เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2438 : กระบี่ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
ตอนที่ 2438 : กระบี่ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุด
กงซุนอี้ฮึดฮัดไปก็ไร้ค่า จิตวิญญาณวัตถุไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย
นั่นเพราะจิตวิญญาณวัตถุตอนนี้ไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว ผลก็คือตัวตนของกงซุนอี้ที่เป็นหลานของจอมปราชญ์สูงสุดนั้นไม่ได้มีค่าอะไร
กระบี่เล่มที่สี่กำลังจะถูกส่งมอบ !
แต่ก่อนที่กระบี่จะได้ร่วงลงมา มันกลับพุ่งไปยังทางเข้าแทน
ไกลออกไป สายตาของหยู่เฉินและซวนจ้านต่างก็หรี่ลง พวกเขาเห็นได้ว่ากระบี่ผู้พิทักษ์นั้นพุ่งมาทางพวกเขา มันเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็ว
ในพริบตากระบี่เล่มที่สี่ก็พุ่งตัดผ่านระยะทางอันกว้างใหญ่มาลอยอยู่ตรงหน้าซวนจ้าน และส่องแสงของมันออกมา
ซวนจ้านสับสนและมองไปที่กระบี่ผู้พิทักษ์ที่แฝงไปด้วยพลังอันน่าตกใจ เขาสับสนกับเจตจำนงของมัน แม้แต่หัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงอย่าง หยู่เฉิน ก็ยังสับสนเช่นกัน
นี่เพราะเขากับซวนจ้านได้ถอนตัวจากการคัดเลือกของกระบี่ผู้พิทักษ์แล้ว แต่กระบี่ผู้พิทักษ์นี่กลับมาหาพวกเขาซึ่งทำให้พวกเขาแปลกใจอย่างมาก
“กระบี่ผู้พิทักษ์นี้แปลงกายมาจากปลุกจิตที่อยู่อันดับ 9 ในหมู่ศิษย์ทั้ง 9 คน เมื่อกระบี่ของปลุกจิตเลือกเจ้า มันก็หมายความว่าชะตาได้นำพาเจ้าทั้งสองให้อยู่ร่วมกัน เจ้าสามรถเป็นผู้ใช้กระบี่ของปลุกติคและสู้เพื่อเจ้าของหอคอยธาตุแสงได้….” เสียงของจิตวิญญาณวัตถุดังขึ้นในหัวของซวนจ้าน
ซวนจ้านไม่ได้ตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อยทั้ง ๆ ที่กระบี่ผู้พิทักษ์ลอยอยู่ตรงหน้าเขา กลับกันแล้วเขาเกิดลังเลและถามขึ้นมา “เจ้าของหอคอยธาตุแสงนั้นคือกงซุนอี้หรือ ? ”
“เขาไม่มีสิทธิเป็นเจ้านายของข้า” จิตวิญญาณวัตถุตอบกลับ
เมื่อได้ยินแบบนั้น ซวนจ้านก็ตัดสินใจ “ ได้ ในเมื่อเจ้าของหอคอยธาตุแสงคนต่อไปไม่ใช่กงซุนอี้ ข้าก็จะยอมรับกระบี่ผู้พิทักษ์เล่มที่เก้าและเป็นผู้ใช้มัน”
กระบี่ผู้พิทักษ์เล่มที่เก้าได้ส่องแสงและเฉือนนิ้วของซวนจ้านด้วยความเร็วอันน่ากลัวจนเขาไม่อาจจะตอบโต้ได้ทัน มันได้ดูดซับเลือดของเขาเข้าไป
หยู่เฉินตาสั่นไหวเมื่อเห็นมัน เขามองไปที่กระบี่ผู้พิทักษ์และเหมือนกับครุ่นคิดบางอย่าง
ในเวลาเดียวกันจิตวิญญาณวัตถุที่ยืนอยู่บนยอดเขาลูกหนึ่งก็ได้หันไปสนใจเหล่าเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่อยู่ด้านล่าง
“ไป๋หยู, ตงหลินหยานเซว่, ซวนจ้านและซวนหมิง คือคนที่นายท่านรู้จัก ทุกคนจึงได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ไป มีแค่หานซินที่ขาดไป “
