เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2379: การโจมตีที่น่าอัศจรรย์ (1)
ตอนที่ 2379: การโจมตีที่น่าอัศจรรย์ (1)
สายของผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงเริ่มหรี่ลงเมื่อได้ยินอย่างนั้น พวกเขาให้ความสนใจอย่างใกล้ชิดทันที
ไม่นานพวกเขาก็พบว่าปรากฏการณ์แปลก ๆ เกี่ยวกับระดับการบ่มเพาะของพวกเขา มันเหมือนกับที่ ๆ คนนั้นพูด พลังแห่งการมีอยู่ที่น่ากลัวนั้นเกิดขึ้นจากส่วนลึกของอุโมงค์ ดูเหมือนจะทรงพลังเพียงภายนอกและอ่อนแอภายใน
พวกเขากลัวน้อยลงเมื่อพบแบบนี้ หลังจากที่ลังเลเล็กน้อย พวกเขาก็เดินไปกันต่อ อย่างไรก็ตามพวกเขาเคลื่อนที่ช้าลงมาก เห็นได้ชัดว่าตอนนี้พวกเขากังวล
ตอนนี้เจี้ยนเฉินมาถึงโพรงใต้ดินขนาดใหญ่แล้ว เขาเห็นไคยะรออยู่ที่นั่นเพียงแค่ชำเลืองมองแวบเดียว
เขาจ้องมองไปที่สัตว์ร้ายโบราณขนาดใหญ่ที่ส่งผลต่อแกนสีทองของกฎแห่งไฟและพูดว่า “ไคยะ จงใช้กฏแห่งไฟของเจ้าและปลุกพลังชีวิตภายในของมัน ถึงเวลาที่เราจะทำตามความปรารถนาสุดท้ายของพวกเขาให้สำเร็จ”
ในเวลาคับขัน เขาจึงไม่มีเวลาคุยกัน เมื่อนั้นเจี้ยนเฉินก็บินไปใกล้ศพของผู้เชี่ยวชาญทั้งแปด
ไคยะเข้าใจว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ลังเล นางเดินเข้าไปหาผู้เชี่ยวชาญที่เจี้ยนเฉินใช้เป็นแกนสีทองด้วยกฏแห่งการสร้างสรรค์
ในเวลาเดียวกัน ฉิงยี่หยวนนั่งอยู่บนหยกชะตาที่ชั้น 9 ของหอคอยอนัตตา ปราณกระบี่พุ่งออกมาจากนางและมีพลังแห่งการมีอยู่ที่ทรงพลังแผ่ออกมา
ในเวลาหลายปี การบ่มเพาะของนางเพิ่มขึ้นราวกับติดจรวดด้วยแกนสีทองของปรมาจารย์กระบี่ หยุนฉี และหยกชะตา นางทะลวงไปถึงขั้นเหนือเทพช่วงปลายและอยู่ห่างจากราชาเทพเพียงก้าวเดียว
ในเวลานี้ พลังแห่งการมีอยู่ของฉิงยี่หยวนก็เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน นางส่องสว่างเจิดจ้าในขณะที่พลังชีวิตทั้งหมดเกิดการเปลี่ยนแปลงและเข้าสู่ระดับใหม่
ท้ายที่สุดนางก็ทะลวงเข้าสู่ราชาเทพ !
หลังจากที่นางกลายเป็นราชาเทพ ฉิงยี่หยวนก็ไม่ได้ทำการบ่มเพาะต่อ หลังจากที่ทำให้ระดับการบ่มเพาะในตอนนี้ของนางมั่นคง นางค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
สายตาของนางเปล่งประกายของปราณกระบี่ที่ทรงพลังอยู่รอบ ๆ พวกมันอันตรายอย่างยิ่ง จนคนที่อ่อนแอกว่านางไม่กล้าแม้แต่จะสบตา
ปราณกระบี่ในสายตาของนางคงอยู่ชั่วคราวก่อนที่จะกระจายหายไปและกลับมาเป็นปกติ
ราชาเทพที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นขอบเขตที่ฉิงยี่หยวนใฝ่ฝัน แต่ตอนนี้นางไม่มีความยินดีเลย ที่นางทะลวงไปถึงราชาเทพได้ นางยังคงสงบนิ่ง
“ข้าได้รับมรดกของปรมาจารย์กระบี่หยุนฉี แต่มรดกนี้มาจากเจียงหยาง เจียงหยางคือใคร ? เขาไม่รับมรดกที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้แต่กลับมอบให้ข้าแทน….” ฉิงยี่หยวนคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่นางประสบขณะที่นางได้รับมรดกของปรมาจารย์กระบี่ หยุนฉี และนางก็เต็มไปด้วยความสงสัย
แต่ไม่นาน ความสนใจของนางก็ถูกดึงดูดไปยังหยกชะตาที่อยู่ข้างใต้นาง นางประหลาดใจและคิดว่า “หยกชิ้นนี้คืออะไร ? เมื่อข้านั่งอยู่ที่นี่ กฏที่ซับซ้อนของและลึกซึ้งของโลกก็ชัดเจนมากขึ้น ทำให้ความเข้าใจกฏต่าง ๆ ของข้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว….”
