เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2372: การเปลี่ยนแปลงของกงซุนอี้
ตอนที่ 2372: การเปลี่ยนแปลงของกงซุนอี้
หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสง หยู่เฉินไม่ได้สื่อสารกับจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุมานานมาก อย่างไรก็ตามในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ข้อมูลที่เขาเรียนรู้จากจิตวิญญาณวัตถุทำให้จิตใจของเขาสั่นไหวมากกว่าเดิม
แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่งพอ ๆ กับอัครสูงสุดและมีจิตใจดั่งเหล็กกล้า แต่เขาก็ยังได้รับผลกระทบ
“โลกได้ให้กำเนิดตระกูลราชวงศ์….” หยู่เฉินรู้สึกขมขื่นอยู่ภายใน เชื้อสายนักรบวิญญาณเป็นศัตรูกับคนของหอคอยธาตุแสง จะต้องมีการตายกันไปข้างหนึ่งหากพวกเขาพบกัน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะประนีประนอม
ความจริงมันมีบันทึกชัดเจนว่าพวกเขาทำลายล้างเชื้อสายนักรบวิญญาณทั้งหมดในบันทึกโบราณบางส่วนในโถงเซียนธาตุแสง
ไม่ว่าจะเป็นโถงเซียนธาตุแสงหรือเชื้อสายนักรบวิญญาณ พวกเขาทั้งคู่นั้นมีมานานนับปี ในช่วงเวลาที่ขัดแย้งกันราวกับเป็นเกล็ดย้อนของกันและกันนับไม่ถ้วนได้ปะทุขึ้น เชื้อสายนักรบวิญญาณได้รับความเสียหายจากโถงเซียนธาตุแสงหลายต่อหลายครั้งในประวัติศาตร์ พวกเขาฆ่าเชื้อสายนักรบวิญญาณที่ออกมาจากภูเขาวิญญาณนักรบจนมันว่างเปล่า
อย่างไรก็ตาม โลกให้กำเนิดสมาชิกใหม่ของเชื้อสายนักรบวิญญาณ แม้ว่าพวกเขาจะตายไปทั้งหมด แต่ก็จะมีบางคนถือกำเนิดขึ้นใหม่ในอนาคต
ทักษะลับทั้งหมดและมรดกของเชื้อสายนักรบวิญญาณถูกตรึงไว้บนภูเขาวิญญาณนักรบเช่นกัน ดังนั้นตราบใดที่พวกเขากลับสู่ภูเขาวิญญาณนักรบ พวกเขาจะสามารถเข้าใจได้ทั้งหมด
มันเป็นเพราะเหตุนี้ที่เชื้อสายนักรบวิญญาณยังคงอยู่
ตอนนี้เชื้อสายนักรบวิญญาณต่อสู้กับหอคอยธาตุแสงแบบเป็นตายหลายครั้งในประวัติศาสตร์ ซึ่งแท้จริงเป็นตระกูลราชวงศ์ของจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง ในขณะที่เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาเป็นได้แค่ชาวบ้านของตระกูลราชวงศ์ มันรู้สึกราวกับเป็นตลกเรื่องใหญ่
ถ้ามีคนพูดว่านี่ไม่ใช่จิตวิญญาณวัตถุที่เป็นสมบัติชั้นสูงของโถงเซียนธาตุแสง หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงอาจจะฆ่าเขาด้วยการตบในครั้งเดียว
“เนื่องจากเชื้อสายนักรบวิญญาณเป็นตระกูลราชวงศ์ ทำไมพวกเขาถึงอ่อนแอแบบนี้ ? จากความรู้ของข้า พวกเขาไม่อาจกลายเป็นอัครสูงสุดได้ตลอดประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา….” หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงถามอย่างจริงจัง
“ทุกคนของตระกูลราชวงศ์นั้นเป็นตัวตนที่ทรงพลังยิ่ง พวกเขาเป็นผู้พิทักษ์เทพเจ้าแห่งจักรวรรดินิรันดร์ สำหรับสาเหตุที่พวกเขาอ่อนแออย่างที่เจ้าพูด บางทีอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับตระกูลราชวงศ์หลังจากที่นายท่านของข้าจากไป….” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุดังขึ้นในหัวของหยู่เฉิน
