เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2435 : การก่อกวนไม่รู้จบ
ตอนที่ 2435 : การก่อกวนไม่รู้จบ
แต่เรื่องมันไม่จบแค่นั้น หลังจากที่เจี้ยนเฉินเปิดเผยตัวตนแล้ว หานซินก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก สถานะของเขาในโถงเซียนธาตุแสงตกต่ำลงทุกวัน ราชาเทพธาตุแสงหลายคนที่เคยเป็นมิตรกับเขาต่างก็พากันหลบหน้าเขา พวกนั้นอยู่ห่างจากเขาให้ได้มากที่สุดราวกับว่าเขาเป็นเทพแห่งภัยพิบัติ
บางครั้งราชาเทพธาตุแสงที่ไม่ถูกกับหานซินในอดีตจะมายังยอดเขาทะยานเมฆเพื่อหาเรื่องเขา พวกนั้นจะทำการเยาะเย้ยและไม่มีท่าทีเคารพต่อเขาเลยแม้แต่น้อย
นั่นเพราะในสายตาของหลาคนนั้น หานซินได้กลายเป็นผู้ร้ายของโถงเซียนธาตุแสงไปแล้ว การรับสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณเข้ามาถือว่าเป็นความผิดที่อาจจะโดนลงโทษถึงตายได้โดยโถงเซียนธาตุแสง แม้ว่าหานซินจะไม่รู้เรื่องใด ๆ แต่เขาก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการลงโทษได้
แต่ผู้นำของโถงเซียนธาตุไม่เคยเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงยังเป็นผู้นำยอดเขาทะยานเมฆอยู่ แต่ทุกคนเชื่อว่าวันที่หานซินจะถูกตัดสินนั้นจะมาถึงในไม่ช้า
ตอนนั้นการรับรู้วิญญาณอันแข็งแกร่งได้กวาดผ่านเข้ามาและส่งต่อข้อความที่ราชาเทพธาตุแสงทุกคนได้รับ หานซินตาเป็นประกายขึ้นมาก่อนที่มันจะหม่นลงอีกครั้ง เขาพึมพำออกมา “กระบี่ผู้พิทักษ์ ? มันเกี่ยวข้องอะไรกับข้า ? ” หานซินหมดความสนใจทันที เขารู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์มา
แต่หลังจากที่ลังเลได้ชั่วครู่เขาก็พูดขึ้นมา “ไป๋หยู ออกมานี่ ! ”
ไม่นาน ไป๋หยูในชุดสีขาวก็มาถึงที่ยอดเขาด้วยพลังเซียนธาตุแสง นางยืนอยูด้านหลังหานซินและโค้งให้ “คำนับอาจารย์”
ไป๋หยูยังงดงามเช่นเคย ชุดสีขาวพันรอบตัวของนางพอดีกับรูปร่างนางดี ผมสีดำยาวพัดไปตามลมซึ่งทำให้นางดูสง่าอย่างมาก
ปัญหาเดียวคือใบหน้าของนางเหมือนจะแสดงความกังวลออกมาเล็กน้อย ซึ่งทำให้นางดูหม่นหมองกว่าแต่ก่อน
ฐานะของยอดเขาทะยานเมฆในโถงเซียนธาตุแสงนั้นลดลงเพราะเจี้ยนเฉิน ไป๋หยูเองก็ได้รับกระทบไปด้วย ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องง่ายต่อนางเช่นกัน
จากบรรดาศิษย์สามคนของยอดเขาทะยานเมฆ นางเป็นคนเดียวที่ยังอยู่
“ไป๋หยู ข้าเพิ่งได้รับข้อความจากผู้อาวุโสว่ากระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งเก้าเล่มได้ปรากฏขึ้นในหอคอยธาตุแสง คนที่ได้รับมันจะก้าวขึ้นไปเป็นยอดฝีมือระดับสูง เจ้าลองไปทดสอบดูได้” หานซินพูดขึ้นมา
“อาจารย์ พรสวรรค์ของข้าไม่ได้สูงส่ง ข้าอาจจะไม่มีสิทธิได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์มา” ไป๋หยูพูดขึ้น นางไม่ได้ดูดีใจเลยแม้แต่น้อย
“ไป๋หยู อย่าดูถูกตนเองเกินไป มันมีคนไม่มากที่กลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาด้วยแก่นวิญญาณสองสีได้”
ไป๋หยูถอนหายใจออกมาเมื่อได้ยินแบบนั้น สีหน้านางหมองลง มีแค่นางที่เข้าใจว่าพรสวรรค์ของนางไม่ได้สูงส่ง นางขึ้นเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาได้เร็วแบบนี้เพราะศิษย์พี่รอง
