เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2423 : ผลสำหรับวิถีที่หก
ตอนที่ 2423 : ผลสำหรับวิถีที่หก
หลังจากที่ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้าจากไปแล้ว ร่างของจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตก็หายไปเช่นกัน
ที่ราบสังหารคือหนึ่งในที่ราบศักดิ์สิทธิ์ทั้งเจ็ดของโลกเซียน มันคือที่ซึ่งจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตบ่มเพาะอยู่
ผลกระทบของการที่จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตอยู่ในที่ราบสังหารมานานและบ่มเพาะที่นั่นรวมถึงการทำความเข้าใจวิถี ทำให้พลังของเขาส่งผลต่อกฎทั้งหมดในโลกที่ที่ราบสังหาร ผู้บ่มเพาะสามารถทำความเข้าใจความจริงของวิถีได้ง่ายกว่าเดิมที่นี่ มันคือสวรรค์ของผู้บ่มเพาะซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมมันถึงได้โด่งดังในโลกเซียน
ตอนนั้นจอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตได้นั่งอยู่ในบัลลังก์พร้อมกับหมอกโลหิตบาง ๆ ที่อยู่รอบตัวเขา เขาอยู่ภายในโถงศักดิ์สิทธิ์อันสง่าบนที่ราบสังหาร
โถงศักดิ์สิทธิ์ขนาดใหญ่นี้ว่างเปล่าราวกับไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นนอกจากเขา
“ดูเหมือนว่าอนัตตากำลังจะฟื้นฟูการบ่มเพาะของตัวเองในไม่ช้า…” จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตพึมพำออกมา
“อนัตตาเข้าใจกฎแห่งการสร้างสรรค์, การทำลาย, ไฟและมิติแล้ว นางเข้าใจกฎพวกนั้นอย่างถ่องแท้ ส่วนกฎแห่งมิติก็อยู่ในขั้นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 5 นางแข็งแกร่งอย่างมากแล้วซึ่งอยู่ 3 อันดับแรกของโลกเซียน มีแค่คนจากสงครามเทพที่สามารถรับมือกับนางได้ ตอนนนี้นางกำลังทำความเข้าใจกฎที่ห้า วิถีแห่งความรัก….”
“อนัตตาจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ในโลกเซียนตอนนี้คนจากสงครามเทพได้ตายไปแล้ว ส่วนผู้อาวุโสมิติเวลาที่เทียบเท่ากับนางเมื่อสามล้านปีก่อนก็ตายไปเช่นกัน เมื่ออนัตตาฟื้นฟูพลังของตัวเองได้ มันจะมีใครที่รับมือกับนางได้อีก ? ”
จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตรู้สึกกดดันขึ้นมา
อนัตตาเข้าใจวิถีทั้งสามได้อย่างถ่องแท้ ยิ่งกว่านั้นวิถีที่สี่ของนางอย่างกฎแห่งมิติก็เกือบเข้าถึงขีดจำกัดเช่นกัน
ในอีกด้านเขาเข้าใจวิถีเดียวที่เข้าถึงขีดจำกัด ยิ่งไปกว่านั้นอนัตตาก็เริ่มทำความเข้าใจวิถีที่ห้าแล้ว ดังนั้นความต่างของนางกับเขาจึงมากขึ้นเรื่อย ๆ
“แต่วิถีที่ห้าที่นางทำความเข้าใจคือวิถีแห่งความรัก อารมณ์คือหนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดที่จะอธิบายในโลกนี้ มันเป็นดาบสองคม แม้ว่ามันจะทำให้ความแข็งแกร่งของอนัตตาเพิ่มขึ้นไปถึงอีกระดับ แต่ก็ยังเป็นส่วนที่จำกัดนางอีกอด้วย มันอาจจะเป็นวิกฤตสำหรับนางได้”
“หากสวรรค์มีอารมณ์ พวกนั้นก็ต้องแก่ตัวตามไปด้วย จอมปราชญ์สูงสุดคือศูนย์รวมของวิถี ส่วนหนึ่งของวิถีของโลก พวกเขาเป็นตัวแทนโลก ผลก็คือจอมปราชญ์สูงสุดไม่ควรมีอารมณ์ ไม่งั้นแล้วจะพบกับวิกฤตนับไม่ถ้วน ไม่ใช่แค่อาจจะทำให้ระดับการบ่มเพาะของนางขึ้นไปอีกในอนาคต แต่มันอาจจะส่งผลต่อวิถีและทำให้นางตาย นางกำลังเล่นกับไฟ…”
จอมปราชญ์สูงสุดน้ำตาโลหิตเหมือนจะรู้บางอย่างเมื่อคิดถึงจุดนี้ ทันใดนั้นเขาก็ส่ายหน้าและเผยสายตาอันแดงก่ำขึ้นมา
ตาของเขาเป็นสีแดงทั้งหมด มันเหมือนมีเลือดปะทุออกมาในตาดูไปแล้วน่าขนลุก
“ข้าเข้าใจแล้ว หลังจากที่อนัตตาเข้าใจวิถีที่ห้าแล้ว มันต้องมีวิถีที่หก นางจะทำการเกิดใหม่แล้วตกหลุมรักเจี้ยนเฉินก่อนและจากนั้นก็ส่งความรู้สึกเข้าสู่ร่างหลัก เพื่อที่นางจะทำความเข้าใจวิถีแห่งความรัก เมื่อความรู้สึกที่นางมีต่อเจี้ยนเฉินลึกซึ้งจนถึงขีดสุด นางก็จะลงมือด้วยนางเองและฆ่าคนที่นางรักที่สุดเพื่อทำความเข้าใจวิถีที่หก…”
“วิถีที่หกคือวิถีแห่งการตัดขาด ด้วยการตายของเจี้ยนเฉิน นางจะสร้างวิถีที่หกขึ้นมา วิถีแห่งการตัดขาด เมื่อนางได้วิถีที่หกนี้มา นางก็จะกลับเข้าสู่เส้นทางการไร้อารมณ์อีกครั้ง…”
“การเกิดใหม่ของอนัตตาครั้งนี้ก็เพื่อวิถีที่ห้า ส่วนเจี้ยนเฉินคือวิถีที่หก ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมนางถึงได้ปกป้อง เจี้ยนเฉิน กลับเป็นว่านางกำลังปกป้องผลแห่งวิถีของนาง”
“แต่มันก็ได้ผลเช่นกัน เจี้ยนเฉินมีจิตวิญญาณกระบี่นภา แน่นอนว่าเขาคือคนที่โดดเด่นในโลกอมตะและ อนัตตาก็เคยบาดเจ็บโดยเจ้าของกระบี่คู่ในอดีต ตอนนี้นางกำลังใช้ผู้สืบทอดกระบี่คู่ในการสร้างผลแห่งวิถี มันคือการแก้แค้น.…”
“วิถีที่หก…วิถีที่หก ข้าไม่คิดมาก่อนเลยว่าอนัตตาจะได้วิถีถึง 2 อย่างจากการเกิดใหม่ครั้งเดียว นางน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ มันอาจจะมีสักวันที่คนจากสงครามเทพไม่อาจจะเอาชนะนางได้….”