“หานซินเคยเป็นอาจารย์ของนายท่าน ก่อนที่นายท่านจะจากไป เขาได้สั่งให้ข้าดูแลหานซินให้ดี แต่หานซินไม่ได้เข้ามาในหคอยธาตุแสง ยิ่งกว่านั้นสติที่เหลืออยู่ของจิตวิญญาณวัตถุก็ส่งผลต่อข้าอยู่เสมอ เขาต้องการครอบงำข้าให้ข้ากลายเป็นเขา ข้าไม่รู้ว่าข้าจะรักษาสติได้นานแค่ไหน ข้าต้องส่งกระบี่ผู้พิทักษ์ทั้งหมดให้กับคนที่นายท่านเป็นมิตรด้วย ส่วนข้าจะได้…” จิตวิญญาณวัตถุพึมพำออกมา หลังจากที่ลังเลสักพักเขาก็สื่อสารกับหัวหน้าของโถงเซียนธาตุแสงแบบลับ ๆ เพื่อให้เขาเรียกรวมเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาที่ยังไม่เข้ามาที่นี่
หยู่เฉินไม่ได้ลังเล ทันทีที่ได้รับข้อความจากจิตวิญญาณวัตถุ เขาก็ได้ออกจากหอคอยธาตุแสงไป
ไม่นาน หยู่เฉินก็พาเซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธากว่าร้อยคนเข้าไปในหอคอยธาตุแสง ทุกคนต่างก็รู้ว่าคงไม่มีทางได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์มา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้รู้สึกอะไรต่อกระบี่นี่
ผู้นำของยอดเขาทะยานเมฆ หานซิน ก็อยู่ในหมู่คนพวกนี้ด้วย
ภายใต้คำสั่งของหยู่เฉิน เซียนผู้เชี่ยวชาญศรัทธาทุกคนได้เข้าไปในเขตที่ครอบคลุมด้วยแสงสีขาว
ฟิ้ว !
แต่ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในพื้นที่นั้น มันกลับมีเสียงตัดสายลมดังขึ้นและกระบี่เล่มที่ 5 ก็พุ่งลงมาจากยอดเขาตกลงในมือของหานซิน
“นี่คือกระบี่ของคล้อยนทีซึ่งอยู่อันดับ 5 ในหมู่ศิษย์ทั้ง 9 คน จากนี้ไปเจ้าจะเป็นผู้ใช้กระบี่ของคล้อยนที ! ” เสียงที่ดูพร่ามัวดังขึ้นมาในหัวของหานซิน
หานซินตะลึงและมองไปที่กระบี่ตรงหน้าเขา เขารับรู้ได้ถึงการเชื่อมต่อระหว่างเขากับกระบี่ เขารู้สึกราวกับตัวเองกำลังฝันไป
ข้อมูลจำนวนมากเกี่ยวกับกระบี่ของคล้อยนทีได้ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขา จากบรรดาศิษย์ทั้งเก้าคน คล้อยนที อยู่อันดับ 5 และเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 7
คล้อยนทีได้เปลี่ยนเป็นกระบี่นี้ ในฐานะคนที่ใช้มันแล้ว หานซินเข้าใจพลังทั้งหมดของคล้อยนทีเป็นอย่างดี ตราบใดที่เขามีกระบี่นี่ พลังของเขาก็จะขึ้นไปถึงขีดสุด แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ราชาเทพธาตุแสงก็ตาม เขาสามารถสู้กับอัครสูงสุดได้ พวกอัครสูงสุดที่อ่อนแอไม่อาจจะเป็นคู่มือของเขาได้
บรรพชนที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหานอยู่แค่ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ส่วนหัวหน้าตระกูลที่ขับไล่เขาออกมาอยู่แค่ขั้นอสงไขย แต่พลังที่เขาได้มาตอนนี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าพลังของอัครสูงสุดเลย
นี่มันราวกับฝัน สำหรับหานซิน มันไม่มีเหตุผลเลย
