เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2415 : ความรักของไคยะ
ตอนที่ 2415 : ความรักของไคยะ
ย้อนกลับไปยังที่ราบเมฆา นางฟ้าเฮายู่นั้นแข็งแกร่งกลับจากที่นางฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา นางได้ลงมือฆ่าจนฝ่าเข้าไปในลัทธิปีศาจชั้นฟ้าได้เพียงลำพัง แม้แต่ตอนที่รองหัวหน้าทั้งสามร่วมมือกัน แต่พวกนั้นก็ไม่อาจจะทำอะไรนางได้ สุดท้ายนางก็ต่อยจนเกิดรูขึ้นมาที่สำนักงานของลัทธิปีศาจชั้นฟ้าก่อนจะออกมาจากที่นั่น
ตอนนี้ผ่านมาหลายปีแล้ว บางทีนางอาจจะขึ้นถึงขั้นบรรพกาลแล้ว
“หนานป้อเทียนแห่งโถงเทพจันทราอยู่ขั้นบรรพกาลช่วงสูงสุดมาหลายปีแล้ว ข้าสงสัยว่าเขาอาจจะขึ้นไปถึงขั้นอัครสูงสุดแล้ว แต่แม้ว่าหนานป้อเทียนจะยังไม่อาจจะทะลวงผ่านได้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่นางฟ้าเฮายู่จะเป็นคู่มือของเขาได้ ข้าหวังว่านางฟ้าเฮายู่จะปลอดภัย” เจี้ยนเฉินคิดและกังวลเรื่องความปลอดภัยของนางฟ้าเฮายู่
แต่เขาก็เข้าใจว่าตอนนี้ตัวเองก็กำลังประสบปัญหาและอาจจะเอาตัวรอดไม่ได้ ตอนนี้เขาถูกผู้เชี่ยวชาญลึกลับไล่ตาม เขาไม่มีทางที่จะช่วยนางฟ้าเฮายู่ได้เลย
“ข้าต้องรีบไปยังที่ราบรุ่งโรจน์ให้เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ ตราบใดที่คืนหอคอยอนัตตาให้กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง ข้าก็จะสร้างผลงานชิ้นใหญ่ได้ ไม่ใช่แค่สามารถแลกกับทรัพยากรบ่มเพาะให้กับสำหรับพี่สาวของข้า แต่ข้ายังช่วยนางฟ้าเฮายู่ได้ด้วย ด้วยความแข็งแกร่งของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงแล้ว การจัดการปัญหาของโถงเทพจันทรานั้นจบลงได้ด้วยคำพูด” เจี้ยนเฉินรีบร้อนขึ้นมา เขาต้องการจะไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงทันที ตอนนั้นเจี้ยนเฉินได้พลิกฝ่ามือก่อนจะมียันต์ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา
“นี่มันยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลรึ ? ” เจี้ยนเฉินตาเป็นประกายขึ้นมาทันที
เขาเคยได้ยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลมาหลายใบจากแหวนมิติของขั้นอัครสูงสุดตอนที่อยู่พระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูน ยันต์ส่งตัวจักรวาลเหล่านั้นเป็นของคุณภาพสูง พวกมันสามารถทำให้คนเดินทางไปได้ไกลอย่างมาก เมื่อใช้มันแล้วก็เป็นไปได้ที่จะหนีจากพวกขั้นอัครสูงสุดทั่วไป
เมื่อเขาได้ยันต์ที่คล้ายกันมานี้ เจี้ยนเฉินก็ดีใจขึ้นมาทันที
ผู้เชี่ยวชาญลึกลับที่ไล่ตามเขามาสามารถหาตำแหน่งของเขาได้ในทะเลดวงดาวด้วยทักษะลับที่พิเศษ เจี้ยนเฉิน ไม่อาจจะสลัดอีกฝ่ายหลุดได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม ยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลคือสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้
“ไม่ ยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลนี่คุณภาพต่ำเกินไป มันไม่อาจจะเทียบกับที่ข้าได้มาจากพระราชวังศักดิ์สิทธิ์เนปจูนได้” แต่ไม่นานเจี้ยนเฉินก็ผิดหวังขึ้นมา
คุณภาพของยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลนั้นไม่เพียงพอ นี่ไม่ต้องนับความจริงที่ว่าไม่อาจจะเดินทางได้ไกลนัก แต่เมื่อใช้งานมันแล้วมันจะทำให้มีพลังภายนอกเข้ามายุ่งเกี่ยวด้วยซึ่งมันอาจจะทำให้การใช้ยันต์นี้ล้มเหลว
ผลก็คือเขาอาจจะหนีจากขั้นบรรพกาลได้ด้วยยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาล แต่มันยากที่จะหนีจากขั้นอัครสูงสุดได้
“เจี้ยนเฉิน เขากำลังจะตามทัน” ไคยะเตือนขึ้นมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น เจี้ยนเฉินก็เก็บยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลและฉีกมิติตรงหน้าออกกลับไปยังโลกเซียน
ไม่นานการหนีและไล่ล่ากินเวลาไปกว่าครึ่งปี เพื่อที่จะหนีจากผู้อาวุโสภูผามหานที เจี้ยนเฉินต้องคอยสลับตำแหน่งระหว่างโลกเซียนกับรอยแยกมิติเพื่อคอยรักษาระยะห่างจากอีกฝ่ายอยู่ตลอดเวลา ไม่ให้การรับรู้วิญญาณของอีกฝ่ายล็อคเป้าเขาได้
ระหว่างนั้นผู้อาวุโสภูผามหานทีก็ได้ใช้ทักษะลับของตัวเองล็อคเป้าเจี้ยนเฉินเอาไว้ด้วยการรับรู้วิญญาณอยู่หลายรอบ แต่โชคร้ายที่เจี้ยนเฉินนั้นมีไคยะอยู่ การรับรู้ของนางทรงลพังบอกตำแหน่งผู้อาวุโสภูผามหานทีได้อย่างแม่นยำ นางมักจะเตือนเจี้ยนเฉินก่อนที่เขาจะมาถึงได้เสมอ ซึ่งนั่นทำให้ผู้อาวุโสภูผามหานทีต้องโกรธยิ่งกว่าเดิม
“เจี้ยนเฉิน แม้ว่าเจ้าจะหนีไปสุดโลกแต่เจ้าก็ไม่อาจจะหนีจากข้าได้” ผู้อาวุโสภูผามหานทีคำรามออกมาด้วยความโกรธ เขาเริ่มหมดความอดทนหลังจากที่ไล่ล่ามากว่าครึ่งปี
ยิ่งใช้เวลานานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งแย่สำหรับเขาเท่านั้น เมื่อผู้เชี่ยวชาญคนอื่น ๆ รู้ข่าวนี้ ความพยายามทั้งหมดของเขาจะสูญเปล่า
“อีกสองวันจนกว่าเราจะถึงที่ราบประกายดาว “
ยานอวกาศลำเล็กพุ่งผ่านมิติภายนอกด้วยความเร็วสูงสุดที่มันทำได้
เจี้ยนเฉินมองไปยังแผนภูมิดาวและเริ่มโล่งอกขึ้นมา เมื่อพวกเขาไปถึงที่ราบประกายดาว พวกเขาก็สามารถออกจากที่นั่นด้วยค่ายกลเคลื่อนย้าย จากนั้นแม้แต่อัครสูงสุดก็ไม่อาจจะตามเขาทัน
ค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นเร็วกว่าขั้นอัครสูงสุดแทบทั้งหมด
เจี้ยนเฉินรู้สึกว่าตัวเองโชคดีอยู่ตลอดเพราะตำแหน่งที่เขากลับมายังโลกเซียนผ่านรอยแตกมิตินั้นจะไม่มั่นคงแต่เขาได้กลับมายังที่ที่สภาพแวดล้อมปกติทั้ง ๆ ที่อาจจะกลับมายังเขตหวงห้ามของมิติได้
เขตหวงห้ามของมิตินั้นมีราชันสัตว์อสูรอวกาศพำนักอยู่ แม้แต่ขั้นอัครสูงสุดหลายคนก็ไม่กล้าพอจะเข้าไปที่นั่น แต่นั่นไม่ใช่โชคที่ดีที่สุดกับการที่เขากลับมายังโลกเซียนจากรอยแตกมิติ เขาอยู่ใกล้กับที่ราบประกายดาวมากขึ้นเรื่อย ๆ และการเปลี่ยนตำแหน่งของเขาก็ทำให้ยานอวกาศเข้าใกล้ที่ราบประกายดาว เร็วกว่ายานอวกาศลำใหญ่จากที่ราบหยกวารีอยู่หลายปี
เพราะที่ราบประกายดาวอยู่ห่างเกินไป มันจึงมีขนาดเท่ากับนิ้วก้อยตรงหน้าเขาในตอนนี้ มันเหมือนกับผืนดินที่ลอยอยู่ในมิติภายนอกโดยไม่เคลื่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
