เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2429 : คืนหอคอยอนัตตา
ตอนที่ 2429 : คืนหอคอยอนัตตา
หลังจากนั้นฉิงยี่หยวนที่เต็มไปด้วยความสงสัยก็มุ่งหน้ากลับไปที่เขตใต้ด้วยค่ายกลเคลื่อนย้ายโดยมีหูเหว่ยคอยดูแลอย่างดี
ในเวลาเดียวกันบนที่ราบรุ่งโรจน์ไกลออกไป เจี้ยนเฉินได้ยืนอยู่ใต้บัลลังก์ราชาเทพและมองไปที่ชื่อของฉิงยี่หยวนอยู่เงียบ ๆ พร้อมกับครุ่นคิด
เขาเข้าใจว่าตั้งแต่ตอนที่นางได้รับมรดกของเซียนกระบี่หยุนฉีมา นางก็เริ่มยกระดับขึ้น
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่านางจะประสบความสำเร็จมากแค่ไหนในอนาคต แต่มันก็ต้องมากกว่านี้แน่
เจี้ยนเฉินสลัดความคิดทั้งหมดทิ้งและไม่สนใจบัลลังก์ราชาเทพอีกต่อไป เขาหันกลับและเดินหายไปในฝูงชน หากไม่ใช่เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นที่ที่ราบประกายดาว และ ไคยะ ยังอยู่ เขาอาจจะดีใจกับ ฉิงยี่หยวน แต่ที่เขารู้สึกตอนนี้มีแค่ความโกรธแค้นและเกลียดชัง เขาไม่อาจจะสลัดความรู้สึกนี้ได้เลย
เจี้ยนเฉินไม่ได้รีบไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงที่อยู่เขตกลางที่ราบรุ่งโรจน์ เขาเลือกที่จะหาบ้านพักในเมืองอันคึกคักนี้ก่อน
บ้านนี้ค่อนขางใหญ่และครอบคลุมด้วยค่ายกลซึ่งทำให้มันแข็งแกร่งอย่างมาก เจี้ยนเฉินเช่ามันด้วยเหรียญผลึกห้าสี
ห้องลับนี้อยู่ใต้ดินของบ้าน เจี้ยนเฉินได้ใช้ค่ายกลทั้หมดในบ้านและเข้าไปนั่งในห้องลับ
หอคอยอนัตตาที่เสียหายปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา รอยฟันของกระบี่ยังคงโดดเด่นเช่นเคย
เจี้ยนเฉินนั่งลงและมองไปที่หอคอยอนัตตา
หอคอยอนัตตานี้ได้มาจากดินแดนทะเลในโลกของทวีปเทียนหยวน เขาได้เผชิญกับภัยพิบัติมากมายตลอดทางและมีหลายครั้งที่ได้หอคอยอนัตตาช่วยเอาไว้
ในอีกความหมายคือเขาคงมาไม่ถึงวันนี้หากไม่ใช่เพราะหอคอยอนัตตา
ผลก็คือเขารู้สึกผูกพันกับหอคอยอนัตตา
แต่ตอนนี้หอคอยอนัตตากำลังจะจากเขาไป
แต่เจี้ยนเฉินไม่เต็มใจกับการจากมัน หอคอยอนัตตานี้แข็งแกร่ง แต่มันได้รับความเสียหายซึ่งยากที่จะซ่อมแซมได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปลดปล่อยพลังทั้งหมดของมันออกมา เมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาในอนาคต ความช่วยเหลือที่หอคอยอนัตตาให้ได้ก็มีแต่จะลดลง
ยิ่งกว่านั้นหอคอยอนัตตาก็คือของที่หลายคนหมายตา มันทำให้เขามีปัญหาในช่วงหลายปีมานี้ รวมถึงความจริงที่ว่าไคยะต้องตายก็เพราะมัน
นี่เป็นหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่รู้สึกไม่เต็มใจกับการคืนหอคอยอนัตตาให้กับพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง
“สิ่งที่ล้ำค่าที่สุดเกี่ยวกับหอคอยอนัตตาคือรอยฟันนี่ รอยฟันเหล่นี้ถูกทิ้งไว้โดยยอดฝีมือระดับสูงของโลกอมตะในอดีต นิพพานอมตะเที่ยงแท้ ทุกรอยฟันต่างก็มีเจตจำนงของกระบี่ หากข้าเข้าใจมันได้เพียงเศษเสี้ยว ข้าก็จะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน” เจี้ยนเฉินคิด เขามองไปที่รอยฟันเหล่านั้นอยู่สักพักก่อนจะเข้าไปในหอคอยอนัตตา
หอคอยอนัตตามีทั้งหมด 9 ชั้น ทั้ง 9 ชั้นเหมือนกับโลก 9 ใบ แต่ละโลกได้รับความเสียหาย ปราณกระบี่ยาวหลายหมื่นเมตรลอยอยู่ในสุดขอบโลกในส่วนมิติที่แตกสลาย กันไม่ให้โลกทั้งเก้าใบฟื้นฟูตัวเองได้
เจี้ยนเฉินได้ไปที่ปลายขอบโลกที่ชั้น 1 ตรงหน้าเขามีแต่ความมืดมิด มันคือโลกที่ถูกทำลายไปแล้ว
เขานั่งลงและหลับตาเริ่มพยายามทำความเข้าใจปราณกระบี่ที่นิพพานอมตะเที่ยงแท้ทิ้งเอาไว้
ในอดีตนั้นเขาไม่อาจจะทำความเข้าใจปราณกระบี่ได้เพราะความแข็งแกร่งและการบ่มเพาะที่จำกัด แต่ตอนนี้เขาเป็นถึงอมตะกระบี่รวมถึงเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้นแล้ว หอคอยอนัตตานี้กำลังจะจากเขาไป ดังนั้นเขาจึงอยากทดสอบเป็นครั้งสุดท้าย
แต่ไม่นานร่างของเจี้ยนเฉินก็สั่นไหว ใบหน้าเขาเริ่มซีด เขาลืมตาขึ้นและมองไปที่ปราณกระบี่ของนิพพานอมตะเที่ยงแท้ด้วยความรู้สึกซับซ้อน เขาถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง
