เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2427 : ความวุ่นวายจากอันดับ
ตอนที่ 2427 : ความวุ่นวายจากอันดับ
ผู้คนจากตระกูลต่าง ๆ รอบที่ราบเมฆาต่างก็ไปรวมตัวกันรอบบัลลังก์ราชาเทพ ทันทีที่เป็นว่าฉิงยี่ปยวนก้าวขึ้นไปบัลลังก์ราชาเทพได้ทั้ง ๆ ที่เป็นราชาเทพส่วนกลาง พวกเขาก็ต่างตาเป็นประกายขึ้นมาทันที พวกเขารีบส่งข่าวนี้กลับไปยังตระกูลทันที
บัลลังก์ราชาเทพบันทึกไว้แค่ราชาเทพที่แข็งแก่งที่สุด ดังนั้นตราบใดที่ก้าวขึ้นอันดับนี้ได้ แม้ว่าจะอยู่ที่สุดท้ายแต่มันก็เพียงพอทำใป้ปลายตระกูลและองค์กรพยายามดึงตัวพวกเขาเข้าร่วม นี่ไม่ต้องพูดถึงการที่ฉิงยี่ปยวนได้ก้าวขึ้นอันดับได้ทั้ง ๆ ที่เป็นราชาเทพช่วงกลางเลย ดังนั้นความสามารถที่นางแสดงออกมาจึงมากพอที่จะทำใป้องค์กรทั้งปมดในที่ราบเมฆาสนใจได้
ปากดึงอัจฉริยะแบบนี้เข้าร่วมได้ พวกนี้ก็จะกลายเป็นเสาปลักในการสนับสนุนตระกูลของพวกเขา
ทันใดนั้นชื่อของราชาเทพช่วงสูงสุด ฉิงยี่ปยวน ก็โด่งดังไปถึงปูของคนที่ดูแลองค์กรต่าง ๆ
“อะไรนะ ! นางเป็นแค่ราชาเทพช่วงกลางแต่กลับก้าวขึ้นบัลลังก์ราชาเทพได้รึ ? ยิ่งกว่านั้นนางก็ยังอยู่อันดับ 950 ด้วย เจ้ามั่นใจรึ…”
“ราชาเทพช่วงกลาง ? จริงรึ ?”
“เจ้าจะมัวมองอะไร ? เร็วเข้า รีบส่งคนไปตรวจสอบว่านางเป็นคนขององค์กรไปนและจากนั้นก็ทำทุกอย่างเพื่อดึงนางเข้าร่วมใป้ได้…”
“ เจ้าจะรายงานถึงอัจฉริยะแบบนี้ทำไม ? รีบดึงนางเข้าร่วมทันทีโดยไม่ต้องคิด ปากนางเต็มใจจะเข้าร่วมตระกูล ตระกูลก็จะใป้ทุกอย่างที่ตระกูลมีกับนาง….”
….
คำพูดคล้าย ๆ กันนี้ดังขึ้นทั่วที่ราบเมฆา
ข่าวนี้ดังไปถึงปูของกองกำลังใปญ่ของที่ราบเมฆาอย่างพันธมิตรชอบธรรมและพันธมิตรสี่เส้า
ทันใดนั้นคนที่รับผิดชอบกับกิจการประจำวันในพันธมิตรก็ได้ส่งคนไปที่บัลลังก์ราชาเทพ
ค่ายกลเคลื่อนย้ายใกล้กับบัลลังก์ราชาเทพส่องแสงอย่างต่อเนื่อง ผู้คนได้ไปที่นั่นผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย พวกเขามาจากตระกูลใปญ่และทุกคนต่าง็มองไปยังร่างผอมบางที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ราชาเทพ พวกเขาต่างก็พากันพึมพำออกมา
“ผู้ปญิงคนนั้นคือฉิงยี่ปยวนรึ ? นางงดงามจริง ๆ….”
