เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2419 : จุดจบ (2)
ตอนที่ 2419 : จุดจบ (2)
จบสิ้นแล้ว….
ต่อมามิติก็ถูกเปิดออก มือแก่ ๆ ยื่นมายังค่ายกลเคลื่อนย้ายที่พาคนยังที่ราบอื่นได้
มือนั้นมีพลังที่น่าเหลือเชื่อและกฎอัดแน่นไว้รอบมือ ชั้นพลังหนารอบค่ายกลเคลื่อนย้ายเปราะบางเหมือนกับเศษกระดาษต่อหน้ามือนี่ มันไม่อาจจะหยุดมือนี้ได้เลย
“หยุด ! ค่ายกลเคลื่อนย้ายนี่เป็นของนิกายอสูร ผู้อาวุโส หากท่านไม่สนใจกฎและทำลายค่ายกลของนิกายอสูรแล้ว ท่านไม่กลัวว่าจะทำให้บรรพชนอสูรโกรธรึ ? ” ผู้ดูแลค่ายกลตะโกนขึ้นมา
ตอนที่ค่ายกลเคลื่อนย้ายเปิดออก ค่ายกลป้องกันทั้งหมดก็หยุดทำงาน ตอนนี้ค่ายกลเคลื่อนย้ายจึงเปิดออกทุกด้าน ไม่ใช่แค่การมาถึงของมือนั้นทำให้ความเสถียรของค่ายกลเคลื่อนย้ายถูกรบกวน แต่ยังทำให้เกิดความเสียหายกับโครงสร้างและพลังที่สลักไว้ในค่ายกลด้วย
ยังไงซะนี่ก็คือค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ส่งคนไปยังที่ราบอื่นได้ มันไม่ใช่ค่ายกลเก่า ๆ โครงสร้างของมันใช้เงินทองไปมหาศาล แม้แต่องค์กรชั้นนำก็มีมันไม่มากนัก พวกมันยากที่จะซ่อมแซมได้เมื่อได้รับความเสียหาย
“ข้า ผู้อาวุโสภูผามหานที จะชดใช้ค่าเสียหายให้กับนิกายอสูรทั้งหมดเป็น 2 เท่า” ผู้อาวุโสภูผามหานทีพูดขึ้นมา ด้วยพลังของวิถีที่คั่นขวางนั้น มันได้บดบังท้องฟ้าและบิดบังทุกอย่างภายในเอาไว้
หลังจากนั้นเขาก็ดึงมือกลับ เจี้ยนเฉินและไคยะที่ยืนอยู่ภายในค่ายกลต่างรับรู้ได้ถึงพลังลึกลับที่จำกัดมิติรอบตัวเอาไว้ ผลก็คือทั้งสองคนถูกถึงออกจากค่ายกลเคลื่อนย้ายทันที
ตอนนั้น เจี้ยนเฉิน และ ไคยะ ไม่อาจจะต้านทานได้เลย ยังไงซะพวกเขาก็เผชิญหน้ากับอัครสูงสุด ความแตกต่างด้านความแข็งแกร่งมันมีมากเกินไป
ฟิ้ว !
