เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2375: ข้าคืออมตะกระบี่
ตอนที่ 2375: ข้าคืออมตะกระบี่
เวลาผ่านไปอย่างเงียบงัน กว่าสองปีครั้งที่ผ่านมาตั้งแต่ที่เจี้ยนเฉินมาถึงภูเขาเทพกระบี่
ในวันนี้หมอกสีเทาจาง ๆ ได้แทรกซึมเข้าไปในถ้ำของเจี้ยนเฉินและแผ่ออกมาด้านนอก
หมอกสีเทามีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างมาก ไม่ว่าจะผ่านไปที่ใด พื้นดินก็ถูกกัดกร่อนและพืชพันธุ์ก็เหี่ยวเฉา แม้แต่พลังงานดั้งเดิมรอบ ๆ ก็หลอมรวมกับหมอกขนาดใหญ่กลายเป็นส่วนหนึ่งของมันทำให้หมอกทรงพลังมากขึ้น
แต่นั้นก็คือทั้งหมด ในขณะที่หมอกสีเทาค่อย ๆ กัดกินพืช ก็มีแสงหมอกจาง ๆ ปรากฏขึ้น เจตจำนงกระบี่ที่ทรงพลังแทรกซึมอยู่รอบ ๆ และท่วมหมอกสีเทา
แม้แต่พื้นดิน แสงที่ปรากฏก็ทำให้หมอกสีเทากลับมา
ท้ายที่สุดแล้วภูเขาเทพกระบี่เป็นดินแดนของเซียนกระบี่สวรรค์ แม้แต่ใบไม้และก้อนกรวดทุกก้อนก็กลายเป็นสิ่งที่พิเศษภายใต้อิทธิพลตลอดกาลของเจตจำนงกระบี่ของเซียนกระบี่สวรรค์ พวกมันมีพลังอย่างไม่อาจประเมิณได้
ในตอนนี้หมอกสีเทาจางหายไปในถ้ำอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นเจี้ยนเฉินก็เดินออกจากถ้ำ
“ในที่สุดข้าก็เข้าใจกฏกัดกร่อนในขั้นราชาเทพหลังจากผ่านไปสองปีครึ่ง ข้าต้องการกฏกระบี่, การสร้างสรรค์, การทำลายล้าง, ไฟ, ความแข็งแกร่ง, คำสาปและการกัดกร่อน เพื่อกระตุ้นพลังแฝงเร้นภายในผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดคน ข้าเข้าใจกฏกระบี่, การทำลายล้าง, มิติ, คำสาปและการกัดกร่อนจากทั้งแปดแล้ว ควบคู่ไปกับกฏแห่งการสร้างสรรค์และไฟของไคยะ พวกมันทั้งหมดได้เป็นขั้นราชาเทพแล้ว”
หลังจากบรรลุวัตถุประสงค์ของเขา เจี้ยนเฉินก็ไม่ต้องการอยู่ที่ภูเขาเทพกระบี่อีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็ไปหาเซียนกระบี่สวรรค์เพื่ออำลา เขาต้องการออกไปก่อนเวลาและทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“ข้าพูดแล้วว่าเจ้าจะอยู่ในภูเขาเทพกระบี่เป็นเวลา 3 ปี ไม่มากไม่น้อยกว่านี้แม้แต่วันเดียว….” เซียนกระบี่สวรรค์พูดอย่างหนักแน่น
เจี้ยนเฉินทำอะไรไม่ถูก เขาทำได้เพียงอยู่ในภูเขาเทพกระบี่ในช่วงเวลาครึ่งปีที่เหลือเท่านั้น
เจี้ยนเฉินวางแผนที่จะทำความเข้าใจกฏกระบี่ในเวลาที่เหลืออยู่
แม้ว่าเขาจะได้รับวิธีการบ่มเพาะของจอมปราชญ์สูงสุดสำหรับพลังเซียนธาตุแสง ทำให้เขาสามารถไปถึงระดับสูงขึ้นได้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่การเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังจะมีผลกระทบต่อพลังต่อสู้ของเขา
สำหรับวิธีการใช้พลังนักรบวิญญาณที่เขาได้รับมาจากหุนเจิ้ง มันเป็นแค่พื้นฐานเท่านั้น แก่นแท้ของมรดกทั้งหมดยังคงอยู่ในภูเขาวิญญาณนักรบ มันเป็นไปไม่ได้ที่พื้นฐานเหล่านั้นจะทำให้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นยอดได้ภายในครึ่งปี
เป็นผลทำให้เจี้ยนเฉินได้แต่ใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อทำความเข้าใจกับกฏกระบี่