หยู่เฉินเงียบและไม่สนใจเชื้อสายนักรบวิญญาณอีก เขาถามต่อไปว่า “เมื่อเจ้าตื่นขึ้นมาตอนนี้ เจ้าจะเลือกนายท่านคนใหม่หรือไม่ ? หากเจ้าเลือก พวกเขาจะเป็นคนของตระกูลราชวงศ์หรือเป็นลูกหลานนายท่านของเจ้าหรือไม่ ? หรืออาจจะเป็นคนอื่น ? ”
“นายท่านตายแล้ว แต่…” จิตวิญญาณวัตถุหยุดพูดและเงียบลงในเวลาต่อมา
“จิตวิญญาณวัตถุ….” หยู่เฉินรออยู่ครู่หนึ่ง หลังจากที่จิตวิญญานวัตถุหยุดพูด เขาก็เริ่มกระตุ้น แต่เขาก็ไม่ได้รับคำตอบในท้ายที่สุด
ราวกับว่าการเชื่อมต่อของเขากับจิตวิญญานวัตถุขาดหายไป
เขาไม่อาจรู้ได้ว่าจิตวิญญาณวัตถุหายไปไหน เว้นแต่ว่าจิตวิญญาณวัตถุจะติดต่อกับเขา เขาไม่อาจทำอะไรได้
ท้ายที่สุดแล้วหอคอยธาตุแสงนั้นสูงเกินไปและมันก็อยู่ในสภาพสมบูรณ์ซึ่งต่างจากหอคอยอนัตตาที่เสียหาย แม้หัวหน้าโถงเซียงธาตุแสง เขาก็ไม่อาจทำตามที่เขาต้องการกับหอคอยธาตุแสงได้
ในเวลานี้ ชายกลางคนชุดขาวนั่งอยู่บนพื้นที่ไม่รู้จักในมิติของหอคอยธาตุแสง
ชายกลางคนเป็นจิตวิญญาณวัตถุของวัตถุเซียนที่เคยมาพร้อมกับเจี้ยนเฉิน
ตอนนี้ ตัวตนของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาได้กลายเป็นจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง ซึ่งยกระดับสถานะของเขาไปยังระดับใหม่ทั้งหมด
จิตวิญญาณวัตถุสั่นไหวเบา ๆ ร่างกายของเขาจะจางหายไปและกลับมารวมร่างใหม่ เขาดูไม่มั่นคงอย่างยิ่ง
จิตวิญญาณวัตถุนั้นไม่มีร่างกาย แม้ว่าร่างกายที่เขาครอบครองตอนนี้ดูจะไม่แตกต่างไปจากกายเนื้อ แต่มันก็ยังคงเป็นเพียงจิตวิญญาณที่เกิดจากพลังงาน
พลังของจิตวิญญาณวัตถุนั้นไม่เสถียรซึ่งส่งผลต่อวิญญาณ มันทำให้ร่างกายของเขาจางหายไป
“ไม่ นายท่านของข้ายังไม่ตาย นายท่านของข้าคือเจี้ยนเฉิน เจี้ยนเฉินเป็นนายท่านที่แท้จริงของข้า” จิตวิญญาณวัตถุนั้นมีประกายแห่งความดุดัน แสงในดวงตาของเขาเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ราวกับมีความคิดที่แตกต่างกันกำลังต่อสู้ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงให้เห็นได้
“ข้าดูดซับจิตใต้สำนึกของจิตวิญญาณวัตถุของหอคอยธาตุแสง แม้ว่าจิตใต้สำนึกจะยังได้ไม่ครบ แต่มันก็มีความทรงจำของจิตวิญญาณวัตถุ แต่มันก็มีความเป็นตัวตนของมันเอง ความคิดของมันมีผลกระทบต่อข้าที่พยายามชักจูงให้เขากลายเป็นข้า แต่นั่นก็เป็นไปไม่ได้”
“เจ้าไม่ต้องบิดเบือนจิตใจของข้า ข้าจะไม่กลายเป็นอีกคน ข้านั้นคือสิ่งที่จะเกิดขึ้น….” จิตวิญญาณวัตถุคำรามดังขึ้น ในขณะที่เขาพยายามอย่างมากที่สุดเพื่อระงับอิทธิพลของอีกฝ่ายด้วยสำนึกที่ยืดยาด
หยู่เฉินยังยืนอยู่หน้ารูปปั้น ท้ายที่สุดก็ถอนหายใจและยอมแพ้ที่จะรอ หลังจิตวิญญาณวัตถุไม่ตอบกลับมาเป็ยเวลานาน
“หัวหน้า ท่านรู้เกี่ยวกับตัวตนของข้าแล้ว นายท่านของหอคอยธาตุแสงเป็นบรรพชนของข้า มรดกของบรรพชน ข้าได้เลือกข้า แต่วิถีการบ่มเพาะที่สำคัญถูกขโมยโดยเจี้ยนเฉินที่เป็นเชื้อสายนักรบวิญญาณ ด้วยวิธีการลับ ๆ ข้าหวังว่าหัวหน้าจะสามารถนำมันกลับคืนมาให้เร็วที่สุดและทำให้มรดกของบรรพชนของข้าสมบูรณ์”
ไม่หนานหยู่เฉินลืมตา ผู้นำยอดเขาตะวันเดือดยืนอยู่ด้านหลังของเขา กงซุนอี้ พูดออกมา เสียงของเขาเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่เปิดเผย เขาไม่แสดงความเคารพต่อหัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงเลย เขากลับตีตัวเสมอเขา