ในพริบตา ผู้อาวุโสภูผามหานที ก็ได้จากไปพร้อมกับเจี้ยนเฉินและไคยะ เขาได้หายตัวไปทันที ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตตั้งต้นจากนิกายอสูรที่อยู่ใกล้ ๆ ต่างก็พากันทำลายเครื่องรางหยกทันที
ต่อมาการรับรู้วิญญาณอันแข็งแกร่งก็ได้แผ่ไปทั่ววนรอบท้องฟ้าเหนือเมืองเอาไว้
“ผู้อาวุโสภูผามหานที…” เสียงนั้นเหมือนจะดังมาจากนรก หลังจากนั้นการรับรู้วิญญาณก็แผ่ออกไปต่อครอบคลุมทั้งที่ราบประกายดาวเอาไว้
บรรพชนอสูรได้ทำการค้นหาว่า ผู้อาวุโสภูผามหานที อยู่ที่ใดทั่วทั้งที่ราบประกายดาว
ในเขตที่ห่างไกลภายในที่ราบประกายดาว ผู้อาวุโสภูผามหานทีได้ยืนอยู่ภายในโล่พลังสีฟ้าไม่อาจจะปกปิดความตื่นเต้นที่มีได้
ตรงหน้าเขานั้นมีเจี้ยนเฉินและไคยะยืนอยู่ ทั้งสองต่างก็แสดงสีหน้าเคร่งเครียดออกมา ตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญหน้ากับขึ้นอัครสูงสุด ใจของพวกเขาเหมือนจะหล่นวูบ
“ม่านพลังซ่อนเร้นสวรรค์ของสายน้ำไหลของข้าบดบังความลับสวรรค์และหลบซ่อนจากการรับรู้วิญญาณของขั้นอัครสูงสุดส่วนมากได้ อย่าคิดว่าคนอื่นจะมาที่นี่แล้วหนีไประหว่างตอนที่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นเลย เจี้ยนเฉิน เจ้าหนีจากข้ามานาน ข้าอยากเห็นว่าครั้งนี้เจ้าจะหนียังไง” ผู้อาวุโสภูผามหานทีหัวเราะออกมาราวกับชัยชนะอยู่ในกำมือ
อันที่จริงมันไม่มีเหตุผลที่เขาต้องกังวลเลยแม้แต่น้อยเพราะตอนนี้เจี้ยนเฉินถูกขังไว้ในม่านพลังซ่อนเร้นสวรรค์ของสายน้ำไหลของเขาอยู่
ม่านพลังซ่อนเร้นสวรรค์ของสายน้ำไหลเท่ากับโลกจิ๋ว นอกซะจากว่าโลกจิ๋วนี้จะถูกทำลาย งั้นก็ไม่มีใครสามารถหนีออกไปได้
แต่เจี้ยนเฉินคงต้องฝันเอาหากต้องการทำลายม่านพลังของขั้นอัครสูงสุดด้วยพลังที่เขามีในฐานะผู้เชี่ยวชาญขั้นอสงไขย
“ผู้อาวุโส ท่านไล่ตามเรามานานแบบนี้เพราะหอคอยอนัตตา ข้ายกมันให้กับท่านได้แต่ท่านต้องปล่อยเราไป” เจี้ยนเฉินพูดขึ้นด้สวยสีหน้าเคร่งเครียด
ผู้อาวุโสภูผามหานทีส่ายหน้าเมื่อได้ยินแบบนั้น เขายิ้มและพูดออกมา “เจี้ยนเฉิน หากก่อนหน้านี้เจ้าเสนอแบบนี้ออกมา ข้าอาจจะปล่อยพวกเจ้าสองคนไป แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว” สีหน้าของผู้อาวุโสภูผามหานทีเย็นชาขึ้นมาและแสดงความอาฆาต เขาพูดต่อ “เจ้าทำให้ข้าไล่ตามเจ้ามานานในอวกาศรอบนอก ข้าถึงกับไปเจอกับ ราชันสัตว์อสูรกระบี่ทองคำเพราะเจ้า และทำให้ข้าบาดเจ็บกับมาเล็กน้อย เจ้าทำให้ข้าโกรธมานาน ครั้งนี้แม้ว่าเจ้าจะเต็มใจส่งมอบหอคอยอนัตตาให้กับข้า แต่ข้าก็ไม่มีทางปล่อยเจ้าไป”