“อย่างไรก็ตาม ข้าต้องบ่มเพาะต่อไป แม้ว่าข้าจะกลายเป็นราชาเทพแล้ว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ราชาสวรรค์สีฟ้ากระจ่างและบรรพชนกระบี่เดียวดายที่ตามล่าเจี้ยนเฉินต่างก็เป็นอัครสูงสุด ข้าสงสัยว่าเจี้ยนเฉินยังคงมีชีวิตอยู่หรือไม่ ? ”
“ถึงอย่างนั้น ถ้าเจี้ยนเฉินตายไป ข้าต้องล้างแค้นให้กับเขาเมื่อข้ามีพลังมากพอ.…”
ด้วยเหตุนี้ฉิงยี่หยวนจึงยังคงอยู่บนหยกชะตาและยังคงทำความเข้าใจกฏกระบี่ต่อไป
พลังชีวิตที่ถูกปลุกขึ้นในถ้ำใต้ดิน ในขณะที่พวกเขาปั่นป่วนด้วยสัมผัสที่น่ากลัว มันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งผืนดิน โซ่ที่กักขังศพของผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดส่ายไปมาและสั่นอย่างรุนแรงพร้อมกับเสียงโซ่กระทบกัน
พลังชีวิตของผู้เชี่ยวชาญ 6/8 คนถูกปลุกให้ตื่นแล้ว
พลังชีวิตมหาศาลกวาดไปในอากาศราวกับมังกรคำรามต่อ ๆ กัน มันดูเหมือนจะสร้างค่ายกลที่มีพลังที่น่าอัศจรรย์บางอย่าง
อย่างไรก็ตามค่ายกลยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นพลังชีวิตจึงมีเพียง 6 ส่วนเท่านั้นและพยายามเชื่อมต่อกันและหลอมรวมกัน
เจี้ยนเฉินยังคงไปยังศพถัดไป
ไม่นาน เขาก็มาถึงด้านหน้าศพปรมาจารย์กระบี่หยุนฉี โดยไม่มีการลังเล เขาควบคุมกฏกระบี่และถ่ายทอดมันลงไปบนศพของหยุนฉี
พลังชีวิตที่ถูกปิดผนึงไว้ภายในร่างกายของปรมาจารย์กระบี่หยุนฉีก็ไม่ต่างจากผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ ที่มีชั้นจารึกอยู่รอบ ๆ เพื่อปกป้องพลังชีวิต
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจี้ยนเฉินถ่ายทอดกฎกระบี่เข้าไปในจารึก มันก็มีบางอย่างเกิดขึ้น
ทันใดนั้นจารึกก็ปะทุขึ้นด้วยพลังที่น่าสะพรึงกลัวทำให้กฏกระบี่ของเจี้ยนเฉินไม่อาจทำอะไรได้ง่ายดายนัก ในเวลาเดียวกันมันก็ส่งส่วนหนึ่งไปยังเจี้ยนเฉิน
นี่คือพลังที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลังของปรมาจารย์กระบี่หยุนฉีเมื่อเขายังมีชีวิตอยู่ แม้จะผ่านไปหลายปี แต่มันก็ยังคงน่ากลัวเหมือนเดิม มันมีพลังมากพอที่จะสังหารได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้เจี้ยนเฉินประหลาดใจ อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะคิดถึงเรื่องนี้ แกนสีทองทั้งเจ็ดในวิญญาณของเขาก็เริ่มกระโดดขึ้น กระโดดลง
พลังที่เพิ่มขึ้นนั้นทำให้เจี้ยนเฉินรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง จิตสังหารได้หายไปและไม่โจมตีเจี้ยนเฉินอีก
เจี้ยนเฉินดึงมือของเขาออกจากร่างปรมาจารย์กระบี่หยุนฉี ในขณะที่แววตาของเขาเผยความสงสัยออกมา
“ข้าเข้าใจแล้ว พลังชีวิตของแปดผู้เชี่ยวชาญไม่สามารถปลุกได้ด้วยคน ๆ เดียว มีเพียงผู้สืบทอดมรดกเท่านั้นที่สามารถปลุกพลังได้ สำหรับคนอื่น ๆ แม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจกฏประเภทเดียวกัน แต่พวกเขาก็จะถูกพลังนี้สังหารอย่างไร้ความปราณีทันทีที่สัมผัสกับพลังชีวิต….” เจี้ยนเฉินเข้าใจทุกอย่างในไม่ช้า ทันใดนั้นเขาก็มองไปยังไคยะด้วยความสงสัย เหตุใดกฎแห่งการสร้างสรรค์และไฟของไคยะจึงไม่ได้รับผลกระทบ ?