….
ในเขตหนึ่งที่โลกเซียน มันมีอุกกาบาตมากมายลอยอยู่โดยรอบ เจี้ยนเฉินนั่งอยู่บนอุกกาบาตก้อนใหญ่ที่สุดที่นั่น
เขาถอดหน้ากากของโมเทียนหยุนออกและไม่ได้แปลงกายอีกต่อไป เขาเผยให้เห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของตัวเอง
ย้อนกลับไปหลังจากที่ไคยะผลักเขาเข้าในรอยแยกมิติ ยันต์เคลื่อนย้ายจักรวาลได้ส่งเขาไปที่ไหนก็ไม่อาจจะทราบได้ แม้ว่าเขาจะออกจากรอยแยกมิติมาให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่เขาก็อยู่ห่างจากที่ราบประกายดาวแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะกลับไปที่นั่นในเวลาอันสั้นได้
ผลก็คือเขาได้แต่หาอุกกาบาตใกล้ ๆ นั่งลงไป เขาปรับร่างกายของตัวเองให้อยู่ในสภาพที่พร้อมที่สุด
เขารู้ว่าแม้ว่าเขาจะรีบกลับไปที่ราบประกายดาวตอนนี้ แต่มันก็ไร้ประโยชน์ ไคยะตายไปแล้ว เขาได้แต่มองนางหายไป เขาไม่อาจจะหาร่องรอยของไคยะในโลกเซียนได้
เขาปวดใจอย่างมาก ในหัวเขามีแต่ความเศร้า ใจเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง มันมากซะจนทำให้เสียสติ เขารู้ความสามารถของผู้อาวุโสภูผามหานที ไม่ว่าเขาจะอยู่ไกลแค่ไหน แต่อีกฝ่ายก็รับรู้ตำแหน่งเขาได้อย่างแม่นยำ ผลก็คือเขาเลือกที่จะนั่งรอให้อีกฝ่ายมาถึง
“จิตวิญญาณกระบี่ หากข้าหลอมรวมกระบี่ด้วยความแข็งแกร่งที่ข้ามีตอนนี้แล้ว เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะฆ่าอัครสูงสุดได้ ? ” เจี้ยนเฉินถามจิตวิญญาณกระบี่
“มันไม่น่าจะมีปัญหากับพวกชั้นสวรรค์ที่ 5 หรือต่ำกว่า แน่นอนเราไม่อาจจะมั่นใจได้เพราะหากเขารับรู้ได้และหนีไปก่อนที่เราจะล็อคเป้าเขาแล้ว มันก็ยากที่เราจะตามทัน” จิตวิญญาณกระบี่พูดขึ้น พวกเขารับรู้ความเศร้าและการตัดสินใจของเจี้ยนเฉินได้ เขาถึงกับยอมรับความตาย พวกเขารู้ว่าเจี้ยนเฉินต้องลงมือฆ่า ดังนั้นพวกจึงไม่คิดจะกล่อมเขาเลยแม้แต่น้อย
เจี้ยนเฉินพยักหน้าและไม่พูดอะไรต่อ เขาทำการครุ่นคิดอีกรอบ
“ไคยะ ไม่ต้องกังวล ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าแน่นอนโดยไม่สนว่าต้องเสียอะไรไป” เจี้ยนเฉินสาบานในใจ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังที่มีต่อผู้อาวุโสภูผามหานที
หลังจากนั้นหอคอยอนัตตาก็ปรากฏขึ้นมาในมือของเขา แค่คิดเขาก็ดึงเอาซวนหมิงที่บ่มเพาะในชั้นหนึ่งออกมา
“ซวนหมิง ข้าขอโทษจริง ๆ ข้าไม่อาจจะทำตามที่เราตกลงไว้ก่อนหน้านี้ได้ ข้าต้องจบการบ่มเพาะของเจ้าในหอคอยตอนนี้” เจี้ยนเฉินขอโทษออกมา
ทันทีที่ซวนหมิงโผล่มา เขาก็พบว่าเจี้ยนเฉินผิดปกติไป เขาถามขึ้นมาด้วยความสงสัย “น้องชาย เกิดอะไรขึ้นกัน ? หากมีอะไรที่สร้างปัญหากับเจ้า เจ้าบอกข้าได้เลย บางทีข้าอาจจะช่วยได้