เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 238: ช่วงเย็นก่อนการบุกรุก
ตอนที่ 238: ช่วงเย็นก่อนการบุกรุก
เมื่อหยุนหลีประกาศการเริ่มต้นของคลื่นสัตว์อสูร ประกาศอันนี้ก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองเวคราวกับไฟไหม้ป่า ทันใดนั้นทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยเสียงอื้ออึง แม้แต่ทหารรับจ้างต่างก็มีท่าทีเช่นเดียวกันเมื่อทุกคนได้ยินข่าวสาร พวกเขาเดินเข้ามาในประตูเมืองพร้อมกับพี่น้องกลุ่มทหารเพื่อเตรียมพร้อม
จากข่าวสารของการต่อสู้ที่กำลังเข้ามาถึง ทำให้บรรยายกาศปกติก็กลายเป็นเคร่งเครียดทันที แต่ในเวลาเดียวกันทุกคนต่างก็ค่อนข้างดื่นเต้น
ในขณะที่เจี้ยนเฉินออกจากจวนเจ้าเมือง เขาก็กลับไปยังตระกูลไค่ เซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 7 และสมาชิกของทหารรับจ้างอัคนีเดินกรูเข้ามาทักทายเขา
บนถนนไม่สามารถเห็นคาราวานแม้แต่กองเดียว มีเพียงกลุ่มทหารรับจ้างที่ต่างก็ใส่เกราะและอาวุธมากมายเดินกันอย่างขวักไขว่ ในหมู่ทหารรับจ้างเหล่านั้นต่างก็มีสีหน้าที่ตื่นเต้น คราวนี้สมาคมทหารรับจ้างในเมืองเวคได้ประกาศว่าหากพวกเขาสามารถเก็บหูซ้ายของสัตว์อสูรได้ พวกเขาจะสามารถเอามาขึ้นเงินตามระดับของพวกมัน ยิ่งพวกเขาสะสมหูได้มากเท่าไร พวกเขาก็จะได้รับรางวัลมากขึ้นเท่านั้น ในขณะที่สัตว์อสูรนั้นต่างก็อันตรายอย่างยิ่ง พวกเขาอาจจะตายเพราะหน้ามืดตามัวไปกับเงินรางวัลเพียงอย่างเดียว แต่ก็บอกไม่ได้ว่าเงินรางวัลเหล่านี้ต่างก็ดึงดูดผู้คนจนทำให้ไม่กลัวตาย
อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้จะถูกจ่ายโดยเจ้าเมืองเป็นการส่วนตัว แม้ว่ามันจะไม่ได้เป็นเงินจำนวนน้อย ๆ แต่เพราะว่าเมืองเวคอยู่ใกล้เทือกเขาสัตว์อสูรและแกนอสูรก็เป็นแห่งทำเงินที่ดี อาจจะกล่าวได้ว่าเมืองเวคและเจ้าเมืองนั้นต่างก็ร่ำรวย ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่อาจซื้อกำแพงเมืองชั้นหนึ่งได้
เมื่อเจี้ยนเฉินพาคนกว่า 100 คนไปที่ประตูเมืองที่ห่างออกไป 1000 กิโลเมตร พวกเขาก็พบว่ามันยากที่จะเคลื่อนไหวเป็นกลุ่มใหญ่ เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยผู้คน ทำให้พวกเขาไม่อาจเคลื่อนไหวใด ๆ ได้
ตอนนี้ เจี้ยนเฉินทำได้เพียงหันกลังกันมาและพูดกับเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 7 คนที่อยู่ด้านหลังว่า เปิดเส้นทางให้พวกเรา ! เซียนผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 เป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในเมืองเวค ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงเปิดเส้นทางให้พวกเขา มีคนมากมายต่างก็รู้สึกหวาดกลัวคต่อการปรากฏตัวของพวกเขา
เจี้ยนเฉินหลีกทางให้คนทั้ง 7 ที่เต็มไปด้วยท่าทีจริงจัง ขณะที่เต้าคังตะโกนออกมาว่า พี่น้อง ขอทางให้เราด้วย ! ด้วยการควบคุมพลังปราณที่ออกมาพร้อมกับเสียงทำให้คนที่อยู่ด้านหน้ารู้สึกเหมือนมีดาบตัดผ่านไปยังพวกเขาและบังคับให้กลุ่มคนหลีกทางออกไปด้านข้าง
เอ๋ ! นั้นไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างมังกรทองหรอกหรือ ? ข้าไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่….
ถูกต้อง หัวหน้าทหารรับจ้างคิมหันต์ก็เช่นกัน…
ข้าได้ยินข่าวลือว่าพวกเขาได้สลายกลุ่มกำลังของพวกเขาเพื่อเข้าร่วมกลุ่มที่ชื่อว่าทหารรับจ้างอัคนี ข้าก็ไม่แน่ใจว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ?..
