เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2371: ตระกูลราชวงศ์
ตอนที่ 2371: ตระกูลราชวงศ์
ในขณะนั้นดวงตาของไคยะดูเหมือนจะกลายเป็นหลุมดำที่กลืนกินพลังงานที่จำเป็นทั้งหมดและนำมันไปยังที่อื่น มันเป็นภาพที่น่าตกใจมาก
เมื่อพลังงานไหลออกไปอย่างรวดเร็ว ระดับเลือดใจสระเลือดก็ลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน มันลดลงในระดับที่น่ากลัว
ท้ายที่สุด สระเลือดนั้นกว้างใหญ่อย่างมาก มันมีของเหลวมากมายจนไม่อาจอธิบายได้มันราวกับเป็นทะเลที่ไม่มีสิ้นสุด
อย่างไรก็ตาม มันลดลงในระดับที่มองเห็นด้วยตาเปล่า ในตอนนี้มันก็เกินพอที่จะบอกว่ามันไหลเข้าไปเร็วมากแค่ไหน
ภายในเวลาไม่ถึงนาทีเศษ ๆ น้ำในสระเลือดก็หายไปกว่า 1/3 ด้วยระดับที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก เลือดที่กลายเป็นพลังงานบริสุทธิ์ได้หายเข้าไปในเบ้าตาของไคยะ
ไคยะไม่ได้ดูดซับมันทั้งหมด หลังจากที่มันเหลือเพียง 1/3 นางก็หยุดลง
หลังจากนั้นนางก็หันหลังกลับมาอย่างช้าและออกจากขอบสระ นางเดินจากไปโดยไม่ลังเล
นางไม่เคยเหลือบมองร่างขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยขนสีทองที่ได้รับการหล่อเลี้ยงตรงกลางสระ
มันราวกับว่ารางกายนั้นไม่สมควรได้รับความสนใจจากนาง
แม้ว่าซากศพจะแผ่พลังแห่งการมีอยู่มหาศาลและมีพลังงานมากเสียจนน่ากลัว มันก็ไม่อาจสั่นคลอนความเฉยชาของนางแม้แต่น้อย
ท้ายที่สุด ไคยะก็เดินห่างออกจากสระมากกว่า 100 กิโลเมตร
สระน้ำที่ปั่นป่วนก็ค่อย ๆ สงบลงจนกลายเป็นเงียบงันไม่ไหวติงในที่สุด
อย่างไรก็ตามเลือดที่ลดลงในสระนั้นก็ไม่กลับมาเท่าเดิม ทำให้ศพไร้หัวค่อย ๆ โผล่ขึ้นมา
ทั้นใดนั้นร่างกายไคยะก็สั่นไหว นางทรุดตัวลงกับพื้นราวกับว่านางเป็นลม
อย่างไรก็นางไม่ได้หมดสตินานนักก่อนที่จะตื่นขึ้นมา ความเย็นชาและไร้อารมณ์ในดวงตาของนางได้หายไปแล้ว ดวงตาของนางกลับคืนมาเป็นปกติที่มีชีวิตชีวา
“แปลก ทำไมข้าถึงได้เป็นลมได้ ? ” ไคยะนั่งอยู่บนพื้นด้วยความสับสน นางไม่รู้ว่าได้ทำอะไรก่อนหน้านี้
…
หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงชุดขาว หยู่เฉิง ได้รวมตัวราชาเทพธาตุแสงหลายคนในหอคอยธาตุแสง
อย่างไรก็ตามหยู่เฉินไม่ได้ยินอยู่ในศาลาศักดิ์สิทธิ์ แต่อยู่ในโลกจิ๋วที่มีมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด
หลังจากที่ผละออกมาจากเจี้ยนเฉิน โลกจิ๋วได้เปิดอีกครั้ง มันไม่ได้ให้ใครเข้าใกล้โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือเข้า-ออกได้ตามต้องการ
อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ยังมีคนไม่มากในโลกจิ๋ว มันมีเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงที่อยากรู้อยากเห็นหลายคนได้รวมตัวกันด้านนอกประตูทางเข้าโลกจิ๋ว มีผู้นำยอดเขามากมายและราชาเทพธาตุแสงในหมู่พวกเขา
พวกเขาทุกคนต้องการเข้าไปในโลกจิ๋ว แต่ก็ไม่มีใครกล้าก้าวเท้าเข้าไปในนั้น
นี่เป็นเพราะ ผู้นำยอดเขาตะวันเดือด กงซุนอี้ ได้พูดเอาไว้
ประโยคที่เรียบร่ายนั้นได้ริบเอาสิทธิ์ของเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดไม่ให้เข้าโลกจิ๋ว
อย่างไรก็ตาม เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงทั้งหมดได้รวมตัวกันที่นั่นเพื่อช่วยเหลือตัวเองอีกด้วย
นี่เป็นเพราะกงซุนอี้ได้ได้เปิดตัวกับสาธารณะแล้ว ในฐานะผู้สืบทอดของจอมปราชญ์สูงสุด เขากลายเป็นคนที่อยู่เหนือทุกสิ่ง นอกจากนี้เขายังเป็นอุปสรรคที่ไม่อาจผ่านไปได้
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลายสิบคนได้รวมตัวกันที่โลกจิ๋วและคารวะต่อหัวหน้าโถงเซียงธาตุแสง กงซุนอี้เป็นเพียงคนเดียวที่ไม่ยอมคารวะหัวหน้าและไม่มีการเคารพใด ๆ อีกต่อไป
ในตอนนี้ หยู่เฉินยืนขึ้นขณะปิดตาก่อนที่จะยื่นมือเข้าไปในก้อนเมฆและปรากฏแผนภาพเกิดขึ้น
แม้ว่ามรดกที่ขอบรูปปั้นจะถูกนำออกไป แต่แผ่นภาพภายในรูปปั้นก็ไม่ได้หายไป มันยังคงอยู่ที่นั่น
