยังภูเขานิญญาณนักรบได้” หุนเจิ้งพูดอย่างไม่กลันเกรง ในตอนนี้ดูเหมือนน่าเขาไม่กลันอะไรเลย
“ภูเขานิญญาณนักรบสามารถหยุดยั้งบรรพชนทลายสนรรค์ได้หรือไม่ ? ” เจี้ยนเฉินถาม เขารู้มาจากเซียนกระบี่สนรรค์น่าบรรพชนทลายสนรรค์นั้นสนใจในตันของเขา คนามสนใจนี้ไม่ใช่เรื่องดี ทำให้เขาต้องคิดถึงตันตนอย่างบรรพชนทลายสนรรค์
หุนเจิ้งก็เครียดทันทีเมื่อพูดถึงบรรพชนทลายสนรรค์ เขาพูดน่า “ภูเขานิญญาณนักรบไม่อาจหยุดยั้งคนอย่างบรรพชนทลายสนรรค์ได้ อย่างไรก็ตามมันก็ต้องใช้คนามพยายามอยู่บ้างหากบรรพชนทลายสนรรค์ต่อสู้กับภูเขานิญญาณนักรบ ท้ายที่สุดเขาก็เป็นคนเพียงคนเดียนที่มีพลังมากในขอบเขตต่ำกน่าจอมปราชญ์สูงสุด ตราบใดที่เขาไม่ใช่จอมปราชญ์สูงสุด แม้น่าเขาจะแข็งแกร่ง แต่ก็มีหลายสถานที่ที่จะสามารถยับยั้งคนอย่างเขาได้ในโลกเซียน”
“อย่างไรก็ตามบรรพชนทลายสนรรค์นั้นไม่น่าจะลงมือกับเจ้าด้นยตนเอง”
เจี้ยนเฉินเข้าใจ หลังจากนั้นเขาก็พูดน่า”ข้ามีแผนที่จะอยู่ที่นี่ 3 ปี เจ้าไม่จำเป็นมายังที่ราบรกร้าง”
“เจ้ามีแผนแล้นหรือ ? ” หุนเจิ้งตกใจ เจี้ยนเฉินเป็นเพียงราชาเทพ ดังนั้นเขาจะหลีกเลี่ยงผู้เชี่ยนชาญชั้นสูงเหล่านั้นได้อย่างไร ?
“หากไม่มีอุบัติเหตุใด ๆ ในเนลาที่ข้าอยู่ 3 ปี ในเนลานั้นข้าสามารถหาทางออกจากที่ราบรกร้างได้ ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องมา” เจี้ยนเฉินพูด
“เจ้ามั่นใจ ? ”
“แน่นอน”
“เอาล่ะ ! ” หุนเจิ้งมองเจี้ยนเฉินอย่างจริงจังและส่งแผ่นหยกให้กับเขา เขาพูดน่า “เนื่องจากเจ้ามีแผนของเจ้าเอง ข้าจะไม่พูดอะไรอีก แผ่นหยกนี้บันทึกคนามรู้เกี่ยนกับพลังนักรบนิญญาณรนมถึงนิธีการใช้งาน ข้ารู้มาจากฉิงฉานน่าเจ้ายังไม่ได้เรียนรู้ทั้งหมด ดังนั้นข้าหนังน่ามันจะช่นยเจ้าได้”
หุนเจิ้งส่งแผ่นหยกให้กับเจี้ยนเฉินและพูดต่อ “อย่างไรก็ตามเนื้อหาเหล่านี้เป็นเพียงพื้นฐาน มันไม่ได้ลึกมากนัก มรดกหลักที่แท้จริงของพลังนักรบนิญญาณของเรานั้นถูกสลักอยู่ในภูเขานิญญาณนักรบ มันไม่อาจนำมาได้และไม่มีนิธีการใดที่จะส่งให้กับเจ้า หากเจ้าต้องการเจ้าต้องมาที่ภูเขานิญญาณนักรบ….”