นางเข้าใจกฎแห่งศรัทธาจากศิษย์พี่รองและกลายเป็นเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาได้ แต่ตั้งแต่ที่ศิษย์พี่รองจากไป ความก้าวหน้าของนางก็น้อยนิดหากเทียบกับในอดีตตอนที่นางมีศิษย์พี่รองคอยช่วย
มันอาจจะบอกได้ว่ามันไม่ก้าวหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย
“ไปซะ เจ้าคือเกียรติของยอดเขาทะยานเมฆ หากเจ้าได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์มา สถานะของเราก็จะเพิ่มขึ้น เราจะไม่ต้องกังวลเรื่องการก่อกวนจากคนอื่น ๆ อีกต่อไป” หานซินให้กำลังใจ
“เจ้าค่ะ อาจารย์” ไป๋หยู ได้แต่ตกลงเมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียวของ หานซิน แม้ว่านางอาจจะทำให้เขาผิดหวังก็ตาม
นางไม่ได้คิดถึงกระบี่ทั้งเก้าเพราะนางรู้ว่ามันคงเป็นไปไม่ได้สำหรับนาง
ตระกูลตงหลินคือหนึ่งในองค์กรชั้นนำของที่ราบรกร้างแต่พวกเขาเป็นพวกที่อ่อนแอที่สุด
นี่เพราะบรรพชนตระกูลตงหลิน ตงหลินเค่อ นั้นเป็นอัครสูงสุดที่ซึ่งเพิ่งทะลวงผ่านมาได้ไม่นาน เขาเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 ในตอนนี้
แต่แม้ว่าจะเป็นแบบนั้นแต่ตระกูลตงหลินก็ยังมีอำนาจอยู่บ้างบนที่ราบรกร้าง
ตอนนี้ตงหลินหยานเซว่นั่งอยู่ในศาลาภายในส่วนที่ตระกูลตงหลิน นางเล่นพิณที่ถูกวางไว้ที่โต๊ะหินตรงหน้านาง
ย้อนกลับไปแล้วตอนที่ตัวตนของเจี้ยนเฉินเปิดเผยออกมา บรรพชนตระกูลตงหลินอย่างตงหลินเค่อได้ดึงตงหลินหยานเซว่ออกมาจากโถงเซียนธาตุแสง นางยังไม่ได้กลับไปยังโถงเซียนธาตุแสงตั้งแต่บัดนั้น
เพราะมันไม่เคยมีการตัดสินอย่างเป็นทางการ และผู้นำของโถงเซียนธาตุแสงก็ไม่ได้ยกเลิกฐานะเซียนผู้ถูกเลือกของนาง นางจึงยังเป็นเซียนผู้ถูกเลือกของโถงเซียนธาตุแสงอยู่
ตอนนั้นมีชายวัยกลางคนเดินเข้ามา เขามองไปที่ตงหลินหยานเซว่และพูดขึ้น “หยานเซว่ อาจารย์ของเจ้าส่งข้อความมาหาข้า นางบอกว่าพบโชคครั้งใหญ่ในโถงเซียนธาตุแสงและนางต้องการให้เจ้าไปที่นั่นทันที” ชายวัยกลางคนนี้คือพ่อของตงหลินหยานเซว่ ตงหลินเซียง
ตงหลินหยานเซว่หยุดเล่นพิณของนาง นางเหมือนจะสงสัยและถามขึ้นมา “โชคครั้งใหญ่รึ ? ท่านพ่อ บอกข้ามาว่ามันเป็นยังไง”
“ข้าเองก็ไม่รู้รายละเอียดเช่นกัน แต่อาจารย์ของเจ้า มู่ชุ่ย บอกว่ามันไม่ได้ส่งผลเสียต่อเจ้า มันจะดีกว่าหากเจ้าไปที่นั่น ตระกูลจะคอยหนุนหลังเจ้า ดังนั้นโถงเซียนธาตุแสงจะไม่ทำอะไรกับเจ้า” ตงหลินเซียงพูดขึ้นมา
เมื่อได้ยินแบบนั้น ตงหลินหยานเซว่ก็ลุกขึ้นยืน นางเก็บพิณไปและค่อย ๆ เดินออกจากศาลาไป ตอนที่นางเดินผ่านพ่อของนาง นางก็หยุดและถามขึ้นมาหลังจากที่ลังเลเล็กน้อย “ท่านพ่อ ข้าคนเดียวที่ช่วยเจี้ยนเฉินหนีไป ซึ่งเป็นการทำให้โถงเซียนธาตุแสงไม่พอใจ ดังนั้นแล้วทำไมตระกูลถึงไม่ถือโทษข้าเลยแม้แต่น้อย ? ”
ตงหลินเซียงหัวเราะออกมาและพูดขึ้น “การปกป้องเจ้าคือจุดประสงค์ของบรรพชน บรรพชนไม่ได้มองแบบคนอื่น เขาบอกไว้นานแล้วว่าเจี้ยนเฉินคือคนที่โดดเด่น เจ้าทำได้แค่เป็นมิตรกับคนแบบนั้น อย่าให้เขาไม่พอใจ ผลก็คือบรรพชนจึงไม่โทษเจ้าเมื่อเจ้าช่วยเจี้ยนเฉินหนี กลับกันแล้วเขากลับชมเจ้าแทน”
“นี่เพราะเจ้าได้แสดงความเมตตาต่อเจี้ยนเฉิน หากเจี้ยนเฉินเติบโตในอนาคต เขาต้องตอบแทนเรากลับมาหลายเท่า…”
….
