เทพกระบี่มรณะ (Chaotic sword god) - ตอนที่ 2450: เด็กไร้หัวใจ - novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF

ตอนที่ 2450: เด็กไร้หัวใจ

เดิมทีพวกเขาได้เตรียมการโจมตีนี้จากพรรคกระดูกโอฬารสำหรับผู้อาวุโสภูผามหานที แต่ตอนนี้เขาตายไปแล้ว เจี้ยนเฉินจึงใช้มันเพื่อสังหารขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9

ซูหรานกลายเป็นคนเคร่งขรึมอย่างมากเมื่อนางรับการโจมตีจากเย่ชงภายในสำนักกลืนธารา แต่นางก็ไม่ได้ลุกลี้ลุกลนเลย แม้ว่านางจะไม่แข็งแกร่งเท่าเย่ชง แต่นางก็ไม่ได้อ่อนแอจนถึงจุดที่ไม่สามารถตอบโต้ได้ ด้วยทักษะลับต่าง ๆ ของนาง นางจึงสามารถหลบการโจมตีได้อย่างง่ายดาย

อย่างไรก็ตามเมื่อซุหรานต้องการจู่โจม มิติข้างหน้านางก็ถูกฉีกออก จู่ ๆ มือเล็กก็เอื้อมไปกดไปข้างหน้า

ด้วยเหตุนี้มิติและกฎจึงพังทลายลง การโจมตีที่ทรงพลังอย่างรุนแรงของเย่ชงกระจายออกไปโดยตรง มันหายไปไม่เหลือความรุนแรงใด

นั่นไม่ใช่ทั้งหมด แม้แต่เย่ชงที่จัดการกับการโจมตีนั้นก็แสดงความหวาดกลัวอย่างมาก ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความสะพรึงกลัวลึก ๆ และหลังจากนั้นก็มีเสียงดังตูม เขาระเบิดกลายเป็นหมอกเลือด

ขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 เย่ชงหมดลมหายใจแล้ว !

ดวงตาของซูหรานหรี่ลงทันทีเมื่อนางเห็นสิ่งนี้ ความตกใจเติมเต็มใบหน้าของนางในขณะที่นางมองมือเล็ก ๆ

เย่ชงเป็นขั้นบรรพกาลชั้นสวรรค์ที่ 9 ซึ่งทรงพลัง เขาอยู่ห่างเพียงไม่กี่ก้าวจากการเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุด

แม้ว่าขั้นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 ต้องการฆ่าคนเช่นนั้น พวกเขาก็ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เย่ชงดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญเหมือนมดสำหรับแขนที่ผอมเล็ก เขาไม่สามารถแม้แต่จะหลบหนีและถูกฆ่าตายอย่างง่ายดาย

ซูหรานตกใจมาก นางรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง

“นี่- นี่ไม่ใช่การโจมตีจากขั้นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 …” ซูหรานตะโกนในใจ แสงในดวงตาของนางกะพริบขณะที่นางจ้องมองไปที่แขนเล็ก ๆ ที่ยื่นออกมาจากรอยแยกของมิติ

แต่ในไม่ช้านางดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง นางกลับสู่สภาวะปกติและมุ่งเน้นไปที่การควบคุมค่ายกลเผาผลาญหายนะทั้งเก้ากับผู้อาวุโสที่เหลืออีก 4 คนของสำนักกลืนธารา

นอกสำนักกลืนธารา เจี้ยนเฉินก็ประหลาดใจอย่างมากกับการตายของเย่ชง เขาจ้องตรงไปที่แขนเล็ก ๆ ขณะนี้เขารู้สึกตกตะลึง

“นั่นคือเขาจริง ๆ…” เจี้ยนเฉินสามารถเดาได้จากแขนว่าคนที่มาจากพรรคกระดูกโอฬารคือใคร

เขาเป็นเด็กเล็กที่พวกเขาเคยเห็นในที่ราบรุ่งโรจน์สาขาของพรรคกระดูกโอฬาร !