“ข้ารู้ว่าเจ้าเกี่ยวข้องกับเผ่าเทพ หากเผ่าเทพยังอยู่จุดสูงสุดแบบเดิม ข้าอาจจะกลัวบ้าง แต่เผ่าเทพตอนนี้มันต่างจากเดิมแล้ว ตราบใดที่เจ้าตาย ผู้อาวุโสและผู้อาวุโสสูงของเผ่าก็ไม่มีทางลงมือให้กับคนระดับต่ำแบบเจ้า”
“ท่านคิดจะฆ่าเราจริง ๆ รึ ? ” เจี้ยนเฉินสีหน้าหม่นลง สายตาเขาดูมุ่งมั่นขึ้นมา เขาแอบสื่อสารกับจิตกระบี่ของเขาอยู่
เขาหมดทางเลือกแล้ว ทางเดียวที่เขาจะหนีจากภัยพิบัตินี้ได้คือการหลอมรวมกระบี่แฝดทั้งสอง
แม้ว่ามันจะเป็นการเปิดเผยตัวตนของเขาแต่เขาไม่มีทางเลือกอื่น
ผู้อาวุโสภูผามหานทีไม่ได้พูดอะไรแต่กลับแสดงสายตาอาฆาตออกมา เขาไม่คิดจะพูดคุยกับเจี้ยนเฉินต่อและลงมือทันที
เขายื่นมือออกมาพร้อมกับพลังของกฎที่ปะทุขึ้น แสงสีฟ้าสว่างเจ้าเปลี่ยนเป็นคลื่นขนาดใหญ่ถาโถมเข้าใส่เจี้ยนเฉินและไคยะ
เมื่อเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง เจี้ยนเฉินเองก็เคร่งเครียดอย่างมาก เขากำลังจะทำการหลอมรวมกระบี่แฝดทั้งสอง
เขาไม่ได้ซ่อนตัวในหอคอยอนัตตา แม้ว่าผู้อาวุโสภูผามหานทีจะไม่อาจเข้ามาด้านในได้ แต่ก็สามารถชิงมันไปได้ เมื่อหอคอยอนัตตาตกอยู่ในมือของผู้อาวุโสภูผามหานที เขาแค่ต้องใช้ความสามารถอันโดดเด่นในขั้นอัครสูงสุดและสุดท้ายพวกเขาก็จะกลายเป็นแค่เป้านิ่ง
ตูม !
แต่ตอนนั้นเองกลับมีเสียงระเบิดดังขึ้น ม่านพลังซ่อนเร้นสวรรค์ของสายน้ำไหลของผู้อาวุโสภูผามหานทีสั่นไหวอย่างรุนแรง สุดท้ายก็เกิดรอยแตกขึ้นบนกำแพงที่สามารถกันการโจมตีจากอัครสูงสุดได้
“เมฆจุดที่น่านับถือ อย่าเข้ามาขวางทาง เมื่อข้าได้หอคอยอนัตตาแล้วข้าจะยกผลประโยชน์ให้เจ้าครึ่งหนึ่ง” ผู้อาวุโสภูผามหานทีแค่นเสียงฮึดฮัดออกมา ม่านพลังของเขาถูกซ่อนไว้อย่างดีเพียงพอที่จะซ่อนจากการรับรู้วิญญาณของขั้นอัครสูงสุดได้ นอกจากใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าแล้ว ก็มีแค่เมฆจุดที่น่านับถือที่หาเขาเจอผ่านความจริงของมิติและเวลาบนที่ราบประกายดาวได้
“ข้าไม่ต้องการหอคอยอนัตตา หอคอยอนัตตาคือของที่ผูกมัดกับบ่วงกรรมขนาดใหญ่เอาไว้ เมื่อข้าคิดจะครอบครองมัน ข้าจะเผชิญหน้ากับวิกฤตครั้งใหญ่ เจี้ยนเฉิน ข้า เมฆจุดที่น่านับถือ จากนิกายเบญจา ข้าจะทำลาย ม่านพลังซ่อนเร้นสวรรค์ของสายน้ำไหลให้กับเจ้าและตัดเงื่อนที่ข้าผูกไว้กับเจ้าก่อนหน้านี้ เจ้าจะหนีได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับโชคของเจ้าเอง” เสียงของ เมฆจุดที่น่านับถือดังขึ้นมาช้า ๆ กฎมิติและเวลาพัวพันกันเหนือม่านพลังกลายเป็นใบมีดที่มองไม่เห็นพุ่งเข้าใส่กำแพงอย่างต่อเนื่อง