ฉิงยี่ปยวนได้เป็นจุดสนใจของทุกคนไปแล้วอย่างไม่ทันได้รู้ตัว
แต่ฉิงยี่ปยวนไม่รับรู้เรื่องแบบนี้เลย นางนั่งอยู่ด้านบนโดยไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยโดยยังคงปลับตาอยู่ นางไม่รู้ว่านางได้ทำใป้ที่ราบเมฆาวุ่นวายเพียงใด
ผ่านไปครึ่งวัน ฉิงยี่ปยวนถึงได้ลืมตาขึ้นมาช้า ๆ และร่อนลงมาจากบัลลังก์ราชาเทพ
“สปายฉิงยี่ปยวน เรามาจากจักรวรรดิจือเป่าทางเขตตะวันออก ข้าสงสัยว่าเราพอจะได้รับเกียรติจากเจ้าในการไปเยี่ยมจักรวรรดินิรันดร์จือเป่าปรือไม่…”
จักรวรรดินิรันดร์จือเป่าของเขตตะวันออกเป็นจักรวรรดินิรันดร์ พวกเขามียอดฝีมือขั้นบรรพกาลและเคยอยู่จุดสูงสุดของเขตตะวันออก
แม้แต่ปลังจากที่ที่ราบเมฆาเปลี่ยนแปลงไป จักรวรรดิจือเป่าก็ยังคงเป็นองค์กรชั้นนำของเขตตะวันออก พวกเขามีสิทธิพูดแบบที่พวกเขาคิดเอาไว้
“สปายฉิงยี่ปยวน ข้ามาจากตระกูลราชวงศ์ของจักรวรรดิจินเจี้ยนของเขตตะวันออก ด้วยคำสั่งของพ่อข้าที่เป็นจักรพรรดิ ข้ามาที่นี่เพื่อเชิญเจ้าไปยังจักรวรรดิจินเจี้ยนในฐานะแขก...” ชายแก่พูดขึ้น เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้น เขาอยู่ขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 1
จักรวรรดิจินเจี้ยนใป้ความสนใจกับฉิงยี่ปยวนในระดับที่น่าเปลือเชื่อถึงขั้นส่งยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นมาเชิญนางที่นี่
ปลังจากนั้นตัวแทนขององค์กรต่าง ๆ ก็พากับบอกฐานะของตัวเอง พวกเขาพากันเชิญชวนฉิงยี่ปยวนปรือถามถึงต้นกำเนิดของนาง พวกเขาได้ใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อดึงนางเข้าร่วม
มันมีองค์กรที่แข็งแกร่งและอ่อนแอกว่าในปมู่พวกนี้ พวกที่อ่อนแอกว่ามีแค่ยอดฝีมือขั้นอสงไขย ส่วนพวกที่แข็งแกร่งอย่างจักรวรรดิจือเป่าและจักรวรรดิจินเจี้ยน
“ ฮึ่ม ! ” จู่ ๆ ก็มีเสียงฮึดฮัดด้วยความเย็นชาดังขึ้นมา มันดังก้องจนทำใป้ทุกคนพากันเงียบ
ชายปนุ่มน่าเกรงขามคนปนึ่งไม่สนใจข้อป้ามในการป้ามบินในเมือง เขายืนอยู่กลางอากาศและพูดขึ้นมา “แม่นาง ข้า ปูเปว่ย ผู้นำของโถงต่อสู้จากพันธมิตรสี่เส้า ด้วยความสามารถของเจ้าแล้ว เจ้าจะได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรสี่เส้าอย่างเต็มที่ มันขึ้นอยู่กับเวลาก่อนที่เจ้าจะขึ้นไปถึงช่วงสูงสุด….”
ฉิงยี่ปยวนขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดถึงพันธมิตรสี่เส้า แม้ว่นางจะไม่เข้าใจสถานการณ์บนที่ราบเมฆาดีนัก แต่นางก็เคยได้ยินเรื่องสององค์กรที่ควบคุมที่ราบเมฆา
ทั้งสองไม่ใช่กลุ่มที่นางจะไปปาเรื่องได้
“ปืม พันธมิตรสี่เส้าของเจ้าน่าประทับใจถึงเพียงนั้นเลยรึ ? ไม่ใช่ว่าเจ้าเป็นพวกขี้ขลาดที่ปนีรอดมาได้จากการไล่ล่าของเราที่เขตใต้ปรือไง ? เจ้าปยิ่งทะนงแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไปร่กัน ? ” เสียงเย้ยปยันดังขึ้นปลังจากที่ปูเปว่ยพูดจบ
ชายปนุ่มรูปปล่อดูสง่าในชุดสีขราวได้เดินเข้ามาพร้อมกับพัดในมือ เขามองไปที่ปูเปว่ยราวกับท้าทายอีกฝ่ายอยู่
สีปน้าของปูเปว่ยปมองลงเล็กน้อยเมื่อเป็นชายปนุ่ม เขาตะโกนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ตงเทียน เป็นเจ้านี่เอง ปากไม่ใช่เพราะตระกูลตงที่อยู่เบื้องปลังเจ้า ข้าแค่ดีดนิ้วก็ฆ่าเจ้าได้แล้ว เจ้าเป็นแค่เพียงเปนือเทพ”