“ความสามารถในการต่อสู้ของหัวหน้าผู้อาวุโสสูงสุดคนนี้ช่างไม่ธรรมดา แม้ว่าขั้นอัครสุงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 ทั่วไปจะสามารถเอาชนะเขาได้ แต่ถ้าเขาต้องการหลบหนี พวกเขาก็จะไม่สามารถรั้งให้เขาอยู่ต่อได้ เจี้ยนเฉิน การโจมตีของข้าทะลุระดับของขั้นอัครสูงสุดชั้นสวรรค์ที่ 1 แล้ว เจ้าได้เจอจุบจบที่ดีกว่าในครั้งนี้” ในขณะนี้เสียงของเด็กดังขึ้นในหัวของเจี้ยนเฉิน

น้ำเสียงยังดูเป็นเด็กเหมือนเสียงเด็กเล็ก

อย่างไรก็ตามเจี้ยนเฉินไม่กล้าที่จะดูถูกเด็กอีกต่อไป

“ขอบคุณผู้อาวุโส ! ” เจี้ยนเฉินป้องมือขอบคุณก่อนที่จะพุ่งเข้าสู่สำนักกลืนธาราทันที

การเสียชีวิตของผู้อาวุโสที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา เย่ชง ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับศิษย์ของสำนักกลืนธารา ศิษย์ประจำหลายคนหวาดกลัวอย่างที่สุด พวกเขาสูญเสียขวัญและกำลังใจ และกระจัดกระจายไปทุกทิศทาง

สำนักกลืนธาราเริ่มวุ่นวายจากการตายของเย่ชง

“คนของสำนักต้องอยู่กับสำนัก ผู้คนต้องตายไปพร้อมกับสำนัก อย่าหนีไป บรรดาศิษย์ของสำนักกลืนธารา อย่าทอดทิ้งสำนัก ! อยู่หรือตายพร้อมกัน ! ใครที่หนีตายก็จะเหมือนเป็นผู้ทรยศต่อสำนักและจะถูกสังหารอย่างไร้ความปรานี” ผู้อาวุโสขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 ตะโกนออกมาจากสำนักกลืนธารา เขาลงมือเองและสังหารศิษย์หลายคนที่หลบหนีในที่เกิดเหตุ

เห็นได้ชัดว่าขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 9 มีสถานะในสำนักกลืนธารา ทันทีที่เขาพูดอย่างนั้น ผู้อาวุโสของสำนักทั้งหมดก็ตัดสินใจ ความแน่วแน่ท่วมใบหน้าของพวกเขาและพวกเขาโจมตีศิษย์ที่หนีอย่างเด็ดขาด พวกเขาสังหารคนที่ทอดทิ้งสำนัก

ความหนักแน่นและความโหดเหี้ยมของผู้อาวุโสทำให้ศิษย์ทั้งหมดของสำนักหวาดกลัวในทันที ไม่มีใครกล้าวิ่งอีกต่อไป ศิษย์ทุกคนโดยไม่คำนึงถึงความแข็งแกร่งยังคงอยู่เบื้องหลัง จัดตั้งค่ายกลเพื่อต่อต้านผู้บุกรุก

ผู้อาวุโสขั้นอสงไขยหลายคนใช้พละกำลังเต็มที่ในการโจมตีค่ายกลเผาผลาญหายนะทั้งเก้าเพื่อพยายามปลดปล่อยผู้อาวุโสทั้งสี่ที่ติดอยู่ภายใน

ผู้อาวุโสทั้งสี่ในค่ายกลเผาผลาญหายนะทั้งเก้าได้ร่วมมือกัน พวกเขาอดทนต่อการโจมตีทางวิญญาณจากค่ายกล ในขณะที่พวกเขาใช้ความแข็งแกร่งเต็มที่เพื่อโจมตีค่ายกล

ค่ายกลเผาผลาญหายนะทั้งเก้ามีเป้าหมายเป็นพิเศษสำหรับวิญญาณ มันยากมากที่จะป้องกันการโจมตีของมัน ดังนั้นยิ่งผู้อาวุโสถูกขังอยู่ในนั้นนานเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งแย่ลงสำหรับพวกเขาเท่านั้น ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้หลุดออกมา

ซูหรานกำลังยุ่งอยู่กับการควบคุมค่ายกลเพื่อให้ผู้อาวุโสทั้งสี่ติดอยู่ ดังนั้นนางจึงไม่สามารถทำอะไรได้เกี่ยวกับผู้อาวุโสขั้นอสงไขยที่อยู่ข้างนอกได้

ทันใดนั้น ค่ายกลเผาผลาญหายนะทั้งเก้าเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากการโจมตีจากทั้งภายในและภายนอก

ในขณะนี้มีแสงพุ่งเข้ามา มันมีพลังสั่นสะเทือนของโลกและตัดหัวของขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 1 ออกครึ่งหนึ่ง เขาตายทันที