เมื่อเจี้ยนเฉินพยายามใช้เส้นทางกระบี่ เขาได้รับการรู้แจ้งเกี่ยวกับชื่อของอมตะกระบี่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงก้าวเท้าเข้าไปในขอบเขตอมตะกระบี่
อมตะกระบี่เทียบเท่ากับขอบเขตตั้งต้น
“อมตะกระบี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นหาอมตะและปราณกระบี่ต้องมีแก่นแท้ ‘อมตะ’ แม้ว่าเขาจะเข้าใจแล้ว แต่ปราณกระบี่ของข้าก็ไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์….” เจี้ยนเฉินไม่ได้กลับไปที่บ้านของเขา เขาได้เจอภูเขาลุกหนึ่งและเริ่มนั่งสมาธิที่ยอดเขา เพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ของคำว่า ‘อมตะ’ เพื่อที่กระบี่ของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
แม้ว่านี่จะดูเหมือนเป็นกระบวนการที่เรียบง่าย แต่ก็เป็นอะไรที่ทำได้ง่าย มันง่ายดายอย่างแท้จริง
1 เดือน…
2 เดือน….
…
เวลาผ่านไปทีละนิด ๆ เจี้ยนเฉินนั่งอยู่ที่นั่นกว่า 4 เดือน ช่วงเวลานั้นเขาราวกับเป็นรูปปั้น เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเลย การเปลี่ยนแปลงเพียงอย่างเดียวคือปราณกระบี่ที่พุ่งออกมาจากตัวของเขาเป็นครั้งคราวไปยังรอบ ๆ ตัวของเขา
ปราณกระบี่นั้นแข็งแกร่งและอ่อนนุ่ม ไม่ทรงพลังหรืออ่อนแอ มันเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่เจี้ยนเฉินก็ไม่เคยก้าวไปถึงก้าวสุดท้ายในการทำให้มันกลายเป็นอมตะกระบี่
ท้ายที่สุดเจี้ยนเฉินก็สิ้นสุดการเข้าฌานหลังจากผ่านไป 4 เดือนและไปขอคำแนะนำจากเซียนกระบี่สวรรค์
แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าขั้นตอนสุดท้ายนี้จะไม่ใช้เวลานานเกินไปกับความสามารถของเขา แต่เขาก็ไม่มีความมั่นใจในการก้าวไปข้างหน้าแม้แต่ก้าวเดียวในอีกสองเดือน
“ถ้าเจ้าต้องการกลายเป็นอมตะกระบี่ ก่อนอื่นเจ้าต้องเข้าใจคำว่า ‘อมตะ’ ความเข้าใจเกี่ยวกับ ‘อมตะ’ แตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล”
“ในสายตาของมนุษย์ ‘อมตะ’ นั้นทรงพลังมาก พวกเขาทั้งสามารถบินบนท้องฟ้าหรือมุดลงบนผืนปฐพี พวกเขามีชีวิตนิรันดร์….”
“ในสายตาของผู้บ่มเพาะบางคนที่ประสบความสำเร็จในการบ่มเพาะ ‘อมตะ’ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของขอบเขตการบ่มเพาะเท่านั้น….”
“อย่างไรก็ตามในสายตาของข้า ‘อมตะ’ เป็นตัวแทนการเปลี่ยนแปลงธรรมชาติของโลก.…”
เสียงที่หนักแน่นของเซียนกระบี่สวรรค์ดังเข้ามาในหัวของเจี้ยนเฉินราวกับระฆังกังวาล ทำให้เขารู้แจ้งทันที ในความมึนงง ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง ดูเหมือนเขาจับใจความบางอย่างได้
“ทุกคนมีมุมมองแตกต่างกันเกี่ยวกับ ‘อมตะ’ มันมีความหมายแตกต่างกันสำหรับพวกเขา แต่สิ่งที่เป็น ‘อมตะ’ สำหรับข้างั้นหรือ ? ” เจี้ยนเฉินที่อยู่ไม่ไกลจากเซียนกระบี่สวรรค์ เขาตกอยู่ในภวังค์เมื่อเขากลับไปที่ภูเขาที่เขานั่งเข้าฌานมาเป็นเวลา 4 เดือน เขาไตร่ตรองกับคำถามนั้นอย่างถี่ถ้วน
“ข้าเข้าใจเกี่ยวกับ’อมตะ’มันคือความอิสระ, ปลดปล่อยและไม่ได้ถูกทำให้มัวหมอง พวกมันได้ก้าวข้ามโลกไปแล้วและไม่หวั่นไหวใด ๆ อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความเข้าใจของข้าที่มีต่อ ‘อมตะ’ ในตอนนี้ ข้ายังไม่รู้แจ้งทั้งหมด…..”