ความจริงแล้ว นี่เป็นสิ่งที่เรียกว่ายโสโอหัง
ราวกับว่ากงซุนอี้รู้สึกได้ถึงสถานะของเขาในตอนนี้ว่าเหนือว่าหัวหน้าโถงเซียนธาตุแสง ในขณะที่เขาเป็นผู้สืบทอดหอคอยธาตุแสงและมีสายเลือดจอมปราชญ์สูงสุดไหลผ่านในร่างกายของเขา
เห็นได้ชัดว่าหยู่เฉินรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของกงซุนอี้ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดอย่างจริงจัง “นั่นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับตำแหน่งในระดับสูงของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ต้องพิจารณา ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าต้องกังวล ทำในสิ่งที่เจ้าต้องทำ” จากนั้นหยู่เฉินก็จากไป
หลังจากที่หยู่เฉินจากไป ใบหน้าของกงซุนอี้ค่อย ๆ มืดหม่นลง เขามองยังทิศทางของหัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงและคิดว่า “เจ้าเคยเป็นหัวหน้าโถงเซียงธาตุแสงที่ซึ่งครั้งหนึ่งข้าทำได้แค่มองเจ้า แต่ตอนนี้ข้าเป็นทายาทของจอมปราชญ์สูงสุดและเลือดของจอมปราชญ์ไหลเวียนในตัวข้า ข้ายังได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด ดังนั้นความสำเร็จในอนาคตของข้าจะไร้ขีดจำกัด เจ้าต้องอยู่ภายใต้เท้าของข้าไม่ช้าก็เร็วและตำแหน่งหัวหน้านั้นก็จะเป็นของข้าในวันเดียวกัน” ความมั่นใจของกงซุนอี้เพิ่มขึ้น
“กงซุนอี้ แม้ว่าเจ้าจะเป็นทายาทของเจ้านายหอคอยธาตุแสง แต่มันก็ไม่เหมาะที่เจ้าจะพูดกับหัวหน้าอย่างนั้น” ตงหลินฉินชุยพูดอย่างขมขื่นจากด้านหลังของกงซุนอี้
กงซุนอี้แค่นเสียงเย็นชา “ไม่จำเป็นที่จะต้องยื่นจมูกเข้ามา ตงหลินฉินชุย ด้วยการที่เจ้าร่วมมือกับข้าในการขัดขวางเจี้ยนเฉินก่อนหน้านี้ ข้าจะให้เจ้าเลือกข้างเป็นครั้งสุดท้าย หากเจ้ากล้าที่จะดูหมิ่นข้าอีกครั้ง หลังจากที่ข้าได้รับจิตวิญญาณวัตถุ ข้าจะเอามันมาไล่ล่าเจ้า”
กงซุนอี้หันหลังกลับและจ้องมองตงหลินฉินชุย เขาพูดอย่างเย็นชา “แม้ว่าตอนนี้ข้าจะไม่ใช่เจ้านายของหอคอยธาตุแสง แต่หอคอยธาตุแสงเป็นของบรรพชนข้าและข้าได้รับมรดกของบรรพชนมาแล้ว ข้าจะสืบทอดหอคอยธาตุแสงอีกไม่นานและจิตวิญญาณวัตถุจะยอมรับข้าเป็นเจ้านายของมันอีกไม่ช้านี้”
ตกหลินฉินชุยมองไปที่กงซุนอี้อย่างเย็นชาและไม่พูดอะไร
นางไม่สงสัยคำพูดของกงซุนอี้เลย อาจไม่มีคนอื่นเหมาะสมไปกว่ากงซุนอี้ในการสืบทอดหอคอยธาตุแสง
ท้ายที่สุด การได้มรดกของจอมปราชญ์นั้นทำให้เขาต้องได้ทุกอย่างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ตงหลินฉินชุย อย่าไปเถียงกับเขา ตั้งแต่กงซุนอี้ได้รับมรดกของจอมปราชญ์สูงสุด เขาก็เปลี่ยนไป เขาไม่เหมือนกับกงซุนอี้คนเดิมอีกแล้ว” เสียงของผู้นำยอดเขาเพ่งนภาดังขึ้นในหัวของตงหลินฉินชุย
ตงหลินฉินชุยถอนหายใจอยู่ภายใน นางฟังคำของผู้นำยอดเขาเพ่งนภาและไม่เถียงกับกงซุนอี้อีก
นางในตอนนี้ได้ทะลวงผ่านราชาเทพแล้ว ดังนั้นนางจึงต้องใช้เวลามากในหอคอยธาตุแสง นางไม่กล้าเสี่ยงผิดใจกับผู้เชี่ยวชาญลึกลับหรือเจาะจงเป้าหมายพิเศษเมื่อราชาเทพขั้นปลายปรากฏ