เจี้ยนเฉินบินเข้าไปในสำนักกลืนธารา เขาใช้กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ ปราณกระบี่พันรอบตัวเขา พลังแห่งการมีอยู่ของเขาน่าประหลาดใจมาก ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ปราณกระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนก็รวมตัวกัน แสงริบหรี่เป็นประกาย ขณะที่เขาเข้าร่วมการต่อสู้กับกลุ่มขั้นอสงไขยของสำนักกลืนธาราอย่างอุกอาจ

เจี้ยนเฉินไม่ได้ยั้งมือในการต่อสู้ครั้งนี้ เขาได้ดึงกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ออกมา แล้วยืมพลังของมันมาเพื่อยกระดับพลังในการต่อสู้ของเขาอีกครั้ง เขาไปถึงขั้นอสงไขยชั้นสวรรค์ที่ 6 อย่างสมบูรณ์

เขาปิดกั้นขั้นอสงไขยทั้งหมดของสำนักกลืนธาราเพียงลำพัง

“กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ ! เจ้าคือเจี้ยนเฉิน …” ผู้อาวุโสสองสามคนรู้จักเจี้ยนเฉินเพราะกระบี่นวดาราวิถีสวรรค์ และพวกเขาก็ตะโกนเสียงดังทันที

ในเวลาเดียวกันสัมผัสทางวิญญาณอันทรงพลังมากมายได้กวาดไปบนที่ราบวารี มันหมุนรอบตัวเองบนท้องฟ้าเหนือสำนักกลืนธารา

การต่อสู้ในสำนักกลืนธาราทำให้เกิดความวุ่นวายมาก มันได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้เชี่ยวชาญระดับสูงบนที่ราบวารี

“อืม ? นั่นไม่ใช่กระบี่นวดาราวิถีสวรรค์หรอกหรือ ? เจี้ยนเฉินมาเยือนที่ราบวารี …”

“เป็นที่น่าเสียดายที่หอคอยอนัตตาได้ถูกส่งกลับไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงแล้ว เจี้ยนเฉินจึงไม่มีคุณค่าอีกต่อไป…”

…

ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดจำเจี้ยนเฉินได้ทันทีและพวกเขาทั้งหมดถอนหายใจ

ถ้าหอคอยอนัตตายังอยู่กับเจี้ยนเฉิน ผู้เชี่ยวชาญระดับสูงสุดของที่ราบวารีจะต้องต่อสู้แย่งชิงมันอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหอคอยอนัตตาได้ถูกส่งกลับไปยังพระราชวังสวรรค์แห่งบิเชิงแล้ว พวกเขาจึงหมดความสนใจในตัวเขา

ขณะที่เจี้ยนเฉินปะทะกับผู้เชี่ยวชาญของสำนักกลืนธารา เด็กที่เจี้ยนเฉินเห็นในพรรคกระดูกโอฬารก็ลอยอยู่ในอวกาศอย่างเงียบ ๆ

ไม่มีใครบนที่ราบวารีค้นพบการดำรงอยู่ของเขา

“เด็กไร้หัวใจ เจ้าสังหารขั้นบรรพกาลด้วยตัวเอง นั่นเป็นการลดทอนตัวตนของเจ้าไม่ใช่หรือ ? ” เสียงสงบดังออกมาในขณะนี้

ชายวัยกลางคนปรากฏตัวใกล้เด็กอย่างเงียบ ๆ

เด็กคนนั้นหันกลับมาและจ้องมองชายวัยกลางคนสักพักก่อนที่จะหัวเราะเบา ๆ “ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า นี่ไม่ใช่ที่ราบประกายดาวของเจ้า ข้าสังหารคนบนที่ราบวารีดูเหมือนจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเจ้าเลย”

“ยิ่งไปกว่านั้นข้าได้ดำเนินการในครั้งนี้เพราะข้อตกลงที่ข้ามีกับเจี้ยนเฉิน ข้าคิดว่าเจ้าดูว่ามั่นใจมากกว่าว่าพรรคกระดูกโอฬารของเราทำอะไรได้บ้าง ? ”

ชายวัยกลางคนเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดของที่ราบประกายดาว ใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า

อย่างไรก็ตาม เด็กคนนั้นไม่ได้แสดงความกลัวหรือความหวั่นเกรงต่อหน้าผู้เชี่ยวชาญอย่างใต้เท้าประกายดาวทั้งเก้า เขาดูสงบเสงี่ยมมาก