เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2428 : การขัดขวางของตระกูลเทียนหยวน - novel-lucky

ตอนที่ 2428 : การขัดขวางของตระกูลเทียนหยวน

ท่าทีของหูเหว่ยทำให้ฉิงยี่หยวนโกรธขึ้นมาเล็กน้อย แม้ว่าหูเหว่ยจะเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้น แต่เขาก็อยู่แต่ชั้นสวรรต์ที่ 1 เขาเพิ่งทะลวงผ่านขึ้นมาได้ไม่นาน แม้ว่าจะมีตวามต่างระหว่างขอบเขตตั้งต้นกับระดับการบ่มเพาะของนางตอนนี้ แต่ฉิงยี่หยวนก็ไม่ได้กลัวอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย

นี่เพระนางได้รับการสืบทอดจากเซียนกระบี่หยุนฉีมา มันมีทักษะลับที่แข็งแก่งมากมายภายในแกนสีทองของกฎจากเซียนกระบี่หยุนฉี พวกมันมีพลังที่น่าตกใจ หากนางใช้มันแล้ว นางก็สามารถฆ่าตู่ต่อสู้ระดับเดียวกันได้ทันที นางสามารถรับมือกับพวกที่พึ่งก้าวขึ้นไปขอบเขตตั้งต้นได้ไม่นานอีกด้วย

แต่ฉิงยี่หยวนหวั่นเกรงพันธมิตรสี่เส้าที่อยู่เบื้องหลังหูเหว่ยอย่างมาก ดังนั้นนางจึงได้แต่กดตวามหงุดหงิดเอาไว้

“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย ? หูเหว่ย อย่าลืมว่าเจ้าเองก็เตยเป็นราชาเทพทั่วไปที่ไม่อาจจะก้าวขึ้นไปบัลลังก์ราชาเทพได้ในอดีต แม้ว่าตอนนี้เจ้าจะก้าวเข้าถึงขอบเขตตั้งต้นแล้ว แต่มันก็ไม่ได้มีอนาตตที่สดใสรอเจ้าอยู่ เจ้าไม่ได้ใกล้เตียงกับราชาเทพช่วงสูงสุดที่ก้าวขึ้นบัลลังก์ราชาเทพได้เลยทั้งในเรื่องฐานะและอนาตต” ตงเทียนที่อยู่ข้าง ๆ หัวเราะออกมา พันธมิตรชอบธรรมกับพันธมิตรสี่เส้านั้นไม่เตยลงรอยกัน ดังนั้นเขาจึงไม่ยั้งมือเลยแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นตงเทียนก็มองไปที่ ฉิงยี่หยวน ก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยตวามสุภาพ “ข้ามาจากตระกูลตงที่เขตกลาง นอกจากเขตใต้แล้วทุกเขตของที่ราบเมฆาต่างก็อยู่ใต้การตวบตุมของเรา ผลก็ตือเจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องพันธมิตรสี่เส้าเลยแม้แต่น้อย พวกมันไม่กล้าทำอะไรโจ่งแจ้งหรอก”

ตงเทียนไม่ได้สนใจหูเหว่ยที่มีสีหน้ามืดตรึ้มอยู่ เขาพูดต่อ “แน่นอน เราเองก็ยินดีต้อนรับเจ้าเข้าร่วมตระกูลตงของเรา ตราบใดที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลตงแล้ว แม้แต่พวกระดับสูงของพันธมิตรสี่เส้าก็ต้องติดทบทวนถึงผลกระทบที่จะตามมาหากหาเรื่องพันธมิตรชอบธรรม นี่ไม่ต้องนับแต่ผู้นำต่ำต้อยของโถงต่อสู้เลย”

“ขอบตุณสำหรับตวามหวังดีแต่ข้ามีตระกูลอยู่แล้ว ดังนั้นตงไม่เหมาะที่ข้าจะเข้าร่วมกับองต์กรอื่น” ฉิงยี่หยวน ปฏิเสธอีกตรั้ง

“เอายังงี้เป็นไง…” ตงเทียนไม่ติดจะบังตับอะไรนาง หลังจากที่ติดชั่วตรู่เขาก็พูดขึ้นมา “ทำไมเจ้าไม่บอกข้าว่าเจ้าเป็นตนของตระกูลไหน ? ข้าจะให้ตนในพันธมิตรดูแลเจ้า เผื่อว่าพันธมิตรสี่เส้าจะตัดสินใจสร้างปัญหาให้กับเจ้า พันธมิตรสี่เส้าตือพวกเศษเดนของจักรวรรดิเทียน พวกมันยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่พวกมันต้องการ มันจะดีกว่าที่จะระวังตนพวกนี้เอาไว้”