อย่างไรก็ตามตอนนี้ไม่ใช่เวลามาคิดเรื่องเหล่านี้ เขาดึงหอคอยอนัตตาออกมาและคว้าฉิงยี่หยวนที่เพิ่งทะลวงเป็นราชาเทพ
“นายน้อยเจียงหยาง ท่านกำลังทำอะไร ? ” เมื่อการบ่มเพาะของนางถูกขัดจังหวะ ฉิงยี่หยวนก็รู้สึกไม่พอใจอย่างมาก นางจ้องมองเจี้ยนเฉินพลางขมวดคิ้ว
เจี้ยนเฉินยังคงสวมหน้ากากของโม่เทียนหยวน ดังนั้นฉิงยี่หยวนจึงจำเขาไม่ได้
เจี้ยนเฉินหันไปทางขวาเพื่อหลบสายตาอาฆาตและสั่งให้ฉิงยี่หยวนปลุกพลังชีวิตภายในร่างกายของปรมาจารย์กระบี่ หยุนฉี
ฉิงยี่หยวนไม่กล้าที่จะขัดคำของเจี้ยนเฉิน นางทำตามคำสั่งของเขาอย่างทันทีและปลุกพลังชีวิตภายในร่างปรมาจารย์กระบี่ หยุนฉี ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นางก็ถูกโยนกลับเข้าไปในหอคอยอนัตตา
“เหลือคนสุดท้ายแล้ว ! ” ดวงตาของเจี้ยนเฉินเบิกกว้างและยังมีเศษเสี้ยวของความบ้าคลั่ง เขาอยากรู้อย่างยิ่งว่าการโจมตีจากการหลอมรวมพลังชีวิตของผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดจะเป็นอย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้นที่ราบรกร้างจะเหลือแค่ไหนหลังจากที่เจอการโจมตีที่น่าอัศจรรย์ขนาดนี้ ?
“แม้ว่าการโจมตีครั้งนี้จะทำลายที่ราบรกร้างไม่ได้ แต่มันก็สามารถกำจัดผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงที่อยู่บนพื้นดินที่ต้องการหอคอยอนัตตาของข้าได้อย่างแน่นอน และไม่นานผู้เชี่ยวชาญของลิงทองคำยักษ์โบราณก็จะมาถึง แม้ว่าข้าจะเป็นคนทำลายสถานที่แห่งนี้ แต่คนที่ต้องการหอคอยอนัตตาก็จะต้องเป็นฝ่ายผิดเช่นกัน” เจี้ยนเฉินมาถึงด้านหน้าของสัตว์ร้ายตัวสุดท้ายในขณะที่มีแววตาที่บ้าคลั่งลุกโชนในดวงตา
“นี่มันเป็นศพผู้เชี่ยวชาญที่ตายไปนานแล้ว เจี้ยนเฉิน เจ้าพาเรามาสถานที่แห่งนี้ จริง ๆ แล้วเราต้องขอบใจเจ้าจริง ๆ….”
ในเวลานี้ผู้เชี่ยวชาญชั้นสูงก็มาถึงแล้วเช่นกัน พวกเขาปรากฏตัวเข้ามาในหางตาของเจี้ยนเฉินและมองไปที่ศพของผู้เชี่ยวชาญทั้งแปดด้วยความดีใจ