“ข้าคือหลานของจอมปราชญ์สูงสุด บรรพชนของข้าเคยเป็นเจ้านายของเจ้า จิตวิญญาณวัตถุ ข้าไม่ต้องการสิทธิในการแจกจ่ายกระบี่ผู้พิทักษ์แล้ว ข้าต้องการกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด…” กงซุนอี้ตะโกนขึ้นมา เมื่อเขาเห็นว่ากระบี่มีเจ้าของไปทีละเล่ม ๆ เขาก็เริ่มกังวลขึ้นมากับความจริงที่ว่าเขายังไม่ได้รับกระบี่เลย เขาได้เปลี่ยนคำเรียกร้องเพื่อขอกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุด
กระบี่ผู้พิทักษ์นี้คือโอกาสในการเติบโตและยิ่งใหญ่ เขาไม่สนใจว่าในอนาคตเขาจะได้เป็นเจ้าของหอคอยธาตุแสงหรือไม่ เขาต้องการแค่กระบี่ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น
จิตวิญญาณวัตถุมองไปที่กงซุนอี้ด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่คิดจะสนใจอีกฝ่าย กงซุนอี้มีความแค้นเคืองต่อเจี้ยนเฉิน ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางให้กงซุนอี้ได้กระบี่ผู้พิทักษ์ไป
“หากไม่ใช่เพราะผลจากสติที่หลงเหลือของจิตวิญญาณวัตถุ เจ้าคงไม่มีทางได้โลกจิ๋วไปเป็นของตัวเองได้” จิตวิญญาณวัตถุคิด เขาไม่ใช่จิตวิญญาณวัตถุแบบเดิมในอดีตแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับหลานของเจ้านายคนเก่า
“กระบี่ผู้พิทักษ์อันดับ 1 เป็นกระบี่ของสังหารเทพ ศิษย์ที่แข็งแกร่งที่สุด สังหารเทพ ได้เปลี่ยนเป็นกระบี่ สังหารเทพเป็นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 8 ดังนั้นกระบี่ที่เขาเปลี่ยนร่างมานี้จึงเป็นกระบี่ที่แข็งแก่งที่สุด กระบี่นี้ชัดแล้วว่าต้องไปหาแม่ของนายท่าน” จิตวิญญาณวัตถุมองไปที่แท่นกระบี่ด้านหลัง เขาได้ตัดสินใจมานานแล้วว่ากระบี่นี่ต้องเป็นของใคร
แต่ตอนนั้นเองจิตวิญญาณวัตถุกับตัวสั่น ร่างที่อัดแน่นขึ้นมาจากพลังงานเกือบสลายไป
แสงที่ต่างกันสองอันสั่นไหวในสายตาของเขาราวกับว่าสติสองอันกำลังห้ำหั่นกัน
จิตวิญญาณวัตถุที่หลงเหลือของหอคอยธาตุแสงได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งและเข้าต่อสู้กับจิตวิญญาณวัตถุของวัตถุเซียน มันต้องการกลืนกินจิตวิญญาณวัตถุของวัตถุเซียน
“ยุคของเจ้าผ่านพ้นไปแล้ว ! เจ้าไม่อาจจะกลืนกินข้าได้ ! ” จิตวิญญาณวัตถุตะโกนออกมา ร่างกายของเขาสลับพร่ามัวและหนาแน่นดูไม่มั่นคง
แต่สุดท้ายแสงอันเดิมในตาก็หายไปถูกแทนที่ด้วยความเย็นชา สายตาของเขาเหมือนกับไม่มีความรู้สึกอีกต่อไป
“กระบี่ของสังหารเทพ ควรเป็นของหลานของนายท่าน...” จิตวิญญาณวัตถุพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่จะชี้นิ้วออกไปยังกระบี่ที่อยู่ด้านหลัง
ทันใดนั้นกระบี่ของสังหารเทพก็พุ่งขึ้นตกไปอยู่ในมือของกงซุนอี้
เพราะเหตุนี้ กงซุนอี้จึงได้รับกระบี่ผู้พิทักษ์ที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างกระบี่ของสังหารเทพไป