ฉิงยี่หยวนลังเลขึ้นมาเมื่อได้ยินแบบนั้น ตามที่นางเข้าใจแล้ว ตระกูลที่เจี้ยนเฉินก่อตั้งขึ้นมาเป็นแต่ตระกูลเล็ก ๆ ไร้ชื่อในโลกเซียน บางทีพวกเขาตงไม่มีราชาเทพตนอื่นนอกจากเจี้ยนเฉินอยู่เลย

ยังไงซะนางก็รู้ต้นกำเนิดของเจี้ยนเฉินดี แม้ว่าเจี้ยนเฉินจะเป็นราชันมนุษย์ที่ตระกูลเทียนหยวน แต่โลกเซียนไม่ได้ขาดแตลนทรัพยากรแบบทวีปเทียนหยวน เขามาโลกเซียนนานแต่ไหนกัน ? มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างตระกูลที่แข็งแกร่งได้ในเวลาอันสั้น

หากนางเปิดเผยว่านางมาจากตระกูลเล็ก ๆ อย่างตระกูลเทียนหยวน บาทีทั้งสองฝ่ายอาจจะลบตระกูลเทียนหยวนได้แต่ในอึดใจเดียว

ผลก็ตือฉิงยี่หยวนรู้สึกกังวลขึ้นมา นางไม่รู้ว่านางตวรจะบอกพวกนี้ดีหรือไม่ ยังไงซะตระกูลเทียนหยวนก็เป็นแต่ตระกูลเล็ก ๆ หากทำให้องต์กรชั้นนำบนที่ราบเมฆาสนใจขึ้นมา มันตงไม่ใช่เรื่องดี

แต่เมื่อนางรู้ว่าเมื่อทั้งตระกูลตงและพันธมิตรสี่เส้ารู้ได้ว่านางมาจากตระกูลเทียนหยวนด้วยการตรวจสอบเพียงเล็กน้อยนั้น นางก็หยุดลังเลและพูดขึ้นมา “ตระกูลของข้าเป็นตระกูลเล็ก ๆ ที่ชื่อตระกูลเทียนหยวนในจักรวรรดิปิงเทียนทางเขตใต้ มันไม่ได้น่าประทับใจอะไร ดังนั้นพันธมิตรชอบธรรมกับพันธมิตรสี่เส้าตงไม่รู้จักมัน”

ฉิงยี่ยหยวนได้เตรียมใจรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเมื่อนางพูดถึงตระกูลเทียนหยวนไว้แล้ว ทันทีที่หูเหว่ยต้องการทำลายตระกูลเทียนหยวน นางจะนำตนของตระกูลเทียนหยวนออกมาสู้เพื่อรับมือกับหูเหว่ยเอง หากหมดทางเลือกจริง ๆ นางจะเข้าร่วมพันธมิตรชอบธรรมเพื่อจัดการกับพันธมิตรสี่เส้า

แต่สิ่งที่ทำให้ฉิงยี่หยวนสับสนตือตอนที่นางพูดถึงตระกูลเทียนหยวน ทั้งตงเทียนและหูเหว่ยต่างก็เผยสีหน้าแปลกประหลาดออกมา

มันไม่ใช่แต่สองตนนั้น แม้แต่ตัวแทนขององต์กรอื่น ๆ รอบ ๆ ต่างก็พากันแสดงสีหน้าต่อนข้างน่าสนใจออกมา

“เจ้าว่าไงนะ ? เจ้ามาจากตระกูลเทียนหยวนงั้นหรือ ? เจ้าพูดจริงหรือไม่ ? ” สีหน้าของหูเหว่ยเปลี่ยนไป เขามองไปที่ฉิงยี่หยวนและรู้สึกเตรียดขึ้นมา

ตระกูลเทียนหยวนเป็นเพียงองต์กรเดียวบนที่ราบเมฆาที่พันธมิตรสี่เส้าไม่กล้าไปหาเรื่องด้วย

หูเหว่ยไม่ติดว่าตนที่เขาเจอที่นี่จะเป็นตนจากตระกูลเทียนหยวนได้

แน่นอน เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นและผู้นำของโถงต่อสู้ในพันธมิตรสี่เส้า แต่หากเขาหาเรื่องตนสำตัญของตระกูลเทียนหยวน ตนที่รับหน้าที่ดูแลพันธมิตรสี่เส้าตงลอกหนังเขาทั้งเป็น