ในเวลานี้ หัวหน้าโถงเซียนธาตุแสงได้ลืมตาขึ้นมาในที่สุด เขาจ้องมองไปที่รูปปั้นด้านหน้าของเขาพร้อมกับความรู้สึกนึกคิดหลาย ๆ อย่าง “มันไม่ได้ผลจริง ๆ เมื่อข้าทำความเข้าใจจนข้าได้พบกับสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นและไม่มีอะไรที่ข้าสามารถทำได้ด้วยความสามารถในตอนนี้ของข้า เจี้ยนเฉินพูดความจริงงั้นหรือที่ว่ามีเพียงพลังวิญญาณนักรบเท่านั้นที่จะจัดการมันได้ ? ”
หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงขมวดคิ้ว
“มีเพียงสมาชิกของตระกูลราชวงศ์เท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจแผนภาพที่นายท่านทิ้งไว้ในอดีต เจ้าไม่อาจเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลราชวงศ์ได้ เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้าใจแผนภาพของนายท่าน” ในตอนนี้มีเสียงไม่ชัดเจนดังขึ้นในหัวของผู้นำ
หยู่เฉินรวบรวมความสนใจของเขาไปยังเสียงที่เขาได้ยิน เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าเสียงนี้มาจากจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง
นี่เป็นเพราะจิตวิญญาณวัตถุนั้นมีตัวตนราวกับเทพเจ้าภายในหอคอยธาตุแสง มันสามารถสื่อสารกับเขาได้โดยไม่อาจจับตำแหน่งของมันได้
“ตระกูลราชวงศ์ ? ตระกูลราชวงศ์อะไร ? ” หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงตอบคำถามด้วยคำถามหลังจากเริ่มการพูดคุยทางความคิดกับจิตวิญญาณวัตถุ
“สมาชิกตระกูลราชวงศ์นั้นควบคุมพลังพิเศษ พลังนี้เรียกว่าพลังวิญญาณนักรบที่เจ้าพูดถึง ตราบใดที่พวกเขามีพลังวิญญาณนักรบ พวกเขาก็เป็นตระกูลราชวงศ์ในหมู่ของเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธา”
“เจ้าพูดอะไรนะ ? ” หยู่เฉินถาม ข้อความของจิตวิญญาณวัตถุนั้นน่าตกตะลึง เมื่อมันผ่านหูของหยู่เฉินราวกับสายฟ้าฟาด มันทำให้เขาตกใจอย่างถึงที่สุด
“ผู้คนในเชื้อสายนักรบวิญญาณเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกันของโถงเซียนธาตุแสง พวกเขาจะเป็นตระกูลราชวงศ์ของเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาได้อย่างไร ? ” หยู่เฉินไม่อาจยอมรับสิ่งนี้ ข่าวนี้นั้นน่าตกใจอย่างมาก มันทำให้ความเชื่อและความเข้าใจของเขาผิดทิศผิดทางทันที
จิตวิญญาณวัตถุพูดอย่างเย็นชาและไร้อารมณ์ “ข้าไม่รู้ว่าทำไมคนปกติถึงต้องเป็นศัตรูกับตระกูลราชวงศ์ แต่ในช่วงที่นายท่านยังอยู่ ตัวตนของเจ้าก็เป็นได้แค่ชาวบ้านในจักรวรรดิเท่านั้น
“จักรวรรดิ ? ตอนนั้นจักรวรรดิได้ก่อตั้งขึ้นมาแล้วหลังจากที่มีเซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงแล้วหรือยัง ? ” หยู่เฉินถามทันที มันไม่มีบันทึกข้อมูลนี้ เขาพึ่งจะรู้เอง
แม้แต่บันทึกที่เก่าแก่ที่สุดก็ยังไม่มีคำบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ถูกต้อง ที่เขายังมีชีวิต เราเป็นกลุ่มที่ทรงพลังภายในจักรวาล เรามีจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่และรุ่งเรือง ซึ่งประกอบไปด้วยเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาภายใต้การนำของนายท่าน เรามีอาณาเขตมากมายและแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของโลกและเรายังได้สร้างจักรวรรดินิรันดร์….” จิตวิญญาณวัตถุกล่าวอย่างช้า ๆ ขณะที่เล่าเรื่องราวในอดีต
“นายท่านของหอคอยธาตุแสงนั้นก็ยังมีพลังวิญญาณนักรบด้วยเช่นกัน…” หยู่เฉินก็ไม่อาจยอมรับสิ่งนี้ได้ทั้งหมด ข้อมูลจากจิตวิญญาณวัตถุเกือบจะพลิกคว่ำทุกสิ่งที่เขารู้ในอดีต
“เนื่องจากนายท่านของหอคอยธาตุแสงเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลราชวงศ์และยังมีพลังวิญญาณนักรบ เขาควรจะเป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณด้วยหรือไม่ ? ” หยู่เฉินถามอีกครั้ง
“โลกให้กำเนิดสมาชิกทุกคนของตระกูลราชวงศ์นั้น มันไม่เกี่ยวกับเชื้อสายนักรบวิญญาณ….”