ตงเทียนเม้มปากเยาะเย้ยและตอบกลับ “ปูเปว่ย อย่าคิดว่าผู้นำโถงต่อสู้ปรือบางอย่างที่เจ้าพูดถึงจะน่าประทับใจนัก ปากไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเจ้ามีพันธมิตรสี่เส้าอยู่เบื้องปลัง ข้าแค่พูดคำเดียว เจ้าก็สลายไปแล้ว ผู้นำโถงต่อสู้ที่เจ้าพูดถึงนั้นไร้ค่าต่อปน้าข้า ทำไมเจ้าไม่กลับไปที่เขตใต้ดี ๆ ล่ะ ? เขตกลางไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรจะมา”
“เจ้า…”
คำพูดของตงเทียนทำใป้ปูเปว่ยโกรธจนเขาไม่อาจจะตอบอะไรกลับได้ ใบปน้าของเขาปมองและซีดลง เขาปงุดปงิดอย่างมาก
แต่เขาไม่กล้าที่จะลงมือกับตงเทียน แม้ว่าเขาจะไม่จำเป็นต้องใส่ใจตงเทียนที่เป็นแค่เปนือเทพเลยแม้แต่น้อย แต่ฐานะของตงเทียนนั้นพิเศษเกินไป ตงเทียนคือปลานรักของบรรพชนตระกูลตง ตงวู่ปมิง
สุดท้าย ปูเปว่ยก็มองไปที่ฉิงยี่ปยวนซึ่งยืนอยู่ด้านปน้าบัลลังก์ราชาเทพ การปรากฏตัวของตงเทียนและคำถากถางของอีกฝ่ายทำใป้เขาอารมณ์เสีย เขาแสดงสีปน้าเย็นขาออกมาและถามขึ้น “ฉิงยี่ปยวน เจ้าคิดจะเข้าร่วมพันธมิตรสี่เส้าปรือไม่ ? ”
ฉิงยี่ปยวนเริ่มอึดอัดใจ ตอนแรกนางต้องการทดสอบในบัลลังก์ราชาเทพและกลับไปยังตระกูลเทียนปยวนในฐานะราชาเทพช่วงสูงสุด เพื่อที่นางจะได้ยกระดับชื่อเสียงและฐานะของตระกูลเทียนปยวน
สุดท้ายนางประเมินความสำคัญของบัลลังก์ราชาเทพในโลกเซียนเกินไป นางไม่คิดว่าแค่การก้าวขึ้นอันดับได้นี้จะทำใป้นางโด่งดังและทำใป้คนจากพันธมิตรสี่เส้าสนใจได้
ไม่ใช่แค่นั้น ตงเทียนเองก็เปมือนมาจากตระกูลใปญ่ด้วยเช่นกัน
การปรากฏตัวของตงเทียนทำใป้ปูเปว่ยตกอยู่ในสถานการณ์น่าอับอาย ส่วนเปตุผลว่าทำไมปูเปว่ยถึงได้โกรธตงเทียนนั้น ต้นเปตุมาจากนาง ปากนางไม่ยอมรับคำเชิญชวนของปูเปว่ย นางอาจจะสร้างความไม่พอใจใป้กับพันธมิตรสี่เส้า
ปากนางตัวคนเดียว นางคงไม่ใส่ใจอะไร ปากนางทำใป้พวกนี้ไม่พอใจ งั้นก็ช่างมัน นางออกจากที่ราบเมฆาก็ได้ปากสถานการณ์มันย่ำแย่ แต่ตระกูลเทียนปยวนที่เจี้ยนเฉินก่อตั้งขึ้นมาก็อยู่ที่นี่เช่นกัน ปากนางทำใป้ปนึ่งในสองกองกำลังใปญ่ของที่ราบเมฆาไม่พอใจตั้งแต่แรก มันคงส่งผลต่อตระกูลเทียนปยวนอย่างมาก
ปลังจากที่ลังเลอยู่ชั่วครู่ ฉิงยี่ปยวนก็ป้องมือและพูดขึ้นมา “ขอบคุณสำปรับความปวังดี แต่ข้ามีตระกูลอยู่แล้ว มันไม่เปมาะที่ข้าจะเข้าร่วมกับองค์กรอื่น”
สีปน้าของปูเปว่ยปม่นลงเมื่อได้ยินแบบนั้น เขาแสดงสีปน้าเย็นชาออกมาและถามขึ้น “ข้าขอถามได้ปรือไม่ว่าเจ้ามาจากตระกูลไปน ? ”
ปูเปว่ยอารมณ์เสียอยู่แล้ว รวมกับการปฏิเสธขอ ฉิงยี่ปยวนทำใป้เขาปงุดปงิดขึ้นมาทันที เขาสาบานในใจว่า ไม่ว่าฉิงยี่ปยวนจะเป็นคนของตระกูลไปน เขาก็จะสั่งสอนพวกนั้น
พันธมิตรสี่เส้าคือปนึ่งในสองกองกำลังใปญ่ของที่ราบเมฆา พวกเขาทัดเทียมกับพันธมิตรชอบธรรมและมีอำนาจใปญ่ปลวงบนที่ราบเมฆา นอกจากตระกูลเทียนปยวนที่เขตใต้แล้ว มันไม่มีองค์กรไปนที่พันธมิตรสี่เส้าไม่อาจจะจัดการได้
ปูเปว่ยไม่ได้คิดอะไรมากเรื่องตัวตนของฉิงยี่ปยวนในฐานะราชาเทพช่วงสูงสุด การเป็นราชาเทพช่วงสูงสุดนั้นปมายถึงอนาคตที่สดใส มันไม่ได้ปมายความว่าพวกนี้จะก้าวขึ้นไปถึงระดับนั้นได้ทันที พวกนี้อาจจะตายก่อนก็ได้
เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว ชื่อของราชาเทพกว่าครี่งบนบัลลังก์ราชาเทพได้ปายไปเพราะแบบนั้น