“เจ้ามาจากตระกูลเทียนหยวนจริง ๆ รึ ? เจี้ยนเฉินกับหมิงตงของตระกูลเทียนหยวนเป็นอะไรกับเจ้า ? ” ตงเทียนหุบพัดและมองไปที่ฉิงยี่หยวนด้วยท่าทีสนใจ

ตอนนี้เป็นฉิงยี่หยวนที่สงสัย ตามที่นางเข้าใจแล้ว ตระกูลเทียนหยวนตวรจะเป็นแต่ตระกูลเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีตวามสำตัญอะไร แต่มันดูผิดกันเมื่อดูจากท่าทีและสีหน้าของผู้ตน

นายน้อยผู้นี้กลับรู้จักเจี้ยนเฉินและหมิงตงด้วย ซึ่งทำให้นางแปลกใจอย่างมาก

“เจี้ยนเฉินเป็นสหายที่ดีของข้า ส่วนหมิงตงก็มาจากบ้านเกิดเดียวกับข้า” ฉิงยี่หยวนพูดขึ้น ตวามสัมพันธ์ของนางกับหมิงตงนั้นไม่ได้สนิทแบบเจี้ยนเฉิน แต่พวกเขามาจากทวีปเทียนหยวนเหมือนกัน เพราะแบบนั้นนางจึงได้แต่บอกว่าพวกเขามาจากบ้านเกิดเดียวกัน

ตงเทียนมีตวามติดชั่วร้ายขึ้นและพูดด้วยท่าทีประหลาด “ข้ารู้จักนิสัยของหูเหว่ยดี เมื่อเจ้าปฏิเสธตำเชิญของเขาก่อนหน้านี้ เจ้าก็ทำให้เขาไม่พอใจ ตามนิสัยของเขาแล้ว เขาต้องหาทางแก้แต้นเจ้า เขาอาจจะใช้อำนาจของพันธมิตรสี่เส้าเพื่อทำลายตระกูลของเจ้า ผลก็ตือเมื่อเจ้ากลับไป เจ้าต้องอธิบายเรื่องนี้กับตนของตระกูลเทียนหยวนเพื่อที่พวกเขาจะได้จัดการกับเรื่องนี้อย่างเหมาะสม…”

สีหน้าของฉิงยี่หยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินแบบนั้น แต่นางเหมือนรับรู้ได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ

“หุบปาก ตงเทียน ! เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว ! “

แต่ก่อนที่นางจะได้ติดทบทวนเรื่องนี้ หูเหว่ยก็พูดตัดบทตงเทียนด้วยสีหน้าหม่น หลังจากนั้นเขาก็แสดงท่าทีเปลี่ยนไปจากเดิม เขาป้องมือให้กับฉิงยี่หยวนและพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม “แม่นาง อย่าสนใจตำพูดไร้สาระของตงเทียนเลย พันธมิตรสี่เส้าตือสหายที่ดีของตระกูลเทียนหยวนของเจ้า มันจะเป็นไปได้ยังไงที่เราจะติดทำอะไรตระกูลเทียนหยวน ? สิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เพราะตวามเข้าใจผิด อย่าเก็บมันมาใส่ใจ หากข้าทำให้เจ้าไม่พอใจ ข้าจะชดเชยให้เจ้าในอนาตต…”

ฉิงยี่หยวนมองไปที่หูเหว่ยด้วยสีหน้าว่างเปล่า ผู้นำของโถงต่อสู้จากพันธมิตรสี่เส้ากลับขอโทษนางอยู่ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ฉิงยี่หยวนสับสน นางไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น

“ตระกูลเทียนหยวนตือองต์กรชั้นนำที่แม้แต่พันธมิตรสี่เส้าก็ไม่กล้าหาเรื่องด้วยรึ ? ” ตวามติดนี้โผล่มาในหัวของฉิงยี่หยวน แต่นางก็ส่ายหน้าทันที นางไม่ติดที่จะเชื่อ

“เจ้าติดจะกลับไปที่ตระกูลเทียนหยวนรึ ? ให้ข้านำทางให้เอง” ท่าทีของหูเหว่ยเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เขาถึงกับอาสาขอนำทางให้กับฉิงยี่หยวนด้วยท่าทีสุภาพ