นิพพานอมตะเที่ยงแท้ แข็งแกร่งเกินไป ทันทีที่เจี้ยนเฉินทดสอบทำความเข้าใจมัน เขาก็รู้สึกได้ว่าปราณกระบี่นั้นมีชีวิตและทิ่มแทงวิญญาณของเขาจนทำให้หัวเขาราวกับโดนผ่าออก มันราวกับว่าวิญญาณของเขาจะถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ
“ยังไม่ได้ผล ข้าอาจจะต้องไปถึงขั้นปราชญ์กระบี่เป็นอย่างน้อยเพื่อจะเข้าใจปราณกระบี่นี่ ยังไงซะปราณกระบี่พวกนี้ก็เป็นของที่นิพพานอมตะเที่ยงแท้ทิ้งไว้เอาไว้ซึ่งใช้เพื่อสยบและฆ่าฟัน ปราณทุกอันมีพลังโจมตีที่สูงส่ง มันไม่ได้นุ่มนวลแบบตราประทับที่ใช้ส่งต่อกฎ” เจี้ยนเฉินรู้สึกเสียดายอย่างมาก เขาเพิ่งทะลวงผ่านขึ้นเป็นอมตะกระบี่ไม่นานมานี้ ดังนั้นจึงอีกห่างไกลกว่าที่เขาจะก้าวขึ้นไปเป็นปราชญ์กระบี่ได้
หลังจากนั้นเขาก็ไปที่ชั้น 9 และเก็บหยกชะตาที่นั่น สุดท้ายเขาก็ออกจากหอคอยอนัตตาที่ว่างเปล่าก่อนจะมุ่งหน้าไปที่เขตกลางของที่ราบรุ่งโรจน์ผ่านค่ายกลเคลื่อนย้าย
เขตกลางนี้คือที่ที่พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงตั้งอยู่
พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงมีสิทธิสูงสุดบนที่ราบรุ่งโรจน์ ไม่มีใครกล้าหาเรื่องพวกเขา ผู้คนต่างก็ถือว่าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงนั้นสูงส่งที่สุด
เจี้ยนเฉินได้ไปถึงตรงหน้าพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงในวันนั้น มองจากไกล ๆ แล้วเขาเห็นโถงสีทองที่ดูคุ้นตา
โถงแห่งนี้ราวกับสูงจนถึงท้องฟ้า ความสง่าของมันทำให้วิถีในโลกนี้วนรอบตัวมัน ผลก็อคือโถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้เหมือนกับเป็นตัวตนเดียวในโลก
“นี่คือพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงรึ ?มันเหมือนกับภาพฉายของโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าเห็นที่ชั้น 9 ในอดีต” เจี้ยนเฉินรู้สึกตกตะลึงเมื่อเห็นโถงศักดิ์สิทธิ์ตรงหน้า เขาเป็นยอดฝีมือขอบเขตตั้งต้น ดังนั้นการรับรู้ของเขาจึงเฉียบคมอย่างมาก ไม่ใช่แค่เขารู้สึกได้ว่าตัวเองต่ำต้อยเมื่อยืนอยู่ตรงหน้าโถงศักดิ์สิทธิ์ แต่เขายังต้องแปลกใจว่าเมื่อเข้าโถงแห่งนี้ ความเข้าใจและความสามารถในการรับรู้วิถีแห่งกระบี่เริ่มอ่อนแอลง
มันราวกับว่าตัวตนของโถงศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้สยบทุกวิถีเอาไว้ ซึ่งไม่มีผู้บ่มเพาะคนไหนที่สามารถใช้วิถีที่ตัวเองเข้าใจได้ดั่งเก่า
“บอกตัวตนของเจ้ามา ! ” ตอนนั้นเองก็มีแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ในชุดเกราะทองปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า เจี้ยนเฉิน ขวางทางเขาเอาไว้
แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้เป็นราชาเทพ แต่พลังที่เขาแผ่ออกมานั้นแข็งแกร่งไม่ได้อ่อนแอกว่าราชาเทพช่วงสูงสุดจากบัลลังก์ราชาเทพเลย
พระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงคือหนึ่งในองค์กรที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเซียน ใครจะไปรู้ว่ามียอดฝีมือมากแค่ไหนกันที่ต้องการจะเข้าร่วมพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงในโลกเซียนแห่งนี้ แม้ว่าจะเป็นแค่แม่ทัพศักดิ์สิทธิ์แต่ก็ถือว่าเป็นเกียรติแล้ว
ผลก็คือแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์ทุกคนของพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงถูกเลือกมาจากอัจฉริยะนับไม่ถ้วน ทุกคนต่างก็มีพลังต่อสู้ที่ล้นหลามเมื่อรวมกับการดูแลจากพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิง พวกเขาก็ถือได้ว่าไร้เทียมทานในหมู่ผู้บ่มเพาะระดับเดียวกัน
“ข้ามาคืนหอคอยอนัตตา” เจี้ยนเฉินดึงเอาหอคอยอนัตตาออกมา
สายตาของแม่ทัพศักดิ์สิทธิ์หรี่ลงเมื่อเห็นหอคอยอนัตตาในมือของเจี้ยนเฉิน เขามองไปที่เจี้ยนเฉินและพูดขึ้น “มากับข้า ข้าจะพาเจ้าไปหาท่านบิเชิง”