ทันใดนั้นเซียนผู้เชี่ยวชาญพิเศษทั้ง 7 ที่ได้ออกหน้าก็ได้รับความสนใจจากผู้คนและถูกกล่าวขวัญเกี่ยวกับพวกเขาทันที
เจี้ยนเฉินซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านหลังและเดินตามเซียนผู้เชี่ยวชาญทั้ง 7 โดยไม่ได้รับความสนใจใด ๆ ไม่นานกลุ่มก็อยู่ห่างจากกำแพงมา 500 เมตร เขาจึงได้ยินเสียงกระโตนโหวกเหวกโวยวายด้านหน้า จากนั้นทหารที่สวมเกราะเต็มตัวก็เข้ามาหาเจี้ยนเฉิน เขาเป็นผู้บัญชาการเต้าหลี
ฮ่าฮ่า น้องเจี้ยนเฉิน เจ้าเมืองและทูตทั้งสองกำลังรอเจ้าอยู่ที่กำแพง ให้ข้าพาเจ้าไป ขณะที่ผู้บัญชาการเต้าหลีเห็นเจี้ยนเฉินเขาก็กล่าวอย่างสุภาพออกมา
เจี้ยนเฉินเดินไปด้านหน้ากลุ่มและยิ้ม ให้เกียรติข้าเกินไปแล้ว รบกวนนำทางให้ข้าด้วย
หลังจากนั้นท่ามกลางความประหลาดใจของผู้คนที่เหมือนกับดาวล้อมเดือน เจี้ยนเฉินและเต้าหลีก็เดินไปทางประตูเมือง
กำแพงเมืองเวคเป็นกำแพงที่มีความสามารถเดียวกับเมืองชั้น 1 พวกมันสูงกว่า 40 เมตรและหนา 20 เมตร ด้านบนกำแพงมีทหารร่างกายกำยำทุกประเภท ไม่เพียงแค่นั้น แม้กระทั่งทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งหลายคนก็อยู่บนกำแพงเช่นกัน นอกจากนั้นยังมีปืนใหญ่ผลึกแกนอสูรอีกกว่า 30 กระบอกตังอยู่บนกำแพงโดยมีทหารรับจ้าง 5 คนประจำอยู่ตามกระบอกปืน ที่ลำตัวพวกเขาต่างก็เต็มไปด้วยแกนอสูร
ผู้บัญชาการเต้าหลีพาเจี้ยนเฉินมาหาหยุนหลีที่กำลังจ้องมองออกไปด้านนอกกำแพงด้วยท่าทีเคร่งเครียด ข้าง ๆ เขามีคนที่รู้จักกันดีของเมืองเวคว่าเป็นทูต ทั้งคู่สวมเสื้อคลุมสีดำและไม่ได้ดูเหมือนว่าพวกเขาจะต้องการพูดคุย แม้ว่าจะมีใครบางคนพยายามที่จะคุยกับเขาแต่ก็ดูเหมือนว่าทูตทั้งสองก็ไม่สนใจแม้กระทั่งชายตามอง
เจ้าเมืองหยุนหลี สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง? เจี้ยนเฉินถามเจ้าเมืองเบา ๆ
หยุนหลียังคงจ้องมองออกไปนอกเมืองโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าของเขา มันไม่อาจแน่ใจนัก คลื่นสัตว์อสูรในครั้งนี้มีสัตว์อสูรมากเป็นพิเศษ น้องเจี้ยนเฉินลองดู จำนวนของพวกมันแทบนับไม่ได้
เจี้ยนเฉินเริ่มเคร่งขรึมหลังจากที่ได้ยินอย่างนั้น ขณะที่เขาจ้องมองไปยังจุดที่หยุนหลีชี้และเห็นพายุสีดำที่เกิดจากสัตว์อสูรค่อย ๆ เดินมาที่เมือง เขาไม่อาจมองเห็นได้ว่ามันเป็นสัตว์แบบใด และไม่อาจนับมันมีทั้งหมดกี่ตัว
จากปรากฏการณ์นี้ ดวงตาของเจี้ยนเฉินจึงเพ่งสมาธิมองเพื่อเห็นว่ามันสัตว์อสูรที่เดินมาเบื้องหน้าเหล่านี้เป็นตัวอะไร ท้ายที่สุดสัตว์อสูรระดับ 5 ที่เป็นหัวหน้าพวกมันก็มีสติปัญญาเทียบเท่ากับมนุษย์ และมันก็มีพลังเพียงพอที่จะควบคุมสัตว์อสูรตัวอื่น ๆ
คลื่นสัตว์อสูรคราวนี้ค่อนข้างแตกต่าง ท่านหยุนหลี ข้าจำได้ว่าคลื่นสัตว์อสูรครั้งสุดท้ายนั้นสัตว์อสูรต่างก็พุ่งเข้าใส่กำแพงอย่างไร้ความปราณี ครั้งนี้พวกมันเดินเข้ามาทำไมมันถึงได้มีระเบียบเช่นนั้น ? ผู้อาวุโสผมขาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาอย่างสับสน
ถูกต้อง ครั้งสุดท้ายที่เมืองเวคถูกจู่โจมนั้นแตกต่างจากครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง ชายวัยกลางคนอีกคนหนึ่งพูดขณะที่เขามองไปที่คลื่นสัตว์อสูรอย่างกังวล
หลังจากที่ทั้งสองได้พูดคุยกันคนที่ยืนอยู่รอบข้างหยุนหลีต่างก็เริ่มถกเถียงกัน พวกเขาไม่ใช่คนโง่ พวกเขาสามารถบอกได้ว่าเหตุการณ์คราวนี้มีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อเห็นอย่างนั้นทุกคนก็รู้สึกว่ามีอะไรแปลกเกี่ยวกับคลื่นสัตว์อสูรคราวนี้ หยุนหลีรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ใด ๆ ที่จะปิดบังความจริงอีกต่อไป เขาพูดออกมาดัง ๆ ว่า ทุกท่าน ความจริงแล้วคลื่นสีตว์อสูรในครั้งนี้มีสัตว์อสูรระดับ 5 ซ่อนอยู่อย่างแน่นอน สำหรับเมืองเวคแล้ว คลื่นสัตว์อสูรคราวนี้อาจจะถือได้ว่าเป็นบททดสอบจากธรรมชาติที่น่ากลัวอย่างยิ่ง