“ไม่แปลกใจเลย ไม่แปลกใจเลย ข้าเหลือเพียงอีกก้าวเดียวในการค้นหาอมตะกระบี่ ความเข้าใจของข้าเกี่ยวกับ ‘อมตะ’ นั้นยังไม่สมบูรณ์ มันต้องการข้อมูลเพียงนิดเท่านั้น ข้าจะบรรลุความสำเร็จและเข้าถึงขอบเขตอมตะกระบี่ได้อย่างแท้จริง”
เจี้ยนเฉินเริ่มเข้าฌานอีกครั้ง ครั้งนี้เขาไม่ได้ใช้พลังใด ๆ เลย แต่เขากลับกลายเป็นเพียงมนุษย์ เขานั่งอยู่บนยอดเขาที่เต็มไปด้วยพลังธรรมชาติ ในเวลาเพียงหนึ่งเดือนตัวของเขาก็เต็มไปด้วยชั้นฝุ่นบาง ๆ นอกจากนี้เสื้อสีขาวของเขาก็ยังซีดเซียวและหมองหม่น
ในช่วงเวลาสามวันสุดท้ายของเจี้ยนเฉินที่อยู่ในภูเขาเทพกระบี่ กลับมีพายุพัดเข้ามา มีฝนห่าใหญ่ร้องไปทั่วผืนฟ้า สายฟ้าที่วาบผ่านราวกับมังกรและอสรพิษ
ในเวลานี้ สายฟ้าฟาดลงมาจากท้องฟ้าพร้อมกับแสงวาบอย่างเจิดจ้า อย่างไรก็ตามสายฟ้าก็เหมือนกับวาบผ่านศีรษะของเจี้ยนเฉิน ในกรณีนี้เขาเข้าใจทันทีว่า ‘อมตะ ‘คืออะไรสำหรับเขา
เขายืนขึ้นทันใด เขาจ้องมองท้องฟ้าท่ามกลางพายุและชี้ไปที่มัน เขาตะโกนว่า” ‘อมตะ’ ของข้าคือโลกและโลกก็คือจักรวาลที่ไม่มีสิ้นสุด มันมีทุกอย่างและไร้ขอบเขต”
“เส้นทางของข้าสามารถกักขังได้ทุกสิ่ง สามารกลืนกินจักรวาล สามารทำให้ทุกสิ่งสยบแทบเท้าของข้าจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางของข้า….”
“จากวันนี้เป็นต้นไป ข้าจะเป็นอมตะกระบี่ อมตะที่เป็นดั่งกระบี่….”
เสียงของเจี้ยนเฉินเป็นเหมือนกับเสียงแรกของจักรวาล มันมีพลังลึกลับลอยฟ่องออกไปทั่วท้องฟ้า
ตูม !
สายฟ้าตกลงมา แต่กระแสไฟฟ้ารวมตัวกันที่ปลายนิ้วของเจี้ยนเฉิน มันสะบัดและกระจายไปมา อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา กระแสไฟฟ้าบนปลายนิ้วของเจี้ยนเฉินกลายเป็นเกลียวของปราณกระบี่ที่สดใส
ในเวลาเดียวกันพายุก็หายไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่รู้ว่าฝนที่ตกมาจากท้องฟ้าไม่ใช่แค่ฝนอีกต่อไป มันกลายเป็นเกลียวของปราณกระบี่ที่แหลมคม
ปราณกระบี่ถูกควบแน่นหนาและท้องฟ้าทั้งหมดทลาย มันเกิดการระเบิดอย่างต่อเนื่องไม่มีสิ้นสุด ขณะที่มันตกลงบนภูเขาเทพกระบี่
เจี้ยนเฉินใช้เจตจำนงของเขาในฐานะอมตะกระบี่เพื่อเปลี่ยนพลังธรรมชาติของที่นี่