ราชาสวรรค์แห่งสีฟ้ากระจ่าง สามารถเดินทางตัดระยะทางนี้ได้ในคราวเดียว แต่เจี้ยนเฉินต้องใช้เวลาถึง 2 วัน เมื่อมองไปยังที่ราบประกายดาวด้านหน้า ไคยะที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เจี้ยนเฉิน ก็เหมือนจะไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย มันเหมือนกับมีบางอย่างในหัวนางอยู่ในตอนนี้
นี่เพราะภัยที่นางได้รับมาตลอดครึ่งปีมานี้ ภัยนี้สูงจนนางรู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับสวรรค์ที่ซึ่งนางไม่อาจจะหลบซ่อนที่ไหนได้เลย สิ่งเดียวที่นางทำได้คือรอมันมาถึงและยอมรับมัน
ตอนนั้นจู่ ๆ ไคยะก็มองไปที่เจี้ยนเฉิน สายตานางสั่นไหวสะท้อนความลังเลออกมา
มันราวกับว่ามีบางอย่างที่นางอยากบอกกับเจี้ยนเฉิน แต่นางยังลังเลว่าจะพูดมันออกมาดีรึไม่
“ไคยะ มีเรื่องอะไรกัน ? ” ตอนนี้เจี้ยนเฉินอยู่ขั้นอสงไขยแล้ว เขาแข็งแกร่งจนแผ่การรับรู้ไปทั่วที่ราบประกายดาวได้ เขาเห็นว่าไคยะดูผิดปกติไป
ไคยะหันหน้าหนีและมองไปยังที่ราบประกายดาวราวกับว่าหลีกเลี่ยงสายตาของเจี้ยนเฉิน สุดท้ายนางก็รวบรวามวามกล้าพูดขึ้นมาเบา ๆ “เจี้ยนเฉิน มันมีบางเรื่องที่ข้าต้องการถามเจ้ามาตลอด แต่ข้าไม่เคยที่จะกล้าถามมันออกมา ตอนแรกข้าคิดว่าจะเก็บมันไว้ในใจไม่ให้ใครได้รู้ แต่ข้าก็รู้สึกเครียดว่าหากไม่พูดมันออกมาตอนนี้ ข้าอาจจะไม่มีโอกาสได้พูดมันอีกในอนาคต”
เจี้ยนเฉิน แปลกใจเมื่อได้ยินแบบนั้น เขามองไปที่ไคยะโดยที่ไม่พูดอะไรออกมา
เขารับรู้ได้ว่าไคยะจะบอกอะไรจากน้ำเสียงและสีหน้าของนาง
ไคยะตกหลุมรักเขา
นี่มันทำให้เจี้ยนเฉินหนักใจ เขาไม่รู้ว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้ยังไง
ไคยะเกิดมาในอาณาจักรทะเลที่โลกด้านล่าง เจี้ยนเฉินจำครั้งแรกที่พบกับนางได้ดี ตอนนั้นเขากับนูบิสต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปยังอาณาจักรทะเลเพื่อหนีจากผู้เชี่ยวชาญของทวีปสัตว์เทวะ
ตอนนั้นไคยะคือบุตรสาวของหัวหน้าเผ่าภายในอาณาจักรทะเล พวกเขาได้รู้จักกันเพราะเหรียญผลึกไม่กี่เหรียญซึ่งทำให้เกิดเรื่องอื่น ๆ ตามมา
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับวิธีบ่มเพาะของจักรพรรดิของแผ่นดินทั้งแปดและยกมันให้กับไคยะ แต่เขาไม่คิดว่ามันจะทำให้เผ่าของไคยะต้องถูกทำลาย ทั้งเผ่านั้นถูกกำจัดซึ่งทำให้ไคยะต้องหนีปยังพื้นที่อันตรายของอาณาจักรทะเลเพื่อเอาตัวรอด
ผ่านมาหลายปีตอนที่ไคยะออกมาจากเขตอันตรายได้นั้นไม่ใช่แค่ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นมาอย่างมาก แต่นางยังได้สัตว์เทวะกลับมาอย่างสัตว์อสูรกลืนสวรรค์เจ็ดสี ผลก็คือนางได้ขึ้นไปยืนอยู่ระดับสูงสุดของทวีปเทียนหยวน หลังจากนั้นนางก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสในสงครามกับโลกแห่งเซียนที่ถูกทอดทิ้งจนหมดสติมาตั้งแต่นั้น
เพื่อที่จะรักษาไคยะ เขาได้พานางมายังโลกเซียนและช่วยชีวิตนางได้หลังจากที่ใช้ความพยายามไปอย่างมาก
เจี้ยนเฉินยอมรับว่าเขาใช้ความพยายามอย่างมากเพื่อจะปลุกไคยะขึ้นมา เขาถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตเข้าไปในภูเขาหยินเจ็ดทลายเพื่อหาสมบัติสวรรค์ที่สามารถรักษาวิญญาณได้
แม้ว่าเขาจะทำหลายอย่างเพื่อไคยะ แต่เขาถือว่านางเป็นสหายสนิทของเขา เขาไม่ได้รู้สึกหลงรักนางเลย เขาไม่คิดว่าไคยะจะหลงรักเขาจริง ๆ