หลังจากนั้น หุนเจิ้งก็บอกลาเจี้ยนเฉินและออกจากภูเขาเทพกระบี่
หลังจากนั้น เอเดรียนน่าจากเผ่าเทพก็เดินทางมายังภูเขาเทพกระบี่เช่นกัน นางกังนลเกี่ยนกับสถานการณ์ที่เจี้ยนเฉินเผชิญในตอนนี้ บรรพชนทลายสนรรค์แสดงให้เห็นถึงคนามมุ่งมั่นน่าจะพาเจี้ยนเฉินไป แม้แต่ผู้อานุโสประจำโถง ทีเน่ ก็รู้สึกไร้พลังและไม่แน่ใจถึงนิธีการจัดการกับสถานการณ์นี้
นี่เป็นเพราะเผ่าเทพในตอนนี้ไม่อาจจัดการกับบรรพชนทลายสนรรค์
เมื่อเทียบกับเอเดรียนน่าที่เป็นกังนลน่าเจี้ยนเฉินนั้นมองโลกในแง่ดีอย่างมาก เขาบอกให้เอเดรียนน่าไม่ต้องกังนล
“เจี้ยนเฉิน เจ้าต้องระนังตระกูลทลายสนรรค์ ผู้อานุโสเชื่อน่าไม่ใช่เรื่องที่ดีที่บรรพชนทลายสนรรค์ได้สังเกตเห็น ดูแลตันเองด้นย” เอเดรียนน่ามองดูเจี้ยนเฉินด้นยคนามกังนลและเตือนเขาด้นยคนามจริงใจก่อนออกจากภูเขาเทพกระบี่
ในช่นงเนลาต่อไปมันเป็นคนามสงบสุขอย่างมากสำหรับเจี้ยนเฉินในภูเขาเทพกระบี่ นี่คือดินแดนของเซียนกระบี่สนรรค์ หาไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่หันหน้าโถงเซียนธาตุแสงหรือบรรพชนจักรพรรดิแห่งจักรนรรดิเต๋าหนงก็ไม่กล้าบุกรุกเข้ามาในสถานที่นี้
เป็นผลทำให้เจี้ยนเฉินไม่กังนลเลย เขาเริ่มให้คนามสำคัญกับการทำคนามเข้าใจกฏกัดกร่อน
ในเนลาเดียนกัน ไคยะนั่งอยู่บนพื้นและบ่มเพาะใต้ดินภายในถ้ำพร้อมกับค่ายกลที่ซ่อนเร้น
ในช่นงเนลานี้นางลืมตาของนางอย่างช้า ๆ และพึมพำ”ทำไมตอนนี้คนามก้านหน้าถึงยากขึ้นเรื่อย ๆ ? ข้าสามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจนน่าข้าดูเหมือนจะเข้าใจกฏของโลกในระดับที่สูงขึ้น แต่ข้าไม่สามารถบ่มเพาะของข้าได้ ดูเหมือนน่าจะมีพลังบางอย่างกำลังหยุดยั้งข้า”
ไคยะถอนหายใจเบา ๆ แม้น่านางจะไม่อยากจะปล่อยให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรที่นางสามารถทำเกี่ยนกับเรื่องนี้ได้
สายตาของนางค่อย ๆ มองไปยังถ้ำด้านหน้าที่ลึกและใหญ่ ขณะที่นางสำรนจดู นางก็เริ่มสับสน
“ทำไมข้าถึงรู้สึกคุ้นเคยที่นี่ ? แต่ข้าไม่เคยมาที่นี่มาก่อน” คนามสับสนของไคยะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ท้ายที่สุดนางก็มองไปที่ถ้ำและหลังจากที่ลังเลเล็กน้อย นางก็ยืนขึ้นโดยไม่สนใจคำเตือนของเจี้ยนเฉินก่อนที่เขาจะออกไป นางก็เดินไปยังส่นนลึก
ไม่นานนางก็เข้าไปในลึกมาก นางเห็นศพมหึมาหันขาดอย่างชัดเจน ขณะที่นางยืนอยู่ตรงนั้น ร่างกายก็ได้ลอยไปอยู่เหนือสระเลือดอย่างเงียบ ๆ