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงหลายคนได้ไปรวมตัวกันที่นอกหอคอยธาตุแสง
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงเหล่านี้มีระดับการบ่มเพาะแตกต่างกันไป แต่ทุกคนต่างก็เข้าใจกฎแห่งศรัทธา
ตอนนั้นพวกเขาได้มองไปยังหอคอยธาตุแสงด้วยความตื่นเต้นและทำการตรวจสอบมัน
“หือ ? ไม่ใช่ว่านั่นเป็นไป๋หยูจากยอดเขาทะยานเมฆรึ ? เจ้ากล้าเสนอหน้ามาที่นี่ด้วยรึ ? ” เสียงเยาะเย้ยด้วยความแปลกใจดังขึ้นมา
ชายหนุ่มคนหนึ่งชี้ไปที่ไป๋หยูแล้วแค่นเสียงเย็นชาออกมา
ไป๋หยูยืนอยู่ท่ามกลางผู้คน นางกัดฟันแน่นพร้อมกับสายตาที่มุ่งมั่น
นางได้ยินคำเยาะเย้ยพวกนี้มาหลายครั้งแล้วตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางเคยร้องไห้, เศร้าสร้อย, เจ็บปวดและสิ้นหวัง ผลก็คือตอนนี้นางเฉยชากับมันแล้ว
“อะไรกัน ? ไป๋หยู เจ้าคิดว่าเจ้าจะเป็นเจ้าของกระบี่ผู้พิทักษ์ได้รึ ? เจ้าคิดว่าเจ้ามีความสามารถมากพอรึ ? ”
“ไป๋หยู เจ้าเกี่ยวข้องกับสมาชิกของเชื้อสายนักรบวิญญาณ เจ้าคิดว่าท่านจิตวิญญาณวัตถุจะให้เจ้าสืบทอดกระบี่ผู้พิทักษ์รึ ? ”
“ฮ่าฮ่า ไป๋หยู เจ้ากลับกล้าเข้าไปในหอคอยธาตุแสง เจี้ยนเฉินแห่งเชื้อสายนักรบวิญญาณได้ขโมยการสืบทอดขั้นสูงสุดของโถงเซียนธาตุแสงไปภายใต้การเฝ้ามองของท่านจิตวิญญาณวัตถุ และเจ้าก็เกี่ยวข้องกับเจี้ยนเฉิน เจ้าคิดหรือไม่ว่าท่านจิตวิญญาณวัตถุจะฆ่าเจ้าทันทีที่เจ้าเข้าไปในหอคอยธาตุแสง…”
“หือ ? เมื่อเจ้าพูดแบบนั้นออกมา มันก็ฟังดูมีเหตุผลจริง ๆ ทุกคน พวกเจ้าคิดว่าท่านจิตวิญญาณวัตถุจะฆ่าไป๋หยูทันทีที่นางก้าวเท้าเข้าไปในหอคอยธาตุแสงหรือไม่….”
…
เซียนผู้เชี่ยวชาญธาตุแสงรอบ ๆ พากันส่งเสียงออกมา
ไป๋หยูหน้าซีดเผือด นางกำหมัดแน่นและได้แต่ทนคำเยาะเย้ยและดูถูกรอบตัว นางไม่ได้ตอบโต้เลยแม้แต่น้อย